สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com วันนี้ พี่นิทาน มีข่าวที่น่าสลดใจของเด็กชายคนหนึ่งที่ถูกรังแกโดยเพื่อนที่โรงเรียนมาเล่าให้ฟังค่ะ เป็นเรื่องน่าเศร้าเวลาได้ยินว่าใครโดนรังแกโดยคนหมู่มากโดยไม่มีทางต่อสู้กลับ และที่น่าเศร้าที่สุดคือไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แม้กระทั่งคุณครูที่โรงเรียน เรื่องราวของเด็กชายคนนี้ต้องจบลงด้วยความน่าสะเทือนใจสำหรับหลายๆ คน นั่นก็คือการฆ่าตัวตาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นกับใครเลยค่ะ...
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนเท่านั้น เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่าเด็กชายวัย 13 ปี นามว่า Daniel Fitzpatrick นักเรียนจากเกาะสแตเทนในรัฐนิวยอร์ค (Staten Island) ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองด้วยเหตุเพราะทนความเจ็บปวดจากการโดนรังแกและล้อเลียนที่โรงเรียนไม่ไหว ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะคะเมื่อได้ยินเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นที่ต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ น่าสะเทือนใจเป็นอย่างมากที่คนเราสามารถรังแกกันได้ขนาดนี้ โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือสนใจจากคนรอบข้าง ทั้งๆ ที่เขาเองก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเองเช่นกัน
ในโศกนาฏกรรมครั้งนี้แดเนียลได้ทิ้งจดหมายความในใจของเขาไว้เป็นหลักฐานสุดท้ายสำหรับพ่อแม่และทุกๆ คนได้รับรู้ โดยจดหมายเหล่านั้นแดเนียลได้เล่าถึงเหตุการณ์ทั้งหมดดังนี้...
"ผมเขียนจดหมายนี้ขึ้นเพื่อเล่าถึงประสบการณ์ที่ผมได้พบเจอในโรงเรียน Holy Angels Catholic Academy แรกเริ่มอะไรๆ ก็ดีไปหมด ผมมีเพื่อนเยอะ สอบได้คะแนนดี ชีวิตทุกอย่างดีหมดเลย แต่หลังจากนั้นเรื่องกลับกลายเป็นหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ๆ เพื่อนสนิทของผมก็ไม่พูดกับผมอีกต่อไป แถมไม่ชอบผมอีก จนกระทั่งขึ้น ป.6 เพื่อนผมที่ชื่อแอนโทนีก็เริ่มรังแกผม โดยรวมหัวกับจอห์น, มาร์โค, โจซ และแจ็ค พวกเขาคอยแต่แกล้งผมบ่อยๆ
จนกระทั่งผมทนไม่ไหวจึงเริ่มสู้กับแอนโทนีกลับ ทุกคนหยุดแกล้งไปชั่วขณะ แต่จอห์นโกรธผมมากจนเราสู้กันจนนิ้วก้อยผมหักและต้องไปเอ็กซ์เรย์ จอห์นเป็นเด็กมีปัญหาที่ชอบหาเรื่องคนบ่อยๆ แต่ผมไม่เคยทำอะไรเลย อยู่เฉยๆ ตลอด และพวกเขาก็ยังคงแกล้งผมต่อไปเรื่อยๆ จนผมหมดหนทางจะสู้ และที่แย่ไปกว่านั้นคือพวกครู "ไม่เคยลงโทษพวกเขาเลย" ไม่เคยทำอะไรทั้งสิ้น แต่กลับเป็นผมที่โดนลงโทษเอง ทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นคนเริ่มก่อน มีครูบางคนเท่านั้นที่ใจดีและพยายามจะช่วย แต่ปัญหามันก็ไม่ได้จบง่ายๆ ผมอยากออกจากโรงเรียนนี้ อยากออกไปจากเรื่องราวแย่ๆ เหล่านี้..."
แดเนียลจบชีวิตตัวเองลงด้วยการผูกคอ เป็นเรื่องราวที่เศร้าที่สุดสำหรับครอบครัวเขา หลังจากที่เรื่องราวเป็นข่าวออกไป พ่อของแดเนียล (ที่ชื่อแดเนียลเหมือนกัน : Daniel Fitzpatrick) ได้ถ่ายคลิปวิดีโอของเขาลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อกล่าวขอบคุณทุกคนที่เข้ามาไว้อาลัยและเป็นกำลังใจให้ครอบครัว นอกจากนั้นยังประณามเหล่าเพื่อนที่รังแกแดเนียล รวมทั้งครูที่โรงเรียนที่ไม่เคยช่วยเหลือและเคยบอกกับแดเนียลแค่ว่า "ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เดี๋ยวก็ผ่านไปเอง" ซึ่งไม่ใช่คำตอบที่ทางโรงเรียนควรพูดกับเด็กที่ขอความช่วยเหลือแบบนี้เลยค่ะ
โดยในคลิปวิดีโอนั้นพ่อแดเนียลกล่าวดังนี้...
"ขอขอบคุณทุกๆ คนจากใจสำหรับกำลังใจและที่เข้ามาแสดงความเสียใจ เรื่องราวของลูกชายผมได้ถูกเล่าไปทั่วโลกให้ทุกคนได้เข้าใจและรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เขาเคยพบเจอ ผมคิดถึงลูกชายผมมากๆ ไม่มีพ่อแม่คนไหนควรไปงานศพลูกของเขาแบบนี้ และไม่มีเด็กคนไหนควรจะเจอเรื่องแย่ๆ เหมือนที่ลูกชายผมเจอมา ผมอยากจะบอกพ่อแม่ของเด็กๆ ที่รังแกลูกผมว่า ผมหวังว่าพวกคุณจะไม่เจอเรื่องแบบที่ครอบครัวผมเจอ ผมหวังว่าพวกคุณจะดูแลลูกๆ ของคุณและอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต เพราะผมไม่มีช่วงเวลาเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว ...เพราะลูกๆ ตัวร้ายของพวกคุณได้พรากสิ่งเหล่านั้นไปจากพวกเรา"
สามารถชม คลิปวิดีโอ เต็มๆ ได้ที่นี่่
แม่ของแดเนียล (Maureen Fitzpatrick) ได้กล่าวอีกว่า แดเนียลหวังว่าพวกเด็กๆ ที่มีชื่ออยู่ในจดหมายของเขาจะรู้ว่าเขารู้สึกยังไงและรู้ตัวว่าได้ทำอะไรลงไป เพราะเมื่อครั้งที่อยู่ที่โรงเรียน เด็กพวกนั้นมักทำให้เขาเป็นเหมือนตัวตลก ทั้งขว้างลูกบอลใส่ ทั้งทำร้าย รังแก ล้อเลียนสารพัด แดเนียลมักจะถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังและไม่มีใครเล่นกับเขา เขาเคยถึงขนาดขอให้แม่ช่วยหาเพื่อนเล่นเขาหน่อย เพราะเพื่อนๆ เขาไม่ยอมเล่นด้วยและคิดว่าเขาเป็นคนแปลกไม่น่าคบ นอกจากนั้น เรื่องที่แย่ที่สุดคือโรงเรียนรับรู้เรื่องราวนี้มาตลอดแต่ไม่เคยสนใจหรือจะช่วยเหลือเขาเลย หลายคนก็นินทาเขาลับหลังและแอบหัวเราะเยาะเขา ทุกคนทำให้แดเนียลรู้สึกอับอายและไม่อยากมาเรียน และแน่นอนว่ารวมไปถึงความรู้สึกที่ไม่อยากมีตัวตนอยู่บนโลกนี้แล้ว
โฆษกประจำเขต Brooklyn และ Queens Diocese บอกกับสื่อว่าในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ พวกเขาพยายามจะตรวจสอบกฎหมายคุ้มครองการรังแกอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยและครอบคลุมกว่าเดิม ส่วนทางโรงเรียน Holy Angels Catholic Academy ก็แสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ และยังกล่าวอีกว่าพวกเขาพยายามจะดูแลเรื่องนักเรียนรังแกกันให้อยู่ในสายตา และพยายามหยุดเหตุทะเลาะกันทุกครั้งที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน... (ดูเหมือนจะตรงกันข้ามกับที่แดเนียลเขียนในจดหมายของเขานะคะ)
พิธีศพของแดเนียลเพิ่งจัดไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ โดยได้รับเงินสนับสนุนจากคนทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ GoFundMe มากถึง 116,598$ (ประมาณ 4,033,066 บาท)
เหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ ถึงแม้ว่าบางครั้งเราอาจจะคิดว่าคนที่โดนรังแกนั้นไม่ได้สำคัญหรือเป็นคนรู้จักของเราก็ตาม หากคนๆ นั้นอยู่ที่โรงเรียนเรา หรือเรียนชั้นเดียวกันหรือห้องเดียวกัน แค่ความช่วยเหลือเดียวจากเราก็มีค่ามากสำหรับเขาแล้วค่ะ อาจจะดูเป็นเรื่องสนุกสนานเวลาเราแกล้งคนที่ด้อยกว่าหรือมีความแปลกกว่าคนอื่น แต่จริงๆ แล้วคนๆ นั้นคงแบกรับความรู้สึกมากมายหลายอย่างที่เขาอาจไม่กล้าพูดหรือแสดงมันออกมา ขอไว้อาลัยให้แก่แดเนียลและเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของแดเนียล หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นน้อยลงๆ จนหมดไปในที่สุดค่ะ
ข้อมูลจาก
14 ความคิดเห็น
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย ปัญหาของการถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้งนี่มีขึ้นทุกที่บนโลกเลย ที่ไทยนี่ก็มีเยอะแยะเลยนะคะ แต่บางครั้งเด็กที่ถูกแกล้งเลือกที่จะไม่บอกพ่อแม่ เก็บความเจ็บปวดและกดดันเอาไว้คนเดียว โต้ตอบก็ไม่ได้ จะทำอะไรก็ไม่ได้ จนนับวันความกดดันต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นฆ่าตัวตายนี่แหละค่ะ
ยังไงก็เสียใจกันกับครอบครัวของน้องด้วยนะคะ
อ่านแล้วรู้สึกเลยว่า การเป็นครูที่ดีนั้นไม่ง่ายจริงๆ ไม่ใช่แค่สอนและให้ความรู้ แต่ควรต้องใส่ใจความรู้สึกของนักเรียน ไม่ควรมองเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องเล็กๆ เด็กๆแกล้งกัน สงสารน้อง
สงสารคนเป็นพ่อแม่
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของน้องด้วยนะคะ ตัวเราเข้าใจเรื่องพวกนี้มากๆเลย เพราะเคยโดนมากับตัว ตอนนั้นอายุประมาณ 10 ขวบ คือเราเป็นเด็กที่ขยันเรียน เรียนได้เกรดดีๆตลอด และเราก็ไม่เคยรังแกใครเลย แล้วในตอนนั้นก็มีนักเรียนใหม่เข้ามาทำตัวมีอิทธิพล เพื่อนๆไปสนิทกับเขาหมดจนเราเหมือนตัวคนเดียว (แตก็ยังมีเพื่อนที่เป็นเด็กเรียนเหมือนกันอยู่เพราะพวกนี้ก็โดนกลั่นแกล้งเหมือนกัน) และเด็กคนนั้นก็จะสั่งไม่ให้ใครพูดกับเราถ้าเราไม่ทำการบ้านให้นางและพักพวก เราเลยต้องยอมทำทุกอย่างให้นาง ทั้งยกกระเป๋าให้ หยิบโน่นนั่นนี่ให้ ไปซื้อโน่นนั่นให้ แถมพอนางชวนโดนเรียนแล้วเราไม่โดนเราก็จะโดนเพื่อนรุมด่าสารพัด ตอนนั้นเหมือนตกนรก ต้องคอยเป็นเบ้ให้เพื่อน ต้องแอบทำการบ้าน ใบงาน และรายงานทุกอย่างให้พวกนั้น ต้องยอมทำเพราะกลัวเพื่อนไม่คบ แอบร้องไห้ท้อใจทุกวัน แต่เราก็อดทนผ่านมาได้ และกรรมตามทันค่ะ พวกนั้นก็จบแค่ประถม ตอนนี้ก็ไม่ได้เรียน ไม่มีงานทำ ได้ยินมาว่าพวกนางชอบด่าพ่อแม่ตัวเองด้วย แต่ก็ไม่อยากใส่ใจกับเรื่องพวกนั้นอีกแล้ว ตอนนี้เราเหมือนได้ขึ้นสววรค์ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆที่ดี และมีโอกาสทางการศึกษาที่ดีมากๆ
และอยากทิ้งท้ายว่า พ่อแม่คุยให้สนิทกับลูก และทำให้ลูกเปิดใจยอมเล่าเรื่องราวให้ฟัง เพราะเวลาเขาเครียดหรือร้องไห้ พวกเขาจะเก็บเอาไว้คนเดียวเงียบๆ กลัวว่าพอบอกแล้วจะโดนซ้ำเติมจากพ่อแม่อีก และครูก็คือตัวการสำคัญเช่นกันที่ทำให้เด็กๆคิดว่าโรงเรียนคือนรก ตื่นมาแต่ละวันก็ไม่สดใส ไม่มีกะจิตกะใจอยากไปโรงเรียน สังคมควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ให้มาก เพราะเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ก็เกิดขึ้นตลอดแต่ก็ถูกเมินเฉยทุกทีไป
อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงตัวเองตอนประถมเลย สมัยนั้นมีหัวโจกมาเฟียเด็ก
แกล้องกันบ่อยๆ พูดจากเสียแทงรวมทั้ง
โดนแบนทั้งชั้น ครูบางคนก็นะ พูดจาไม่ดี อี่ไม่สวย บลาๆ(คำพูดครู) จนสุดท้ายตัดสินใจเหมือนน้องเลยเพราะไม่อยากไปโรงเรียน อยากเป็นผีไปแก้แค้นเด็กๆพวกนั้น
เลยเก็บตัวในห้องไม่ไปไหน ไม่พูดกับใคร และตัดสินใจตายๆไปซะ
แต่บางทีชีวิตยังไม่ถึงเวลา พอดีน้ามาหาที่บ้านแม่เห็นเงียบไปเลยมาดูสุดท้าย เลยไม่ตาย