เจาะลึกข้อสอบ ACT! ข้อสอบแอดมิชชั่นเรียนต่อมหา’ลัยในอเมริกาและแคนาดา

     สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D.com พี่วุฒิ เชื่อว่าน้องๆ ที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะอเมริกาหรือแคนาดา นอกจากข้อสอบ SAT แล้ว น้องๆ ก็น่าจะคุ้นหูกับข้อสอบ ACT แน่นอน เพราะว่ามันคือข้อสอบมาตรฐานที่จำเป็นต้องใช้ในการสมัครเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีในอเมริกาและแคนาดานั่นเอง แล้วข้อสอบนี้เป็นอย่างไร จะเหมือนจะต่างข้อสอบที่บ้านเราตรงไหนบ้าง เรามารู้จักกัน ACT กันดีกว่าครับ 



 
ACT คืออะไร
 
     ACT หรือ American College Testing Assessment เป็นข้อสอบมาตรฐานที่ใช้วัดระดับทักษะด้านการใช้เหตุผล วัดการคิดวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา รวมไปถึงการวัดการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งสามารถใช้เป็นคะแนนยื่นเข้าเรียนต่อได้เหมือนๆ กับข้อสอบ SAT (Scholastic Aptitude Test หรือ Scholastic Assessment Test) โดยจะเลือกยื่นคะแนน ACT หรือ SAT อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ และหลักสูตรอินเตอร์ของมหาวิทยาลัยในไทยบางแห่ง ก็สามารถนำคะแนน ACT ยื่นสมัครเข้าเรียนต่อได้ เช่น SIIT ของ ม.ธรรมศาสตร์ และ BALAC ของจุฬาฯ 

 
สัดส่วนข้อสอบ ACT 
 
     ข้อสอบ ACT จะสามารถแบ่งได้เป็น 5 ส่วน ได้แก่ English, Mathematics, Reading, Science Reasoning และ Writing โดยใน 4 ส่วนแรกจะมีการแบ่ง scale คะแนนเป็น 1-36 ส่วน Writing แต่ก่อนเคยใช้สัดส่วนคะแนนเดียวกัน แต่ล่าสุดเมื่อกันยายน 2016 ได้เปลี่ยนสัดส่วนscale คะแนนเป็น 2-12    
 
     English ข้อสอบมีทั้งหมด 75 ข้อ มีเวลาในการทำข้อสอบ 45 นาที จะเป็นข้อสอบปรนัย 4 ตัวเลือก โดยข้อสอบส่วนใหญ่จะเน้นวัดทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เช่น การใส่เครื่องหมายต่างๆ ในประโยคภาษาให้ถูกต้อง, การวางตำแหน่งประโยค ซึ่งจะเป็นการวัดถึงการใช้ภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง 
 
     Mathematics ข้อสอบมีทั้งหมด 60 ข้อ/ 60 นาที สำหรับข้อสอบคณิตศาสตร์จะครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มจนถึงระดับมัธยมปลาย (เกรด12) เช่น Algebra, Geometry และ Trigonometry เป็นต้น ในการสอบนั้นจะอนุญาตให้นำเครื่องคิดเลขเข้าได้ แต่ก็ถือว่าเข้มงวดอยู่เหมือนกัน เพราะว่าเครื่องคิดเลขบางชนิดที่มีโปรแกรมคำนวณอัตโนมัติจะไม่ได้รับอนุญาต และข้อสอบทั้งหมดจะเป็นข้อสอบปรนัย 5 ตัวเลือก 
 

 
     Reading ในพาร์ทนี้จะมีทั้งหมด 40 ข้อ และมีเวลาในการทำข้อสอบ 35 นาทีเท่านั้น เป็นข้อสอบปรนัย 4 ตัวเลือก ซึ่งในข้อสอบนั้นจะมีเรื่องให้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นบทความ เรื่องสั้นต่างๆ นวนิยาย และรวมไปถึงเรื่องราวทุกศาสตร์ ทุกแขนง เช่น วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ กีฬา เป็นต้น   
 
     Science Reasoning ข้อสอบส่วนนี้จะเน้นเกี่ยวกับการให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ โดยข้อสอบจะมีทั้งหมด 40 ข้อ และเวลาทำข้อสอบเพียง 35 นาทีเท่านั้น (ต้องอ่านไว คิดไว เพราะเฉลี่ยแล้วแต่ละข้อมีเวลาไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำ) โดยข้อสอบจะมีเรื่องราวมาให้เราวิเคราะห์ถึง 7 เรื่อง แต่ละเรื่องก็จะมีคำถามประมาณ 5-7 ข้อ ในแต่เรื่องที่ให้อ่านก็จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ งานวิจัยต่างๆ และประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงในแวดวงวิทยาศาสตร์ โดยข้อสอบจะเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก 
 
     Writing สำหรับข้อสอบการเขียนนั้น ถือว่าเป็นพาร์ทที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่ก่อนมีเวลาในการทำข้อสอบเพียง 30 นาที แต่ปัจจุบันได้เพิ่มเป็น 40 นาที และก็เปลี่ยน scale คะแนนจาก 1-36 มาเป็น 2-12 อีกด้วย (ซึ่งแต่ก่อนก็เคยใช้เกณฑ์นี้มาก่อนแล้ว) ถึงแม้ว่าจะคิดคะแนนแยกกัน แต่คะแนนการเขียนเรียงความก็มีผลต่อคะแนน English ด้วย และในส่วนของข้อสอบ จะเป็นข้อสอบเลือกทำ โดยส่วนใหญ่จะมีหัวข้อเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม ไม่ได้มีการกำหนดรูปแบบการเขียนแบบตายตัว แต่น้องๆ จะต้องเขียนถ่ายทอดเนื้อหาให้ครบ ตรงประเด็นและเป็นไปตามเกณฑ์ 4 ข้อในการให้คะแนน ซึ่งดูจากความคิดและการวิเคราะห์ การเรียบเรียง การใช้คำศัพท์หรือประโยค และความเป็นองค์รวมของเนื้อหา โดยเรียงความของน้องๆ จะตรวจโดยกรรมการ 2 ท่าน น้องๆ จะต้องตั้งใจและมีสติมากๆ ห้ามเขียนนอกประเด็น และต้องใช้ดินสอ 2B ในการเขียนเรียงความด้วย
 


 
รายละเอียดการสมัครสอบ 
 
     น้องๆ สามารถเข้าไปสมัครสอบได้ที่เว็บไซต์ คลิกที่นี่ ในการสมัครนั้นก็จะมีให้เราสมัคร account เพื่อทำการ Sign Up และจากนั้นก็จะเป็นการสมัครสอบ โดยให้เรากรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว และอัพโหลดรูปตัวเองที่ใช้ในการสมัคร รวมไปถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการสมัครครับ 
 
     ค่าสอบ ค่าสมัครสอบคือ US$ 51 (ประมาณ 1,800 บาท) และก็ International Fee หรือค่าธรรมเนียมสอบต่างประเทศอีกประมาณ US$ 33  (ประมาณ 1,150 บาท) ซึ่งจะรวมไปถึงค่าส่งผลคะแนน ACT ให้ 4 ฉบับแล้วครับ น้องๆ สามารถสั่งให้ส่งผลคะแนนไปยังมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครได้ถึง 4 แห่งเลยด้วยกัน แต่ถ้าต้องการมากกว่านั้นก็จะเสียเพิ่มอีกฉบับละ US$ 12 ครับ 
 
     วันสอบ ในประเทศไทยจะมีการจัดสอบ ACT ถึง 5 ครั้งในเดือนกุมภาพันธ์, เมษายน, มิถุนายน, ตุลาคม และ ธันวาคม ส่วนใหญ่จะหมดเขตรับสมัคร 1 เดือนก่อนสอบครับ
     และรอบล่าสุดจะสอบในวันที่ 4 เมษายน 2560 โดยหมดเขตรับสมัครไปแล้ว และรอบถัดไปจะจัดสอบวันที่ 10 มิถุนายน 2560 และหมดเขตรับสมัครวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ครับ ใครอยากสอบก็รีบเลยนะครับ เดี๋ยวไม่ทัน
 


 
สนามสอบในไทยมีที่ไหนบ้าง
 
1. International Community School กรุงเทพฯ
2. KIS International School กรุงเทพฯ
3. Nist International School กรุงเทพฯ
4. Ruamrudee International School กรุงเทพฯ
5. Grace International School เชียงใหม่
6. School United World Coll Thailand ภูเก็ต
     *ถ้าน้องๆ ต้องการเปลี่ยนวันสอบ หรือเปลี่ยนสถานที่สอบ จะต้องเสียค่าใช้จ่าย US$ 25 ครับ

 
BRING THIS, NOT THAT  
 
     สิ่งที่น้องๆ ห้ามลืมเลยในวันสอบ มีดังต่อไปนี้
1. ปรินท์ใบสมัครสอบมาด้วย มิเช่นนั้นจะไม่สามารถเข้าห้องสอบได้นะเออ 
2. รูปแสดงตัวตน (บัตรประชาชน)
3. ดินสอ 2B และยางลบ (การเขียน essay ก็ต้องเขียนด้วยดินสอ)
4. เครื่องคิดเลขที่เป็นไปตามกฎของ ACT สามารถดูรายละเอียดของเครื่องคิดเลขที่ได้รับอนุญาตโดย คลิกตรงนี้ ได้เลยครับ
 

 
    และสิ่งที่ห้ามนำเข้าห้องสอบโดยเด็ดขาด มีดังต่อไปนี้
1. หนังสือ textbooks ต่างๆ รวมไปถึงพจนานุกรม โน้ตย่อ ปากกาไฮไลต์ ดินสอสี น้ำยาลบคำผิด 
2. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่ไม่ใช่เครื่องคิดเลข เช่น โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา smart watch กล้องถ่ายรูป เป็นต้น 
3. เครื่องช่วยอ่าน
4. บุหรี่/ สารเสพติด
5. อาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงน้ำเปล่าด้วย 

 
ควรเตรียมตัวอย่างไร
 
     หลักๆ เลย น้องๆ ควรเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับความรู้ในการใช้ภาษาอังกฤษให้ดีเลยครับ เพราะข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แกรมม่าร์ต้องเป๊ะนะ และควรเตรียมพร้อมเรื่องคำศัพท์ด้วย พวกศัพท์เฉพาะด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์เนี่ย ควรท่องจำไว้เลยครับ

    ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ 
 
What is the value of x when 2x + 3 = 3x – 4 ? (x มีค่าเท่ากับเท่าไหร่)
 
A. -7
B.  -1/5
C. 1
D. 1/5
E. 7
 
เฉลย ตอบข้อ E. x = 7 
 




 
     เป็นไงบ้าง ตอบถูกกันมั้ยครับ ง่ายมากเลยข้อนี้ (เพราะว่าพี่เลือกข้อที่ง่ายที่สุดมาให้ทำไงล่ะ ฮ่าๆ) ความจริงแล้วยังมีตัวอย่างข้อสอบอีกเยอะเลยครับ น้องๆ สามารถเข้าไปลองทำข้อสอบตัวอย่างได้ที่เว็บไซต์ของ ACT โดย คลิกตรงนี้ ได้เลย และอย่างที่พี่ได้บอกไปครับว่าน้องๆ ควรเตรียมตัวให้ดี โดยเฉพาะเรื่องทักษะภาษาอังกฤษ ควรท่องศัพท์เยอะๆ และฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ และถ้าใครได้ไปสอบ พี่ก็ขอให้น้องๆ ได้คะแนนเยอะๆ และยื่นเข้ามหาวิทยาลัยที่หวังได้ทุกคนเลยนะครับ :)   



 
Source: http://www.act.org/content/act/en.html
พี่วุฒิ
พี่วุฒิ - Columnist มนุษย์ 4 มิติผู้หลงใหลในเพลงเกาหลี ชาเนสที และหมูกระทะ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด