ในบรรดากริยาภาษาอังกฤษทั้งหมด มีกริยาอยู่กลุ่มหนึ่งที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน และน้อยคนนักที่จะแยกความแตกต่างระหว่างพวกมันออก มันคือกริยากลุ่ม say speak tell talk ที่แปลว่า พูดหรือบอก นั่นเองค่ะ
กริยาพวกนี้ใช้ต่างกันอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
กริยาพวกนี้ใช้ต่างกันอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
SAY
say แปลเป็นไทยคือ "พูด" แต่มักใช้ในการบอกว่า "ใครพูดว่าอะไร" โดยสิ่งที่ตามหลัง say คือข้อความที่ประธานนั้นพูดออกมา
ข้อความที่ตามหลังนั้นเราเรียกว่า reported speech นั่นคือเราเอาคำพูดของคนอื่นมาพูดต่ออีกที หากไม่ใช่เครื่องหมายคำพูด (quotation mark) แปลว่าคำพูดนั้นไม่ได้ออกมาจากปากเจ้าตัวจริงๆ แต่เราเอามาดัดแปลงนิดหน่อยเพราะเราไม่ได้เป็นคนพูดประโยคนี้เอง
(อ่านเกี่ยวกับ reported speech ได้ที่บทความนี้)
ข้อความที่ตามหลังนั้นเราเรียกว่า reported speech นั่นคือเราเอาคำพูดของคนอื่นมาพูดต่ออีกที หากไม่ใช่เครื่องหมายคำพูด (quotation mark) แปลว่าคำพูดนั้นไม่ได้ออกมาจากปากเจ้าตัวจริงๆ แต่เราเอามาดัดแปลงนิดหน่อยเพราะเราไม่ได้เป็นคนพูดประโยคนี้เอง
(อ่านเกี่ยวกับ reported speech ได้ที่บทความนี้)
แต่ถ้าใส่เครื่องหมายคำพูด (quotation mark) แปลว่าเราถอดคำพูดของเจ้าของคำพูดออกมาตรงๆ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ถ้าเราอยากบอกว่าเราพูดกับใคร ก็สามารถใส่คำว่า to ตามด้วยคนที่เราพูดด้วยหลังกริยา say ได้เลย
SPEAK
speak แปลว่า "พูด" หรือ "คุย" แต่นิยมใช้กับการพูดเพียงฝ่ายเดียว เราใช้บุพบท to หรือ with กับคนที่เราพูดด้วย และบุพบท about หน้าเรื่องที่เราพูดถึง
จากตัวอย่าง ประธานของประโยคทำกริยา "พูด" เพียงฝ่ายเดียว ส่วนอีกฝ่าย (his people) เป็นผู้ฟัง
นอกจากนี้ speak ยังนิยมใช้กับการพูดที่เป็นทางการ หรือเป็นเรื่องสำคัญ หากเป็นการพูดคุยทั่วไปจะเปลี่ยนไปใช้ talk แทน
นอกจากนี้ speak ยังนิยมใช้กับการพูดที่เป็นทางการ หรือเป็นเรื่องสำคัญ หากเป็นการพูดคุยทั่วไปจะเปลี่ยนไปใช้ talk แทน
speak ยังใช้กับการบอกความสามารถทางภาษา เช่น
TALK
talk แปลว่า "พูด" หรือ "คุย" เช่นเดียวกันกับ speak วิธีการใช้ไม่ต่างกันค่ะ พูดกับใครใช้บุพบท to หรือ with พูดเรื่องเกี่ยวกับอะไรใช้บุพบท about แต่มีอยู่อย่างที่ต่างกันคือ talk จะนิยมใช้ในการพูดคุยทั่วๆ ไป ไม่ใช่เรื่องจริงจังมากกว่า
แต่โดยทั่วไปแล้ว speak กับ talk ก็ใช้แทนกันได้ ไม่ได้มีความแตกต่างมากเท่ากับคำอื่นๆ
TELL
tell ถ้าแปลเป็นไทยก็น่าจะแปลว่า "บอก" หรือ "เล่า" ความสำคัญของกริยาตัวนี้คือ "เราบอกใคร" ดังนั้นจึงมักตามด้วย คนที่ได้รับข้อความ
tell ยังนิยมใช้ในสำนวน "บอกให้ใครทำอะไร" tell someone to do something เช่น
ดังนั้นเวลาใช้ tell อย่าลืมตามด้วยคนที่ได้รับข้อความนะคะ
4 ความคิดเห็น
ดีมาก หายสับสนเลยจ้า