How to สมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่เกาหลี เริ่มต้นยังไง? (เล่าละเอียดทุกขั้นตอน) []
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ พี่ชื่อโปร ตอนนี้กำลังศึกษาชั้นปีที่สี่ คณะ Media Studies เอก Television & Films ที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาค่ะ
จุดเริ่มต้นที่ทำให้สมัครเรียนที่นี่ก็เพราะว่า ตอนนั้นคือช่วงม.6 กำลังเตรียมตัวสอบมหาวิทยาลัย และตอนนั้นพี่มีความรู้สึกว่าอยากเรียนที่เกาหลีใต้ เพราะชื่นชอบศิลปินเกาหลี แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหลัก สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเรียนที่นี่ก็คือ สายวิชาที่อยากเรียน นั่นก็คือนิเทศศาสตร์ เนื่องด้วยตอนนี้สายนี้ที่เกาหลีกำลังมาแรงและ น่าสนใจมากๆ ด้วยความที่ปัจจุบันนี้สื่อเกาหลีกำลังดังไปทั่วโลก เลยทำให้อยากรู้ว่า ที่เกาหลีเขาสอน และทำงานกันอย่างไร เลยตัดสินใจลองหาทุน และมหาวิทยาลัยที่เปิดรับนักเรียนต่างชาติดู ตอนนั้นส่งไปสองมหาวิทยาลัย ก็คือยอนเซกับอีฮวา แต่ว่าที่นี่ประกาศผลก่อน ก็เลยเอาที่นี่เลย ตอนนั้นดีใจมากๆ ที่ติดเพราะไม่คิดเลยว่าจะติด และด้วยความที่เป็นการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต
ระยะเวลา
หลังจากดูระยะเวลาเสร็จก็มาเช็คค่ะว่าในระยะเวลานั้นเราต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งขั้นตอนหลักๆ ก็จะมีดังนี้ค่ะ
ขั้นตอนในการเตรียมเอกสาร
เอกสารมีอะไรบ้าง
- ใบสมัคร ทั้งแบบออนไลน์และ hard copy
- เอกสารการสมัครเพิ่มเติม ในเอกสารก็จะมีให้เขียนเลือกคณะที่จะเข้า, จดหมายแนะนำตัว, Study Plan, ผลงานต่างๆและ ผลสอบทางภาษา (อธิบายแบบคร่าวๆ)
- จดหมายแนะนำจากอาจารย์ 2 ท่าน
- ใบแสดงผลการเรียน
- ใบยืนยันการเป็นนักเรียน นักศึกษาของสถาบันศึกษาเดิม (ใบที่ระบุว่าเรากำลังศึกษาชั้นอะไร และจะจบภายในวันไหน)
- ใบประกาศผลคะแนนสอบทางภาษา (TOEFL, IELTS หรือ TOPIK)
- สำเนาพาสปอร์ตทั้งผู้สมัคร บิดา มารดาของผู้สมัคร
- สูติบัตร หรือ เอกสารยืนยันความสัมพันธ์กับบิดาและ มารดา
- แฟ้มสะสมผลงาน Portfolio
จากประสบการณ์ของพี่นะคะ ตอนนั้นเกรดมัธยมตอนนั้นได้ประมาณสี่ จดหมายแนะนำจากอาจารย์ตอนนั้นพี่ให้อาจารย์ประจำชั้นกับอาจารย์สอนภาษาอังกฤษเป็นคนเขียนให้ค่ะ แล้วก็ทำแฟ้มสะสมผลงานส่งไปด้วย ตรงเรียงความเขียนตามความรู้สึกของตัวเองที่อยากถ่ายทอดไปเลยตรงๆค่ะ แต่ก็เน้นด้วยว่าไปเรียนแล้วจะนำกลับมาปรับใช้กับที่ประเทศไทยได้อย่างไร ตอนนั้นพี่เล่าปัญหาของสื่อไทยไปค่ะ และก็บอกว่าจะนำสิ่งที่ได้เรียนไปปรับใช้ตรงไหน อย่างไร และก็ใส่ข้อมูลของมหาวิทยาลัย(อันนี้สำคัญมาก) ทั้งข้อมูลมหาวิทยาลัย คณะ รวมทั้งวิชาที่จะได้เรียน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมแค่ไหนกับการที่จะมาเรียนที่นี่ ส่วนคะแนนภาษาเกาหลีตอนนั้นไม่ได้ส่งไปค่ะ เพราะว่าเพิ่งเริ่มเรียนภาษาเกาหลีแบบจริงๆ จังเอง แต่ได้ส่งใบcertificate ของสถาบันภาษาเกาหลีตอนที่เรียนที่ไทยไปด้วยค่ะ แล้วก็มีส่งคะแนนโทอิคด้วย คะแนนขอเป็นความลับนะคะ แต่บอกก่อนเลยว่าคะแนนออกมาไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ค่ะ T^T
สำหรับน้องๆ ที่จะสมัครเรียนพี่แนะนำเลยว่ามีผลคะแนนสอบทั้งเกาหลีกับอังกฤษไว้ดีที่สุดค่ะ เราจะได้เปรียบกว่าคนอื่น ส่วนตัวแล้วพี่คิดว่าที่พี่ได้เข้าเรียน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแฟ้มสะสมผลงานด้วยค่ะ ยิ่งถ้าเราจะเข้าเรียนสายศิลปะ มีเดีย กีฬา หรือดนตรี แฟ้มสะสมผลงานสำคัญมากเพราะทางมหาวิทยาลัยจะได้พิจารณาด้วยว่าเราพร้อมจะเรียนสาขานี้มากน้อยแค่ไหน ตอนนั้นพี่มีผลงานอะไรตั้งแต่อนุบาลพี่จับใส่แฟ้มหมดเลยค่ะ เกียรติบัตรนี่ก็ต้องเก็บไว้ดีๆ นะคะ มีประโยชน์มากๆ ตอนทำแฟ้ม
ขั้นตอนในการสมัคร
ทางมหาวิทยาลัยเน้นมาด้วยนะคะว่า การกรอกใบสมัครนั้นต้องระบุประเภทของทุนกับ เรื่องหอพักเพื่อเป็นการพิจารณาการเข้าเรียนต่อไปด้วยค่ะ และในเวลานี้ก็จะต้องจ่ายค่าสมัครไปพร้อมๆ กันเลย ซึ่งจะต้องจ่ายด้วยบัตรเครดิตเท่านั้นนะคะ เพราะว่าต้องจ่ายแบบออนไลน์ น้องๆ ลองถามคุณพ่อคุณแม่ได้เลยนะคะ เรื่องการจ่ายค่าสมัคร ตอนนั้นพี่ก็รบกวนบัตรเครดิตของคุณพ่อค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 ก็คือการส่งเอกสารสำคัญทั้งหมดให้กับทางมหาวิทยาลัย โดยเราสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะส่งแบบไหน คือ ไปส่งเองถึงที่มหาวิทยาลัยหรือ ส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องกะเวลาเผื่อด้วยนะคะ ว่าเอกสารเราจะไปถึงเกาหลีวันไหน ส่วนใหญ่ถ้าส่งแบบ EMS ก็น่าจะประมาณ 3 วันถึงจะถึงที่เกาหลี หลังจากนั้นเราก็รอการประกาศผลสอบได้เลยค่ะ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนในการคัดเลือกค่ะ
ซึ่งในระยะเวลานี้ทางมหาวิทยาลัยอาจจะมีการขอสัมภาษณ์น้องๆ เพื่อพิจารณาทุนได้นะคะ เพราะฉะนั้นในช่วงนี้หมั่นเช็คเมลและเตรียมตัวให้สัมภาษณ์ไว้ด้วยนะคะ พอมาถึงวันประกาศผล ทางมหาวิทยาลัยก็จะส่งผลการคัดเลือกมาทางอีเมลค่ะ ถ้าใครไม่ได้รับอีเมลประกาศผลสามารถส่งอีเมลไปถามได้เลยค่ะ วิธีการดูผลก็คือในอีเมลนั้นทางมหาวิทยาลัยจะระบุสองอย่างค่ะ คือ สอบติดหรือไม่ติด กับประเภทของทุนที่เราได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้ทุนอย่างที่เราตั้งใจไว้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ได้เข้าเรียนนะคะ ทางมหาวิทยาลัยจะระบุไว้ให้ค่ะ ว่าติด แต่ไม่ได้ทุน หรือติด แต่ได้ทุนประเภทอื่นแทน ซึ่งประเภทของทุนก็จะมีดังนี้ค่ะ
-
EGPP (Ewha Global Partnership Program) ทุนจำนวนเต็ม ที่รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วย
- ISS (International Students Scholarship) อันนี้จะเป็นทุนรับผิดชอบเฉพาะค่าเทอม กับค่าแรกเข้านะคะ ทุนนี้ก็จะแบ่งได้ตามนี้ค่ะ
- ISS F ก็คือ ทุนค่าเทอมเต็มจำนวนพร้อม ค่าแรกเข้า ทุนนี้จะมี 3 ประเภทค่ะคือ
- ISS F4 ทุนค่าเทอมเต็มสี่ปี
- ISS F2 ทุนค่าเทอมสองปี
- ISS F1 ทุนค่าเทอมปีเดียว
- ISS H ก็คือ ทุนค่าเทอมครึ่งนึง ซึ่งปัจจุบันจะเหลืออยู่แค่ประเภทเดียวคือ
- ISS H1 ทุนค่าเทอมครึ่งนึง หนึ่งปี
- ISS E ทุนค่าแรกเข้า
ขั้นตอนที่ 3 ทางมหาวิทยาลัยจะมีเอกสารยืนยันสิทธิให้เรามากรอก เพื่อยืนยันสิทธิว่าเราจะเข้าเรียนที่นี่ เอกสารนั้นเรียกว่า Letter of Affidavit ค่ะ เมื่อเรากรอกเสร็จแล้วก็เมลส่งกลับไป หรือจะส่งเองให้กับมหาวิทยาลัยได้เลยค่ะ และในขั้นตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็จะส่งรายละเอียดการจ่ายค่าเทอมมาด้วยค่ะ เพราะว่าการจ่ายค่าเทอมก็ถือเป็นอีกการยืนยันว่าเราจะเข้าเรียนที่นี่
หลังจากที่เราได้รับวีซ่าแล้ว เตรียมตัวก่อนเปิดเทอมได้เลยค่ะ ทั้งการติดต่อหอพัก การซื้อตั๋วเครื่องบิน และการลงวิชาเรียนเป็นต้น
การลงวิชาเรียน
ในส่วนวิชาที่มหาวิทยาลัยเปิดสอน มีทั้งภาษาเกาหลีกับอังกฤษค่ะ และอิสระมากกกกกกกก ในการลงเรียน เราจะลงวิชาเรียนไหนก็ได้ค่ะ วิชาส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัยจะอิสระมากๆ ลงข้ามคณะ ข้ามเอกได้เลย ดังนั้นหากเอกที่น้องๆ เรียนยังไม่ค่อยเปิดเป็นภาษาอังกฤษ แล้วน้องๆ ยังไม่แข็งภาษาเกาหลีพอที่จะลงเรียนเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด ก็ไปลงวิชาที่เปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษในเอกอื่นก่อนได้ค่ะ แต่ น้องๆต้องดูดีๆ นะคะว่าเอกของน้องๆ มหาวิทยาลัยกำหนดเกณฑ์ในการลงวิชาไว้ยังไง เช่น น้องๆ ต้องลงวิชาเอกกี่ตัว วิชาบังคับของมหาวิทยาลัยกี่ตัว ถ้าลงเพลินน้องๆ อาจจะไม่จบได้นะคะ วันนี้พี่ก็จะมาอธิบายประเภทวิชาที่มหาวิทยาลัยเปิดสอนให้ได้อ่านและทำความเข้าใจกันคร่าวๆ
ก่อนอื่นเลย เริ่มต้นที่ วิชาคณะ อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าทางคณะมีระเบียบการยังไงแบบไหน เพราะแน่นอนว่าแต่ละคณะจะมีเกณฑ์ที่ต่างกันค่ะ
ต่อมา วิชาประเภทนี้สำคัญพอๆ กับวิชาคณะเลยค่ะ และยังเป็นกลุ่มวิชาที่ช่วยน้องๆได้ดีเลย หากน้องๆ ยังไม่เก่งภาษาเกาหลี นั่นก็คือวิชาบังคับของมหาวิทยาลัยที่น้องๆ จำเป็นจะต้องลงอยู่แล้ว เช่น วิชาภาษาอังกฤษ วิชาหลักภาษาเกาหลี วิชาศาสนาคริสต์เป็นต้น จริงๆ แล้ววิชาบังคับเปิดเป็นตัวอังกฤษเยอะมากค่ะ ช่วงปีแรกๆ น้องสามารถเก็บตัวพวกนี้ก่อนได้เลย พี่และเพื่อนคนต่างชาติส่วนใหญ่ก็จะลงวิชาเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษกันค่ะ เพราะนอกจากนับหน่วยกิตเป็นตัวบังคับแล้ว เรายังไม่ต้องไปลงวิชาที่สอนเป็นภาษาอังกฤษข้ามคณะให้เสียเวลาอีกด้วยค่ะ ส่วนใหญ่แล้ววิชาบังคับจะเป็นวิชาทั่วไปที่ครอบคลุมทุกคณะเลยค่ะ เพื่อที่จะให้นักเรียนทุกคนมีสิทธิลงเรียนได้เท่ากัน
.jpg)
อ้อ สำหรับนักศึกษาต่างชาติเข้าใหม่จะมีการสอบวัดระดับภาษาเกาหลีและอังกฤษด้วยค่ะ เพื่อที่เราจะสามารถลงวิชาภาษาเกาหลีและอังกฤษที่เหมาะสมกับทักษะทางภาษาของเรา หรือไม่ น้องๆสามารถยื่นคะแนนภาษาให้ทางมหาวิทยาลัยโดยตรง เพื่อที่ทางมหาวิทยาลัยจะได้พิจารณาระดับภาษาของน้องๆ โดยที่ไม่ต้องสอบวัดระดับกับทางมหาวิทยาลัยอีกรอบค่ะ เมื่อเรารู้แล้วว่าเราอยู่ในระดับไหน เราก็สามารถที่จะลงวิชาภาษาเกาหลีและอังกฤษตามระดับที่น้องได้เลยค่ะ
*สำหรับภาษาเกาหลี หากน้องๆ มีคะแนนไม่ถึงระดับ 4 จาก 6 ระดับ หรือถึงแล้วก็ตาม น้องๆ สามารถเรียนเพิ่มกับทางมหาวิทยาลัยได้ค่ะ วิชาภาษาเกาหลีสำหรับนักศึกษาต่างชาตินั้นคือวิชาหนึ่งของทางมหาวิทยาลัยเลย ไม่ได้เป็นวิชาแยกของศูนย์ภาษา เพราะว่าวิชาภาษาเกาหลีของทางมหาวิทยาลัยนั้นจะนับหน่วยกิตด้วยค่ะ แต่แค่ไม่ออกเกรด (ยกเว้นระดับ 4 ที่ออกเกรด) และก็จะรวมกับค่าเทอมไปเลย
พี่โปร - ผู้เขียน
ยอดถูกใจสูงสุด
ค่าเทอมของอีฮวาเท่าไหร่หรอค่ะ
เวลาจะส่งใบสมัครต้องไปส่งที่เกาหลีใช่มั้ยค่ะ