ตำนาน "บ้านเอลฟ์" มีอยู่จริงๆ ในประเทศไอซ์แลนด์!

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com วันนี้ พี่นิทาน มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจจากประเทศไอซ์แลนด์มาเล่าให้น้องๆ กันอีกแล้วค่ะ หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาว่าประเทศไอซ์แลนด์เป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย ด้วยวิวทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามสุดลูกหูลูกตา ทั้งภูเขา น้ำตก น้ำพุร้อน บ่อน้ำร้อน และยิ่งในหน้าร้อนไอซ์แลนด์จะยิ่งดูมีสีสันและชีวิตชีวาเหมือนเทพนิยายสนุกๆ ที่เราเคยอ่านกันมาเลยค่ะ

    และนอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว รู้หรือไม่ว่าประเทศนี้ยังมีเรื่องราวและความเชื่อมากมายที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องความเชื่อเรื่อง 'เอลฟ์' ภูติลึกลับที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในไอซ์แลนด์ค่ะ 

Photo credit : roundtheworldwego.com
   
    ในบริเวณหน้าบ้านของบ้านต่างๆ ในประเทศไอซ์แลนด์นั้น บางบ้านจะมีบ้านหลังเล็กๆ หน้าตาน่ารักคล้ายบ้านของเล่นที่มีขนาดไม่ใหญ่เท่าบ้านคน แต่ก็ไม่เล็กเท่าของเล่นเด็ก โดยบ้านเหล่านี้ชาวไอซ์แลนด์สร้างไว้ให้ 'เอลฟ์' อยู่ค่ะ และมักจะสร้างไว้ตรงเนินเล็กๆ บ้างก็สร้างไว้ใต้เนินก้อนหินก้อนใหญ่ หรือบริเวณที่มีก้อนหินอยู่

    เหตุนี้เพราะชาวไอซ์แลนด์เชื่อว่าเอลฟ์เหล่านี้อาศัยอยู่ใต้พื้นดินหรืออยู่ใต้ก้อนหินตรงเนินเขา บ้านต่างๆ นี้มีทั้งสร้างแบบจริงจัง มีประตู มีหน้าต่าง ทาสีสวยงาม แถมมีรั้วให้อีกต่างหาก (สงสัยป้องกันขโมยเอลฟ์ 555) หรือบางที่ก็อาจจะแค่นำแผ่นไม้ตัดเป็นรูปบ้าน ทาสีและเขียนตัวเลขไว้ แล้วก็นำไปวางไว้ตามที่ๆ เอลฟ์อยู่ 

   
    แต่ถึงอย่างนั้นหากเราไปถามชาวไอซ์แลนด์ว่าสร้างบ้านให้เอลฟ์ไปทำไม เอลฟ์มีอยู่จริงเหรอ? พวกเขาก็จะไม่ยอมรับอย่างเต็มใจว่าเชื่อว่าเอลฟ์มีจริง อาจจะคล้ายๆ กับบ้านเราที่มีศาลพระภูมิ แต่ก็ไม่ได้เชื่ออย่างสนิทใจกันทุกคนว่า 'เทวดา' หรือ 'ผี' จะมีจริงๆ บางทีอาจจะเป็นความเชื่อลึกๆ ที่ถูกถ่ายทอดและเล่ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น

      ชาวไอซ์แลนด์มีเรื่องเล่าและความเชื่อในภูติ ผี ปีศาจ นางฟ้า มากมาย คนรุ่นใหม่บางคนอาจเล่าให้เราฟังว่าเขาเคยเจอเอลฟ์หรือนางฟ้าแฟรี่ก็ได้ หรือไม่ก็รู้จักกับคนที่เคยเห็นภูติเหล่านั้นจริงๆ ทั้งในนิทานหรือนิยาย เรื่องเล่าต่างๆ ที่เล่าให้เด็กฟังก็มักจะมีเรื่องราวของภูติต่างๆ

    และชาวไอซ์แลนด์ก็มีความเคารพและให้เกียรติภูติเหล่านี้อยู่ลึกๆ เช่น บางครั้งหากมีโครงการก่อสร้าง พวกเขาจะหลีกเลี่ยงการทำลายธรรมชาติให้มากที่สุด โดยเฉพาะเลี่ยงการทำลายหินที่เชื่อว่าพวกเอลฟ์อาศัยอยู่ในนั้น และหากไม่เคารพที่อยู่ของเอลฟ์เหล่านี้ เหตุขัดข้องอาจเกิดขึ้นและขัดขวางการก่อสร้างหรือโครงการทั้งหมดได้ ด้วยเหตุนี้ชาวไอซ์แลนด์จะไม่โยนหินซี้ซั้วแน่นอน เพราะกลัวจะไปโดนบ้านเอลฟ์ค่ะ 

   
    Huldufólk คือชื่อเรียกของเอลฟ์ในภาษาไอซ์แลนด์ มีความหมายประมาณว่า 'คนที่ซ่อนอยู่' และนอกจากจะเป็นความเชื่อในประเทศไอซ์แลนด์แล้ว ชาวแฟโร (ในหมู่เกาะแฟโร : Faroe Islands) ยังเล่าเรื่องของเอลฟ์นี้ในนิทานพื้นบ้านมานมนาน แต่เอลฟ์ของชาวแฟโรนั้นจะตัวใหญ่และใส่เสื้อสีเทา มีผมสีดำ และอาศัยอยู่บนเนินเขา ฟังดูน่ากลัวเหมือนกันแฮะ แต่ไม่ว่าจะเป็นเอลฟ์ของไอซ์แลนด์หรือหมู่เกาะแฟโร ขอบอกว่าเอลฟ์เหล่านี้มี 3 สิ่งที่พวกเขาเกลียดและกลัวมากๆ นั่นก็คือ ไม้กางเขน โบสถ์ และไฟฟ้า... ฟังดูแปลกดีเหมือนกันนะ 

    นอกจากนั้นในวันหยุดต่างๆ ของประเทศไอซ์แลนด์ยังมีความเชื่องโยงกับเอลฟ์ด้วยนะคะ เช่นวันก่อนวันขึ้นปีใหม่, วัน Twelfth Night, Midsummer Night, Christmas night ส่วนความเกี่ยวข้องนั้นก็คือความเชื่อว่าเอลฟ์จะมาฉลองอยู่ในบ้านฟาร์มใกล้ๆ กับแหล่งที่อยู่ของมนุษย์ หรือไม่ก็ช่วงก่อนวันคริสต์มาสชาวไอซ์แลนด์จะต้องทำความสะอาดบ้านและนำอาหารไปวางไว้ให้ชาวเอลฟ์เมื่อถึงวันคริสต์มาส

    ส่วนวันก่อนวันขึ้นปีใหม่นั้นเชื่อกันว่าเอลฟ์จะพากันย้ายบ้านไปยังที่ใหม่ ชาวไอซ์แลนด์จึงต้องจุดเทียนไว้ตามพื้นเพื่อช่วยให้เหล่าเอลฟ์มองเห็นเส้นทาง (อย่าลืมนะว่าเอลฟ์กลัวไฟฟ้า ไม่งั้นก็เปิดไฟให้แล้วล่ะ) ส่วนวัน Midsummer Night นั้นมีเรื่องเล่ากันว่าหากใครไปนั่งอยู่กลางสี่แยกตอนกลางคืน (ฟังดูหลอนๆ นะ) เอลฟ์จะมาหาและล่อลวงเราด้วยขนมไม่ก็ของขวัญ หากใครหลงเชื่อเอลฟ์ก็จะพบกับสิ่งไม่ดี ส่วนใครที่ปฏิเสธก็จะได้รางวัลเป็นการตอบแทนค่ะ 

   
    อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจและอยากแนะนำให้น้องๆ ลองไปกันหากได้มีโอกาสไปประเทศไอซ์แลนด์ นั่นก็คือ Icelandic Elf School หรือโรงเรียนเอลฟ์ที่เปิดมาแล้วตั้ง 28 ปี! อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นโรงเรียนที่ให้เหล่าเอลฟ์ไปเรียนนะคะ เพราะจริงๆ แล้วมันคือโรงเรียนสอนเกี่ยวกับเรื่องเอลฟ์ให้นักท่องเที่ยวหรือคนที่สนใจได้เรียนรู้กัน โดยจะใช้เวลาเรียนประมาณ 3-4 ชั่วโมง เปิด (เกือบ) ทุกวันศุกร์ เวลาบ่ายสามโมง และอาจมีวันอื่นๆ สามารถเช็คได้ในเว็บไซต์ค่ะ โดยจะเสียค่าเรียนคนละประมาณ 47 - 53 ยูโร (หรือประมาณ 1,824 - 2,056 บาทค่ะ) และจะมีหนังสือเรียนเกี่ยวกับเอลฟ์ให้ มีของว่างให้ทาน ใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ ของโรงเรียนค่ะ 
   
    ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครมายืนยันหรือมีรูปถ่ายที่แท้จริงของเหล่าเอลฟ์ แต่ด้วยความที่ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีธรรมชาติกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ทั้งภูเขาไฟ พายุ น้ำพุร้อน ทะเล อะไรอื่นๆ อีกมากมาย จึงไม่แปลกที่คนจะเชื่อกันว่าภายใต้เนินเขาหรือในซอกหลืบของธรรมชาติในไอซ์แลนด์นั้นจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่ แถมไม่ใช่แค่เอลฟ์อย่างเดียวซะด้วย ยังมีตำนานและความเชื่ออื่นๆ อีกมากมาย ไว้วันหลังพี่จะมาเล่าเรื่องภูติหรือนางฟ้าอื่นๆ ให้ฟังอีกนะคะ ^^
อ้างอิง
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

เซฟ-อธิษวัฒน์ วิจารจันทร์ Member 13 ส.ค. 59 20:45 น. 2
เพราะความเชื่อนี้ ที่ทำให่ธรรมชาติประเทศเขาดีแน่ๆ เลย ดีจัง ความเชื่อทำให้ประเทศดีขึ้น //ตัดภาพมาที่ประเทศไทย
1
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
เซฟ-อธิษวัฒน์ วิจารจันทร์ Member 13 ส.ค. 59 20:45 น. 2
เพราะความเชื่อนี้ ที่ทำให่ธรรมชาติประเทศเขาดีแน่ๆ เลย ดีจัง ความเชื่อทำให้ประเทศดีขึ้น //ตัดภาพมาที่ประเทศไทย
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด