อเมริกาขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่คนอยากไปเรียนต่อมากที่สุด ไม่ว่าจะมัธยมต้น มัธยมปลาย ปริญญาตรี โท เอก หรือหลายคนอาจใฝ่ฝันอยากไปทำงาน ใช้ชีวิตที่นั่น เพราะอเมริกาเป็นประเทศที่มีโอกาสในหลายๆ ด้านเยอะมาก ซึ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปได้แน่นอนค่ะ วันนี้ พี่นิทาน จะมาแนะนำให้น้องๆ ชาว Dek-D.com ดูกันว่าถ้าอยากไปเรียนต่อม.ปลายที่อเมริกาต้องทำยังไงบ้างนะ
การขอวีซ่า
ก่อนอื่นเราจะต้องขอวีซ่า F-1 ก่อนนะคะ โดยวีซ่า F-1 นี้จะเป็นวีซ่าที่คนที่จะไปเรียนต่ออเมริกาทุกคนต้องขอ ไม่ว่าจะไปเรียนสาขาใดก็ตาม โดยวีซ่า F-1 นี้จะมีอายุสูงสุด 5 ปีค่ะ และเมื่อได้วีซ่าแล้วเราก็ต้องสมัครเข้าเรียน ซึ่งโรงเรียนมัธยมนั้นจะมี 2 แบบ เหมือนบ้านเราแหละค่ะ คือโรงเรียนรัฐบาล (Public) กับเอกชน (Private)
เรียนรัฐบาลหรือเอกชนดี?
สำหรับนักเรียนต่างชาติอย่างเราๆ เมื่อถือวีซ่า F-1 แล้วจะไม่สามารถเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาลของอเมริกาได้เพราะกฏหมายเค้าให้เฉพาะนักเรียนอเมริกันเรียนฟรีเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะมีกฏแตกต่างกันในแต่ละโรงเรียน ในโรงเรียนรัฐบาลบางที่นั้นสามารถให้เราเข้าเรียนได้เป็นเวลาแค่ 1 ปีเท่านั้น และหลังจากนั้นเราต้องไปหาโรงเรียน (เอกชน) ในพื้นที่ของเราเรียนต่อเอง และต้องจ่ายเต็มราคาของทั้งปี
ต้องเตรียมตัวยังไง?
การจะสมัครเข้าเรียนโรงเรียนเอกชนของอเมริกานั้นไม่ยาก ลองทำตามขั้นตอนนี้ดูนะคะ
ถามตัวเองก่อนว่าสนใจอะไร
หากเราสนใจเรื่องกีฬา หรือดนตรี ก็ลองค้นหาข้อมูลโรงเรียนต่างๆ มาเปรียบเทียบกัน แนะนำว่าให้หาโรงเรียนที่คิดว่าเหมาะสมกับความสนใจของเรามากที่สุด และที่ไหนที่สามารถทำให้เราไปถึงเป้าหมายของเราได้บ้าง และอย่าลืมว่าในอเมริกานั้นมีถึง 50 รัฐ เราต้องเลือกค่ะว่าอยากไปอยู่รัฐไหน ที่ไหนน่าจะเหมาะกับเราที่สุด พอได้รัฐและรู้ความต้องการเราแล้วก็ลองเลือกโรงเรียนเลยค่ะ
ยกตัวอย่างโรงเรียนไฮสคูลที่น่าสนใจในอเมริกามาให้ลองอ่านกันดูนะคะ
Phillips Academy
ตั้งอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ ในเขตนิวอิงแลนด์ของอเมริกา เป็นโรงเรียนที่ติดอันดับหนึ่งของ 25 อันดับโรงเรียนไฮสคูลที่ดีที่สุดในอเมริกา และเป็นโรงเรียนไฮสคูลที่เน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยการใช้ทักษะ สติปัญญาและความสามารถของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เน้นให้เรียนรู้ร่วมกันและแก้ไขปัญหาเป็น โดยจำนวนนักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนรวมชายหญิงแล้วอยู่ที่ 1,131 คน และครูอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 217 คน การเรียนการสอนจะเน้นในเรื่องของศิลปะ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และด้านอื่นๆ อย่างเต็มที่
เว็บไซต์โรงเรียน : http://www.andover.edu/
การสมัครเรียน
เราอาจทำได้โดยการสมัครผ่านเอเจนซี่ โดยการติดต่อกับเอเจนซี่ที่รับทำเรื่องไปเรียนต่อที่อเมริกา ซึ่งหาไม่ยากค่ะ มีเยอะมากๆ เราแค่บอกเค้าว่าอยากไปเรียนที่รัฐไหน โรงเรียนอะไร มีงบเท่าไหร่ (ซึ่งอันนี้ก็ต้องวางแผนกันมาดีๆ นะคะ) แล้วก็เตรียมเอกสารกันได้เลยค่ะ แต่เอเจนซี่จะเป็นนายหน้าให้แค่บางโรงเรียนเท่านั้น หากไม่อยากผ่านเอเจนซี่เราสามารถสมัครได้ด้วยตัวเองเลย โดยติดต่อกับทางโรงเรียนเองว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ยกตัวอย่างให้จากโรงเรียน Phillips Academy ที่กล่าวมาข้างต้นเลยนะคะ
Photo credit : phillipsacademy.smugmug.com
ก่อนจะทำการสมัคร ทางเว็บไซต์โรงเรียนจะให้เราลงทะเบียน Mailing list พร้อมรับแคตตาล็อกการสมัครเรียนได้ในอีเมล อันนี้แนะนำให้สมัครไปเลยค่ะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และยังได้รับข่าวสารจากโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอด้วย หลังจากนั้นให้ทำตามขั้นตอนดังนี้...
1. ลงทะเบียนเพื่อสมัครสอบจากทางเว็บไซต์ https://www.gatewaytoprepschools.com/ และนักเรียนต่างชาติอย่างเราจะต้องยื่นคะแนนสอบ SSAT พร้อมกับคะแนนสอบ TOEFL ที่ไม่ต่ำกว่า 100 คะแนนด้วยค่ะ
2. เมื่อทำการสมัครและส่งคะแนนสอบแล้ว เราก็ต้องติดต่อกับทางโรงเรียนเพื่อการสัมภาษณ์ เนื่องจากว่าเรายังไม่ได้บินไปอเมริกา อาจจะต้องใช้การสัมภาษณ์ผ่านทาง Skype ค่ะ
3. หลังจากการสมัครและสัมภาษณ์ไปแล้ว ที่พิเศษที่สุดคือที่โรงเรียนนี้จะให้เราเข้าทดสอบนิสัย หรือที่เรียกว่า The Character Skills Assessment (CSA) Pilot Test เป็นการสอบที่ทางโรงเรียนบังคับให้ทำ เพราะจำเป็นต้องรู้ว่าอุปนิสัยของเราเป็นยังไง เน้นเรื่องความอดทนและการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ทั้งนี้สิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับการคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณภาพเพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการสมัครเข้าโรงเรียน Phillips Academy : https://enews.andover.edu/admission/howtoapply/
ค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายสำหรับการไปเรียนต่อที่อเมริกานั้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนซึ่งเป็นทางเลือกเดียวซะส่วนใหญ่ โดยในหนึ่งปีจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 1.5 - 2 ล้านบาท จะเป็นค่าเทอม ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในโรงเรียน รวมไปถึงค่าโฮสต์ (หรือค่าอยู่โรงเรียนประจำ) และค่าอาหารด้วย
ยกตัวอย่างจากโรงเรียน Phillips Academy ค่ะ
นักเรียนประจำ $50,300 หรือประมาณปีละ 1,609,600 บาท
นักเรียนธรรมดา $39,100 หรือประมาณปีละ 1,251,200 บาท
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ $2,400 หรือประมาณปีละ 76,800 บาท
การอยู่อาศัย
การจะไปอยู่ที่อเมริกานั้นหากเราอายุต่ำกว่า 19 ปีจะต้องมีผู้ดูแลทางกฎหมาย โดยจะต้องมี Host family คอยรองรับและดูแลเราตลอดช่วงที่เรียนที่นั่น หรือจะเลือกไปอยู่โรงเรียนประจำก็ได้ค่ะ ซึ่งการหาโฮสต์นี้เราสามารถเลือกหาได้เองตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือหาผ่านเอเจนซี่ในเมืองไทยก็ได้ แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยค่ะ
แนะนำเว็บไซต์หาโฮสต์
เว็บไซต์หาโฮสต์นั้นมีให้เลือกเยอะมาก และใช้งานง่ายเพียงแค่เข้าไปในเว็บแล้วเลือกประเทศที่ต้องการ รัฐ และระยะเวลาในการอยู่ หากอยากมีประสบการณ์ใหม่ๆ ได้รู้จักคนใหม่ๆ เราก็อาจจะเลือกพักแล้วเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็ได้ แต่ถ้าหาบ้านที่สามารถให้เราอยู่ยาวๆ ได้ก็น่าจะดีที่สุดค่ะ ตัวอย่างเว็บไซต์หาโฮสต์ เช่น http://www.homestayfinder.com/ เว็บนี้จะทำความเข้าใจไม่ยาก เข้าไปแล้วกดเลือกประเทศ เลือกรัฐ แล้วเลือกหาโฮสต์ได้เลยค่ะ อาจจะดูเอาจากรูปบ้านของเค้า หรือบางบ้านไม่ได้ลงรูปเราก็กดเข้าไปอ่านรายละเอียด ว่าบ้านเป็นยังไง อยู่ได้กี่คน ไกลจากโรงเรียนที่เราจะไปเรียนมากมั้ย ไปรับไปส่งเราหรือเปล่า หรือว่าใกล้ป้ายรถเมล์มั้ย อย่างเช่นบ้านนี้ค่ะ
บ้านนี้จะเป็นบ้านของโฮสต์ที่ชื่อ Kay Perryman อยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ ในเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเค้าจะบอกมาเลยว่าระยะเวลาที่บ้านว่างนั้นคือช่วงไหน อย่างในภาพก็จะเป็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2016 จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2017 ปีหน้าเลยนะคะ และโฮสต์ยังบอกอีกว่าคนที่มาพักจะเป็นใครมาจากไหนก็ได้ ค่าใช้จ่ายสำหรับการอยู่อาศัยที่นี่ก็คือ $700 ต่อเดือน หรือประมาณ 22,400 บาทนั่นเองค่ะ นอกจากนั้นอย่าลืมดูว่ามีอาหารให้เราหรือเปล่า มารับที่สนามบินได้ไหม มีสัตว์เลี้ยงหรือเปล่า เป็นต้นค่ะ อ้อ แล้วก็อย่าลืมอ่านรายละเอียดที่โฮสต์เขียนด้วยนะคะ อย่างอันนี้โฮสต์เขียนไว้ว่าถ้ามาอยู่กับเค้าก็จะได้ฝึกภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้น ที่บ้านเป็นครอบครัวอเมริกัน อาหารอร่อย อยู่ด้วยแล้วสนุก และมีห้องใหญ่ว่างหนึ่งห้อง (เฟอร์นิเจอร์พร้อม) สามารถรับคนเป็นคู่หรือพารูมเมทมาแชร์ห้องกันก็ได้ และใช้สิ่งอำนวยความสะดวกได้ทั้งหมดในบ้าน รวมถึงอินเตอร์เน็ต Wifi ด้วย
ถ้าเราอ่านแล้วรู้สึกสนใจก็อย่าลืมติดต่อสอบถามโฮสต์นะคะ เพราะบางครั้งในรายละเอียดอาจจะบอกอะไรไม่ครบถ้วน เราควรจะเลือกบ้านที่เรารู้สึกถูกใจและปลอดภัยที่สุดเพื่อตัวเราเองค่ะ
การไปเรียนต่อเมืองนอกเป็นอะไรที่ได้ประสบการณ์และความรู้อย่างมากเลยค่ะ หากน้องคนไหนที่มีโอกาสได้ไปก็แนะนำให้ไป รับรองว่าได้อะไรกลับมาเยอะมากๆ พี่นิทานเอาใจช่วยให้น้องทุกคนที่อยากไปเรียนต่ออเมริกาให้ตั้งใจเรียน ตั้งใจสอบนะคะ แล้วก็อย่าลืมหาข้อมูลดีๆ ทั้งข้อมูลโรงเรียนและเมืองที่เราจะไปอยู่ค่ะ ขอให้สนุกและโชคดีนะคะ ^^
ข้อมูลจาก
8 ความคิดเห็น
เค้าจะเอาเกรดม.1-3มั้ยคะ
อายุเกิน 18 สามารถสมัครเรียนม.ปลายในอเมริกาได้ไหมคะ เราอยากซิ่วไปเรียนม.4 ใหม่ค่ะ