สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com บนโลกใบนี้มีบุคคลที่มีความสามารถมากมายและเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน พี่นิทาน เชื่อว่าใครๆ ก็ต้องมีไอดอลหรือคนในดวงใจที่ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเราก็รู้สึกยกย่องและอยากเอาเยี่ยงอย่าง วันนี้พี่เลยอยากจะแนะนำผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความสามารถและน่าสนใจและยังเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจให้ตัวพี่เองด้วย ลองมารู้จักเขาเลยดีกว่าค่ะ
ไม่นานมานี้พี่ได้มีโอกาสดูหนังสารคดีของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ลาเลห์ หรือ Laleh Pourkarim (ชื่อภาษาอิหร่าน) เนื่องจากติดตามผลงานของเธอมาสักพัก ลาเลห์เป็นนักร้องแถวหน้าๆ ของประเทศสวีเดนที่หากพูดชื่อเธอขึ้นมาไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักชื่นชมและพูดถึงเธอในแง่ดีอยู่เสมอ สาเหตุที่คนทั้งประเทศรักเธอขนาดนี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าผลงานเพลงของเธอเท่านั้น แต่เรื่องราวชีวิตและสิ่งที่เธอทำนั้นมันน่าทึ่งกว่านั้นเยอะเลย
หนังสารคดีที่ว่านั้นมีชื่อว่า "Jag är inte beredd att dö än" ที่แปลเป็นภาษาไทยได้ประมาณว่า "ฉันยังไม่พร้อมที่จะตายตอนนี้" ชื่อหนังอาจฟังดูหดหู่และน่าเศร้า แต่หนังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตและชีวิตประจำวันของเธอที่ทำให้คนดูรู้สึกมีแรงบันดาลใจขึ้นมาทันที แต่ก่อนที่จะเล่าว่าหนังมีอะไรบ้างพี่ขอย้อนกลับไปสัก 4 ปี ตอนที่ลาเลห์เขียนเพลงหนึ่งออกมา ซึ่งเป็นเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งมากเพลงมีชื่อว่า "Some Die Young"
Some Die Young ไม่ใช่เพลงที่หมายถึงคนที่ตายตอนอายุน้อยๆ แต่เป็นเพลงที่พูดถึงใครก็ตามที่ต้องเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร เพลงของลาเลห์มักมีเรื่องเกี่ยวกับชีวิตและความตายเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าลาเลห์ไม่ได้เขียนเพลงเศร้านะคะ ทุกๆ เพลงของเธอจะให้ความรู้สึกปลอบโยนและมีความอบอุ่นอยู่เสมอ เพราะเธอบอกว่าบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่เศร้าเกินไป และไม่มีอะไรที่สุขเกินไป แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีก็เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ประเทศนอร์เวย์ (เหตุโจมตีในนอร์เวย์ พ.ศ. 2554 ที่เกาะ Utøya) จึงทำให้เพลง Some Die Young ของลาเลห์กลายเป็นเพลงรำลึกและไว้อาลัยให้กับเหตุการณ์นี้
ลาเลห์เกิดที่ประเทศอิหร่านเมื่อปี 1982 (ตอนนี้อายุ 34 ปี) ในช่วงที่มีการปฏิวัติอิสลาม หลังจากนั้นเธอกับครอบครัวก็ต้องย้ายถิ่นฐานไปยังที่ต่างๆ อยู่เสมอ เนื่องจากคุณพ่อของเธอเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องและเคลื่อนไหวทางการเมือง เธอย้ายจากอิหร่านไปรัสเซีย เยอรมัน และสุดท้ายมาลงเอยที่ประเทศสวีเดน แต่เมื่ออายุ 11 ปี ลาเลห์ก็ต้องเสียพ่อไปจากเหตุการณ์ช่วยเหลือคนจมน้ำ หลังจากนั้นเลยต้องเติบโตมากับแม่เพียงสองคน และนั่นก็ทำให้เธอเติบโตมาเป็นผู้หญิงที่แกร่งและมีมุมมองเกี่ยวกับชีวิตที่ลึกซึ้ง
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ลาเลห์เริ่มค้นพบว่าตัวเองสนใจในดนตรี เธอเข้าเรียนโรงเรียนดนตรีและได้มีโอกาสร้องเพลง และเธอก็ทำมันได้ดี จนทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพนักร้องของเธอ จริงอยู่ที่บนโลกนี้มีนักร้องมากมายหลายล้านคน แต่เพลงของลาเลห์มักมีความหมายที่เกี่ยวกับชีวิตและให้กำลังใจคนอยู่เสมอ อาจเป็นเพราะว่าเธอรู้ว่าชีวิตไม่ได้ง่ายและสวยหรูอย่างในละคร แต่เมื่อชีวิตยังดำเนินต่อไปเราก็ควรจะใช้มันอย่างมีความหมาย เพลงต่างๆ ของเธอจึงมักให้กำลังใจและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่นเพลงที่มีชื่อว่า "Goliat" (หรือภาษาอังกฤษ Goliath ที่แปลว่าคนที่แข็งแกร่งและมีพลัง) เพลงนี้ยังถูกใช้เป็นเพลงที่เด็กๆ เอาไว้ร้องเวลาเรียนจบป.6 หรือชั้นมัธยมอีกด้วยเพราะมีความหมายน่ารักๆ ที่พูดประมาณว่า "สักวันเราจะเติบใหญ่ เราจะแข็งแรง เราจะทำโลกนี้ให้สวยงามด้วยกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะฝ่าฟันมันไปได้ เพราะเราคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด และเมื่อวันนั้นมาถึง เราจะไม่ทำร้ายกันอีกต่อไป"
ลาเลห์ตอนร่วมงานกับ Unicef
ลาเลห์ตอนไปบรรยายเรื่องเกี่ยวกับสิทธิของเด็กที่ UN
นอกจากนั้นลาเลห์ยังค่อนข้างสนับสนุนสิทธิต่างๆ ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา เรื่องของการอพยพ (ที่สวีเดนจะค่อนข้างสนับสนุนในเรื่องของการต้อนรับผู้ลี้ภัย และตัวเธอเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยลี้ภัยมาที่นี่ด้วย) เรื่องของความยากจน และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะเธอรู้ดีว่าวัยเด็กเป็นวัยที่สดใสบริสุทธิ์และเราควรจะให้โอกาสเขาอย่างเต็มที่ จึงไม่แปลกหากดูคลิปคอนเสิร์ตต่างๆ ของลาเลห์แล้วจะเห็นเด็กตัวเล็กๆ คอยตะโกนร้องเรียกชื่อลาเลห์ เพราะเธอรักเด็กและยังมีปฏิสัมพันธ์กับคนดูอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
กับเด็กๆ ที่งานคอนเสิร์ต
Photo credit : Youtube
ถ่ายรูปกับนาย Stefan Löfven นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของสวีเดน
หนังสารคดีชีวิตของลาเลห์ที่พูดถึงเมื่อตอนต้นนั้นเป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของเธอตั้งแต่ยังเด็กจนถึงปัจจุบัน ดูเผินๆ อาจเป็นแค่หนังเกี่ยวกับคนๆ หนึ่งทั่วไปเท่านั้น แต่เมื่อได้ลองดูเองแล้วก็รู้สึกว่าเป็นหนังที่เป็นแรงบันดาลใจในหลายๆ ด้านเยอะมาก เพราะจากการที่หนังถ่ายทอดชีวิตและอาชีพนักร้องของเธอนั้นทำให้เห็นถึงเบื้องหลังของการทำงานอย่างตั้งใจ การทำตามความฝัน ความเชื่อมั่นในตัวเองจนประสบความสำเร็จ หลายคนเคยพูดว่าลาเลห์ไม่ได้เป็นแค่นักร้องเท่านั้น แต่เธอยังเป็นเหมือนนักปรัชญาที่คอยแฝงแง่คิดดีๆ อยู่ในเนื้อเพลงของเธอเสมอ นอกจากนั้นลาเลห์ไม่ได้แค่ร้องเพลงอย่างเดียวนะคะ แต่เธอยังเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับผลงานเพลงของตัวเองด้วย เสียงดนตรีต่างๆ ที่อยู่ในเพลงของเธอส่วนมากเธอมักจะแต่งเอง เล่นเอง และอีกเรื่องที่โดดเด่นที่สุดของเธอคือเธอมีวงออเคสตร้าเป็นของตัวเองที่มักเล่นดนตรีกันสดๆ ในคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ที่สวีเดนด้วยค่ะ
นอกจากผลงานเพลงที่โดดเด่นมากมายถึง 6 อัลบั้มแล้ว ลาเลห์ยังเคยได้รับรางวัลมามากมายในหลายๆ สาขา ไม่ว่าจะเป็นรางวัลอันดับเพลงติดชาร์ตต่างๆ ของทั้งในสวีเดนและประเทศใกล้เคียง (นอร์เวย์ และอื่นๆ), รางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งปี (2005), ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี (2005), โปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยมแห่งปี (2005), ศิลปินหญิงยอดเยี่ยม (2006, 2012), นักแต่งเพลงยอดเยี่ยมแห่งปี (2012), และในปี 2013 ได้แก่ศิลปินยอดเยี่ยมแห่งปี, เพลงยอดเยี่ยมประจำปี (Some Die Young), นักแต่งเพลงยอดเยี่ยมแห่งปีค่ะ
กับ Adam Lambert ที่งาน American Idol เมื่อต้นปี 2016
ปัจจุบันลาเลห์ย้ายไปอยู่ที่เมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมากมายโดยทั้งแต่งเพลงให้และเป็นโปรดิวเซอร์ให้นักร้องต่างๆ ดังนี้ Adam Lambert, Ellie Goulding, Demi Lovato, Tori Kelly และ Shawn Mendes ค่ะ
ลาเลห์เป็นศิลปินอีกคนของสวีเดนที่มีชื่อเสียงในด้านการแสดงคอนเสิร์ต โดยทุกครั้งที่เธอจัดคอนเสิร์ตหรือไปร้องเพลงตามเทศกาลต่างๆ บัตรมักจะถูกจองเต็มอย่างรวดเร็วเสมอ บางคอนเสิร์ตของเธอมีคนเข้าชมมากถึงกว่า 7,000 คนเลยทีเดียว
และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พี่ก็ได้มีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตของลาเลห์ด้วยตาตัวเองที่ประเทศสวีเดน และที่น่าประทับใจไปกว่านั้นคือได้คุยกับลาเลห์และถ่ายรูปด้วยกันหลังคอนเสิร์ต ขอบอกว่าเป็นความทรงจำที่มีค่าและน่าประทับใจมากค่ะ ตัวจริงน่ารัก อัธยาศัยดีเหมือนที่เห็นในรูปเลย
.jpg)
บางครั้งคนๆ หนึ่งก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนบนโลกเลยนะคะ สำหรับพี่เองถึงแม้จะไม่ได้เป็นนักดนตรีหรือทำอะไรแบบลาเลห์ แต่หลายๆ อย่างที่ลาเลห์ทำก็เป็นแรงบันดาลใจให้พี่เสมอมา ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดในชีวิต การงาน มุมมองต่อสิ่งต่างๆ ของเขาก็ทำให้พี่ยกย่องและอยากจะเก่งให้ได้แบบเขาบ้าง ในเพลงหลายๆ เพลงในอัลบั้มล่าสุดของลาเลห์จะพูดย้ำอยู่เสมอถึงการเป็น "ตัวของตัวเอง" ที่ให้กำลังใจกับทุกคน ทุกวัย ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ที่ไหนขอให้เป็นตัวเองอยู่เสมอ เพราะไม่มีใครที่รู้จักเราเท่าตัวเราเอง เมื่อเรารู้ว่าเราชอบอะไร อยากจะเป็นอะไร ก็ขอให้เชื่อมั่นและกล้าที่จะก้าวไปในทางที่เลือก และสักวันเราจะรู้ว่าความสำเร็จนั้นเริ่มได้ที่ตัวเราเองค่ะ
การที่ได้มีโอกาสเจอกับคนที่เราชื่นชมและได้คุยกับเขา แม้เพียงไม่กี่นาทีแต่ก็เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดและเติมพลังใจไปได้อีกนานเลยค่ะ สำหรับใครที่มีบุคคลในใจที่เป็นไอดอลนั้นก็ขอให้ใช้เรื่องราวต่างๆ ที่เขาทำเป็นแรงบันดาลใจในบางเรื่องแก่ชีวิตเรา บางครั้งก็รู้สึกชื่นใจเหมือนกันนะคะที่มีใครเป็นแบบอย่างให้เราในบางเรื่อง และบางครั้งคนเหล่านั้นอาจอยู่ใกล้ๆ ตัวเรา ดังเช่นคุณพ่อ คุณแม่ หรือหลายๆ คนก็เป็นได้ค่ะ
3 ความคิดเห็น
บอกเขาไปว่าฉันรักเขา
เป็นผู้หญิงที่สุดยอดไปเลยยย