7 สุภาษิตภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ "เวลา" ที่ต้องรู้เอาไว้!

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com เผลอแป๊บเดียวก็จะเข้าเดือนที่ 5 ของปีแล้ว ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วแบบนี้เนี่ย เหมือนเพิ่งปีใหม่เองไม่ใช่หรอ T___T และเพื่อย้ำถึงความสำคัญของเวลา วันนี้ พี่พิซซ่า เลยมีสุภาษิตภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับเวลามาฝากกันค่ะ ถ้าใครชอบสุภาษิตไหนก็นำไปทำเป็นคำคมเตือนใจตัวเองเขียนไว้บนปกสมุดหรือจะทำเป็นข้อความติดโต๊ะอ่านหนังสือก็ได้นะคะ



There is a time and a place for everything.


     สุภาษิตนี้ใช้พูดเมื่อมีคนประพฤติตัวอย่างหนึ่งในแบบที่เรามองว่ามันไม่เหมาะกับกาลเทศะ ณ ตอนนี้นะ ประมาณว่าการกระทำแบบนี้ก็ไม่ได้ไม่ดีอะไรหรอก เพียงแต่ว่าควรไปทำในเวลาและสถานที่อื่นที่เหมาะสมกว่านี้ เช่นน้องและเพื่อนๆ ไปนั่งรับประทานอาหารร่วมกับอาจารย์ในร้านอาหารบนโรงแรมหรู แล้วเพื่อนน้องก็ใช้มือเปล่าหยิบอาหารทุกอย่างเข้าปาก น้องจึงปรามเพื่อนว่า There is a time and a place for everything, but this lunch is not the time or the place to eat with your fingers.


Time and tide wait for no man.


     เวลาและสายน้ำไม่เคยรอใคร ใช้พูดเพื่อเน้นความสำคัญของเวลาว่ามันผ่านไปอยู่ตลอด ฉะนั้นจะทำอะไรก็รีบทำนะ อย่าสาย อย่าผัดวันประกันพรุ่ง อย่าดองงานเอาไว้ เช่นน้องกับเพื่อนต้องรีบไปโรงเรียนแต่เพื่อนยังแต่งตัวไม่เสร็จซะที และถ้าไม่รีบออกตอนนี้ก็ไม่ทันรสบัส ต้องรออีกชั่วโมงกว่าคันถัดไปจะมา น้องเลยรีบเร่งเพื่อนโดยบอกว่า Time and tide wait for no man. อีกหนึ่งสำนวนที่มีความหมายประมาณเดียวกันนี้คือ There's no time like the present. นั่นคือจะทำอะไรก็ทำเลย ทำตอนนี้เลย


Time is a great healer.
Time heals all wounds.
Time cures all things.
Time and thinking tame the strongest grief.


     สุภาษิตนี้มีวิธีพูดได้หลายแบบ แต่ทั้งหมดก็หมายความเหมือนกันว่า เวลาจะรักษาทุกอย่าง ใช้พูดเมื่อเกิดความเจ็บปวด (โดยเฉพาะทางอารมณ์) แล้วตอนนี้รู้สึกเจ็บมาก เศร้ามาก แต่ต่อไปก็จะดีขึ้นได้เอง เช่นเพื่อนของน้องเพราะถูกบอกเลิกมาแล้วก็มาร้องไห้ฟูมฟายให้น้องฟัง น้องเลยบอกเพื่อนว่า I know you think that you will never ever love again, but time is a great healer.



Time is money.


     เวลาเป็นเงินเป็นทอง สุภาษิตนี้ก็เหมือนของไทยเลยค่ะ หมายว่าว่าเวลาเป็นของมีค่า อย่าให้มันเสียไปเปล่าๆ ฉะนั้นจะมานั่งๆ นอนๆ ดูทีวีเล่นคอมแบบเรื่อยเปื่อยไม่ได้แล้วนะ ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรจริงๆ จังๆ ที่เกิดประโยชน์แล้วแหละ บอกตัวเองตลอดเวลาเลยว่า Time is money.


No time to lose.


     ไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้ว ความหมายก็คล้ายกับสุภาษิตอันก่อนหน้าค่ะ นั่นก็คือการเน้นย้ำให้เห็นว่าเวลามันไม่รอจริงๆ นะ แต่จะได้ฟีลลิ่งความจวนตัวมากขึ้นว่าตอนนี้ไม่มีเวลาเหลือแล้วนะ เช่นต้องส่งงานพรุ่งนี้แล้ว คืนนี้คือต้องปั่นทั้งคืนจริงๆ เพราะไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้ว หรือถ้าหนีเที่ยววันที่คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่บ้าน แล้วตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ใกล้ถึงบ้านแล้ว น้องก็ต้องรีบกลับบ้านด่วนๆ เลยเพราะไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้วนั่นเอง


Time flies.


     สำนวนนี้แม้จะแปลตรงๆ ได้ว่าเวลาผ่านไป แต่จะมีฟีลลิ่งด้วยว่า "เวลาผ่านไปเร็วจังเลย" ใช้กันเวลาที่กำลังเล่นอะไรสนุกๆ เวลาที่มีความสุข เวลาเม้ามอยกับเพื่อนอะไรแบบนี้ ที่พอรู้ตัวอีกทีก็ดึกแล้ว แล้วก็บ่นกันว่า Time flies when you're having fun. หรือจะใช้ในกรณีที่เคยรู้จักเด็กแถวบ้านคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ก็ดูเป็นเด็กเล่นอะไรมอมแมมทั่วไป แต่เมื่อกี้บังเอิญเจอเด็กคนนั้นอีกทีก็โตเป็นหนุ่มหล่อเนี้ยบซะแล้ว เราก็รำพึงกับตัวเองได้ว่า Time flies. เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกินเนอะ (ตัวอย่างสมมติเฉยๆ พี่ไม่ได้มีอินเนอร์จริง 555)


There is a time to speak and a time to be silent.


     ควรรู้กาลเทศะว่าเมื่อไหร่ที่ควรพูด และเมื่อไหร่ที่ควรเงียบ สุภาษิตนี้มาจากพระคัมภีร์ไบเบิลค่ะ แต่ตอนนี้ก็ใช้พูดกันโดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มคริสเตียน การใช้ก็เช่นเวลาเห็นเพื่อนเศร้าเนื่องจากสูญเสียคนที่รักไป บางครั้งเพื่อนก็ต้องการการปลอบใจ แต่บางครั้งเพื่อนก็อาจไม่ได้ต้องการฟังอะไร แค่อยากให้มีคนมานั่งเป็นเพื่อนข้างๆ เฉยๆ ฉะนั้นในสถานการณ์นี้น้องก็อาจจะพูดกับเพื่อนๆ คนอื่นได้ว่า There is a time to speak and a time to be silent. เพราะเราต้องอ่านสถานการณ์ให้ออกก่อนว่าตอนนี้ควรพูดหรือควรนั่งกอดเฉยๆ


     แต่ละสุภาษิตอ่านแล้วก็แทงใจเลยค่ะว่าตอนนี้เราเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปมากขนาดไหน ใครชอบสุภาษิตไหนก็เลือกไปทำข้อความเตือนใจแปะไว้ทุกที่ที่เราจะนอนอืดอยู่บ้านได้เลยนะคะ เพราะเห็นแล้วอาจจะรู้สึกผิดต่อตัวเองจนลุกขึ้นมาขยันเลยก็ได้ค่ะ ^__^
พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น