เหลือเชื่อ! กับ 9 เรื่องต้องห้ามใน "ซาอุดิอาระเบีย"

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ระหว่างที่กำลังอ่านเรื่องของประเทศต่างๆ ไปเรื่อยๆ พี่นิทาน ก็ไปเจอกับเรื่องน่าสนใจจากประเทศซาอุดิอาระเบียที่เราอาจยังไม่ค่อยรู้กันค่ะ นั่นคือ 9 เรื่องต้องห้ามในประเทศที่ไม่คิดว่าจะมีจริงๆ บางเรื่องก็ทำเอาประหลาดใจไม่น้อย ไหนมาดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้าง

Photo credit : flavinscorner.com

1. ห้ามผู้หญิงกับผู้ชายคุยกันในที่สาธารณะ
    เป็นกฎหมายที่ค่อนข้างเด็ดขาดและกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับชาวซาอุดิอาระเบียเลยค่ะ คือตามที่สาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ห้าง ธนาคาร และอื่นๆ ผู้ชายกับผู้หญิงจะต้องแยกกัน นอกจากจะมาเป็นครอบครัวหรือเป็นสามีภรรยากัน แต่ละที่จะต้องมีแถวแยก ชาย-หญิง เพื่อที่จะไม่ให้ทั้งชายและหญิงจีบกันหรือแสดงออกกันในที่สาธารณะค่ะ  

Photo credit : pixabay

2. ผู้หญิงอายุต่ำกว่า 45 ปี ห้ามเที่ยวคนเดียว
    เป็นอีกกฎหนึ่งที่ผู้หญิงชาวซาอุดิอาระเบียจะต้องมีผู้ชายคอยปกป้องหรือดูแล หรือเรียกว่า 'Male guardians' ซึ่งอาจเป็นคุณพ่อ พี่ชาย น้องชาย หรือสามีก็ได้ ผู้หญิงทุกคนจะถูกห้ามไม่ให้ไปไหนมาไหนคนเดียวหรือแม้กระทั่งทำกิจกรรมบางอย่างหากไม่ได้รับการอนุญาตจากผู้ชายที่คุ้มครอง ชายที่คุ้มครองหญิงชาวซาอุฯ จะมีสิทธิ์ในการตัดสินทุกๆ อย่างของผู้หญิง ยกตัวอย่างดังนี้...
 
-การแต่งงาน/หย่า
-อายุต่ำกว่า 45 ปี และอยากไปเที่ยวคนเดียว
-การศึกษา เช่น การจะเข้าเรียนในระดับชั้นต่างๆ
-การทำงาน สมัครงาน
-เปิดบัญชีธนาคาร
-การผ่าตัดต่างๆ 


3. ห้ามศาสนาอื่น 
    บุคคลที่มีศาสนาอื่นนอกเหนือจากอิสลามจะถูกห้ามไม่ให้แสดงออกในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นการเคารพหรือการพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าองค์อื่นๆ หรือศาสนาอื่นกับชาวมุสลิม และในประเทศซาอุดิอาระเบียจะไม่มีสถานศาสนาอื่นๆ นอกเหนือจากศาสนาอิสลาม ใครที่นับถือศาสนาคริสต์ พุทธ หรืออื่นๆ ก็อย่าเผลอพกไม้กางเขน สร้อยพระ หรือหนังสือบทสวดมนต์ไปนะคะ (ถ้าได้ไปประเทศนี้) และนอกเหนือจากนั้น ชาวมุสลิมในประเทศซาอุดิอาระเบียจะไม่อนุญาตให้เปลี่ยนศาสนา หากทำเช่นนั้นจะได้รับโทษถึงชีวิตค่ะ


4. ห้ามถ่ายภาพสถานที่ต่างๆ ดังนี้
    การถ่ายภาพสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลของซาอุดิอาระเบียเป็นสิ่งต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงานรัฐต่างๆ สนามบิน อาคารหรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวกับทางทหารล้วนแต่ถูกห้ามทั้งนั้น เพราะหากมีคนเห็นว่าเรากำลังถ่ายอยู่อาจถูกจับในข้อหาผู้ต้องสงสัยในการก่อการร้ายก็เป็นได้ นอกจากนั้น ห้ามถ่ายรูปผู้คนโดยตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง (หากเป็นผู้ชายอาจต้องขอก่อน) ไม่แน่ใจว่าถ้าเซลฟี่นี่ได้รึเปล่า ถ้าไม่ติดสถานที่ที่เสี่ยงๆ ก็คงได้ แต่ทางที่ดี อย่าถ่ายอะไรเลยน่าจะดีกว่า 


5. ห้ามผู้หญิงขับรถ
    ความจริงไม่ได้มีกฎหมายตายตัวว่าห้ามผู้หญิงขับรถ แต่ด้วยความเชื่อบางอย่างที่มีมานานจึงทำให้ทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องอันตรายและผิดศีลธรรม และคนส่วนมากเชื่อว่าหากผู้หญิงได้ขับรถแล้วอาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเธอได้รับอิสระมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันในเมืองอื่นๆ ที่อยู่ห่างออกไปก็มีผู้หญิงบางคนขับรถ แต่เป็นการขับรถในฟาร์มที่ต้องใช้ขนส่งของหรือสัตว์ต่างๆ และเป็นพื้นที่ที่คนไม่เยอะเท่าเมืองหลวงจึงมีการอนุโลมกันได้ แต่ก็ไม่ได้มีมากนัก 


6. ห้ามเล่นดนตรีตามที่สาธารณะ
    เวลาเราไปเที่ยวตามประเทศต่างๆ เราอาจจะเห็นนักดนตรีที่เล่นดนตรีเปิดหมวกเพื่อความบันเทิงหรือการกุศล บางประเทศก็เล่นกันจริงจังสนุกสนานและเป็นมืออาชีพเลย แต่กับที่ซาอุดิอาระเบียนั้นการเล่นดนตรีตามที่สาธารณะเป็นสิ่งต้องห้ามด้วยเหตุผลทางศาสนาค่ะ ถ้าไปเดินห้างหรือตลาดจะไม่มีเพลงเปิดให้เราได้ยินแน่นอน (พวกเพลงบริทนีย์อะไรแบบนี้น่ะค่ะ) นอกจากนั้นตามโรงเรียนต่างๆ ก็ไม่อนุญาตให้มีการสอนดนตรีหรือเต้นอยู่ด้วย ถ้ามีใครอยากเรียนก็ต้องเป็นคลาสเรียนแบบส่วนตัว ส่วนการฟังเพลงก็เช่นกัน หากฟังกันเองที่บ้านก็ไม่มีปัญหาค่ะ


7. ห้ามไม่ให้มีโรงหนัง
    คนรักหนังอาจจะต้องดูหนังกันเองที่บ้านหรือไม่ก็สถานที่เล็กๆ ที่เป็นส่วนตัว เพราะที่ซาอุดิอาระเบียไม่มีโรงหนังอยู่เลย ที่ห้ามไม่ให้มีโรงหนังนั้นก็เพราะเหตุผลที่ไม่อยากให้ผู้ชายกับผู้หญิง (ที่ไม่ใช่คู่กัน) มาเจอกันนั่นเองค่ะ 


8. ห้ามฉลองวาเลนไทน์
    ด้วยเหตุผลที่ว่าวันวาเลนไทน์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนาอิสลามเลย จึงทำให้ประเทศซาอุดิอาระเบียสั่งห้ามไม่ให้ใครก็ตามใส่เสื้อผ้าสีแดงในวันวาเลนไทน์หรือขายของต่างๆ หรือแม้กระทั่งกุหลาบแดง ร้านขายของและขายดอกไม้ จึงไม่มีสิ่งของที่เป็นสีแดงหรือเป็นรูปหัวใจ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เห็นถึงความเป็นวันวาเลนไทน์ หากเห็นใครใส่เสื้อผ้าที่แอบมีสีแดงอยู่ก็จะถูกไล่กลับไปเปลี่ยนชุดที่บ้านเลยค่ะ ข้อห้ามต่างๆ เหล่านี้กันไม่ให้หนุ่มสาววัยรุ่นอินกับความรักหรือแสดงออกในเรื่องความรักอย่างไม่สมควรด้วยค่ะ


9. ห้ามดูหนังโป๊!
    ไม่ว่าใครก็ตามที่มีคลิปหนังโป๊ต่างๆ อยู่ในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือจะถือว่าผิดกฎหมายนอกจากหนังโป๊แล้ว รูปภาพหรือการ์ตูนต่างๆ ที่ส่อไปในทางลามกอนาจารก็โดนแบนเหมือนกันค่ะ ความจริงหลายคนอาจคิดว่า 'แอบๆ ก็ได้นี่ ไม่เห็นเป็นไรเลย' ก็คงจะได้เหมือนกันค่ะ แต่อย่าลืมว่าบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็อาจสุ่มตรวจค้นมือถือหรือคอมพิวเตอร์เมื่อไหร่ก็ได้นะ 
 
   

     ความจริงในแต่ละประเทศก็มีกฎเกณฑ์ที่ต่างกันเนื่องจากพื้นฐานและความเป็นมาไม่เหมือนกัน การเรียนรู้กฎระเบียบหรือวัฒนธรรมของกันและกันไว้ก่อนถือเป็นเรื่องดีนะคะ ^^ 

 
 ข้อมูลจาก
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

casio 8 มิ.ย. 59 20:54 น. 8
ความเห็นของคุณยาซิด ในความคิดเรา เราไม่เห็นด้วยเรื่องลูกอมนะคะ ผญ เป็นคนเหมือนกันนะคะ ไม่ใช่อาหาร หรืออะไรก็แล้วแต่ และการคลุมผ้าของอิสลาม เราชอบนะคะรู้สึกว่าเรียบร้อย เรามีเพื่อนเป็นอิสลามเช่นกันค่ะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นของหลายๆความคิดเห็น การคลุมผ้ามันช่วยทำให้ ผญ ปล่อยภัยจริงค่ะ แต่มันก็เป็นการลดรอนสิทธิเสรีภาพเช่นกัน การที่ไม่คลุมผ้าไม่ได้หมายความว่า ผญ คนนั้นไม่ดีนะคะ ถ้าคุณมองว่าเป็นลูกอม เราถามหน่อยนะคะการที่ลูกอมที่มีห่อหุ้ม ใช่ว่าจะสะอาดเสมอไป มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลยค่ะ ในอดีตการคลุมผ้าของศาสนาคุณนั้นเป็นเรื่องที่ควร ช่วยให้ปลอดภัย เพราะด้วยสถานการณ์อะไรหลายๆอย่าง แต่ในปัจจุบัน ทุกอย่างต้องมีการปรับตัว แต่จากที่อ่านที่คุณคอมเม้นมา คุณเอาศาสนามายำกับเรื่องสิทธิเสรีภาพ ของ ผญ มากกว่าค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเข้าใจศาสนาคุณมาแบบไหน เราอยากจะถามว่าคุณคุณเข้าใจศาสนาที่คุณนับถือจริงๆรึเปล่าค่ะ แล้วศาสนาอื่นที่ไม่คลุมผ้าเป็นคนไม่ดี ขอโทษนะคะ คุณกำลังแสดงตัวว่ากดศาสนาอื่นอยู่นะคะ แนะนำว่าคุณควรไปศึกษาศาสนาของคุณใหม่ รวมทั้งปรับความคิดของคุณให้เข้ากับปัจจุบันของโลกด้วยนะคะ อย่างมาเเสดงความคิดของคุณต่อศาสนาอื่นๆแบบนี้เลยค่ะ สงสารคนศาสนาเดียวกับคุณที่พลอยโดนมองไม่ดีไปด้วย
3
กำลังโหลด
ยาวอนากอน Member 10 มิ.ย. 59 12:12 น. 10

ไม่ครับ ที่ประเทศนี้เป็นประเทศที่ไม่อนุญาต ให้ศาสนาอื่นเข้าเป็นเพราะ ที่นี่ถือเป็นดินเเดนศักดิ์สิทธิ์ ครับ ถ้าเป็นที่อื่นเาสามารถเข้าได้เเต่นี้จะเป็นศูนย์รวมของมุสลิมทั่วโลกครับ เราต้องเข้าใจถึงผมจะไม่ใช่มุสลิม เเต่ผมก็รู้ครับ เพื่อนผมบอกว่า ทุกสิ่งนั้นเพื่อที่จะบ่งบอกที่นีคือดินเเดงศักดิ์สิทธิ์ ครับทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องเป็นมุสลิมเท่านั้น ไม่ใช่ว่าถ้าศาสนาอื่นเข้าเเล้วห้ามเเสดงออก เเต่ที่นั่นไม่มีศาสนาอื่นเลย เเล้วก็น่ะครับจริงๆไม่ใช่เเค่ผู้หญิงห้ามขับรถน่ะครับเเต่ผู้หญิงไม่สามารถทำด้วยซ้ำครับทำงานคืออกไปด้านนอก ผู้ชายจะต้องเลี้ยงครับประเทศเขาไม่ใช่กดสิทธิผู้หญิงให้ต่ำลงน่ะครับ เเต่ถ้ามองอีกเเง่หนึ่งนี่คือวิธี สร้างคุณค่าให้ผู้หญิง เเละยังเป็นการให้เกริยติผู็หญิงเเบบสุดๆ เเละประเทศนี้ยังเป็นประเทศที่ไม่มีการที่วัยรุ่นใจเเตกหรือท้องไม่มีพ่อ ทุกอย่างล้วนเป็นการป้องกันตั้งเเต่เเรก ถึงตอนนี้ผมอาจจะไม่ใช่มุสลิมเเต่ผมมีเพื่อนเป็นมุสลิม เเละผมเองก็เริ่มสนใจอิสลามเเล้ว เเละเรื่องที่คนนั้นห้ามเปลี่ยนศาสนาไม่ใช่ครับจริงอยู่ว่าเปลี่ยนไม่ได้ เเต่คนที่เป็นอิสลามไม่เปลี่ยนเองต่างหาก เเล้วเรื่องดูหนังผมคิดว่าศาสนาพุทธก็มี ศิล 5 เหมือนกันกฏที่ว่า ห้ามผิดลูกเมียเค้า ผมคิดว่าจริงๆถ้าประเทศเราไม่มีวัฒนธรรมตะวันตกเข้า มาประเทศเราก็คล้ายๆเขานั่นเเหละดูจากพระที่ไม่สามารถเเตะตัว ผู้หญิงได้ ที่ผมพูดมาทั้งนี่ผมเเค่ต้องการจะบอกในเเง่ของคนกลาง อย่างที่บอกผมไม่ใช่มุสลิมเเต่ผมก็เข้าใจศาสนาเขา ตราบใดที่ประเทศเขายังไม่ได้บังคับให้เราทำตามเขา เราก็อย่าไปพูดเเบบั้นเลย ต่างคนต่างอยู่เถอะครับ วัฒนธรรมของเขา ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับyesเย้

3
musya Member 10 มิ.ย. 59 23:29 น. 10-1
โห...คุณเป็นคนที่เข้าใจอิสลามอย่าง (น่าจะ) ถ่องแท้เชียวค่ะ นับถือเลย ^^ ชารีอะอิสลาม (กฎหมายอิสลาม) ที่เค้าใช้ถูกดัดแปลงมาจากหลักคำสอนเก่าแก่ของศาสนา ถ้าไม่ดีจริง ผู้หญิงในบ้านเมืองเค้าคงออกมาเรียกร้องสิทธิแล้วล่ะค่ะ "ใช่ กฎหมายชะรีอะฮฺอาจดูรุนแรงน่ากลัว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะถูกปฏิบัติใช้อย่างง่ายๆตามอำเภอใจ มันจะต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนอย่างรอบคอบและรัดกุมอยู่แล้ว เราจึงยอมรับกฎหมายนี้โดยดี เราสบายใจ และบรูไน รวมเป็นหนึ่ง" ส่วนนี้เป็นคำตอบโต้ของสุลต่านบรูไนต่อประเทศตะวันตกและสหประชาชาติ กรณีการปฏิบัติใช้กฎหมายชะรีอะฮฺ (กฏหมายเดียวกับซาอุ) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่เพียงแต่ซาอุที่ปกครองบ้านเมืองโดยใช้กฎหมายนี้ แต่ประเทศที่ประชาชนนับถืออิสลามก็ยอมรับและใช้อย่างไม่มีปัญหาอะไร เข้าไปเปิดมุมมองที่ลิงค์นี้ได้ค่ะ http://pantip.com/topic/32035409 ฝากถึงคนที่ผ่านเข้ามาเห็นเมนต์นี้ค่ะ แค่แวะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และขอจากไปอย่างไร้ร่องรอย แฮะๆ
0
กำลังโหลด
wwwww 7 มิ.ย. 59 21:29 น. 4
เข้าได้เฉพาะคนที่มาประกอบพิธีฮัจญ์นะครับ แต่ถ้าจะมาเที่ยวเค้าไม่ให้คนไทยเข้า สาเหตุก็มาจากคดีเพชรซาอุครับ
0
กำลังโหลด
ยาซิด 7 มิ.ย. 59 21:38 น. 5
จากที่ผมรู้น่ะครับด้วยควาทที่ผมนับถือศาสนาอิสลามด้วยแล้วก็ขอบอกเลยว่า เฉพาะศาสนาอิสลามเท่านั้นที่จะเข้าประเทศนี้ได้ ไม่ว่าคนๆนั้นมีเงินมหาศาลเพียงใดก็เข้าไม่ได้ อีกอย่างประเทศนี้เป็นประเทศที่คุ้มครองโดยพระเจ้า(อัลลอฮฺ) ฉนั้นแน่นอนว่าพระเจ้าเหนือกว่าสรรพสิ่งใดในจักรวาลนี้แน่นอน ย่อมสามมาถรทำได้ทั้งนั้น และตามที่แอดมินได้กล่าวข้อห้ามต่างๆที่กล่าวไปนั้นถ้าลองคิดวิเคราะห์ดีๆแล้วน่ะครับ จะเห็นได้ว่ามันเป็นจ้อดีสำหรับตัวเราหมดเลย ถึงแม้เราอาจจะคิดว่าเราเสียโอกาสที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป แต่ที่เราเสียโอกาสนั้นเราก็ได้สิ่งที่ดีกว่าแน่นอน เช่น การแยกกันระหว่าชาย-หญิง ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะการอยู่ร่วมกันระหว่าง ชาย-หญิง ที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้วนั้น อาจจะก่อให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์กันได้ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี ฉนั้น ผู้หญิงมุสลิม ได้แยกกันอยู่ก็ห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้มาก ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีที่สุด และอยากให้ลองคิดไปด้วยกันน่ะครับ เรื่องที่ ว่าทำไม ผู้หญิง มุสลิมต้องคลุมผ้าคลุมผม(ฮีญาบ : Hijab) คำตอบคือ ผมจะเปรียบเทียบ ผู้หญิงมุสลิมเหมือนลูกอมลูกหนึ่งที่ไม่ได้แกะ กับ ผู้หญิงศาสนาอื่นที่ไม่คลุมฮีญาบ เสมือนลูกอมที่ถูกแกะแล้ว แล้วถ้าลูกอมสองลูกนี้ ตกลงพื้น ผมอยากทราบว่าลูกอมลูกไหนที่ยังสะอาด และลูกไหนที่สกปรก เพราะอะไร ? ผมคิดว่าคุณคงตอบได้น่ะครับ
10
amber-lee Member 7 มิ.ย. 59 23:17 น. 5-1
เป็นความเเตกต่างของศาสนาค่ะ ทุกๆศาสนามีหลักสอนให้เป็นคนดี เเต่มีวิธีสอน,เผยเเพร่ที่ต่างกันไป อืมตัวอย่างลูกอมของคุณ มีลักษณะคล้ายๆการเหยียดศาสนาอื่นน่ะค่ะ การที่สตรีศาสนาอื่น ไม่ได้คลุมฮีญาบ ไม่ได้หมายความว่าสกปรกค่ะ โดยส่วนตัวทำธุรกิจกับคนอิสลาม เเละหลายศาสนาคือ เค้าก็นิสัยดีกันน่ะค่ะ เป็นคนhigh vision เค้าเเบ่งเเยกความคิดได้ คือไม่จำเป็นต้องเอาหลักศาสนาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานของคนอื่นค่ะ เเล้วก็ประเทศอิสลาม หลายประเทศก็เริ่มเปิดอิสระภาพให้สตรีมากขึ้นเเล้วน่ะค่ะ ลดความเหลื่อมล้ำลง การที่เชื่อมั่นในหลักคำสอนของศาสนาเป็นสิ่งดีที่ค่ะ ควรจะรักษาไว้ เเต่คุณควรปรับปรุงทัศนคติในเรื่องของศาสนาอื่นด้วย เนื่องจากคุณไม่ได้อยู่ในโลกที่มีศาสนาเดียว การเปรียบเทียบของคุณอาจจะทำให้คุณดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือ การศึกษา ลำบากได้ค่ะ ง่ายๆคือ อยู่ร่วมกับคนยาก ส่วนตัว ชอบที่คนมุสลิม เคร่งในการละหมาด กับคลุมฮิญาบ ไม่ทานหมู อันนี้ต่างจากศาสนาอื่น เเต่ปัจจุบันก็มีการละเมิดคำสอนมากขึ้น อย่างที่บอกในข้างบน รักษาความมั่นคงในหลักคำสอน กับ change mindset เเค่นั้น
0
กำลังโหลด

12 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
โอตัง Member 7 มิ.ย. 59 21:28 น. 3
เท่าที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์อิสลาม ยุคสมัยที่ศาสดา (นบีมูฮัมหมัด) ยังมีชีวิตอยู่ แนวคิดต่อสตนีนี่ยังไม่สุดโต่งขนาดนี้เลย
0
กำลังโหลด
wwwww 7 มิ.ย. 59 21:29 น. 4
เข้าได้เฉพาะคนที่มาประกอบพิธีฮัจญ์นะครับ แต่ถ้าจะมาเที่ยวเค้าไม่ให้คนไทยเข้า สาเหตุก็มาจากคดีเพชรซาอุครับ
0
กำลังโหลด
ยาซิด 7 มิ.ย. 59 21:38 น. 5
จากที่ผมรู้น่ะครับด้วยควาทที่ผมนับถือศาสนาอิสลามด้วยแล้วก็ขอบอกเลยว่า เฉพาะศาสนาอิสลามเท่านั้นที่จะเข้าประเทศนี้ได้ ไม่ว่าคนๆนั้นมีเงินมหาศาลเพียงใดก็เข้าไม่ได้ อีกอย่างประเทศนี้เป็นประเทศที่คุ้มครองโดยพระเจ้า(อัลลอฮฺ) ฉนั้นแน่นอนว่าพระเจ้าเหนือกว่าสรรพสิ่งใดในจักรวาลนี้แน่นอน ย่อมสามมาถรทำได้ทั้งนั้น และตามที่แอดมินได้กล่าวข้อห้ามต่างๆที่กล่าวไปนั้นถ้าลองคิดวิเคราะห์ดีๆแล้วน่ะครับ จะเห็นได้ว่ามันเป็นจ้อดีสำหรับตัวเราหมดเลย ถึงแม้เราอาจจะคิดว่าเราเสียโอกาสที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป แต่ที่เราเสียโอกาสนั้นเราก็ได้สิ่งที่ดีกว่าแน่นอน เช่น การแยกกันระหว่าชาย-หญิง ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะการอยู่ร่วมกันระหว่าง ชาย-หญิง ที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้วนั้น อาจจะก่อให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์กันได้ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี ฉนั้น ผู้หญิงมุสลิม ได้แยกกันอยู่ก็ห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้มาก ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีที่สุด และอยากให้ลองคิดไปด้วยกันน่ะครับ เรื่องที่ ว่าทำไม ผู้หญิง มุสลิมต้องคลุมผ้าคลุมผม(ฮีญาบ : Hijab) คำตอบคือ ผมจะเปรียบเทียบ ผู้หญิงมุสลิมเหมือนลูกอมลูกหนึ่งที่ไม่ได้แกะ กับ ผู้หญิงศาสนาอื่นที่ไม่คลุมฮีญาบ เสมือนลูกอมที่ถูกแกะแล้ว แล้วถ้าลูกอมสองลูกนี้ ตกลงพื้น ผมอยากทราบว่าลูกอมลูกไหนที่ยังสะอาด และลูกไหนที่สกปรก เพราะอะไร ? ผมคิดว่าคุณคงตอบได้น่ะครับ
10
amber-lee Member 7 มิ.ย. 59 23:17 น. 5-1
เป็นความเเตกต่างของศาสนาค่ะ ทุกๆศาสนามีหลักสอนให้เป็นคนดี เเต่มีวิธีสอน,เผยเเพร่ที่ต่างกันไป อืมตัวอย่างลูกอมของคุณ มีลักษณะคล้ายๆการเหยียดศาสนาอื่นน่ะค่ะ การที่สตรีศาสนาอื่น ไม่ได้คลุมฮีญาบ ไม่ได้หมายความว่าสกปรกค่ะ โดยส่วนตัวทำธุรกิจกับคนอิสลาม เเละหลายศาสนาคือ เค้าก็นิสัยดีกันน่ะค่ะ เป็นคนhigh vision เค้าเเบ่งเเยกความคิดได้ คือไม่จำเป็นต้องเอาหลักศาสนาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานของคนอื่นค่ะ เเล้วก็ประเทศอิสลาม หลายประเทศก็เริ่มเปิดอิสระภาพให้สตรีมากขึ้นเเล้วน่ะค่ะ ลดความเหลื่อมล้ำลง การที่เชื่อมั่นในหลักคำสอนของศาสนาเป็นสิ่งดีที่ค่ะ ควรจะรักษาไว้ เเต่คุณควรปรับปรุงทัศนคติในเรื่องของศาสนาอื่นด้วย เนื่องจากคุณไม่ได้อยู่ในโลกที่มีศาสนาเดียว การเปรียบเทียบของคุณอาจจะทำให้คุณดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือ การศึกษา ลำบากได้ค่ะ ง่ายๆคือ อยู่ร่วมกับคนยาก ส่วนตัว ชอบที่คนมุสลิม เคร่งในการละหมาด กับคลุมฮิญาบ ไม่ทานหมู อันนี้ต่างจากศาสนาอื่น เเต่ปัจจุบันก็มีการละเมิดคำสอนมากขึ้น อย่างที่บอกในข้างบน รักษาความมั่นคงในหลักคำสอน กับ change mindset เเค่นั้น
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
miljunh Member 8 มิ.ย. 59 12:48 น. 7

ผู้หญิงหน้าไม่เห็นทำอะไรก็ต้องแยกไปหมด แล้วผู้หญิงกับผู้ชายประเทศนี้มาเป็นสามีภรรยากันได้ไงหรอ? 

1
กำลังโหลด
casio 8 มิ.ย. 59 20:54 น. 8
ความเห็นของคุณยาซิด ในความคิดเรา เราไม่เห็นด้วยเรื่องลูกอมนะคะ ผญ เป็นคนเหมือนกันนะคะ ไม่ใช่อาหาร หรืออะไรก็แล้วแต่ และการคลุมผ้าของอิสลาม เราชอบนะคะรู้สึกว่าเรียบร้อย เรามีเพื่อนเป็นอิสลามเช่นกันค่ะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นของหลายๆความคิดเห็น การคลุมผ้ามันช่วยทำให้ ผญ ปล่อยภัยจริงค่ะ แต่มันก็เป็นการลดรอนสิทธิเสรีภาพเช่นกัน การที่ไม่คลุมผ้าไม่ได้หมายความว่า ผญ คนนั้นไม่ดีนะคะ ถ้าคุณมองว่าเป็นลูกอม เราถามหน่อยนะคะการที่ลูกอมที่มีห่อหุ้ม ใช่ว่าจะสะอาดเสมอไป มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลยค่ะ ในอดีตการคลุมผ้าของศาสนาคุณนั้นเป็นเรื่องที่ควร ช่วยให้ปลอดภัย เพราะด้วยสถานการณ์อะไรหลายๆอย่าง แต่ในปัจจุบัน ทุกอย่างต้องมีการปรับตัว แต่จากที่อ่านที่คุณคอมเม้นมา คุณเอาศาสนามายำกับเรื่องสิทธิเสรีภาพ ของ ผญ มากกว่าค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเข้าใจศาสนาคุณมาแบบไหน เราอยากจะถามว่าคุณคุณเข้าใจศาสนาที่คุณนับถือจริงๆรึเปล่าค่ะ แล้วศาสนาอื่นที่ไม่คลุมผ้าเป็นคนไม่ดี ขอโทษนะคะ คุณกำลังแสดงตัวว่ากดศาสนาอื่นอยู่นะคะ แนะนำว่าคุณควรไปศึกษาศาสนาของคุณใหม่ รวมทั้งปรับความคิดของคุณให้เข้ากับปัจจุบันของโลกด้วยนะคะ อย่างมาเเสดงความคิดของคุณต่อศาสนาอื่นๆแบบนี้เลยค่ะ สงสารคนศาสนาเดียวกับคุณที่พลอยโดนมองไม่ดีไปด้วย
3
กำลังโหลด
MATIN Member 9 มิ.ย. 59 03:39 น. 9

การสร้างสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ อาจจะช่วยให้คนเป็นคนได้มากกว่าเดิม
แต่การมีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแล้ว ต้องมาริดรอนสิทธิ์ความเป็นคนของคนอื่น

*ถ้าคนเกิดมาแล้วเจอสังคมยัดเยียด ก็คงจะคุ้นชินกับสิ่งเหล่านั้น

แต่ในสายตาผมถือว่าการมีข้อห้ามอะไรที่มากเกินไป หรือในข้อความนั้นสามารถถูกมองได้ว่าเป็นการกดขี่ทางเพศ.
ผมไม่เห็นด้วยเลยครับ

0
กำลังโหลด
ยาวอนากอน Member 10 มิ.ย. 59 12:12 น. 10

ไม่ครับ ที่ประเทศนี้เป็นประเทศที่ไม่อนุญาต ให้ศาสนาอื่นเข้าเป็นเพราะ ที่นี่ถือเป็นดินเเดนศักดิ์สิทธิ์ ครับ ถ้าเป็นที่อื่นเาสามารถเข้าได้เเต่นี้จะเป็นศูนย์รวมของมุสลิมทั่วโลกครับ เราต้องเข้าใจถึงผมจะไม่ใช่มุสลิม เเต่ผมก็รู้ครับ เพื่อนผมบอกว่า ทุกสิ่งนั้นเพื่อที่จะบ่งบอกที่นีคือดินเเดงศักดิ์สิทธิ์ ครับทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องเป็นมุสลิมเท่านั้น ไม่ใช่ว่าถ้าศาสนาอื่นเข้าเเล้วห้ามเเสดงออก เเต่ที่นั่นไม่มีศาสนาอื่นเลย เเล้วก็น่ะครับจริงๆไม่ใช่เเค่ผู้หญิงห้ามขับรถน่ะครับเเต่ผู้หญิงไม่สามารถทำด้วยซ้ำครับทำงานคืออกไปด้านนอก ผู้ชายจะต้องเลี้ยงครับประเทศเขาไม่ใช่กดสิทธิผู้หญิงให้ต่ำลงน่ะครับ เเต่ถ้ามองอีกเเง่หนึ่งนี่คือวิธี สร้างคุณค่าให้ผู้หญิง เเละยังเป็นการให้เกริยติผู็หญิงเเบบสุดๆ เเละประเทศนี้ยังเป็นประเทศที่ไม่มีการที่วัยรุ่นใจเเตกหรือท้องไม่มีพ่อ ทุกอย่างล้วนเป็นการป้องกันตั้งเเต่เเรก ถึงตอนนี้ผมอาจจะไม่ใช่มุสลิมเเต่ผมมีเพื่อนเป็นมุสลิม เเละผมเองก็เริ่มสนใจอิสลามเเล้ว เเละเรื่องที่คนนั้นห้ามเปลี่ยนศาสนาไม่ใช่ครับจริงอยู่ว่าเปลี่ยนไม่ได้ เเต่คนที่เป็นอิสลามไม่เปลี่ยนเองต่างหาก เเล้วเรื่องดูหนังผมคิดว่าศาสนาพุทธก็มี ศิล 5 เหมือนกันกฏที่ว่า ห้ามผิดลูกเมียเค้า ผมคิดว่าจริงๆถ้าประเทศเราไม่มีวัฒนธรรมตะวันตกเข้า มาประเทศเราก็คล้ายๆเขานั่นเเหละดูจากพระที่ไม่สามารถเเตะตัว ผู้หญิงได้ ที่ผมพูดมาทั้งนี่ผมเเค่ต้องการจะบอกในเเง่ของคนกลาง อย่างที่บอกผมไม่ใช่มุสลิมเเต่ผมก็เข้าใจศาสนาเขา ตราบใดที่ประเทศเขายังไม่ได้บังคับให้เราทำตามเขา เราก็อย่าไปพูดเเบบั้นเลย ต่างคนต่างอยู่เถอะครับ วัฒนธรรมของเขา ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับyesเย้

3
musya Member 10 มิ.ย. 59 23:29 น. 10-1
โห...คุณเป็นคนที่เข้าใจอิสลามอย่าง (น่าจะ) ถ่องแท้เชียวค่ะ นับถือเลย ^^ ชารีอะอิสลาม (กฎหมายอิสลาม) ที่เค้าใช้ถูกดัดแปลงมาจากหลักคำสอนเก่าแก่ของศาสนา ถ้าไม่ดีจริง ผู้หญิงในบ้านเมืองเค้าคงออกมาเรียกร้องสิทธิแล้วล่ะค่ะ "ใช่ กฎหมายชะรีอะฮฺอาจดูรุนแรงน่ากลัว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะถูกปฏิบัติใช้อย่างง่ายๆตามอำเภอใจ มันจะต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนอย่างรอบคอบและรัดกุมอยู่แล้ว เราจึงยอมรับกฎหมายนี้โดยดี เราสบายใจ และบรูไน รวมเป็นหนึ่ง" ส่วนนี้เป็นคำตอบโต้ของสุลต่านบรูไนต่อประเทศตะวันตกและสหประชาชาติ กรณีการปฏิบัติใช้กฎหมายชะรีอะฮฺ (กฏหมายเดียวกับซาอุ) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่เพียงแต่ซาอุที่ปกครองบ้านเมืองโดยใช้กฎหมายนี้ แต่ประเทศที่ประชาชนนับถืออิสลามก็ยอมรับและใช้อย่างไม่มีปัญหาอะไร เข้าไปเปิดมุมมองที่ลิงค์นี้ได้ค่ะ http://pantip.com/topic/32035409 ฝากถึงคนที่ผ่านเข้ามาเห็นเมนต์นี้ค่ะ แค่แวะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และขอจากไปอย่างไร้ร่องรอย แฮะๆ
0
กำลังโหลด
acteado Member 11 มิ.ย. 59 00:20 น. 11

เกิดมาเป็นพุทธ นี่ถือว่าเป็นบุญมากจริงๆ โชคดีแล้ว ปฏิบัติได้แค่ไหนก็ได้แค่นั้น ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ขึ้นอยู่กับตัวเองล้วนๆ จะดีจะเลวก็อยู่ที่นี่ กายกับใจ แต่ทุกศาสนาก็สอนให้ทุกคนเป็นคนดีหลักสำคัญมันอยู่ตรงนั้น ดังนั้น ไม่เปรียบศาสนานะ เลือกอิสระเลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด