7 คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายตรงกันข้าม หากย้อนไปพันปีก่อน

        สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน วันนี้พี่น้องมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษมาฝาก
        เราทุกคนคงพอได้ยินมาบ้างว่า
"ภาษา" มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีศัพท์แสลงใหม่ๆ เกิดขึ้นตามยุคสมัยและหายไปตามกาลเวลา คำที่เคยมีความหมายดีๆ วันหนึ่งก็กลายเป็นมีความหมายไม่ดีซะงั้น ภาษาอังกฤษเองก็มีเช่นกันค่ะ คำต่างๆ เหล่านี้พี่น้องเชื่อว่าหลายคนรู้ความหมายของมันดี แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าเมื่อก่อนมันมีความหมายตรงข้ามกับปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
 

nice

        คำว่า nice ในภาษาอังกฤษมาจากคำว่า nescius ของภาษาละตินที่แปลว่า "ที่ขาดความรู้" หรือ "โง่" นั่นเอง ช่วงคริสตศตวรรษที่ 14 คำนี้มีความหมายในแง่ลบมาก
        จนมาช่วงยุคกลางถึงจะเริ่มใช้เรียกคนที่ "ขี้อาย" หรือ "เก็บตัว"
        พอมาถึงยุคศตวรรษที่ 18 สองคุณสมบัตินี้กลายเป็นคุณสมบัติที่ดีไปซะอย่างนั้น ก็เลยทำให้ความหมายของคำว่า nice เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จนกลายมาเป็นความหมายว่า "ดี" ในปัจจุบัน
 

silly

        คำว่า silly ก็มาจากภาษาอังกฤษโบราณว่า seely แปลว่า "มีความสุข" หรือ "โชคดี" ก่อนจะเปลี่ยนความหมายมาเป็น "ใสซื่อไร้เดียงสา"
        ในช่วงหนึ่งมีคนใช้ความหมายนี้ในแง่ลบเพื่อวิพากษ์วิจารณ์คนที่ซื่อจนโง่ ความหมายของมันก็เลยเปลี่ยนเป็น "โง่" หรือ "ไร้สาระ" แทน
        แบบเดียวกับที่คำว่า "แอ๊บแบ๊ว" เคยเป็นคำชมว่าน่ารักมุ้งมิ้ง ทำไปทำมากลายเป็นคำด่าว่า "ทำตัวเหมือนเด็ก" นั่นเอง
 

awful

        คำว่า awful เมื่อก่อนเคยแปลว่า "ที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม" แต่ความน่าเกรงขามมันก็มีทั้งแง่ดีและแง่ไม่ดี เช่น กษัตริย์ที่รบชนะทุกศึก คนก็เกรงขามในความเก่งกาจ แต่กษัตริย์ที่ฆ่าทุกคนที่ขวางทาง คนก็เกรงขามกันไปอีกแบบ ทำให้คำนี้เริ่มมีความหมายในแง่ลบ และเปลี่ยนเป็น "น่ากลัว" หรือ "เลวร้าย" แทน
        ส่วน awesome ที่มาจากรากคำเดียวกันนั้น เป็นคำที่เข้ามาทำหน้าที่แทน awful
        อาจจะเห็นว่ามาจาก awe เหมือนกัน แต่ความหมายตรงข้ามกันเลยนะ
 

clue

        คำนี้ในปัจจุบันแปลว่า "เบาะแส" แต่ก่อนที่จะมาเป็นคำนี้ มันเคยแปลว่า "ม้วนไหมพรม" มาก่อน พัฒนาการนี้เชื่อว่ามาจากเรื่องเขาวงกตแห่งมิโนทอร์ที่ธีเซียสเดินเข้าไปฆ่ามิโนทอร์โดยใช้ด้ายเป็นตัวนำทางกลับออกมา
        ด้ายนี้จึงเป็นเสมือน "เบาะแส" ที่จะสาวไปถึงทางออกหรือคำตอบของปริศนาใดๆ ก็ตาม
 

naughty

        ช่วงศตวรรษที่ 14 คำว่า naughty แปลว่า "ที่ชั่วร้าย" แต่คงเพราะปัจจุบันนี้คนไม่ค่อยเชื่อเรื่องปิศาจกันแล้ว คำว่า naughty ก็เลยลดความชั่วลง เหลือเพียงความหมายที่ใช้ในปัจจุบันว่า "ซุกซน" หรือ "ดื้อ" เอาไว้ใช้กับเด็กนั่นเอง
 

guy

        ศัพท์คำนี้ที่เราเห็นจนชินตา แท้จริงแล้วเพิ่งถือกำเนิดเป็นคำศัพท์คำหนึ่งในประเทศอังกฤษ หลังจากเหตุการณ์วางแผนระเบิดรัฐสภาของกาย ฟอกซ์ในปี 1605
        ตอนแรกคนอังกฤษก็ใช้คำว่า guy ในความหมายว่า "หุ่นจำลอง" หรือใช้บรรยายผู้ชายคู่กับคำในแง่ลบ อย่าง a bad guy (ชายที่ไม่ดี)
        ภายหลังคำนี้ก็ไปโด่งดังที่อเมริกา และคนอเมริกาก็ไม่รู้ประวัติมันว่าจริงๆ แล้วมันเป็นคำในแง่ลบ กลับเอามาใช้เรียกผู้ชายกันทั่วไปโดยที่ไม่มีความหมายในแง่ลบสักนิด ความหมายของมันจึงเปลี่ยนเป็นแค่ "ผู้ชาย" ในที่สุด
 

meat

        เมื่อก่อนนี้ meat ก็ไม่ได้แปลว่า "เนื้อ" ค่ะ แต่มาจากภาษาอังกฤษโบราณ mete ที่แปลว่า "อาหาร" นานวันเข้ามันก็จำกัดความแค่เนื้อเฉยๆ
        ในภาษาอังกฤษมีสำนวน "meat and drink" ที่แปลว่า "เป็นสิ่งที่ชอบทำและทำได้ดี แม้คนอื่นจะมองว่าเป็นเรื่องยากก็ตาม" เช่น
        It is meat and drink to me to speak in public.
        (การพูดในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่ฉันชอบและทำได้ดี)

ขอบคุณข้อมูลจาก
British Library
Oxford Dictionary
Word History
business insider
TED
พี่น้อง
พี่น้อง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น