"สามัคคีเกมส์" กีฬาสีนักเรียนไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ

      สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D.com ช่วงนี้มหาวิทยาลัยในต่างประเทศเปิดเทอมฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงประเทศอังกฤษด้วย น้องหลายๆ คน ที่ชอบทำกิจกรรม แต่ต้องไปอยู่แดนไกลนั้น ไม่ต้องกลัวไปนะคะว่าจะเหงา วันนี้พี่จะพามารู้จักสามัคคีเกม กิจกรรมกีฬาสุดเจ๋ง ที่เป็นแหล่งรวบรวมนักเรียนไทยในอังกฤษมาประชันความสามารถด้านกีฬากัน น้องๆ จะได้เจอเพื่อนๆ คนไทยทั่วสหราชอาณาจักก เรียกว่า เม้าท์กันมันส์ ไม่ต้องเกรงใจฝรั่งและจะสนุกสุดเหวี่ยงไปกับปาร์ตี้ยามค่ำคืนแบบลืมความเหงาไปเลย มาดูกันดีกว่าว่างานนี้มีอะไรบ้าง


 

       สามัคคีเกมส์  (Samaggi Games) เป็นกีฬาสีสำหรับนักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ในสหราชอาณาจักร จะว่าเป็นงานกิจกรรมของคนไทยในประเทศอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงปลายภาคเรียนที่สอง (ประมาณช่วงต้นปี กุมภาพันธ์ หรือ มีนาคม) เป็นประจำทุกปี โดยสถานที่จัดก็จะเวียนไปตามหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ยินดีจะจะเป็นเจ้าภาพ 

       สามัคคีเกมส์ถูกจัดขึ้นโดย สามัคคีสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือจะเรียกว่า สมาคมนักเรียนไทยในประเทศสหราชอาณาจักรก็ได้ ซึ่งแรกเริ่มก่อตั้งโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6 ในปี 2444 โดยเป็นสมาคมที่มีเป้าหมายประสงค์เพื่อช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา แก่บรรดาประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ปัจจุบันทางสมาคมมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ ด้วย เช่น คอนเสิร์ตต่างๆ 


       งานนี้มีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมกว่า 50 แห่ง มีนักศึกษาไทยกว่า 1,000 คน กิจกรรมนี้ถูกจัดต่อเนื่องมายาวนานหลายปี จนตอนนี้ก็ร่วม 115 ปีแล้ว ซึ่งจุดประสงค์หลักก็จัดขึ้นมาเพื่อกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างนักศึกษาแต่ละสถาบัน เปิดโอกาสให้มีการแข่นขันกีฬาร่วมกัน สร้างเสริมน้ำใจนักกีฬา และทำให้รู้จักเพื่อนต่างสถาบันมากขึ้น กีฬาที่จัดขึ้นในทุกปีก็เป็นกีฬาทั่วๆ ไป ได้แก่ วิ่ง ฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล เทนนิส สควอช แชร์บอล แบดมินตัน เซปักตะกร้อ ปิงปอง เป็นต้น ซึ่งแต่ละปีก็จะไม่เหมือนกันตลอด บางปีจะมีเล่นหมากรุก และ ชักเย่อด้วย ส่วนใหญ่การแข่งขันจะถูกจัดขึ้นแบบเป็นทีม ไม่ค่อยมีแข่งแบบเดี่ยวๆ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ 

       งานนี้จะจัดขึ้นเพียงวันเดียวเท่านั้น ดังนั้นนักศึกษาที่เดินทางมาไกล มักจะนั่งรถไฟหรือรถบัสมากันก่อนล่วงหน้าหนึ่งวัน จองที่พักโรงแรงที่ใกล้บริเวณมหาวิทยาลัยเจ้าภาพ แล้วค่อยกลับวันหลังจากจบงานอีกวัน บางคนมาไกลจากสก็อตแลนด์  นั่งรถไฟมากัน 5-10 ชั่วโมงก็มี หรือถ้าไม่ไกลมากก็อาจจะต้องตื่นตั้งแต่ ตี 3 ตี 4  เพื่อนั่งรถไฟหรือรถบัสกันมา ส่วนนักศึกษามหาวิทยาลัยใกล้ๆ ส่วนใหญ่จะเดินทางตอนช่วงเช้าของวันนั้น ยิ่งตัวรถไฟเข้าใกล้เมืองเจ้าภาพเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเจอนักเรียนไทยขึ้นมาบนขบวนรถไฟในสถานีต่างๆ มากขึ้นเท่านั้น มันเป็นภาพแบบ อ้าวเฮ้ย! คนไทยนี่! จะไปสามัคคีเกมส์เหมือนกันใช่ป่ะ บลาๆๆๆ เริ่มคุยกันยาวๆ ไป อย่างกับงานพบญาติ บรรยากาศก็ครึกครื้นขึ้นเรื่อยๆ 


       จนก้าวเข้าสู่โรงยิม ในวันงานก็จะเริ่มด้วยพิธีเปิดตั้งแต่เช้า ให้นักศึกษาเข้ามาลงทะเบียน แจกบัตรเข้างานที่เป็นสายรัดข้อมือ เราถูกจัดให้นั่งเป็นแถวๆ นักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีเสื้อที่ถูกออกแบบมาสวยงาม ใส่มาประชันกัน ยังไม่พอ นักกีฬาแต่ละคนก็ยังมีเสื้อทีมอีกด้วย พอได้เวลาอันเหมาะสมก็เริ่มแข่งกีฬา ซึ่งกีฬาแต่ละประเภทจะถูกแบ่งไปอยู่ในสนามต่างๆ โดยนักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัยจะถูกแบ่งจาก Thai Society ซึ่งจะไม่ตายตัวนักว่าจะแบ่งตามมหาวิทยาลัย หรือ แบ่งตามเขตเมือง เพราะบางมหาวิทยาลัยมีจำนวนนักเรียนไทยเยอะ อย่าง University of Reading ที่มีคนไทยร่วมหลายร้อยคน ก็จะสามารถตั้ง Thai Society ของตัวเองได้เลย แต่บางมหาวิทยาลัยมีจำนวนคนไทยน้อย ก็จะต้องเอาคนมารวมกัน เพื่อให้สร้างเป็นทีมเดียว อย่างเช่น Liverpool Thai Society นี่ก็จะรวมทั้งนักเรียนจาก University of Liverpool และ Liverpool John Moores University แต่เอาจริงๆ ในเมือง Liverpool นั้น ยังมี Liverpool Hope University อยู่อีกที่นึงด้วย แต่รู้สึกว่าจะไม่มีคนไทยอยู่เลยค่ะ บางทีมคนน้อยมากๆ เลยจะไม่มีนักกีฬาตัวสำรอง ทำให้ตัวจริงทุกคนต้องเต็มที่ แข็งแกร่ง ห้ามเจ็บ ห้ามเหนื่อย ห้ามพัก ห้ามตาย ไม่งั้นคนไม่พอ นักกีฬาบางทีมจะมีกองเชียร์กับเชียร์ลีดเดอร์มาด้วย ก็เป็นสีสันที่ทำให้ดูคึกคักมากขึ้น 


       กีฬาบางอย่างเล่นในโรงยิม บางอย่างเล่นข้างนอก อากาศก็เย็นๆ หน่อย จริงๆไม่หน่อยหรอก เรียกว่าหนาวเลยดีกว่า เพราะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม เนี่ย อุณหภูมิก็อยู่ที่ 0-10 องศา นักกีฬาที่ใส่ขาสั้นวิ่งเล่นอยู่ข้างนอกต้องมีสั่นกันบ้างแน่ๆ บางคนเล่นเสร็จมือไม้ชาไปหมด แต่กีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอล ก็ยังคงมีคนมาดูแน่นทุกปี มายืนเต้นๆ กระโดดๆ กันเพียบ ไม่ใช่ท่าเชียร์นะ แต่เค้าหนาวกัน 555 เลยต้องขยับตัวกันบ่อยๆ หน่อย 

      อยากบอกว่างานนี้เป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ มันทำให้เราได้รู้จักเพื่อนมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่ต่างคณะหลายคนเลย ทุกคนเต็มที่กันมาก มีจัดตำแหน่ง คิดวิธีส่งซิก มีไปหาเสื้อ สกรีนมาให้เหมือนๆ กัน เพื่อให้ดูมีความเป็นทีม มีการไปบอกต่อเพื่อนๆ ให้เตรียมตัวมาเป็นกองเชียร์ เราจริงจังกันมาก ตั้งใจยิ่งกว่าตอนเรียนอีก ทุ่มเทกับการซ้อมและเตรียมตัวสุดๆ หวังว่าเราจะต้องได้ที่หนึ่งมาครองแน่ๆ 
   
      พอถึงวันจริง ก็ตามชื่องานเลยคืองานกีฬาสามัคคีเกมส์ จัดขึ้นมาเพื่อความสามัคคีของนักศึกษา ดังนั้นชัยชนะก็เลยไม่ได้สำคัญอะไรมาก พอแข่งกีฬาเสร็จ เย็นๆ ก็จะมีการเรียกรวมตัวเพื่อไปรอฟังงานประกาศผลรางวัล เป็นอันเสร็จสิ้น หลังจากนั้นบางคนใช้โอกาสนี้ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ รอบๆ เมือง และมีกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยซึ่งก็คือ After Party ที่เป็นปาร์ตี้ยามค่ำคืนหลังจากการแข่งขันกีฬาจบสิ้นลง บางปีจะมีคอนเสิร์ตสนุกๆ ในงานนี้ด้วย แต่งานนี้ส่วนใหญ่จะต้องเสียเงินค่าเข้า นักศึกษาที่ตั้งใจนอนค้างบริเวณนั้นอยู่แล้วก็จะมากัน ในงานก็มีกินดื่ม สังสรรค์ คุยกัน อารมณ์ไทยๆ เพราะมีแต่คนไทย

   
 
     
 
      เป็นไงคะ อ่านแล้วก็อยากไปเลยใช่มั้ย  กิจกรรมต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งรสชาติของชีวิตที่น้องๆ ควรเข้าร่วม อีกทั้งเป็นโอกาสดีที่น้องๆ จะได้ไปผ่อนคลายความตึงเครียดจากการเรียน ได้ไปเปิดโลก เห็นอะไรใหม่ๆ เป็นประสบการณ์ดีๆ ที่พี่เชื่อว่าไม่ควรพลาดเลย

ภาพประกอบ https://www.facebook.com/SamaggiSamagom/photos/?tab=albums
ทีมเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น