น่าเรียนสุดๆ! 5 มหา'ลัยในอเมริกา แหล่งรวมเหล่าฮิปสเตอร์

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com สำหรับใครที่กำลังมีแผนอยากจะเรียนต่อเมืองนอกแต่รู้สึกว่าหาที่เรียนยากเหลือเกินเพราะยังไม่เจอที่ๆ ถูกใจหรือที่ๆ เหมาะกับเราจริงๆ บางคนอาจติสท์แตกมีความเป็นตัวของตัวเองสูง และไม่อยากเรียนที่ซ้ำๆ ใคร หรือมหาวิทยาลัยที่คนส่วนมากไปกัน เอาล่ะ น้องๆ มาถูกทางแล้ว วันนี้ พี่นิทาน มี 5 มหาวิทยาลัยสุดฮิปมาแนะนำให้รู้จักกัน รับรองว่าเด็กแนวทุกคนต้องอยากไปเรียนกันแน่ๆ ค่ะ 


1. New York University 
นิวยอร์ค, สหรัฐอเมริกา
 
    ขึ้นชื่อว่านิวยอร์คยูที่อยู่ใจกลางเมือสุดฮิปในฝันของใครหลายๆ คน มีหรือที่นักเรียนจะไม่ใช่ฮิปสเตอร์!? ก็ในเมื่อตึกของมหาวิทยาลัยถูกรายล้อมด้วยย่านต่างๆ ที่มีแต่ชีวิตชีวาและสีสัน ใครอยู่นี่คงมีแต่แรงบันดาลใจไม่ว่าจะหันไปทางไหนหรือทำอะไร ตกดึกทุกคนก็ไปปาร์ตี้ที่มีแต่เด็กแนวมา หรือจะเป็นงานอีเวนท์ดนตรีสดที่มีแต่วงเจ๋งๆ มาเล่น เพราะงั้นการที่ถูกรายล้อมไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ มากมายจึงเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ทำให้นักเรียนที่นี่ได้พบเจอคนเจ๋งๆ มากมาย เพื่อทำความรู้จักและต่อยอดไปถึงการงานในอนาคต จึงไม่แปลกที่นักเรียนทุกคนที่นี่จะมีสปิริตแรงกล้าที่จะทำตามความฝันให้เป็นจริง
 
หลักสูตรที่สอน (ป.ตรี)
 
-College of Arts and Science
-College of Dentistry
-Gallatin School of Individualized Study
-Leonard N. Stern School of Business
-Liberal Studies Program
-Rory Meyers College of Nursing
-School of Professional Studies
-Silver School of Social Work
-Steinhardt School of Culture, Education, and Human Development
-Tandon School of Engineering
-Tisch School of the Arts
 
ข้อมูลเพิ่มเดิมสามารถดูได้ที่ : http://www.nyu.edu/



2. Bard College 
นิวยอร์ค, สหรัฐอเมริกา

    วิทยาลัยศิลปศาสตร์ที่มีที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนี้มีคติเท่ๆ ที่บอกว่า 'A Place to Think' เหมาะสำหรับนักคิด นักจินตนาการ หรือใครที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับปรัชญา ศาสนา ขอแนะนำให้มาเรียนที่นี่เลยค่ะ (สองสาขานั้นยอดฮิตที่สุดที่นี่เลย) อยู่ที่นี่ใครจะสามารถคิดอะไรในแบบไหนก็ได้ ไม่มีใครมาบอกว่าเราถูกหรือผิด นอกจากจะคิดเยอะแล้วยังมีส่วนของศิลปะที่คอยเสริมเติมแต่งให้นักคิดเป็นนักคิดสร้างสรรค์ได้ ทุกๆ ปีที่นี่จะมีงาน Crafts Fair ใครชอบศิลปะประดิษฐ์หรืออะไรแนวๆ คงจะเพลิดเพลิน หรือใครที่ชอบดนตรี, การเขียน, กีฬา และกิจกรรมอื่นๆ ที่นี่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมเข้าชมรมหรือกลุ่มที่ให้ทุกคนได้ใช้ความสามารถของตัวเองแบบไม่ต้องเก็บไว้เฉยๆ เลยล่ะค่ะ 
 
หลักสูตรที่สอน (ป.ตรี)
 
วิชาหลักๆ ที่บาร์ดสอนจะมีตามหัวข้อดังนี้
-Philosophy
-History
-Science
-Poetry
-Fiction
-Religion
 
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ : http://www.bard.edu/



3. Kenyon College
โอไฮโอ, สหรัฐอเมริกา
    ด้วยความที่วิทยาลัยมีพื้นที่กว้างหลายไร่จึงทำให้ที่นี่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทำไร่ทำสวน ปลูกผักออร์แกนิค (อีกแล้ว 555) เลี้ยงสัตว์ และมีผลิตผลที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติเพื่อบริโภคและขาย แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะ เพราะเดี๋ยวจะฟังดูเป็นวิทยาลัยทางการเกษตรไปซะก่อน ที่ Kenyon College นี้ แม้จะดูเหมือนเป็นวิทยาลัยศิลปะที่น้อยคนจะรู้จัก แต่นักเรียนทั้งหมด 2,000 คนที่นี่มีความพึงพอใจกับการเรียนการสอนในแบบทางเลือกใหม่ๆ และมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ชอบหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำวารสารหรือนิตยสารประจำวิทยาลัย ถ่ายทอดความคิดหรือสิ่งที่น่าสนใจ หรือใครรักดนตรีก็รวมหัวกันทำค่ายเพลงเองโดยมีทางมหาวิทยาลัยสนับสนุน หรือจะจัดรายการวิทยุเอง และอีกหลายๆ อย่างที่คนมีฝันอยากจะทำค่ะ
 
หลักสูตรที่สอน (ป.ตรี)
 
-Comparative World Literature
-Dance, Drama & Film
-Economics
-English
-Environmental Studies
-History
-Integrated Program in Humane Studies
-International Studies
-Islamic Civilization & Cultures
-Latino/a Studies
-Law & Society
-Mathematics & Statistics
-Modern Languages & Literatures
-Music
-Neuroscience
-Philosophy
-Physics
-Political Science
-Psychology
-Public Policy
-Religious Studies
-Scientific Computing
-Sociology
-Women's & Gender Studies
 
ดูเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.kenyon.edu/



4. University of California, Berkeley
แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา
 
    เมืองเบิร์กลีย์เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เต็มไปด้วยเหล่าฮิปสเตอร์เพราะนักเรียนเกือบทั้งหมดที่นี่จะมีสไตล์เป็นของตัวเอง ใส่เสื้อผ้าที่บ่งบอกว่า 'ชั้นเป็นเด็กแนว ไม่เหมือนใคร' แถมหนึ่งในนักเรียนที่นี่ยังเคยบอกอีกว่า ที่นี่น่ะทุกคนทำอะไรอย่างที่ตัวเองอยากทำมาก อย่างเช่น นักเรียนบางคนขี่จักรยานล้อเดียวมาเรียน แถมวันดีคืนดีอาจารย์ก็ขี่กับเค้าเหมือนกัน นอกจากความแนวสุดๆ แล้วที่เมืองเบิร์กลีย์นี้ยังขึ้นชื่อเรื่องของร้านอาหารออร์แกนิคสำหรับนักเรียนที่ชื่อว่า "Carl Dining" ที่ได้รับรางวัลเรื่องอาหารสะอาดปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และที่มหา'ลัยนี้ยังมีสถานีวิทยุเพลงอินดี้ที่ให้นักเรียนเป็นผู้จัดรายการและเลือกเพลงเปิดกัน ฟังดูน่าอยู่จริงๆ ด้วยแฮะ
 
หลักสูตรที่สอน (ป.ตรี)
 
-Arts & Humanities
-Biological Sciences
-Business
-Design
-Economic Development & Sustainability
-Education
-Engineering & Computer Science
-Mathematics
-Multi-Disciplinary
-Natural Resources & Environment
-Physical Sciences
-Pre-Health/Medicine
-Pre-Law
-Social Sciences
 
ในเว็บไซต์มหา'ลัยมีสาขาที่แยกออกมาจากสาขาหลักและน่าเรียนเยอะเลย ลองเข้าไปดูกันนะคะ : http://guide.berkeley.edu/



5. University of Texas at Austin
เท็กซัส, สหรัฐอเมริกา
 
    ที่มหา'ลัยแห่งนี้ทุกคนจะเห็นนักเรียนถือกาแฟเดินไปเดินมาตามประสาฮิปสเตอร์ หรือไม่ก็มีนักเรียนแนวๆ แต่งตัวเก๋ๆ นั่งคุยกันอยู่ตามร้านกาแฟสวยๆ หากไม่ดื่มกาแฟก็จะเห็นพวกเขาอุดหนุนผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสดๆ ใหม่ๆ จากฟาร์ม เพราะที่มหา'ลัยนี้มีฟาร์มไว้ปลูกพืชผักออร์แกนิคโดยเฉพาะ นักเรียนทุกคนสามารถปลูกและนำมาขายกันในงาน Farmer's Market ได้ นอกจากนั้นเมืองออสตินยังเป็นเมืองแห่งการแสดงดนตรีสดอีกต่างหาก (มีเทศกาลดนตรีเก๋ๆ มาจัดที่นี่เยอะแยะเลย เช่น SXSW และอื่นๆ) แน่นอนว่าพอเป็นเมืองแห่งดนตรีแล้วย่อมมีนักดนตรีเต็มเมืองไปหมด ใครที่เป็นเด็กแนวและชอบอะไรแบบนี้ลองมาเรียนที่นี่ได้เลย 
 
หลักสูตรที่สอน (ป.ตรี)
 
-School of Architecture
-McCombs School of Business
-Moody College of Communication
-College of Education
-Cockrell School of Engineering
-College of Fine Arts
-Jackson School of Geosciences
-College of Liberal Arts
-College of Natural Sciences
-School of Nursing
-College of Pharmacy
-School of Social Work
-School of Undergraduate Studies
 
ใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ : http://www.utexas.edu/
 
   
      อย่าลืมนะคะว่าใครที่อ่านแล้วสนใจมหาวิทยาลัยไหนเป็นพิเศษก็เข้าไปดูในเว็บไซต์เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่ะ บางที่จะมีสาขาย่อยๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะมาก ก็ลองเข้าไปดูได้ค่ะ ^^ 
อ้างอิง
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด