ไปมั้ย? 5 ประเทศที่ "ไปเที่ยวยาก" ติดอันดับโลก

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com น้องๆ เคยขอวีซ่าประเทศไหนแล้วรู้สึกว่ายากบ้างมั้ยคะ วันนี้ พี่พิซซ่า จะพาน้องๆ มาทำความรู้จักกับประเทศที่จะทำให้การขอวีซ่าที่ยากที่สุดของน้องกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย ลองไปดูกันดีกว่าว่ามีประเทศอะไรบ้างที่เข้ายากสุดๆ


ภูฏาน



     ภูฏานเป็นประเทศที่ประชาชนมีความสุขมากที่สุดในโลก ความสงบและความสวยงามของธรรมชาติยังไม่ถูกทำลาย ทำให้ต้องมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวค่ะ และการไปเที่ยวที่นี่ก็ไม่สามารถแบกเป้ไปเที่ยวแบบแบคแพ็คได้ด้วย ต้องซื้อทัวร์กับทัวร์ถูกกฎหมายในภูฏานเท่านั้น หรือซื้อผ่านเอเจนซี่ในต่างประเทศที่ได้รับการรับรอง 

    จากนั้นทัวร์จะดูแลเรื่องการทำวีซ่าให้ จริงๆ จะถือว่าไปเที่ยวง่ายก็ได้นะคะ เพราะมีคนมาจัดการให้หมด เราแค่จ่ายเงินให้ครบก็พอ แต่มันก็ถือว่ายุ่งยากค่ะ (ยังไงกันแน่) เพราะจะไปเองแบบถูกๆ นี่ไม่ได้เลย นักท่องเที่ยวบางคนไปกับทัวร์เถื่อนแล้วเกิดปัญหาก็มีเช่นกัน ดังนั้นทุกอย่างต้องผ่านทัวร์ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลเท่านั้นนะคะ ร้านอาหาร ที่พัก และยานพาหนะในการเดินทางก็ต้องเป็นของที่ที่รัฐบาลรับรองแล้วเช่นกัน

     รัฐบาลภูฏานตั้งราคาขั้นต่ำสำหรับนักท่องเที่ยวเลยว่าราคาที่ต้องจ่ายในแต่ละวันคือ 200 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับเดือนมกราคม, กุมภาพันธ์, มิถุนายน, กรกฎาคม, สิงหาคม และธันวาคม และ 250 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับเดือนอื่นๆ ราคานี้รวมค่าที่พักระดับ 3 ดาว ค่าอาหารในหนึ่งวัน ค่าไกด์ทัวร์ที่ได้รับการรับรอง ค่ายานพาหนะสำหรับเดินทางในประเทศ ค่าอุปกรณ์สำหรับเดินป่า ภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ และค่าบำรุงการท่องเที่ยวในภูฏาน (หากจะพักหรูขึ้นราคาก็จะแพงขึ้น)

    ผู้ที่สนใจไปเที่ยวต้องจ่ายราคารายวันเหล่านี้ให้ทัวร์ตามจำนวนวันที่ไปจริงล่วงหน้าก่อนถึงจะสามารถเดินทางไปภูฏานได้ ทัวร์จะจ่ายเงินให้รัฐบาลอีกที (ถ้าซื้อทัวร์ผ่านเอเจนซีหลายทอดก็จะมีราคาสูงขึ้น) และส่งข้อมูลขอวีซ่าเราให้รัฐบาล เมื่อรัฐบาลได้รับค่าใช้จ่าย ข้อมูล และรูปถ่ายของเราก็จะพิจารณาออกวีซ่าให้

     ใครสนใจไปเที่ยวภูฎานสามารถเข้าไปดูรายชื่อทัวร์ที่รัฐบาลรับรองได้ที่เว็บไซต์รัฐบาลโดยตรงได้เลยค่ะ www.tourism.gov.bt/plan/travel-requirements เด็กและนักเรียนมีส่วนลดค่าใช้จ่ายรายวันให้ด้วย


เกาหลีเหนือ



     แม้จะขึ้นชื่อว่าปิดประเทศแต่เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่สามารถไปเที่ยวได้ง่ายกว่าที่คิดเยอะ อย่างน้อยก็ง่ายกว่าหลายๆ ประเทศในบทความนี้ เพราะมีลักษณะคล้ายการเดินทางไปเที่ยวประเทศภูฏานค่ะ นั่นคือต้องท่องเที่ยวกับไกด์ทัวร์ที่รัฐบาลรับรองเท่านั้น แต่ทุกวันนี้ก็ไม่เครียดเท่าสมัยก่อนที่ห้ามทำโน่นทำนี่แล้ว ตอนนี้นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปในเกาหลีเหนือได้มากขึ้น และสามารถพูดคุยกับชาวท้องถิ่นได้เช่นกัน (มีไกด์คอยดูแลก็จริงแต่ไม่โหด) ราคาทัวร์จะครอบคลุมค่าวีซ่า ค่าเดินทางและที่พักให้เรียบร้อยแล้ว

     ราคาทัวร์ก็มีหลายระดับให้เลือก แบบที่ราคาเป็นมิตรก็พอมีค่ะ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเกาหลีเหนือประมาณ 2,500 คน ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชียและประเทศตะวันตกที่ไม่ใช่อเมริกา จริงๆ เกาหลีเหนือไม่ได้ห้ามคนอเมริกันเข้าและก็มีคนอเมริกันไปเที่ยวบ้าง แต่ตัวรัฐบาลสหรัฐเองแนะนำให้ประชาชนไม่ไปเที่ยวที่นี่เพราะกลัวจะโดนจับตัวไป มีเที่ยวบินตรงเข้าเปียงยางจากปักกิ่ง, เสิ่นหยาง, กัวลาลัมเปอร์ และวลาดิวอสตอค และสามารถเดินทางเข้าประเทศโดยรถไฟได้จากปักกิ่ง, ตันตง และมอสโกว์


นาอูรุ



ตรงหมุดแดงคือที่ตั้งของนาอูรุ เมื่อทำภาพอัตราส่วนนี้เกาะนาอูรุเล็กกว่าปลายหมุดอีก

     นาอูรุเป็นประเทศเกาะขนาดเล็กในมหาสมุทรแฟซิฟิก อยู่ห่างประเทศออสเตรเลียไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ การเดินทางมาเกาะนี้สามารถเดินทางโดยเครื่องบินสายการบินนาอูรุแอร์ไลน์ที่มีบริการเที่ยวบินตรงจากประเทศออสเตรเลียมายังนาอูรุสัปดาห์ละครั้ง (ไม่นับเครื่องบินส่วนตัวของมาเฟียรัสเซียที่มาที่นี่เพื่อฟอกเงินหรือเลี่ยงภาษี)

    ทุกอย่างในนาอูรุค่อนข้างแพงสำหรับคนทั่วไป นอกจากนี้การขอวีซ่าก็เป็นเรื่องยากมากเช่นกันหากคุณไม่ได้มาจากประเทศหมู่เกาะละแวกนั้นหรือเป็นคนรัสเซีย ที่ยากมากก็ไม่ใช่แค่เรื่องเอกสารหรือขั้นตอนด้วย แต่เป็นความลำบากในการหาสถานกงสุลให้เจอเพราะมีอยู่ประมาณ 9 แห่งในโลก บางทีสายการบินอาจจะเป็นคนเดินเรื่องขอวีซ่าให้ แต่ก็ไม่รับรองว่าจะผ่านแน่มั้ยเช่นกัน แต่ถึงไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ คนที่ไปเที่ยวมาแล้วจริงๆ ค่อนข้างเฉยๆ เพราะไม่ต่างจากประเทศที่เป็นเกาะอื่นๆ แถมประเทศอื่นเดินทางสะดวกกว่าและไม่ต้องกลัวโดนมาเฟียเก็บด้วย


ซาอุดิอาระเบีย



     ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่ร่ำรวยมากอยู่แล้วจากน้ำมัน และในแต่ละปีก็มีรายได้จากผู้แสวงบุญมากจึงไม่แคร์นักท่องเที่ยวทั่วไปค่ะ การขอวีซ่าเข้าซาอุดิอาระเบียจะออกให้เฉพาะผู้มาติดต่อธุรกิจหรือมาทำงาน ญาติของครอบครัวชาวซาอุดิอาระเบีย ผู้ขอผ่านเพื่อเดินทางไปอีกประเทศ และผู้แสวงบุญชาวมุสลิมเท่านั้น นักท่องเที่ยวทั่วไปที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามและไม่มีญาติอยู่ในซาอุดิอาระเบียแทบจะขอวีซ่าไม่ผ่านกันเลย

    ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงยิ่งไม่มีโอกาสเข้าไปใหญ่ค่ะ ผู้หญิงที่จะเดินทางไปเที่ยวต้องมีญาติผู้ชายมาด้วย หรือมีญาติผู้ชายรอรับอยู่ที่ซาอุดิอาระเบีย ส่วนคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานกันก็ห้ามมาเที่ยวกันสองต่อสอง ต้องมากันเป็นกลุ่มเท่านั้น หากใครเคยไปเยือนประเทศอิสราเอลมาแล้วก็อาจถูกรัฐบาลซาอุดิอาระเบียปฏิเสธได้เช่นเดียวกัน เงื่อนไขเยอะมากจริงๆ ค่ะ

     แม้แต่ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมเองถ้าไม่ได้มาจากประเทศเพื่อนบ้านก็มีขั้นตอนขอวีซ่าที่จุกจิกนิดนึงเช่นกัน ต้องมากับทัวร์ที่รัฐบาลรับรองแล้วเท่านั้น และต้องจ่ายค่าที่พักและค่าเดินทางกับเอเจนซีทัวร์ด้วย นอกจากนี้ยังมีการจำกัดพื้นที่ที่ผู้แสวงบุญชาวต่างชาติสามารถเข้าได้ แต่มีการวางแผนงานแล้วว่าในปี 2030 จะเป็นประเทศศูนย์กลางของชาวมุสลิม นอกจากผู้แสวงบุญแล้ว นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมทั่วไปก็จะมาท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น


โซมาเลีย



สีแดงตรงกลางภาพคือประเทศโซมาเลีย

     โซมาเลียเป็นประเทศที่อยู่ทางทิศตะวันออกของทวีปแอฟริกา สมัยก่อนเคยเป็นเมืองค้าขายสำคัญที่มีความเจริญ แต่ตั้งแต่กลายเป็นรัฐเผด็จการก็กลายเป็นประเทศที่ทั่วโลกรู้จักจากข่าวการก่อการร้าย สงครามกลางเมือง สงครามระหว่างประเทศ และโจรสลัด แม้ปัจจุบันจะมีการลงนามความตกลงสันติภาพและมีรัฐบาลแล้ว แต่ประเทศก็ยังเต็มไปด้วยกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง ดังนั้นแม้รัฐบาลจะอยากได้เงินจากการท่องเที่ยว แต่ก็ยังกังวลอยู่ดีว่านักท่องเที่ยวมาแล้วอาจโดนฆ่าได้ ทำให้การมาเที่ยวประเทศนี้เป็นเรื่องยากค่ะ

     ส่วนมากชาวต่างชาติที่มาเยือนโซมาเลียมักเป็นผู้มาทำงานทูตหรือกลุ่มองค์กรอิสระที่มาช่วยฟื้นฟูพื้นที่หรือมาช่วยทำงานอาสาสมัคร ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วไปขอวีซ่าค่อนข้างยากค่ะ แม้จะไม่ได้ระบุไว้เป็นข้อบังคับ แต่ผู้ที่ขอวีซ่าผ่านมักต้องซื้อบริการบอดี้การ์ดไว้ด้วย นั่นคือจ้างชายฉกรรจ์ติดอาวุธผู้มีฝีมือการต่อสู้หรือเคยเป็นทหารมาก่อนจำนวน 4-6 คนมาคอยดูแลตลอดเวลาที่อยู่ในโซมาเลีย นอกจากนี้ยังมีรถส่วนตัวหุ้มเกราะไว้บริการอีกด้วย ค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน แต่ส่วนมากบอดี้การ์ดเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นไกด์ในตัวให้ด้วย สามารถแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ และธรรมชาติที่ยังไม่โดนทำลายในโซมาเลียให้ได้


     จริงๆ แล้วภูฎานกับเกาหลีเหนือจัดว่าไปเที่ยวได้ง่ายมากๆ เลย เมื่อเทียบกับประเทศอื่น แต่เห็นหลายคนว่ากันว่ามันเข้าถึงยาก พี่ก็เลยเอามาแนะนำพร้อมกันทีเดียวไปเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีประเทศที่ไปเที่ยวยากอีกมากมายเลย ส่วนมากจะอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลางและในทวีปแอฟริกา เช่นซูดาน, ชาด, แองโกล่าและเยเมน แต่ไม่ว่าจะเลือกไปเที่ยวประเทศใดก็ต้องศึกษาระเบียบก่อนนะคะว่าต้องขอวีซ่าหรือไม่ และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง และอย่าไปทำผิดกฎในต่างประเทศกันล่ะ นอกจากนี้ถึงได้วีซ่าแล้วก็มีโอกาสโดนตม.ที่สนามบินปลายทางปฏิเสธให้เข้าประเทศได้เช่นกัน ถ้าจะไปประเทศยากๆ เหล่านี้ต้องแข็งแกร่งจริงๆ ค่ะ 


ข้อมูล
www.theatlantic.com, www.businessinsider.com
www.travelandleisure.com, www.tourism.gov.bt
พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

7 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด