11 เรื่องน่ารู้ การใช้ชีวิตใน "ประเทศอังกฤษ"

     สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D.com น้องๆ ที่กำลังไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ ก็คงจะต้องเจอสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างออกไปจากบ้านเรา การเตรียมพร้อมในเรื่องต่างๆ ก็คงจะสำคัญไม่น้อย วันนี้พี่จะมาเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับเรื่องรอบตัวต่างๆ ที่น้องๆ จะต้องเจอในชีวิตประจำวันขณะที่อยู่ในประเทศอังกฤษ มาดูกันค่ะ

pixabay.com

มารยาทบนโต๊ะอาหาร

    
       เรื่องนี้สำคัญมากทีเดียวสำหรับคนต่างชาติซึ่งอาจไม่เข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ทริคที่ควรจำไว้ใช้ ได้แก่

- ห้ามเอามีดเข้าปาก เพราะถือว่าไม่สุภาพมากๆ

- เวลาทานอาหารเส้นอย่างสปาเกตตี้ ให้นำส้อมคว่ำลงแล้วหมุนเส้นเป็นวงกลมเรื่อยๆ จนสุดได้คำพอดี จากนั้นค่อยๆ รับประทาน

- วิธีการใช้ส้อมที่ถูกต้อง เวลาเข้าปากให้คว่ำส้อมลง

- บางครั้งเจอช้อนส้อมเยอะแยะ อาจงงและใช้ไม่ถูก ให้หยิบจากด้านนอกเข้าด้านใน เพราะขนาดของอุปกรณ์สัมพันธ์กับอาหารที่นำมาเสิร์ฟ เริ่มจากอาหารเบาๆ ก่อน แล้วตามด้วยอาหารหนัก

-  สำหรับตำแหน่งภาชนะต่างๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะกลมให้สังเกตและระลึกไว้ว่า แก้วน้ำจะอยู่ด้านขวามือ ตรงข้ามกับจานใส่ขนมปัง ซึ่งอยู่ตรงซ้ายมือ

น้ำดื่ม

       แต่ละโซนของประเทศอังกฤษจะแบ่งความสะอาดของน้ำต่างกัน น้ำก๊อกด้านน้ำเย็นสามารถดื่มได้เลย ถ้าให้ดีเปิดทิ้งไว้อย่างน้อย 30 วินาทีก่อน แล้วค่อยรินใส่แก้ว ส่วนฝั่งน้ำร้อนห้ามดื่ม เพราะมีการใส่สารฆ่าเชื้อ บางโซนที่น้ำค่อนข้างสกปรก ควรซื้อเครื่องกรองน้ำเล็กๆ ที่เรียกว่า Water Filter เครื่องละประมาณ 15 - 20 ปอนด์ (ประมาณ 650 – 855 บาท) แล้วเปลี่ยนไส้กรองทุกๆ สามเดือน หาซื้อได้ตามร้าน Argos หรือ Boots สำหรับคนที่อนามัยหน่อยอาจเลือกซื้อน้ำขวดแพ็คแบบหกขวดตุนไว้ดื่มก็ได้

ไปรษณีย์

      วิธีส่งจดหมายในประเทศมีสองแบบ ต่างกันตรงความช้าและเร็ว เพียงแค่ติดแสตมป์ระบุแบบที่เลือกก็ส่งได้แล้ว แต่จดหมายบางประเภทต้องให้ผู้รับลงชื่อด้วย ซึ่งต้องเพิ่มเงินอีก 72 เพนนี (ประมาณ 30 บาท) เพื่อส่งแบบลงทะเบียน ส่วนพัสดุช่างราคาตามน้ำหนักดังนี้

First class: ราคา 34 เพนนี (ประมาณ 15 บาท) ใช้เวลา 1-2 วัน

Second class: ราคา 24 เพนนี (ประมาณ 10 บาท) ใช้เวลา 3 วันขึ้นไป

Recorded Signed: ราคา 72 เพนนี (ประมาณ 30 บาท)

      สำหรับการส่งของมาเมืองไทย ถ้าเป็นพัสดุให้ใส่ของได้ไม่เกิน 2 กิโลกรัม ถ้าเกินจากนี้ราคาค่าส่งจะสูงขึ้นลิบลิ่วตามขีด ลองเปรียบเทียบดูระหว่างแยกกล่องรวมกล่องอย่างไรจะประหยัดกว่ากัน ซึ่งตรงนี้คำนวณค่าส่งได้จาก www.royalmail.com/portal/rm ถ้าใช้บริการบริษัทตัวแทนการรับส่งพัสดุอย่างเช่น DHL ค่าส่งจะแพงมาก แต่สะดวกในเรื่องระยะเวลาและการรับประกันของ ข้อมูลเพิ่มเติม www.dhl.co.uk

pixabay.com

การแลกเงิน

   
      กรณีแลกเงินบาทเป็นเงินปอนด์ นอกจากจะแลกตามธนาคารแล้ว สามารถใช้บริการสถานที่แลกก็ได้ โดยโทรเช็กอัตราแลกเปลี่ยนได้ที่

Super rich Thailand สาขาราชดำริ ร้านสีเขียว โทรศัพท์ 02-253-5559, 02-254-4444

Super rich 1965 สาขาราชดำริ ร้านสีส้ม โทรศัพท์ 02-655-2488-9

Super rich สาขาหลังการบินไทย โทรศัพท์ 02-512-5073, 02-513-8127

การหาหมอ The National Health Service (NHS)

     
      นักเรียนในแต่ละมหาวิทยาลัยมีสิทธิ์ได้รับการรักษาฟรี โดยลงทะเบียนไว้ตั้งแต่แรกเข้า และก่อนพบแพทย์ต้องนัดล่วงหน้า จากนั้นแพทย์จะตรวจเช็กอาการเล็กน้อยแล้วเขียนใบสั่งยาให้เราไปซื้อยาเองตามร้านขายยา เพราะยาบางประเภทต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น ในกรณีที่มาเรียนภาษาคอร์สสั้นๆ อาจไม่ได้ลงทะเบียนกับ NHS ทำให้ต้องหาแพทย์รักษาเอง ซึ่งอาจเป็นแพทย์ประจำตัวของโฮสต์แฟมิลี่ของเราหรือโรงพยาบาลทั่วไป ที่สำคัญควรเช็กราคาก่อน บางแห่งแค่ค่าลงทะเบียนประวัติใหม่ปาเข้าไป 50 ปอนด์ (ประมาณ 2,000 บาท) แล้ว ขนาดยังไม่รวมค่ารักษาเลยนะเนี่ย ข้อมูลเพิ่มเติม www.nhs.uk

pixabay.com

ซักแห้ง

     
       ใครที่มีชุดสุดหวง แบบว่าไม่กล้าลงเครื่องซัก กลัวผ้าเสีย คงต้องพึ่งบริการร้านซักแห้ง ก่อนอื่นต้องเช็กแถบเสื้อผ้า (Clothing Label) ว่ามีป้ายบอกให้ซักให้ได้หรือเปล่า แล้วค่อยไปที่ร้าน ข้อมูลเพิ่มเติมขอแนะนำ www.johnsoncleaners.co.uk

อัดรูป

       ถ้าเป็นภาพจากกล้องดิจิตอล ให้ไปที่ร้าน Jessops และถ้าลงทะเบียนตามเว็บไซต์ไปก่อน จะได้สิทธิ์อัดรูปฟรีจำนวนหนึ่ง  เว็บไซต์เหล่านี้มักจัดโปรโมชั่นหลายรูปแบบ อย่างเช่น ถ้าแนะนำเพื่อนมาลงทะเบียนร้าน สามารถอัดรูปฟรีเพิ่มได้อีก นอกจากนี้ เราสามารถเลือกแบบกระดาษได้ด้วยว่าจะเอาด้านหรือมัน รวมถึงเลือกขอบขาวดำ ซิกแซ็ก ตามใจชอบได้ ข้อมูลเพิ่มเติม www.snapfish.co.uk,  www.photobox.co.uk, www.truprint.co.uk

pixabay.com

หมึกพรินเตอร์ 

      ถ้าสั่งหมึกพรินเตอร์ HP จาก MX2 จะได้ราคาถูกพอๆ กับเมืองไทย ก่อนจะซื้อหมึกพรินต์ตามร้านทั่วไป แนะนำให้ลองเข้าไปเช็กราคากับเว็บไซต์นี้ดูก่อน เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน ข้อมูลเพิ่มเติม ขอแนะนำ www.mx2.co.uk

การเช่ารถ

     

      หากต้องการรถไปเที่ยว มีหลายบริษัทให้เลือกเช่ารถในราคาถูกมาก ต้องลองค้นหาเปรียบเทียบกันเองในแต่ละเมือง สำหรับเว็บไซต์สากลที่ดำเนินธุรกิจด้านนี้พร้อมให้บริการรถที่มีคุณภาพทั้งยังสะสมแต้มกับบัตรหลายประเภท แนะนำให้เช่าจากบริษัท Avis และ Hertz ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม www.avis.co.uk , www.hertz.co.uk

 

     

       คงไม่มีใครอยากเสียค่าเช่าบ้านเพื่อเก็บของโดยเปล่าประโยชน์ ที่อังกฤษมีบริการฝากของกับห้องเก็บของ Storage Room มีให้เลือกหลายขนาด คิดราคาค่าฝากตามรายสัปดาห์หรือรายเดือน มีแถมบ้างมีส่วนลดต่างๆ เหมาะสำหรับนักเรียน ลองส่งรายละเอียดจำนวนของให้ประเมินราคาก่อนก็ได้ แต่เตือนก่อนว่า ถึงจะเป็นบริษัทเดียวกัน จำนวนชิ้นของเท่าๆ กัน แต่ราคาค่าฝากอาจจะไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวค่าเช่าของแต่ละเมืองด้วย ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม www.accessstorage.com, www.personalstorage.uk.com, www.safestroe.co.uk

การส่งของกลับไทย (Shipping)

       เมื่อเรียนจบแล้ว ก็ถึงเวลาขนของกลับไทย ถ้าของเยอะมากจนขนกลับไม่ไหว แนะนำให้แชร์กับเพื่อนๆ หลายๆ คน ยิ่งเยอะยิ่งประหยัด สำหรับวิธีการส่งที่รวดเร็วที่สุดคือ ติดต่อคาร์โก้สายการบินที่เราเดินทางด้วย ว่าสามารถรับของเราในไฟลต์ที่เราเดินทางกลับหรือระหว่างช่วงนั้นได้หรือไม่ ถ้าได้ก็สะดวกสบายเลย แต่ถ้าต้องการประหยัด แนะนำให้ส่งทางเรือ โดยมีบริษัทขึ้นชื่อสองเจ้าคือ Sevenseas และ Allfreight ข้อมูลเพิ่มเติม www.sevenseas.co.uk, www.allfreight.co.uk ส่วนขั้นตอนการส่งของก็ตามนี้เลย

- ทำการเลือกประเภทของการส่ง ซึ่งแบ่งเป็นการส่งถึงบ้าน Door to door และการส่งที่ท่าเรือ Door to port แนะนำให้ส่งแบบถึงบ้านเลย เพราะสะดวกสบายตรงถึงบ้าน ส่วนแบบส่งที่ท่าเรือบางคนอาจจะต้องเจอเรียกเก็บภาษีด้วย

- เลือกขนาดกล่อง ปกติจะสั่งกล่องแบบ Tea Chest Box ขนาดมาตรฐาน บริษัทจะมีบริการส่งกล่องฟรีพร้อมทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการแพ็คไปให้ที่บ้านเลย

- นัดวันเวลาให้เจ้าหน้าที่มารับของแล้วจัดการชำระเงินให้เรียบร้อย

- เมื่อครบตามระยะเวลาที่กำหนด ของจะเข้าที่ท่าเรือ จากนั้นบริษัทจะโทรติดต่อให้เรานำพาสปอร์ตมาทำเรื่องในการรับของ

- รอไม่เกินสองสัปดาห์ เมื่อดำเนินเรื่องเสร็จของทั้งหมดจะถูกจัดส่งตามที่อยู่ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

       เป็นไงกันบ้างคะ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว และไม่ว่าน้องจะอยู่ประเทศใดก็ตาม เราก็ควรจะรู้จักวิธีการดำเนินชีวิตตามสิ่งแวดล้อมนั้นๆ เพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายค่ะ^^