สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... ช่วงนี้คงไม่มีข่าวไหนร้อนระอุไปมากกว่า #แอร์กราบ เรื่องเริ่มจากผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งได้เดินทางพร้อมกับลูกสาวที่ป่วยและมีร่างกายไม่สมบูรณ์ เมื่อลูกเรือได้เข้ามาสอบถามว่า ลูกสาวเป็นอะไร? เธอกลับไม่พอใจลูกเรือคนนั้นที่ได้เข้ามาถามเพราะคิดว่าลูกเรือพูดจาเหมือนดูถูก จึงติดต่อไปยังสายการบินให้แสดงการขอโทษ โดยที่ลูกเรือคนนั้นต้องก้มกราบ ..... กระแสบนโลกออนไลน์นั้นดุเดือดมากๆ ถึงขั้นที่ CEO ใหญ่ของสายการบินต้องบินจากมาเลเซียเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ย้อนไปเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน เคยมีเรื่องราวคล้ายกันเกิดขึ้นกับสายการบินสัญชาติเกาหลีใต้ และเป็นข่าวดังไปทั่วโลก แถมผู้โดยสารที่เริ่มเรื่องก็ไม่ใช่ผู้โดยสารทั่วไป เพราะมีตำแหน่งเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของสายการบินเสียเองด้วยค่ะ
เรื่องเกิดเมื่อเดือนธันวาคมปี 2014 ที่สนามบิน John F. Kennedy รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กับเที่ยวบิน KE86 ซึ่งกำลังจะออกเดินทางจากนิวยอร์กมายังกรุงโซล เกาหลีใต้ พร้อมกับผู้โดยสาร 250 ราย
ผู้โดยสารหญิงนามว่า โชฮยอนอา วัย 40 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของประธานสายการบิน Korean Air และมีตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของสายการบิน ได้โดยสารเที่ยวบินนี้ในชั้น First Class ซึ่งก่อนเครื่องบินจะบินขึ้น ลูกเรือนามว่า คิมโดฮี ได้นำของว่างออกมาเสิร์ฟ ของว่างดังกล่าวที่ว่าก็คือ ถั่วแมคคาเดเมีย
ฟังดูก็เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ลูกเรือได้นำถั่วนั้นมาเสิร์ฟทั้งถุง สร้างความไม่พอใจให้แก่โชฮยอนอาเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้เสิร์ฟใส่จานมาให้! โชฮยอนอาได้เรียกลูกเรือคนดังกล่าว รวมถึงหัวหน้าลูกเรือในเที่ยวบินนั้น พักชังจิน มาถามถึงมาตรฐานการทำงาน และขึ้นเสียงต่อว่าลูกเรืออย่างรุนแรง สั่งให้เขาไปหยิบคู่มือการบริการมาอ่านให้ฟังว่าต้องเสิร์ฟถั่วด้วยวิธีใดจึงจะถูกต้อง แต่เขาหาหน้าที่พูดถึงการเสิร์ฟถั่วไม่เจอ โชฮยอนอาโมโหอย่างรุนแรง ถึงกับขนาดสั่งไม่ให้นักบินนำเครื่องบินขึ้น ให้กลับไปจอดที่หลุมจอดเหมือนเดิม และไล่ลูกเรือทั้งสองคนลงจากเครื่อง ส่งผลให้เที่ยวบินดีเลย์ไปประมาณ 20 นาที
news.moneta.co.krโชฮยอนอาสั่งให้ลูกเรือคุกเข่าและกล่าวขอโทษเธอ แถมยังใช้ปลายของแท็บเลตตีเข้าที่มือหัวหน้าลูกเรืออีกด้วย
หลังจากเกิดเหตุการณ์ สายการบินได้ออกแถลงการณ์ขอโทษแก่โชฮยอนอา และระบุว่า ด้วยหน้าที่งานของหล่อนซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง ทำให้ต้องคอยตรวจสอบความเรียบร้อยของการบริการบนเครื่องบิน จึงต้องขออภัยต่อความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น ต่อมา โชฮยอนอาได้เข้ารับของที่ระลึกเป็นโมเดลเครื่องบินและปฏิทินเพื่อแสดงความขอโทษจากสายการบิน ส่วนลูกเรือที่เกี่ยวข้องได้ถูกพักงาน
ทีมลูกเรือตั้งใจว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ออกไปสู่สาธารณะ เรื่องก็เหมือนจะจบใช่มั้ยคะ แต่มันไม่จบแค่นั้น เพราะโชฮยอนอาได้พยายามปล่อยข่าวเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับลูกเรือและหัวหน้าลูกเรือทั้งสองรายว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน สุดท้ายหัวหน้าลูกเรือจึงตัดสินใจว่าจะออกมาพูดเรื่องที่เกิดขึ้น
สายการบินได้พยายามติดต่อไปยังหัวหน้าลูกเรือ เพื่อขอให้เขาสัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวและกล่าวต่อสำนักงานการขนส่งของเกาหลีว่า เขาเต็มใจลาออกเอง รวมถึงทั้งฝ่ายผู้ช่วยของโชฮยอนอาก็ได้ติดต่อทั้งตัวลูกเรือและหัวหน้าลูกเรือว่าให้พูดโกหกต่อสื่อ แต่ตัวหัวหน้าลูกเรือนั้นรู้สึกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นดูไม่น่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะแม้แต่ผู้จัดการสายการบินยังได้มาขอร้องให้ปกปิดเรื่องนี้ไว้ เขาจึงตัดสินใจเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นทั้้งหมดให้สื่อได้รับทราบ
นอกจากนี้ ยังมีพยานในที่เกิดเหตุ นั่นก็คือผู้โดยสารชั้น First Class รายอื่นๆ ที่ออกมาเล่าว่า เหตุการณ์จริงๆ นั้นเป็นยังไง โชฮยอนอาได้ขว้างถั่วใส่ลูกเรือแถมยังทำร้ายร่างกายพวกเขาอีกด้วย ข่าวนี้เริ่มดังออกไปเรื่อยๆ ผู้คนจำนวนมากเริ่มวิจารณ์การกระทำของโชฮยอนอา
yonhapnews.com
เมื่อข่าวกระจายออกไป เริ่มมีการขุดคุ้ยเรื่องของโชฮยอนอา ว่าในปี 2013 ก็เคยมีขู่ทำร้ายร่างกายลูกเรือที่เสิร์ฟบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยังไม่สุกให้แก่หล่อน แต่สายการบินกลับเงียบ ไม่ออกมาพูดถึงเรื่องนี้
ผู้คนได้เรียกร้องให้โชฮยอนอาลาออกจากตำแหน่งรองประธานสายการบิน Korean Air หล่อนบอกว่าหล่อนจะลาออก แต่ก็ยังคงทำงานต่อไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ohmynews.com
จากภาพบน ผู้คนได้ออกมาเรียกร้องให้จัดการกับเรื่องนี้ ข้อความบนกระดาษมีใจความคร่าวๆ ว่า ... หรือความสัมพันธ์ในครอบครัวจะใหญ่กว่ากฎหมายและความปลอดภัย? แม้จะเป็นผู้บริหารก็ใช่ว่าจะกระทำเรื่องแย่ๆ กับพนักงานได้
สุดท้าย เมื่อถูกโจมตีอย่างหนัก ประธานสายการบิน Korean Air หรือพ่อของโชฮยอนอา โช ยางโฮ ได้ออกมาขอโทษต่อ "การกระทำที่โง่เขลา" ของลูกสาวของเขา รวมถึงได้ส่งตัวแทนไปพบตัวลูกเรือและหัวหน้าลูกเรือที่โดนไล่ออกเพื่อขออภัยต่อเรื่องที่เกิดขึ้น (แต่ทั้งคู่ไม่อยู่บ้าน)
จากข่าวนี้ ทำให้ยอดผู้โดยสารที่ใช้บริการเที่ยวบินภายในประเทศของ Korean Air ตกลงไป 6.6% ในเดือนนั้น
มีการสอบสวนโชฮยอนอา กินระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ผลสรุปคือ เธอถูกลงโทษด้วยข้อหาข่มขู่ด้านความปลอดภัยของการบิน เธอถูกจำคุก 10 เดือน ต้องทำงานบริการสาธารณะอีก 2 ปี และได้ลาออกจากตำแหน่งงานบริหารที่สายการบิน Korean Air ส่วนลูกเรือที่เกี่ยวข้องได้กลับไปทำงานตามเดิม
ohmynews.com
คนเกาหลีได้เรียกข่าวนี้ว่า 땅콩 회항 แปลว่า การเดินเครื่องบินกลับของถั่ว
คลิปจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เนื้อหาประกอบ : www.cnn.com
www.forbes.com
www.forbes.com
5 ความคิดเห็น
ขึ้นชื่อว่าอำนาจ ใครที่หลงกับมันมีอันต้องเสียใจในท้ายที่สุด
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า ในต่างประเทศก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ แม้จะมีอำนาจเพียงใด สุดท้ายความจริงย่อมเปิดเผย (ทำเป็นโคนันไปได้)
ความคิดเห็นของข้าพเจ้าเอง ใครคิดต่างเชิญเม้นห้องจ้า~
แหม่ ถ้าเป็นเมืองไทยละเงียบกริบแน่ สายการบินคงไม่จัดการอะไรหรอก อาจเป็นเพราะกฎหมายบ้านเราไม่ค่อยบังคับใช้กันอย่างรุนแรงเท่าไหร่
ถ้าเป็นประเทศไทยคงโดนตราหน้าไปจนวันตายแน่นอน