สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com เมื่อพูดถึงยุโรป ทุกคนต้องมีความคิดแรกขึ้นมาในหัวแน่ๆ ว่า 'แพงสุดๆ' ไม่ว่าจะเป็นค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเที่ยว ค่านู่นนี่นั่นต่างๆ มากมาย... ใช่ค่ะ แพงจริงๆ และแพงเกือบทุกประเทศในยุโรปเลยก็ว่าได้
แต่วันนี้ พี่นิทาน จะมาพูดถึงเรื่องต่างๆ ที่ทำให้ชาวต่างชาติอย่างเราๆ 'ตกใจ!' เมื่อไปเที่ยวยุโรปค่ะ โดยข้อมูลต่างๆ ที่พี่จะเล่าต่อไปนี้จะพูดรวมๆ นะคะ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่ประเทศไหนเป็นพิเศษ อาจมียกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เคยเจอและที่เค้าเล่าๆ กันมาบ้าง เอาล่ะ เราลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง
1. เครื่องดื่มต่างๆ ไม่ใส่น้ำแข็ง!?
เนื่องด้วยอากาศร้อนในเมืองไทยเลยทำให้เป็นเรื่องธรรมดาเวลาเราไปกินข้าวตามร้านต่างๆ ในเมืองไทยแล้วสั่งเครื่องดื่มมาพร้อมน้ำแข็ง (ไม่ต้องบอกเค้าก็เอาน้ำแข็งมาเสิร์ฟ) แต่หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ไปเมืองนอกแล้วสั่งเครื่องดื่ม แต่ดันไม่มีน้ำแข็งมาให้เนี่ยสิ บางที่อาจสั่งเพิ่มได้แต่ต้องเสียงเงินเพิ่มนิดหน่อย บางที่ให้ฟรี แต่พนักงานจะทำหน้างงใส่ บางทีก็แอบขำโดยเฉพาะเวลาสั่งเบียร์และขอแก้วใส่น้ำแข็งเนี่ย ฝรั่งจะแอบยิ้มที่มุมปากทำเอาซะคนไทยอย่างพวกเราเสียเซลฟ์กันไปนิดนึงเลย
ความจริงไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนว่าเพราะอะไรเค้าถึงไม่นิยมใส่น้ำแข็งในเครื่องดื่มกัน แต่เราก็พอจะเข้าใจว่าด้วยอากาศหนาวตลอดปีของเค้าเนี่ยแหละถึงทำให้เครื่องดื่มทุกอย่างมีความเย็นอยู่แล้ว หรือก็ไม่ได้ร้อนจนจะต้องเพิ่มความเย็น ยุโรปบางประเทศก็ร้อนจัดในหน้าร้อนเช่นกัน อันนั้นก็ยอมให้ใส่น้ำแข็งบ้าง แต่ก็ยังแอบเห็นว่าบางประเทศเนี่ยไม่มีน้ำแข็งในเครื่องดื่มแม้กระทั่งหน้าร้อนจริงๆ นะ!
2. ไม่เห็นต้องมีรถส่วนตัว
ที่ยุโรปนั้นการเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมาก ทั้งรถเมล์ รถบัส เรือ รถไฟใต้ดิน ฯลฯ ครบครันและใช้ง่าย รวดเร็ว แถมยังมีสายเยอะกว่าบ้านเราซะอีก จึงทำให้การเดินทางของที่นั่นสะดวกสบาย และที่สำคัญคือเค้ามีตารางเวลาที่ชัดเจน เช่น วันนี้เราอยู่ที่เมืองนี้ อยากจะไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์นี้ ต้องลงสถานีนี้ เราสามารถเข้าไปเช็คเวลาในเว็บไซต์ของรถไฟได้ว่าถ้าเราออกตอน 8 โมง จะไปถึงที่นั่นกี่โมง และรถไฟจะมากี่โมง ส่วนมากค่อนข้างตรงเวลา
การที่เราคำนวณเวลาก่อนเดินทางได้มันทำให้เราสามารถวางแผนอะไรอย่างอื่นในชีวิตได้ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ เนี่ยแหละถึงเป็นสาเหตุที่บ้านเค้าไม่ค่อยมีใครขับรถกัน (ส่วนมากที่มีน่าจะมีฐานะหน่อย ไม่ก็มีครอบครัว) เพราะการเดินทางสาธารณะทั้งสะดวกและรวดเร็วนี่แหละ อิจฉาจริงๆ เลยเนอะ
3. ทุกคนเป็นนักปั่น
นอกจากการเดินทางจะสะดวกแล้ว ถนนหนทางในประเทศต่างๆ ในยุโรปก็เป็นมิตรกับนักปั่นจักรยานด้วยนะคะ เพราะมีเลนจักรยานที่ 'ใช้ได้จริง' และรถยนต์หรือคนเดินถนนก็เคารพกฎและให้เกียรติผู้ขับขี่จักรยานในเมืองต่างๆ โดยเฉพาะโคเปนเฮเกนในเดนมาร์กก็ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งจักรยาน ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ คนแก่ ต่างก็ใช้จักรยานเป็นพาหนะทั้งนั้น ทั้งสะดวกรวดเร็วและประหยัดเงินไปได้อีกเยอะเลยค่ะ
4. สูบบุหรี่จัดกันจัง
ข้อเสียก็มีนะเออ... ยอมรับว่าในเมืองไทยก็มีคนสูบบุหรี่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่ไปยุโรปแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าที่นั่นเค้าสูบจัดกว่าบ้านเรามาก เพราะทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก วัยรุ่น คนแก่ ทุกคนสูบบุหรี่ตลอดเวลาและทุกที่อีกต่างหาก (หากไม่มีกฎห้าม) จำได้ว่าตอนไปปารีสเนี่ยคนสูบบุหรี่กันเยอะมากกกก เยอะเกินกว่าจะเป็นแฟชั่นแน่ๆ เพราะดูเค้าจะสูบกันโดยความเคยชินและเป็นสิ่งๆ หนึ่งที่ทำกันปกติเหมือนดื่มชา กาแฟอะไรแบบนี้เลย
5. อาหารเช้าแบบพอดีๆ
ไม่รู้น้องๆ เป็นเหมือนกันรึเปล่า ทุกๆ เช้าจะต้องหาข้าวเช้ากินเป็น 'มื้อเช้าแบบจริงจัง' คือจัดเต็มเหมือนมื้ออื่นๆ อาจไม่ได้เต็มแบบเว่อร์วังมีกับข้าวหลายอย่าง แต่จะต้องกินให้เป็นจาน เช่นข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว แต่พอไปเที่ยวยุโรปปุ๊บกลับหาอาหารเช้าแบบนั้นไม่ได้! เพราะทุกคนจะกินมื้อเช้ากันแค่กาแฟกับขนมปัง หรืออาจจะเป็นซีเรียลกับโยเกิร์ต นม หรือน้ำผลไม้ปั่น... แรกๆ ก็ไม่ชินและไม่อยู่ท้องเลยค่ะ รู้สึกว่าเราไม่สามารถทำกิจกรรมอะไรได้เลยหากกินมื้อเช้าไปแค่นั้น ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเค้าไปเอาพลังงานมาจากไหนกันถ้ากินมื้อเช้ากันเล็กน้อยแค่นั้น
6. ขอทานก็มีนะ
ใครว่ายุโรปไม่มีขอทาน! ตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหรือตามท้องถนนในยุโรปบางที่จะมีขอทานหรือคนไร้บ้านนั่งๆ นอนๆ กัน บ้างก็ขอเงิน บ้างก็เล่นดนตรี หรือทำอะไรเท่าที่ทำได้ ขอทานส่วนใหญ่ที่อยู่ในยุโรปจะมาจากประเทศโรมาเนีย เป็นคนอพยพที่ไร้บ้าน หรืออาจเป็นพวกยิปซี แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงมีขอทานเยอะ คำตอบก็คือ เพราะคนให้เงินพวกเขานั่นเอง ความจริงก็น่าสงสารอยู่เหมือนกันนะคะแต่ทางที่ดีถ้าเขาไม่ได้มายุ่งหรือคุกคามเรา เราก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขาค่ะ
7. ใครว่าห้องน้ำสาธารณะฟรี
เชื่อเถอะว่าเมืองไทยเนี่ยสบายสุดๆ แล้ว เพราะห้องน้ำสาธารณะฟรี! ที่ยุโรปส่วนมากห้องน้ำสาธารณะจะต้องเสียเงินเพื่อเข้าไปใช้ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ตามสถานที่ต่างๆ หรือในห้างบางแห่ง ประตูจะล็อคและก่อนเข้าเราจะต้องหยอดเหรียญเข้าไป (เท่าที่เคยเจอนะคะ) นอกจากว่าเราจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เราถึงจะได้เข้าห้องน้ำฟรีค่ะ แต่ก็เสียค่าพิพิภัณฑ์ไปแล้วน่ะสิถึงเข้าได้
พี่เคยตอนไปสวีเดน กำลังเที่ยวเล่นสนุกสนาน ดัน... ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำจนได้ เลยไปถามทางว่าห้องน้ำสาธารณะอยู่ไหน กว่าจะเดินไปถึงตอนนั้นก็แทบไม่ไหวแล้ว แต่พอพบว่าต้องจ่ายเงิน และแถมหยอดเหรียญเข้าไปแล้วเข้าไม่ได้อีก เลยตัดสินใจเดินหาร้านอะไรก็ได้ เข้าไปซื้อเครื่องดื่ม (จ่ายไปประมาณ 200 บาทไทย) และต้องขอลุงเจ้าของร้านเข้าห้องน้ำ โธ่... ค่าเข้าห้องน้ำ 200 บาท คุ้มมั้ยเนี่ย...
8. ดึกแล้วฟ้ายังสว่าง!
ส่วนมากในหน้าร้อนที่ยุโรปจะพระอาทิตย์ตกช้า โดยเฉพาะประเทศในแถบสแกนดิเนเวียเนี่ยมีพระอาทิตย์เที่ยงคืนเลยนะคะ คือนั่งคุยกับเพื่อนเพลิน ฟ้ายังไม่มืดนึกว่ายัง 5-6 โมงเย็นอยู่ ที่ไหนได้ ปาไปห้าทุ่มแล้ว ต้องรีบลุกออกจากบ้านเพื่อนขึ้นรถกลับโรงแรมแทบไม่ทันแน่ะค่ะ ตอนไปแรกๆ ก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ใหม่และน่าประหลาดใจ + ตื่นเต้นมากๆ สามทุ่มแล้วฟ้าสว่างเนี่ย เป็นไปได้ไง ไม่ชินจริงๆ 555
9. ทักทายเมื่อเจอหน้า
ถึงแม้ว่าบางประเทศผู้คนจะไม่ค่อยยิ้มให้กันบ่อยเหมือนคนไทย แต่เวลาเราเข้าร้านต่างๆ มักจะได้รับคำทักทาย ไม่ว่าจะเป็น hello, good morning, hey! และอื่นๆ ก็อย่าลืมทักตอบเขาไปนะคะ เพราะอาจดูเสียมารยาทหากเราไม่ทักตอบหรือแค่ยิ้มเฉยๆ วัฒนธรรมบางประเทศก็ไม่เหมือนกัน ทักตอบไว้ไม่เสียหายค่ะ หรือต่อให้ซื้อของหรือไม่ซื้อของ พอเราจะเดินออกจากร้านก็บอกลากันซะหน่อย good bye อะไรทำนองนี้ก็ได้ค่ะ
10. เซเว่นไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงนะจ๊ะ
อันนี้พีคสุดๆ เพราะทีแรกว่าแปลกแล้วที่ยุโรปมี 7-11 (อย่าหาว่าพี่บ้านนอกเลย T_T) แต่ที่แปลกที่สุดคือเซเว่นบ้านเค้าไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงจ้าาาา! เราจะมานั่งชิลเล่นในโรงแรมแล้วคิดในใจว่า 'หิวจัง แต่ขี้เกียจออกไปหาอะไรกิน เดี๋ยวดึกๆ ค่อยไปหาซื้ออะไรกินที่เซเว่นละกัน' ไม่ได้นะคะ เพราะเซเว่นที่บ้านเค้ามีเวลาเปิด-ปิดที่ชัดเจน และควรรู้ไว้ซะ จะได้เตรียมตัวซื้อของตุนไว้กินได้นะ
เป็นความรู้ใหม่ๆ ที่แปลกดีเหมือนกันค่ะ ส่วนใครไปยุโรปแล้วเจออะไรช็อกๆ หรือเด็ดๆ ก็เอามาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ ^^
17 ความคิดเห็น
ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ
เรื่องทักทายนี้ใหม่ๆแทบฟิน เดินสวนผชหล่อทักทายแล้วยิ้มให้ -เราก็ฟินไปพักใหญ่ แหมะ มันเป็นมารยาท 55
ถ้าใส่น้ำแข็งในเครื่องดื่ม พอน้ำแข็งละลายรสชาติจะเสียด้วยแหละค่ะ (เคยอ่านมาจากหลายๆที่)
อ่านๆมานี่สะดุดใจเรื่องไม่ค่อยขับรถส่วนตัวกันมากที่สุด ถ้าบ้านเราพัฒนารสสาธารณะให้สะดวกได้อย่างเขาก็คงดี
เซเว่นไม่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ฮอลลลลลลลลลลลลล