ชอบเล่นเกม Final ตั้งแต่อายุ 15 ... อีก 15 ปีต่อมา ได้เป็นหัวหน้าทีมออกแบบเกม Final 15!!

      สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... ถ้าพูดถึงเกมดังระดับโลกที่ทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อแน่นอน คงต้องยกให้เค้าเลยกับ Final Fantasy ที่ครองใจเด็กทั่วโลกมาเป็นสิบๆ ปี ล่าสุดกับเวอร์ชั่นที่เพิ่งจะออกมาเมื่อปลายเดือนก่อน มีใครได้ลองเล่นแล้วบ้างเอ่ย?
     
      จะมีใครรู้บ้างว่า หัวหน้าทีมที่ทำหน้าที่ออกแบบเกม เป็นคนไทย!! โอ้โห จั่วหัวมาอย่างนี้ก็สุดยอดแล้ว สงสัยจริงๆ ว่าพี่เค้าไปทำงานที่ญี่ปุ่นได้ยังไง เส้นทางเป็นมายังไงถึงเข้าไปทำงานในบริษัทที่ดังอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นได้ วันนี้ พี่เป้ มีประสบการณ์ที่เล่าจากปากของ "พี่ซัน" มาฝากกันค่ะ

 

       สวัสดีครับ พี่ชื่อ "ซัน-ประเสริฐ ประเสริฐวิทยาการ" ตอนนี้ทำงานเป็น Game Designer อยู่ที่ Square Enix ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตเกม ที่น้องๆ น่าจะรู้จักกันก็คือซีรีส์ Final Fantasy 

      ตอนเด็กๆ พี่ก็เป็นเด็กคนนึงที่ชอบเล่นเกมมาก เล่นตั้งแต่ ป.2 ป.3 เกมที่เล่นก็พวกมาริโอ ร็อคแมนแบบที่สมัยนั้นเค้าฮิตกัน  ถ้าถามว่าความฝันตอนเด็กคืออะไร? บอกเลยว่าตอนวัยเด็ก (ประถม) ไม่ได้มีความฝันเป็นพิเศษอะไรครับ ส่วน ม.ต้นก็อยากเป็นนักร้องเพราะเล่นดนตรีตั้งแต่เด็ก รวมถึงอยากเป็นนักพากย์การ์ตูนด้วย เคยมีประสบการณ์พากย์การ์ตูนเรื่องทอยสตอรี่เวอร์ชั่นภาษาไทยด้วยครับ   


วัยเด็กที่ยังไม่กล้าฝัน

      พอตอนมัธยมต้น ก็มีโอกาสได้เล่น Final Fantasy 7 เป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นมากเพราะมันไม่เหมือนเกมอื่นๆ ที่เราเคยเล่นมา เล่นแล้วอินมาก มีอารมณ์ร่วมไปกับเกม เพราะเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่อง มีหลากหลายอารมณ์ ทำให้ตอนนั้นคลั่งเกมนี้มากๆ ครับ ถึงขนาดทำควิซเกมเล่นกับเพื่อน ท่องประโยคในเกมได้เกือบทุกประโยคเลยครับ 5555


      ถ้าถามว่าตอนนั้นเริ่มคิดอยากทำเกมหรือยัง? บอกเลยว่าในใจลึกๆ ก็คิดนะครับ แต่มองไม่เห็นโอกาสเลยจริงๆ ว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ เพราะตอนนั้นในไทยยังไม่มีการทำเกมจริงจัง พูดตรงๆ คือไม่กล้าที่จะฝันเลย จนพอ ม.6 นั่นแหละเลยมีโอกาสได้ลองทำเกมประกวดเป็นครั้งแรก พี่รวมกลุ่มกับเพื่อนแล้วทำครับ หน้าที่ที่ทำตอนนั้นคือออกแบบเกม
 
และถ้าถามว่าหน้าที่ออกแบบเกมคืออะไร?
ก็คือหน้าที่คิดครับ คิดทุกอย่างที่อยู่ในเกม
ยกตัวอย่างง่ายๆ กับมาริโอก็แล้วกัน
การคิดและออกแบบเริ่มตั้งแต่สิ่งที่มองเห็นได้ง่ายๆ เช่น
ตรงไหนเป็นเหว ศัตรูอยู่ตรงไหน ตรงไหนเป็นท่อ
เก็บเห็ดแล้วเกิดอะไร ทำไมต้องเห็ด ข้าวหมูแดงไม่ได้เหรอ
จนถึงเรื่องยากๆ เช่น
ทำยังไงให้กระโดดแล้วรู้สึกสนุก ใส่เสียงไปพร้อมกับการกระโดดได้ไหม 
ทำไมชนศัตรูแล้วต้องเป็นอมตะชั่วครู่ ทำไม่ต้องกะพริบ ไม่กะพริบได้ไหม 
เป็นอมตะกี่วิ 0.5 วิได้ไหม 1 วิได้ไหม 
หรือ เกมนี้มันสนุกยังไง จะขายใคร ทำไมคนเขาอยากจะซื้อ 

      มาถึงตอนเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นคนรอบข้างก็บอกว่าให้เรียนหมอสิ แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรา พี่รู้สึกอยากเรียนอะไรที่มันครีเอทีฟได้สร้างสรรค์ (ไม่ได้หมายความว่าหมอไม่สร้างสรรค์นะครับ) เลยเลือกวิศวะฯ คอมพิวเตอร์ จุฬาฯ  บอกตรงๆ ว่าเลือกตามเพื่อน และเลือกเพราะคิดว่าเราจะได้เรียนเขียนเกมได้ พอตอนปี 3 ได้เรียนวิชาออกแบบเกมแบบจริงจัง ได้ทำโปรเจกต์กับเพื่อนๆ พี่ก็ทำหน้าที่ออกแบบเกมเหมือนเดิม ส่วนเพื่อนๆ ก็จะไปทางสายเขียนโปรแกรมกันครับ ส่วนกิจกรรมที่ทำตอนเรียนก็ได้เข้าไปอยู่ในชมรม CU Chorus เพราะชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็กอย่างที่บอกเลยครับ


ก้าวแรกสู่ญี่ปุ่น


 
      หลังเรียนจบปี 4 ตอนนั้นรู้สึกยังไม่ค่อยอยากทำงาน อยากผจญภัยในต่างประเทศ เลยลองขอทุนรัฐบาลญี่ปุ่นไปเรียนปริญญาโทเพราะอยากไปลองใช้ชีวิตในต่างประเทศ พี่เข้าเรียนที่ Tokyo Institute of Technology ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ครับ ทำวิจัยด้านวิเคราะห์เสียงร้องเพลงของคนครับ (เพราะชอบร้องเพลง) วิเคราะห์ว่าคนไหนเสียงดีเสียงไม่ดี  เอาไปใช้ทำเป็นระบบสอนร้องเพลงอัตโนมัติครับ  

       ก่อนเดินทางไป พี่มีพื้นภาษาญี่ปุ่นน้อย ทางทุนให้เรียนภาษาก่อน 6 เดือน แต่ก็ยังมีพื้นฐานน้อยและสื่อสารลำบาก … สามวันแรกที่เรียนปริญญาโทคืออยากจะร้องไห้กลับไทยเลย ไม่ไหว อยู่แทบไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าเราสร้างสังคมไม่ได้ หาเพื่อนไม่ได้  ตอนนั้นคิดว่าจะทำยังไงดีถึงจะให้ใช้ชีวิตอยู่นั่นได้ สุดท้ายฮึดเลยครับ ลุกขึ้นมาคัดคันจิ อ่านญี่ปุ่นเพิ่มเติม เข้าชมรมดนตรีประสานเสียงกับนักศึกษาปริญญาตรีเพราะอยากหาเพื่อนฝึกภาษา เนียนทำตัวเข้ากับเด็กปริญญาตรี  ขอบอกน้องๆ เลยนะครับว่า ภาษาสำคัญมาก ถ้าจะไปเรียนที่ญี่ปุ่น ยังไงก็ต้องได้ภาษา ไม่งั้นอยู่ลำบากแน่นอน สุดท้ายอยู่ไปสองปี พี่ก็สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นได้ระดับสูงสุดคือ N1 จากการที่ฝึกฝนเพิ่มเติมเอง รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนในชมรมจนได้เป็นหัวหน้าพาร์ทเทเนอร์ (ผู้ชายเสียงสูง) ในวงประสานเสียงในมหาลัยที่มีสมาชิกกว่า 170 คนครับ  


      ส่วนการเรียนปริญญาโทนั้น บอกตรงๆ ว่าเหมือนยังไม่ใช่เราครับ แต่พี่ก็ยังอยากเป็นนักดนตรีเหมือนที่ฝันตอนเด็กๆ นะ เริ่มอยากเรียนดนตรีจริงๆ จังๆ สุดท้ายหลังเรียนจบปริญญาโท พี่ก็ไปขอที่บ้านว่า จะขอเรียนปริญญาตรีใหม่อีกรอบ เลยมาสมัครเข้าเรียนที่ Senzoku Music University เป็นมหาวิทยาลัยดนตรีโดยเฉพาะ สาขา Jazz Vocal มาเรียนปริญญาตรีปีหนึ่งใหม่อย่างนี้ แน่ละครับ ก็มีเสียงคนอื่นบ่นบ้างว่าจะมาเรียนทำไมให้เสียเวลาให้เปลืองเงิน ไม่เสียดายความรู้ที่เรียนมาเหรอ แต่ใจมันอยากเรียน เลยลองดูสักตั้ง สรุปคือเป็นเฟรชชี่อีกรอบตอนอายุ 25



ชีวิตเฟรชชี่(อีกครั้ง)

     เรียนไปได้ 1 ปี ตอนนั้นรู้สึกว่าในอนาคตเราอยากจะทำงานที่ญี่ปุ่น อยากทำงานเป็นนักดนตรี ซึ่งการจะขอวีซ่าทำงานที่ญี่ปุ่นนั้น เราต้องมีอาชีพงานที่มีรายได้ชัดเจนคงที่ แต่อาชีพนักดนตรีที่ไปเล่นตามงานต่างๆ เงินมันไม่คงที่ใช่มั้ยครับ เลยน่าจะทำให้ขอวีซ่ายาก พอดีมีโอกาสได้คุยกับรุ่นพี่ เค้าก็แนะนำว่า ...

"ทำไมไม่สมัครเข้าไปทำงานในตำแหน่งคนแต่งเพลงให้บริษัทเกมล่ะ?"

     ตอนนั้นนึกได้เลยครับว่า เฮ้ย ตอนเด็กๆ มันมีแว้บนึงที่เราอยากทำงานด้านออกแบบเกม แต่ตอนนั้นไม่กล้าฝันไกลมาก แต่ตอนนี้มาอยู่ญี่ปุ่นแล้ว ภาษาญี่ปุ่นก็พูดได้ ใกล้ฝันขนาดนี้ ลองดูอีกสักตั้งมั้ย!


      สรุปคือได้เป็นเฟรชชี่ปีเดียวก็ลาออกครับ (ชีวิตพลิกไปมามากๆ) คิดจะสมัครเข้า Square Enix ที่ทำเกม Final Fantasy แต่ปรากฎปีนั้นไม่มีช่องทางให้เราสมัคร! เลยต้องมองหาบริษัทอื่นๆ ยื่นเรซูเม่ไปที่นั่นที่นี่ สัมภาษณ์ผ่านบ้างไม่ผ่านบ้าง สรุปเหลือสองตัวเลือกสุดท้ายคือ บริษัทเกมเล็กๆ แห่งหนึ่ง กับ บริษัทผลิตเครื่องเกมชื่อดังแห่งหนึ่ง

      คือการสัมภาษณ์งานที่ญี่ปุ่น หนึ่งคำถามที่เราต้องโดนถามแน่นอนคือ ใจจริงอยากทำงานบริษัทอะไรมากที่สุด? และตามมารยาทเราก็ควรตอบชื่อบริษัทของเค้าใช่มั้ยครับถึงจริงๆ เราอยากจะทำที่อื่นมากกว่า 555 แต่พี่อยากลองเสี่ยงดู ตอนสัมภาษณ์กับบริษัทผลิตเครื่องเกม เลยบอกว่า บริษัทที่อยากทำงานด้วยมากที่สุดคือ Square Enix ... แป่ว แน่นอนครับว่าไม่ได้งานที่นี่ เลยตกลงเข้าทำงานกับบริษัทเกมเล็กๆ (ที่ตอบเช่นนั้นไป เพราะเราก็ยังลังเลว่าเราอยากเป็นนักออกแบบเกม แต่บริษัทนั้นเขายื่นข้อเสนอให้เราเป็นโปรแกรมเมอร์ เลยอยากวัดใจบริษัทครับว่าเค้าจะว่ายังไง)


พนักงานออฟฟิศกับชีวิตที่พลิกผัน


 
      พี่เริ่มงานที่บริษัทเกมเล็กๆ ในตำแหน่งทีมที่ทำฉาก Battle หรือระบบการต่อสู้และศัตรูในเกมครับ ตอนแรกเข้าไปเป็นลูกทีมก่อน แต่ดวงชะตาคือพลิกแล้วพลิกอีก อยู่ดีๆ วันหนึ่งหัวหน้าทีมของพี่ก็หายตัวไป!! คือไม่มาทำงานอีกเลย เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่มีใครรู้ ติดต่อไม่ได้ ทุกคนงงมากเพราะขาดหัวหน้าทีม พี่เลยต้องลุกขึ้นมาดูงานแทนเค้าทั้งหมด เรียกว่าตอนนั้นเข้ามาทำงานในตำแหน่ง Junior หรือเด็กจบใหม่ แต่ต้องสร้างและต้องรับผิดชอบมอนสเตอร์และบอสทุกตัวในเกม ถือว่าโชคดีเหมือนกัน
      
      ยังครับ ชีวิตยังพลิกไม่จบ!! ทำเกมจนเกมใกล้จะเสร็จวางขายแล้ว ประธานบริษัทเรียกพนักงานทุกคนไปพบ ทายสิครับว่าเค้าจะบอกอะไร?? ใช่ครับ เค้าบอกว่าเค้าไม่มีเงินจะจ่ายเงินเดือนแล้ว บริษัทกำลังจะเจ๊ง (ทุกวันนี้พี่ยังไม่ได้เงินเดือนจากที่นั่นเลย) แล้วจะยังไงต่อดี? ใช่ครับ รีบหางานใหม่ด่วนๆ ถ้าไม่มีงานทำ อาจโดนส่งตัวกลับไทยได้


       คราวนี้โชคชะตาเข้าข้างครับ Square Enix เปิดรับคนพอดี! ไม่เท่านั้น ยังรับตำแหน่ง 3D Battle Game Designer ซึ่งค่อนข้างตรงกับงานเก่าที่เคยทำอีก! ไม่สมัครไม่ได้แล้ว สุดท้ายก็ได้เข้ามาทำงานที่ Square Enix จนถึงทุกวันนี้ครับ ล่าสุดที่เพิ่งออกวางขายไปหมาดๆ เมื่อปลายเดือนก่อนก็คือ FINAL FANTASY XV หรือ ไฟนอล 15 เป็นเกมที่ทุ่มเททำด้วยแรงกายแรงใจมากครับ


FINAL FANTASY XV is finally out!


      ถ้าใครที่ได้ลองเล่น FINAL FANTASY XV ก็คงจะเห็นว่า คอนเซ็ปต์ของเกมคือการผจญภัยกับเพื่อน มีตัวเอก 1 คน เพื่อนอีก 3 คน ที่เดินทางในโลกแฟนตาซีด้วยกัน พี่ทำหน้าที่เป็น Lead Game Designer หรือหัวหน้าทีมออกแบบเกม ดูแลในส่วนของ Buddy System & AI พูดง่ายๆ คือทำทุกอย่างให้ตัวละครในเกมมีปัญญาเหมือนมนุษย์ เพื่อที่จะทำให้คนเล่นเกมรู้สึกว่าตัวละครในเกมคือเพื่อนของเขาจริงๆ เหมือนเล่นแล้วได้เข้ามาเจอเพื่อน 

      ในบรรดาตัวละครในเกม ส่วนตัวพี่ชอบ Prompto มากที่สุด เพราะในบรรดาเพื่อนของตัวเอก เขาเป็นคนที่ ”ธรรมดา” มากที่สุด จับต้องได้ ใครๆ ก็มีอารมณ์ร่วมและรู้สึกเป็นตัวนี้ได้ ถ้ามองภายนอก Prompto ดูเป็นคนแจ่มใส ขำๆ ดูไม่เดือดร้อนกับอะไร แต่ข้างในจริงๆ แล้วเป็นคนที่คิดเยอะมาก มีความพยายามอุตสาหะ พยายามพัฒนาตัวเองให้เก่งอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะได้ตามเพื่อนๆ อีกสามคนได้ทัน แคร์คนอื่นมากๆ  ยิ้มเพราะอยากให้คนอื่นยิ้ม ทำตัวขำๆ เพราะอยากให้คนอื่นขำ เป็นตัวละครที่มีมิติที่สุด พิเศษกว่าคนอื่น แต่ไม่เหนือจริงจนเชื่อไม่ได้ ทำให้แม้แต่คนสร้างอย่างเรายังอยากเอาใจช่วยครับ

      ฉากที่ชอบที่สุด พี่ชอบฉากตอนกลางคืนที่ Prompto ได้ไปคุยกับตัวเอกที่ปลีกตัวมานั่งคนเดียวบนดาดฟ้า เหมือนเป็นฉากที่เปิดใจกัน เป็นอารมณ์เหมือนเราได้คุยกับเพื่อนอย่างเปิดอก เป็นฉากที่เอามาจากประสบการณ์จริงครับ เชื่อว่าหลายคนก็คงชอบฉากนี้เหมือนกัน .... อีกอย่างที่ชอบมากคือ Snapshot คือการที่ Prompto ถ่ายรูปการผจญภัยในเกมแต่ละวันๆ และเอามาให้เราดูกันที่แคมป์ทุกคืน ระบบนี้ก็เป็นอะไรที่พี่เองก็ชอบมากๆ ออกแบบเอง สร้างเอง ชอบเอง 555  มีถ่ายเซลฟี่ได้ด้วย ยิ่งรูปไหนเป็นช็อตเด็ดๆ คนจะส่งต่อกันไวมากครับ เราดูในเน็ต ยิ้มจนแก้มแทบปริ


theverge.com/2016/11/29/13769068/final-fantasy-15-cooking-photography

       ส่วนชีวิตในญี่ปุ่น พี่ชอบนะครับ สังคมญี่ปุ่นดีมาก คนมีกฎระเบียบมีวินัย มีมารยาท แต่มันก็มีเส้นกั้นบางๆ ระหว่างกฎระเบียบกับความเป็นอิสระ บางเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ ในไทย เช่น สั่งผัดกะเพราแต่ขอไม่เอาหน่อไม้ ที่ญี่ปุ่นทำไม่ได้นะครับ ถ้าไปสั่งอาหารแล้วจะขอเอาผักนั่นนี่ออก พนักงานจะบอกว่าทำไม่ได้ บางร้านถึงกับต้องขอไปปรึกษาผู้จัดการร้าน แล้วผู้จัดการร้านก็อาจจะขอโทรไปปรึกษาสำนักงานใหญ่เลยทีเดียว อันนี้คือการรักษากฎและวินัยของญี่ปุ่นครับ เพื่อรักษามาตรฐานของร้าน พนักงานขายไม่มีหน้าที่(และสิทธิ)ในการตัดสินใจว่าจะสามารถเปลี่ยนสูตรอาหารได้ตามใจตนเอง จะมองว่าดีหรือไม่ดี ชอบไม่ชอบก็แล้วแต่คนจะมองครับ

       การทำงานใน Square Enix ที่นี่ถือเป็นบริษัทแนวหน้าของประเทศที่หลายคนอยากเข้ามาทำงาน ส่วนตัวแล้วพี่รู้สึกว่าพนักงานทุกคนมีความภูมิในใจงานของตัวเองมากๆ รู้สึกว่างานที่ทำมีความหมายและเป็นส่วนสำคัญของบริษัท ทำให้แต่ละคนรักและสามารถทุ่มให้กับงานจนทำให้งานดีมากครับ  แต่ช่วงก่อนที่เกมจะออก งานหนักเหมือนกันครับ ต้องทำงานกันถึง เที่ยงคืนตีหนึ่งเป็นปกติ (เข้างานสิบโมงครึ่ง) ที่บอกว่าคนญี่ปุ่นทำงานหนักนี่เป็นเรื่องจริงนะครับ แต่สำหรับแผนกพี่นี่ถ้าช่วงไหนที่งานเสร็จแล้ว ก็ชิลล์ๆ ได้ครับ  สุดโต่ง เวลาทำก็เต็มที่ เวลาพักก็พักเลยครับ อย่างช่วงนี้เกมออกแล้ว จะได้พักผ่อนเยอะหน่อยครับ อ๊ะ ไม่ต้องห่วงครับยังมีทำงานต่อครับ ไม่อู้มากครับ 555  ยังไงก็ขอฝาก ไฟนอล 15 ไว้ด้วยนะครับ 


geek.com

       อยากฝากถึงน้องๆ ที่ยังไม่เจอว่าตัวเองชอบอะไร สิ่งที่ควรทำคือลองทำอะไรหลายๆ อย่างครับ เราจะได้มีการ์ดหลายใบไว้ในมือ พอโตมาแล้วเราเริ่มมองเห็นว่าอยากทำอะไร เริ่มมีความฝันที่ชัดเจน แล้วพอมองการ์ดในมือ มันอาจจะมีการ์ดนั้นอยู่แล้ว เราก็เอามาต่อยอดได้ เคยวาดรูปไหม? เคย ... เคยเขียนเรื่องสั้นไหม? เคย ... เคยทำดนตรีไหม? เคย ... อังกฤษได้ไหม? ได้ ... เลขได้ไหม? ได้ ... โปรแกรมเป็นไหม? เป็น ... ถ่ายรูปเป็นไหม? เป็น ... ดูซิว่าเรามีการ์ดในมือกี่ใบแล้ว แต่ถ้าเราไม่ลองทำอะไรเลย พอโตมาจะพบว่า ในมือเราไม่มีการ์ดอะไรเลย การจะไปเริ่มใหม่แต่แรกก็คงจะยาก

       อย่างพี่ที่รู้ตัวว่าอยากทำงานเป็น Game Designer ก็นึกได้ว่าตอนเด็กๆ เคยลองออกแบบเกมมาแล้ว ก็เอาตรงนี้มาต่อยอดได้ และสุดท้ายคือ ภาษาสำคัญมากจริงๆครับ ภาษาเป็นประตูพาเราไปสู่โลกใหม่ได้เลย พี่รู้สามภาษา พี่มีเพื่อนมากกว่าคนอื่นสามเท่า อ่านหนังสือได้มากกว่าคนอื่นสามเท่า อ่านเว็บได้มากกว่าคนอื่นสามเท่า อย่าทิ้งภาษานะครับ พี่รู้ว่ามันน่าเบื่อที่ต้องเรียน แต่มันจะเป็นการ์ดที่พาวเวอร์ฟูลที่สุดบนมือของเราครับ สู้ๆ นะครับน้องๆ ทุกคน เวลายังมีครับ ปั๊มการ์ดเยอะๆ ชีวิตเรา เราต้องออกแบบเองครับ ขอให้โชคดีครับ

   
      อ่านจบแล้วต้องบอกว่า ทุกฝันเป็นจริงได้! ขอคารวะในความเก่งของพี่ซันจริงๆ ชีวิตครบรสมากจริงๆ ค่ะ และขอบคุณพี่ซันมากๆ ที่มาเล่าประสบการณ์เจ๋งๆ แบบนี้ให้พวกเราได้อ่านกัน^^
 
พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กระต่ายส้ม Member 20 ธ.ค. 59 17:35 น. 1
อ่านเเล้วได้กำลังใจขึ้นมาเยอะเลยค่ะ สู้ๆ ฝันให้ไกลต้องไปให้ถึง ปล. ในส่วนของเกมที่พรอมโต้ถ่ายรูปช็อตเด็ดนี่ฮาจริงไรจริง ชอบมากกกกกกกกก
1
กำลังโหลด
Tommylight 21 ธ.ค. 59 19:17 น. 4
ตอบคำถามผมหน่อยนะครับ คือผมอยากรู้ว่าทำไมครึ่งหลังของเกมถึงออกมาเละเทะขนาดนั้น ทั้งๆที่ช่วงครึ่งแรกทำมาค่อนข้างดี กับการเล่าเรื่องของเนื้อเรื่องหลักที่ไม่ค่อยประติดประต่อและบทกลวงโบ๋เกินไป
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Puangpink detsu Member 21 ธ.ค. 59 01:29 น. 3

ชอบพรอมโต้เหมือนกันเลย เป็นตัวละครสร้างสีสันให้กับทีมถ้าไม่มีเป็นทีมที่เครียดตายใครจะดึงความสดใสให้กับทีมได้ดีเท่าพรอมโต้ ว่าแต่ทำไมถ่ายรูปกลาดิโอ้ดีมาก หล่อทุกรูปแต่ถ่ายน็อคออกมาเหมือนเกลียดกันตั้งแต่ชาติก่อน

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

12 ความคิดเห็น

กระต่ายส้ม Member 20 ธ.ค. 59 17:35 น. 1
อ่านเเล้วได้กำลังใจขึ้นมาเยอะเลยค่ะ สู้ๆ ฝันให้ไกลต้องไปให้ถึง ปล. ในส่วนของเกมที่พรอมโต้ถ่ายรูปช็อตเด็ดนี่ฮาจริงไรจริง ชอบมากกกกกกกกก
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Puangpink detsu Member 21 ธ.ค. 59 01:29 น. 3

ชอบพรอมโต้เหมือนกันเลย เป็นตัวละครสร้างสีสันให้กับทีมถ้าไม่มีเป็นทีมที่เครียดตายใครจะดึงความสดใสให้กับทีมได้ดีเท่าพรอมโต้ ว่าแต่ทำไมถ่ายรูปกลาดิโอ้ดีมาก หล่อทุกรูปแต่ถ่ายน็อคออกมาเหมือนเกลียดกันตั้งแต่ชาติก่อน

0
กำลังโหลด
Tommylight 21 ธ.ค. 59 19:17 น. 4
ตอบคำถามผมหน่อยนะครับ คือผมอยากรู้ว่าทำไมครึ่งหลังของเกมถึงออกมาเละเทะขนาดนั้น ทั้งๆที่ช่วงครึ่งแรกทำมาค่อนข้างดี กับการเล่าเรื่องของเนื้อเรื่องหลักที่ไม่ค่อยประติดประต่อและบทกลวงโบ๋เกินไป
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
ilovetao68 Member 27 ธ.ค. 59 22:08 น. 10

ตลกดีเหมือนกัน... วันนี้มีโอกาสได้คุยกับคอ final fantasy (ซึ่งเพิ่งรู้จัก แต่เหมือนรู้จักกันมานาน) บังเอิญว่าชอบเหมือนกัน คุยเรื่อง FF นานมาก เล่ากันตั้งแต่ภาคแรกยันภาค 15 หนึ่งในนั้นมีพี่เป็นประเด็น .....พอเปิดเด็กดี ก็มาเจอ หัวข้อพี่ซัน[jj-02] เออ...ก็บังเอิญดี ช่วงนี้ประแสมาแรงมาก นับถือคนสร้าง มันเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคน

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด