ประสบการณ์เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์ คุ้มค่ากว่าที่คิด

     สวัสดีครับชาวเด็กดีผมชื่อ ฟิล์ม เปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 4 คณะนิเทศฯ ภาพยนตร์ ม.กรุงเทพ เผอิญว่าเมื่อเดือนเมษายน ติดหล่มรับคำชวนจากศูนย์ศึกษาต่อต่างประเทศ ก้อปันกัน ให้ไปทดลองเรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ 2 สัปดาห์ เลยมาเขียนเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ

     เมืองที่ผมไปชื่อ เซบู เป็นเกาะท่องเที่ยว ห้อมล้อมด้วยทะเลและธรรมชาติ เที่ยวง่าย อยู่สบาย เพราะผู้คนทั้งเมืองใช้ภาษาอังกฤษ

     ปกติแล้ว สถาบันสอนภาษาอังกฤษในเซบู จะเป็นทางเลือกหลักของคนญี่ปุ่นและเกาหลีที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ก่อนจะไปทำงานหรือเรียนต่อต่างประเทศ เพราะค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพไม่แพง (ถูกกว่าบ้านเรา) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฝึกภาษาแบบติวเข้ม ซึ่งเป็นจุดเด่นของสถาบันภาษาในเซบูครับ เพราะเค้ามีระบบที่เรียกว่า 1:1 class คือครู 1 คนต่อนักเรียน 1 คน และยังได้รู้จักกับเพื่อนๆ อีกหลายเชื้อชาติ

     ครั้งนี้ ก้อปันกัน จัดโปรแกรมให้ผมไปเรียนยัง 2 สถาบันในเซบู คือ EV Academy และ IDEA Academia ทั้ง 2 ที่นี้อยู่ไม่ห่างกันมาก ตั้งอยู่ใกล้ย่านช้อปปิ้งและแหล่งของกิน โดยสัปดาห์แรก ผมเริ่มเรียนที่ EV Academy ก่อนครับ

EV Academy
     สถาบันนี้เริ่มสอนตั้งแต่ปี 2002 เป็นโรงเรียนภาษาแห่งแรกๆ ในเซบู นักเรียนส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลี ตามมาด้วยญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เวียดนาม รัสเซีย และไทย รองรับได้ประมาณ 200 คน จุดเด่นของที่นี่คือการเรียนแบบ SPARTAN หรือเรียนอังกฤษแบบเข้มข้น เพราะที่นี่เป็นโรงเรียนประจำ เริ่มเรียนตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ๆ สามารถออกไปข้างนอกได้เฉพาะวันศุกร์เย็น และเสาร์อาทิตย์ มีบริการภายในสถาบันครบวงจรเช่น ที่พัก (เป็น dorm ภายในสถาบัน เลือกได้ว่าจะนอนเดี่ยว นอนคู่ หรือนอนสามคน) อาหาร 3 มื้อ (ส่วนใหญ่เป็นอาหารเกาหลีและญี่ปุ่น) ซักรีด อินเทอร์เน็ตไวไฟ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องฉายหนัง ห้องสมุด และกิจกรรมอิสระ เช่น โยคะ เต้นซุมบ้า บาสเก็ตบอล สนุ๊ก ปิงปอง หรือนวด






หลักสูตร
     ก่อนเริ่มเรียน วันแรกเราจะได้สอบวัดระดับว่า เราอยู่เลเวลไหน โดยสอบฟัง พูด อ่าน เขียน ผมสอบได้ intermediate หรือประมาณกลางๆ ครับ ซึ่งไม่ว่าจะได้เลเวลไหน ตารางเรียนจะคล้ายๆ กัน คือช่วงเช้าเรียนเป็นกลุ่ม ช่วงบ่ายเรียนแบบ 1:1
 
Time
Class
7.30 
Vocabulary test
8.00        
Grammar (Small group)
9.00
Presentation (Small group)
10.00
Storytelling (Big group)
11.00
Listening (Big group)
12.00
Lunch
13.00
Listening (1:1)
14.00
Grammar (1:1)
15.10      
Speaking (1:1)
16.10
Writing (1:1)
17.05      
Dinner
18.00      
Self-study
21.00      
Yoga / Zumba dance / Freestyle

     คาบแรกเป็นการทดสอบศัพท์อังกฤษ (เป็น option ครับ จะเข้าหรือไม่ก็ได้)
     2 คลาสแรกในช่วงเช้า เรียนกลุ่มเล็กครับ ผมได้เรียนกับเพื่อนเกาหลีอีกคนที่เลเวลเท่ากัน
     สำหรับคลาสแกรมม่า พอเรียนทีนี่แล้วเหมือนมารื้อความรู้เรื่องไวยากรณ์อังกฤษอีกครั้ง ในคลาสนี้เราจะได้รับ work text หรือแบบเรียนที่สามารถขีดเขียนได้เพื่อทำโจทย์กับเพื่อนๆ


     ต่อมาเป็นคลาส Presentation เราจะต้องพูดนำเสนอตามหัวข้อที่เราจับฉลากได้ โดยมีเวลาเตรียมตัว 2 นาที สนุกมากครับ เพราะ Topic แต่ละอัน จะเป็นเรื่องชวนให้แสดงความคิดเห็นทั้งสิ้น เช่น การทำแท้ง ความเท่าเทียม ความสุขในชีวิต ประชาธิปไตย ฯลฯ พอเราพูดจบ ครูจะคอมเม้นท์จุดต่างๆ เช่น สำเนียง แกรมม่า โครงสร้างการนำเสนอ การใช้คำศัพท์

     พอมาช่วงสายๆ ก็ย้ายไปเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ เริ่มด้วยคลาส Storytelling ซึ่งคนในห้องจะร่วมกันอ่านเรื่องราวที่ครูกำหนดให้ วิเคราะห์ พูดคุย และแสดงสถานการณ์จำลอง คลาสนี้เรียกร้องให้เราต้องพูดคุยกับเพื่อนๆ ในห้องมากครับ เป็นคลาสที่ได้ใช้ศัพท์แสลง หรือประโยคในชีวิตประจำวันจริงๆ

     ก่อนพักกินข้าว เราเรียนคลาส Listening โดยครูจะให้เราฟังข่าวต่างประเทศ แต่ก่อนฟังเราจะได้วงศัพท์ในเปเปอร์ที่ดูแล้วใหม่สำหรับเราก่อน เสร็จแล้วครูจะเปิดข่าวต่างประเทศในเราฟัง 3 รอบ รอบแรกเราต้องจับว่า เราฟังข้อมูลไหนได้บ้าง รอบสองเราต้องลำดับเรื่องราวว่าประโยคไหนมาก่อนหลัง พอรอบสามเราต้องเขียนศัพท์ที่ถูกต้องลงในเปเปอร์ครับ เสร็จแล้วเราจะได้ฟังอีกรอบก่อนครูจะเฉลย หลังจากนั้นเราจะต้องออกไป Present ความคิดของเราว่าคิดอย่างไรกับข่าวนี้ เป็นคลาสที่ท้าทายมากครับ เพราะนอกจากการสอนจะถูกลำดับมาอย่างดีมากแล้ว ครูประจำคลาสยังพูดเร็วน้ำไหลไฟดับ เป็นคลาสที่ผมชอบมากๆ คลาสหนึ่งของที่นี่ครับ


     พอมาช่วงบ่าย เราจะได้เรียน 4 คลาส แบบตัวต่อตัว (1:1)
     ข้อดีคือครูจะรู้ว่า เราต้องพัฒนาจุดไหนเป็นพิเศษ และสอนให้ถูกจุด เช่นใน Writing ครูให้ผมลองเขียน Essay ดูรอบหนึ่งก่อน และลองให้ผมเปลี่ยนคำเชื่อมเบสิคๆ เป็นคำเชื่อมอื่นๆ ที่สื่อความในแบบเดียวกัน แต่ทำให้ Essay ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น (ข้อนี้ทำให้บางสถาบัน สอนแต่ 1:1 ทั้งวัน ปัญหาที่ตามมาคือ นักเรียนไม่สามารถสื่อสาร ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ได้) หรือในคลาส Speaking เราก็สามารถพูดคุยในประเด็นที่สนใจได้ เช่นการเมืองฟิลิปปินส์ เศรษฐกิจ สังคม อาหาร วัฒนธรรม

     พอกินข้าวเย็นเสร็จ เราก็จะได้ self study คือทบทวนศัพท์เพื่อ Vocab test ในวันต่อไป หรือถ้าใครเรียนในหลักสูตรเฉพาะของที่นี่ เช่น TOEIC, TOEFL, IELTS ก็ต้องติวเพื่อทดสอบในแต่ละวันที่สถาบันกำหนด ซึ่งเลือกได้ว่าจะติวบนห้องพัก หรือติวรวมกับเพื่อนๆ

     พอถึงวันหยุด จะสามารถออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ได้ครับ หรือจะไปเที่ยวบ้านอาจารย์ก็ได้ ซึ่งจะรีวิวที่ท่องเที่ยวที่ผมไปมาช่วงท้ายอีกที



     สัปดาห์ต่อมาผมย้ายมาเรียนที่ IDEA​ Academia

IDEA​ Academia
     สถาบันนี้เพิ่งเปิดสาขาใหม่บนตึกระฟ้า ตกแต่งทันสมัย หลักสูตรการเรียนการสอนใกล้เคียงกับกับ EV แต่คนละสไตล์กัน เพราะนักเรียนสามารถออกไปไหนมาไหนได้หลังเลิกเรียน สามารถเลือกได้ว่าจะพักโรงแรมในเครือของสถาบัน หรือพักหอพัก นักเรียนส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่น อายุนักเรียนค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่มัธยม มหาวิทยาลัย คนทำงาน จนถึงคนวัยเกษียณ และเลือกหลักสูตรได้ว่า จะเรียนแบบไหน (ขึ้นอยู่เลเวลที่เราได้ตอนสอบวัดระดับก่อนเริ่มเรียน และระยะเวลาที่เรามาเรียน) เช่นแบบเร่งรัด (ที่นี่มี Night Class และ Morning Class) หรือเรียนเพื่อสอบวัดระดับ นอกจากนี้ก็มีกิจกรรมพิเศษให้เลือกเรียนได้ตามอัธยาศัย เช่น Brain training ฝึกออกเสียงด้วยสำเนียงมาตรฐานเหมือนเจ้าของภาษาในช่วงเช้า โยคะ เต้นซุมบ้า และว่ายน้ำ โดยในสถาบันมีบริการครบถ้วนเช่น อาหาร 3 มื้อ (ส่วนใหญ่เป็นอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีเช่นเดียวกัน แต่บางวันมีอาหารไทยด้วย ผมได้กินแกงเขียวหวาน) ซุ้มขายขนม บริการซักรีด จุดรักษาพยาบาล อินเทอร์เน็ตไวไฟ





หลักสูตร
     ในวันแรก เราจะได้สอบวัดระดับก่อนเริ่มเรียน หลังจากนั้นทางสตาฟจะพาเราเดินทัวร์จุดต่างๆ ของสถาบัน เช่นห้องเรียน จุดซักรีด โรงอาหาร ฯลฯ และสตาฟแต่ละคนจะมาแนะนำตัว ก่อนจะพาเราไปช้อปปิ้งข้าวของจำเป็นและแลกเงินที่ห้างสรรพสินค้า หลักสูตรที่นี่มีการเรียนแบบ ตัวต่อตัว หรือ 1:1 class ,small class ,big class ,night class และ Brain training โดยทางสถาบันจะจัดตารางเรียนให้เราตามเลเวลที่เราได้รับ ด้านล่างนี้เป็นตารางเรียนของผมครับ
 
Time
Class
8.00
Morning class : Brain training (Big class)
11.00      
Pronunciation (1:1)
12.00
Lunch
13.00
Discussion (Small class)
14.00
Speaking (1:1)
15.00
Grammar (1:1)
16.00
Listening (1:1)
17.00
Presentation & Discussion (Big class)
18.00
Dinner
19.00
Night Class (1:1)
กิจกรรมอิสระ - โยคะ ซุมบ้า ท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง

     คาบแรกเป็น option ครับ คือจะเข้าหรือไม่ก็ได้ เป็นกิจกรรม Brain training เค้าจะให้เราบริหารปาก ลิ้น กราม เพื่อให้ออกเสียงได้ชัดเจน และดูหนังเป็นฉากสั้นๆ ก่อนจะลองพูดแบบตัวละครดู สนุกดีครับ เป็นกิจกรรมบริหารสำเนียงก่อนเริ่มคลาสต่อๆ ไป

     ช่วงแรกเป็นคลาส Pronunciation ครับ เรียนแบบตัวต่อตัว คลาสนี้เราจะได้เรียนวิธีการออกเสียงที่ถูกต้องแบบ Phonetics (ซึ่งก็พบว่า การออกเสียง CH ให้ต่างกับ SH ยากมากสำหรับผม) ช่วงบ่าย เริ่มด้วย Small class เรียนกัน 3 คนในคลาส Discussion ครูที่เป็นกระบวนกรละเอียดมากครับ ทั้งบุคลิก วิธีการกระตุ้นให้ผู้เรียนแสดงความเห็น ถกเถียง อภิปราย และปกป้องความคิดของตัวเอง เพราะแต่ละวัน ครูจะกำหนดหัวข้อในการถกเถียงมาให้ เช่นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ การสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ หรือวัฒนธรรม เป็นต้น โดยแต่ละหัวข้อจะมีคำถามปลีกย่อย ให้เราเลือกว่า เราเห็นด้วยมากน้อยขนาดไหน และต้องพยายามยืนยันในความคิดของตัวเอง ตั้งคำถามกับความคิดคนอื่น และอภิปรายกัน พอเราได้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์แล้ว ทำให้ทักษะการพูดลื่นไหลมากขึ้น เป็นคลาสที่สนุกมากครับ ยิ่งในคลาสมีเพื่อนต่างสัญชาติกันด้วย (ไทย-เกาหลี-ญี่ปุ่น) หลายๆ ประเด็นที่พูดคุยกันจึงแปลกใหม่มาก

     ต่อมาเป็นคลาส Speaking เรียนแบบ 1:1 ครับ อย่างที่ทราบแล้วว่า พอเรียนแบบตัวต่อตัว การสอนก็จะยืดหยุ่นขึ้น เพราะครูจะปรับตามจุดที่เราต้องพัฒนา ในคลาสนี้ เนื่องจากผมพอจะพูดภาษาอังกฤษในระดับสื่อสารได้ ครูผู้สอนเลยติวเรื่อง idiomatic expression ให้ครับ เพื่อให้บทสนทนาดูน่าเชื่อถือ มีน้ำหนักมากขึ้น (เช่น แทนที่จะใช้คำว่า no problem ก็สามารถใช้คำว่า no sweat แทน ซึ่งมีความหมายเหมือนกัน)

     หลังจากนั้น เป็นคลาส Grammar คล้ายกับที่ EV คือ ถ้าคนที่พื้นฐานแกรมม่าแน่นพอสมควรแล้ว เราก็จะได้เรียนการต่อประโยคหรือการเชื่อม tense 2 tense เข้าด้วยกัน และคลาส Listening ครูในคลาส Listening ที่ผมได้เรียน นอกจากสอนหนังสือแล้ว ยังเป็นนักเคลื่อนไหวด้วย ดังนั้นบทสนทนาที่เกิดขึ้นจึงน่าตื่นเต้นมาก


     ก่อนกินข้าวเย็น เราจะได้เรียน Big class เป็นคลาส Presentation & Discussion ร่วมกับเพื่อนๆ อีกประมาณ 5 คน โดยครูผู้สอนจะตั้ง Topic ให้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหัวข้อสากล เช่น Domestic violence ,Global warming หรือ Social problems ให้เราเลือกว่าปัญหาใดหนักสุด เพราะอะไร จากนั้นก็ให้เราแบ่งฝ่ายเป็น Pro และ Con คือฝ่ายที่เห็นด้วยกับไอเดีย กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และดีเบตกัน

     หลังกินข้าวเย็น จะเป็น Night Class ส่วนใหญ่จะเป็นการสอบ TOEIC หรือ TOEFL จำลอง ไม่ก็เป็นคลาส Speaking สำหรับคนที่อยู่แค่ช่วงสั้น ๆ เช่น 1-2 สัปดาห์ ส่วนคนที่ไม่มี Night Class ก็สามารถไปเดินเล่นข้างนอก หรือกลับห้องพักได้ (มีเซเว่นและฟาสต์ฟู้ดอยู่ติดกับตึกสถาบันเลย)

     นอกจากนี้ ตัวเกาะเซบูเองยังมีจุดท่องเที่ยวหลากหลายและโดดเด่น เช่น ว่ายน้ำกับฉลามวาฬ จุดดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก ชายหาดทรายละเอียด น้ำตกสีฟ้าใส หรือนั่งเรือมาหมู่เกาะใกล้ ๆ เพื่อเดินเที่ยวเทือกเขาช็อกโกแลต นั่งเรือในแม่น้ำกลางป่า ส่องสัตว์พื้นเมือง ลองกินอาหารท้องถิ่น หรือถ้าเพื่อน ๆ ที่มีเวลาก็สามารถสอบใบอนุญาตดำน้ำที่นี่ได้ครับ

     โดยสรุปแล้ว ฟิลิปปินส์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ เพราะค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพถูก อยู่ง่าย อาหารการกินหลากหลาย ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ มีหลักสูตรให้เลือกหลากหลาย มีการเรียนการสอนแบบตัวต่อตัว (1:1) และที่สำคัญ เมืองเซบูมีอัตราอาชญากรรมต่ำ (50.61) ต่ำกว่า Kuala Lumpur (73.77) ,Manila (65.50) ,Las Vegas (61.24) และ New-Delhi (60.25) ยิ่งในบริเวณสถาบันสอนภาษามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าใครคิดจะไปเรียนต่อต่างประเทศ หรืออังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย เริ่มจากการมาฝึกภาษาที่นี่ก่อนจะช่วยประหยัดและสร้างความคุ้นเคยต่อภาษาอังกฤษได้เยอะมากๆ

     ทั้ง 2 สถาบันคือ EV Academy และ IDEA Academia ยังสามารถเริ่มเรียนได้ทุกวันจันทร์ ลงเรียนได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึง 6 เดือนหรือมากกว่า มีหลักสูตรหลากหลายให้เลือกครับ และสามารถสมัครหรือติดต่อขอรับรายละเอียดการเรียนการสอนได้ที่ ศูนย์การศึกษาต่อต่างประเทศก้อปันกัน ได้โดยตรงครับ สำหรับเพื่อนๆ คนไทยหลักสูตรที่นิยมเลือกกันจะเป็นแบบ 2 เดือน คือทั้งได้เรียนภาษาเข้มข้น และได้เที่ยวที่ต่างๆ ในเซบูด้วยครับ :D

ติดต่อโทร 081-349-7669
Line: korpungun
FB: korpungunoverseas
E-mail: korpungun@gmail.com
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวประชาสัมพันธ์ - Columnist ข่าวประชาสัมพันธ์ภายในเว็บไซต์ Dek-D.com

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

PiZZaPeaCH Member 29 เม.ย. 59 17:14 น. 1-1
ติดต่อได้ที่ศูนย์การศึกษาต่อต่างประเทศก้อปันกันได้เลยค่ะ www.korpungun.com Line: korpungun FB: korpungunoverseas Call: 081-349-7669
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด