สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว Dek-D.com ทุกๆ คน วันนี้พี่โปรก็มีบทความดีๆ จากประเทศเกาหลีใต้มาฝากกันอีกแล้วค่ะ ก่อนอื่นเลยขอถามก่อนว่าน้องๆ มีอาหารชนิดไหนที่คิดว่าไม่ชอบกินบ้างคะ แล้วเพราะอะไร ถ้ามีคำตอบในใจแล้ว วันนี้พี่ขอนำเสนออีก 5 เมนูอาหารเกาหลีใต้ที่เมื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้กินแล้วถึงกับบอกว่าเป็นอาหารที่กินลำบากที่สุดเลยค่ะ มาดูกันว่าอาหารที่ถูกโหวตนั้น หน้าตาเป็นยังไง ทำไมถึงชาวต่างชาติถึงไม่ชอบกินได้นะ
จากผลสำรวจของ Cosmojin บริษัทท่องเที่ยวสำหรับคนต่างชาติชื่อดังในเกาหลีใต้ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้ เมื่อช่วงเดือนเมษายนและ พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวน 782 คน ว่าสำหรับพวกเขาอะไรคืออาหารเกาหลีที่กินยากและลำบากที่สุด มาดูกันค่ะว่า อาหาร 5 อย่างนี้มีอะไรบ้าง กินยังไง รสชาติยังไง ทำไมนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงโหวตว่าเป็นอาหารเกาหลีที่กินยากที่สุด
อันดับ 5 (2%) 번데기 (Beondegi) ดักแด้หรือตัวไหมต้ม
เรียกว่าคนไทยอย่างเราๆ คุ้นกันดีเลยค่ะ กับ 번데기(พอนเดกี) ดักแด้หรือตัวไหมต้ม อาหารชนิดนี้เริ่มจากช่วงสงครามเกาหลีค่ะ เพราะว่าในสมัยนั้นอาหารที่มีโปรตีนเป็นที่ต้องการมาก รวมทั้งยังมีสารอาหารอื่นๆ ด้วย เช่น แคลเซียม ที่ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของร่างกาย จริงๆ แล้วเจ้าดักแด้หรือตัวไหมต้มเนี่ย ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่น เพราะคนเกาหลีจะต้มกับโซจู ทำให้มีกลิ่นหอมโซจูอ่อนๆ รวมทั้งยังผสมกับน้ำตาล+ซอสแล้วคลุกให้เข้ากัน เหมาะเป็นอาหารทานเล่นมากๆ เลยค่ะ หรือจะนำมาใส่ในแกงหรือผัดกับข้าวก็ยังได้ แล้วแต่ว่าเราจะกินแบบไหนก็ได้อีกด้วย
แต่ที่ชาวต่างชาติโหวตเนื่องด้วยหน้าตาของดักแด้และตัวไหมนี่ล่ะค่ะ ก็คงไม่ต่างอะไรจากที่ชาวต่างชาติอึ้งว่าบ้านเรากินแมลงทอดได้ยังไง(อร่อยจะตาย)
번데기탕 ซุปดักแด้
อันดับ 4 (4%) 도토리묵 (Dotorimuk) วุ้นโดโทรี
도토리묵 (Dotorimuk) หรือวุ้นโดโทรี เป็นวุ้นประเภทหนึ่งค่ะที่ทำจากโดโทรี (ทำจากลูกโอ๊ก) สีน้ำตาลตัดเป็นทรงสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเครื่องเคียงมากกว่าอาหารจานหลักค่ะ ประโยชน์ก็คือ ในโดโทรีจะมีกรดที่ช่วยล้างโลหะหนักออกจากร่างกาย รวมทั้งยังบำรุงลำไส้กับกระเพาะและป้องกันโรคในผู้ใหญ่ได้อีกด้วย ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ โดโทรียังช่วยบรรเทาความเมื่อยล้า และแก้แฮงค์แถมยังเหมาะกับสาวๆ ที่จะไดเอตด้วยค่ะ
เจ้าวุ้นนี้สามารถนำมายำรวมกับผักชนิดต่างๆ หรือราดด้วยซอสก็ได้ค่ะ ด้วยความที่เป็นรสชาติขมหน่อยๆ และลื่นๆ เหมือนเยลลี่ ดูไม่ค่อยเข้ากับการกินกับอาหารหลัก เช่น ข้าว สักเท่าไหร่ ทำให้เป็นอาหารอีกประเภทที่กินลำบากในอันดับ 4 ค่ะ
อันดับ 3 (10%) 산낙지 (Sannakji) ปลาหมึกสด
บอกก่อนเลยว่า ตอนแรกพี่คิดว่าเจ้าสิ่งนี้จะมาเป็นอันดับหนึ่งค่ะ แต่ดันเป็นอันดับสามแทน นั่นก็คือสิ่งที่ใครๆ ก็รู้จักเพราะเป็นเมนูท้าทายสุดฮิตของนักท่องเที่ยว อย่างเจ้าปลาหมึกเล็กสด 산낙지 (ซานนักจี)
낙지(Nakji) แปลว่าปลาหมึกเล็ก 산(San) มาจากคำว่า 살다 (Sal-da) ที่แปลว่า ”มีชีวิต” นั่นเองค่ะ เมนูนี้จะเสริฟกับเม็ดงาและน้ำมันงา เพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้ลงท้องได้ง่ายขึ้นอีกด้วย หรือจะเพิ่มรสเผ็ดด้วยการโรยพริกเพิ่มก็ได้ค่ะ แต่เห็นอย่างนี้มีประโยชน์มากๆ เลยนะคะ ทั้ง DHA, แคลเซียม รวมทั้งมีคอเรสเตอรอลที่มีประโยชน์ทำให้เหมาะกับเป็นเมนูไดเอตได้อีกด้วยค่ะ
และแน่นอนค่ะ เมนูนี้มีชื่อเสียงมากเรื่องความสด ความเหนียว ความหนึบหนับ และเคี้ยวยากสุดๆ ดังนั้นสำหรับคนที่เพิ่งเคยลองทาน อาจจะลองสั่งแบบที่เขาหั่นให้แล้วก็ได้ค่ะ หรือใครที่ชอบความท้าทายก็ลองกินทั้งตัวไปเลยก็ได้ค่ะ แต่ต้องระวังมากๆ เลยนะคะ เพราะมันยังมีชีวิต ตรงหนวดนั้นสามารถดูดปากของเราจนเป็นแผล และถ้าหากไม่ระมัดระวังอาจติดคอจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นะคะ
อันดับ 2 (19%) 청국장(Cheonggukjang) ถั่วหมัก
청국장(ช่องกุกจัง) หรือถั่วหมัก หรือที่เรารู้จักกันว่า นัตโตะ จริงๆ แล้วที่เกาหลีมีแกงหลายประเภทมากๆ เลยค่ะ หนึ่งในนั้นเชื่อว่าน้องๆ ต้องเคยคุ้นหูมาบ้างอย่าง 된장찌개 (ดเวนจังชีแก) หรือแปลเป็นไทยก็คือ แกงเต้าเจี้ยวนั่นเอง แต่เอ๊ะ สองอย่างนี้มีความสัมพันธ์กันยังไง สงสัยกันมั้ยเอ่ย? นั่นก็เพราะว่าปกติแล้ว ดเวนจังจีเกเนี่ย จะใช้เวลาในการทำนานมากค่ะ จะหมักกันไว้เป็นเดือนๆ เลย เวลาคนเกาหลีจะกินอะไรที่สามารถกินได้ด้วยเวลาที่รวดเร็ว ส่วนใหญ่ก็จะใช้ถั่วแทนเต้าเจี้ยวค่ะ เพราะถั่วใช้เวลาแค่ 2-3 วันเท่านั้นเองในการหมัก ตัวอย่างเมนูที่ใช้แทนกันก็เช่น 청국장찌개 (ช่องกุกจังชีแก) หรือแกงถั่วนั่นเองค่ะ
เห็นทำง่ายๆ แบบนี้ แต่สรรพคุณมีมากมายเลยนะคะ ทั้งป้องกันมะเร็ง เช่น มะเร็งกระเพาะ มะเร็งปอด เป็นต้น แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียมที่ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนอีกด้วยค่ะ แต่ยังไงก็ตามเหตุผลที่ชาวต่างชาติโหวตมาเป็นอันดับ 2 คิดว่ามีเหตุผลเดียวเลยค่ะ ด้วยกลิ่นที่แรงนั่นเอง
อันดับ 1 (65%) 게장 (Gaejang) ปูหมัก
게장 (เกจัง) คืออาหารเกาหลีที่ทำจากปูกด หรือที่คนเกาหลีเรียกว่า 꽃게 (กดเก) เกจังนั้นเป็นอาหารประเภทหมักกับซอส หรือ ซอสเผ็ดค่ะ ซึ่งปกติจะใช้ปูตัวเมียมาใช้ในการหมัก เพราะว่าเนื้อนุ่มและไม่ค่อยมีกลิ่นคาวอีกด้วย และจะใช้เวลาหมักถึง 2 อาทิตย์เลยค่ะ ปกติแล้วเกจังนั้นมีหลายแบบมากทั้ง 간장게장(Ganjang Gejang)(ปูหมักซอสซีอิ๊ว), 양념게장(Yangnyeom Gejang)(ปูหมักซอสเผ็ด) หรือ 게장찌개(Gejangjjigae)(แกงเกจัง) เป็นต้น
วิธีการกิน ส่วนใหญ่คนเกาหลีจะกินโดยนำข้าวมาผสมกับมันและเนื้อให้เข้ากันในท้องปู ซึ่งจะได้รสที่อร่อยมากขึ้น มีเคล็ดลับเพิ่มความอร่อยด้วยโดยการผสมกับเนยเพื่อรสที่มันและหอม นอกจากนี้เกจังยังมีประโยชน์ เพราะตัวปูสามารถช่วยลดความร้อนในร่างกาย ช่วยปรับพลังงานในกระเพาะ ช่วยแก้โรคชีพจรแข็ง แถมยังมีแคลเซียมสูงกว่านมอีกค่ะ
คนเกาหลียังแอบงงเลยว่า เอ ทำไมคนต่างชาติถึงคิดว่าเป็นอาหารที่กินลำบากนะ แต่จากการสำรวจแล้ว ชาวต่างชาติให้ความเห็นว่า ด้วยรสชาติที่เค็ม บวกกับซอสที่เผ็ดมากๆ แถมยังมีกลิ่นที่เหม็นอีกด้วย ทำให้เป็นอาหารที่กินยากมากสำหรับพวกเขา
เป็นยังไงกันบ้างคะกับทั้ง 5 เมนูนี้ ซึ่งถ้าดูจากผลโหวต ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่แค่วิธีกินที่ลำบากนะคะ แต่จะเลือกจากรสชาติและกลิ่นที่ทำให้กินลำบากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อาหารเหล่านี้แม้ว่าจะดูไม่น่ากินหรือกินลำบาก แต่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายนะคะ หากน้องๆ คนไหนที่กำลังจะไปเที่ยวเกาหลีแล้วอยากลองเมนูอะไรใหม่ๆ 5 เมนูนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและน่าท้าทายมากๆ เลยค่ะว่าจะกินลำบากตามผลโหวตจริงๆ รึเปล่า ^^
อ้างอิง
26 ความคิดเห็น
เป็นส่งที่บ้านเรากินได้หมดยกเว้นหมึกคลุง 5555555
#คนไทยผู้กินทุกสิ่ง
บ้านเราขอส่งปลาร้าไปสู้เขาละกัน
เราผ่านปลาร้าสับ น้ำปลาร้ามาแล้ว แจ่วบองงี้ บอกเลยว่าไม่กลัว
ก้อโอนะ
ปูหมักไม่น่ากินยากนะ อารมณ์น่าจะคล้ายๆปูดองป่ะ
สำหรับเค้า เค้าว่าปูมักน่ากินเวอร์อะ เห็นในรายการเกาหลีหลายรายการ แล้วแบบ.. คือน่ากินอะ ก็คล้ายๆ กับพวกปูดอง ปูในส้มตำ น่ากินมว๊ากกกก
อยากจะบอกว่า
อันดับ1อ่ะของชอบเค้าเลย
ปลาร้าบ้านเรา เขายังสู้ไม่ได้
หมึกสดอยากกินอะ