How to เรียนภาษาใหม่ พูดได้ฟังเข้าใจใน 7 วัน!! (เทคนิคจากคนที่พูดได้ 10 ภาษา)

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... น้องๆ รู้จัก Polyglot มั้ยคะ? Polyglot หมายถึงคนที่สามารถใช้ภาษา 6 ภาษาขึ้นไปได้ดีเทียบเท่ากับภาษาแม่!! โอ้โห อัจฉริยะเกินไปมั้ยนะ
    
     เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะรู้ว่า เหล่า Polyglot เค้ามีวิธีการฝึกฝนภาษายังไงบ้าง วันก่อน พี่เป้ ไปเจอคลิปหนึ่งมา น่าสนใจมากกก เป็นเรื่องราวของฝาแฝดชาวเยอรมันคู่หนึ่ง ไมเคิลและแมททิว ที่เป็น Polyglot โดยปัจจุบันพวกเขาพูดได้ถึง 10 ภาษา และยังคงศึกษาภาษาใหม่เรื่อยๆ ล่าสุดเขาตั้งเป้าว่า จะใช้เวลา 1 สัปดาห์ วันละ 12 ชั่วโมงในการศึกษาภาษาใหม่นั่นก็คือภาษาตุรกีจนสามารถฟังพูดเข้าใจได้ มาดูกันว่าเขาทำยังไง

หาเหตุผลว่าเราเรียนไปทำไม?   

     นั่นคือเราต้องตั้งเป้าก่อนค่ะว่าจะเรียนไปทำไม? ถ้าเราคิดว่า เรียนไปงั้นๆ แหละ เชื่อเถอะว่ามันอาจจะยากสักหน่อย เพราะจิตใต้สำนึกมันจะคอยกระซิบบอกเราว่า "เลิกเหอะ มันไม่จำเป็น"

     อย่างฝาแฝดคู่นี้เค้าอาศัยอยู่ในเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งในเมืองนี้มีชาวตุรกีอาศัยอยู่ประมาณ 3 แสนคน แถมย่านที่พวกเขาอยู่นั้นก็มีร้านค้าขายของของชาวตุรกีเยอะมากกกก เขาจึงอยากจะเรียนรู้เรื่องราวของสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวพวกเขาค่ะ ทำให้นี่แหละเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกภาษาตุรกี

ติด Post-It ไว้ทุกที่  

     ฝาแฝดคู่นี้เขาตั้งใจว่าจะต้องเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในบ้านของพวกเขาให้มีแต่ภาษาตุรกี เขาจึงเริ่มต้นติดโพสต์อิตคำศัพท์ภาษาตุรกีไว้เต็มบ้านไปหมด เช่น ที่ตู้เย็นก็ติดศัพท์ว่าตู้เย็นในภาษาตุรกี ที่ประตูก็ติดศัพท์ว่าประตูในภาษาตุรกี ดังนั้น แค่การจะเดินไปชงกาแฟที่เครื่องชงกาแฟ พวกเขาจะได้เห็นคำศัพท์ภาษาตุรกีไม่น้อยกว่า 4-5 คำแน่นอน (เช่น ถ้วย จานรองกาแฟ เครื่องชงกาแฟ)

หาเพื่อนที่มีเป้าหมายเดียวกัน  

      การมีเพื่อนไว้ช่วยกันเรียนกันสอนภาษาเดียวกันนั้นมันเวิร์คสุดๆ ดีกว่าเรียนคนเดียวแน่นอน ดังนั้นหากเราหาเพื่อนสักคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน จะยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เราตั้งใจเรียนภาษานั้น (ไม่ว่าจะกระตุ้นในแง่แข่งกันเรียนหรือช่วยกันเรียนก็ตามแต่) อย่างฝาแฝดคู่นี้ เค้าจะแบ่งกันศึกษาคนละเรื่องค่ะ จากนั้นก็จะมาแชร์กัน เช่น คนนึงศึกษาบทสนทนาในการสั่งอาหาร อีกคนศึกษาบทสนทนาในการขึ้นรถโดยสาร แล้วก็จะมาแชร์กันคุยกันนั่นเองค่ะ ดี๊ดีอะ

มีเป้าหมายเล็กๆ เพื่อเป็นแรงกระตุ้น  

     เป้าหมายใหญ่คือการเรียนรู้ภาษานั้นๆ สำเร็จในเวลา 1 สัปดาห์ แต่ระหว่างทาง เราควรตั้งเป้าหมายเล็กๆ ไว้ด้วย อย่างฝาแฝดคู่นี้ เค้าจะมีเป้าหมายในแต่ละวันค่ะ เช่น วันนี้ต้องเจอเพื่อนชาวตุรกีและต้องคุยกันรู้เรื่อง วันต่อมาต้องไปซื้อผลไม้ที่ตลาดและต้องเข้าใจว่าผลไม้แต่ละชนิดเรียกว่าอะไรในภาษาตุรกี ซึ่งการทำเป้าหมายเล็กๆ สำเร็จในแต่ละวันจะยิ่งทำให้เรามีแรงในการฮึดสู้เรียนภาษานั้นต่อไป รวมถึงเป้าหมายเล็กๆ นั้นควรทำให้เราได้เจอผู้คนและเจออะไรใหม่ๆ เราจะได้ไม่รู้สึกเบื่อนั่นเอง

เสพทุกอย่างเป็นภาษานั้นๆ  

     หรือ Eat The Language นั่นเอง แทบจะกินมันเข้าไปเลย ไม่ได้หมายถึงให้เอาหนังสือไปต้มแล้วกินเข้าไปนะคะ แต่หมายถึงการเสพภาษานั้นๆ ผ่านการฟังเพลง ดูหนัง หรือทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้เราได้อยู่กับมันตลอดเวลา อย่างฝาแฝดคู่นี้เค้าเลือกที่จะกินขนมของประเทศนั้นๆ ตลอดทั้งสัปดาห์ อย่างน้อยตอนกินก็ยังได้อ่านหรือพิจารณาข้างซองว่ามันเขียนว่าอะไร เรียกว่าอยู่กับภาษานั้นๆ ตลอดวัน ยังไงก็ต้องจำได้แน่นอนสิเนาะ

รู้ตัวเองว่าวิธีไหนเวิร์คกับเรามากที่สุด  

     หลายคนเรียนภาษานั้นๆ โดยการไปลงเรียนตามคอร์ส มีโอกาสได้พูดคุยหรือเรียนกับอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในภาษานั้น แต่พอหมดชั่วโมงเรียน ก็แทบไม่มีโอกาสได้ใช้ภาษานั้นในการสื่อสาร แต่การจะเก่งภาษานั้นได้ ต้องใช้ให้ครบทุกทักษะนั่นคือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ดังนั้นเราต้องใช้ให้ครบ โดยรู้ตัวเองว่าเราชอบวิธีการแบบไหน อย่างฝาแฝดคู่นี้เขาชอบอ่านหนังสือ ชอบฟังวิทยุคลื่นภาษาตุรกี และชอบอ่านบทวิจารณ์ฟุตบอลของตุรกีตามเว็บไซต์ฟุตบอล 

   
      เป็นเทคนิคที่น่าลองมากๆ แต่คงเหมาะทำตอนปิดเทอมซะมากกว่า ยังไงอย่าลืมลองนำไปใช้กันดู เผื่อเราจะได้เป็น Polyglot บ้าง อิอิ^^