Review: หนังสือ 2in1 สอนภาษาอังกฤษ + พาเที่ยวอังกฤษและสกอตแลนด์
   

      สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว
Dek-D.com ... หลายคนคงทราบดีว่า ระบบการขนส่งและการเดินทางในยุโรปนั้นดีงามมาก การเดินทางโดยรถไฟเป็นอะไรที่ผู้คนนิยมใช้กัน เพราะสะดวกและตรงเวลามากๆ นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็เช่นกันค่ะ เวลาเราไปเที่ยวในยุโรป ก็มักจะเดินทางกันด้วยรถไฟเป็นหลัก การจะเช็กตารางรถไฟนั้น จำเป็นต้องใช้ "แอป" มาเป็นตัวช่วย วันนี้ พี่เป้ เลยขอรีวิวแอปตัวที่ว่านี้สักหน่อย


Global Review คือหมวดรีวิวสินค้า-บริการของต่างประเทศ หรือสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ 
โดยผู้เขียนมีประสบการณ์การทดลองใช้หรือเดินทางไปด้วยตนเอง
    
   
    แอปพลิเคชั่นตัวที่ว่านี้ มีชื่อว่า Rail Planner ค่ะ เป็นของบริษัท RailEurope ซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าใหญ่ในการจองตั๋วรถไฟในยุโรป ครอบคลุมทุกเส้นทางในยุโรปเลยก็ว่าได้ค่ะ สมัยก่อนนั้น เวลาซื้อตั๋วรถไฟ เค้าจะแถมคู่มือตารางเวลามาให้เป็นเล่มบางๆ พกติดตัวได้ แต่ปัจจุบันคู่มือดังกล่าวเลิกผลิตไปแล้วและกลายเป็นแอปพลิเคชั่นนี้แทนค่ะ สามารถโหลดมาใช้ได้ฟรีๆ เลย


      ลองมาดูหน้าตาของแอปกันเลยค่ะ


      ปกติเวลานักท่องเที่ยวต่างชาติไปยุโรป ส่วนมากมักจะซื้อตั๋วรถไฟแบบที่เป็น Railpass อารมณ์เหมือนเหมาจ่ายค่ะ เช่น ตั๋วรถไฟเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์แบบ 5 วัน ก็จ่ายเงินทีเดียวแล้วได้ตั๋วมา จะนั่งรถไฟไปไหนกี่เที่ยวก็ได้ภายในสวิตเซอร์แลนด์ เพราะการซื้อตั๋วแบบแยกเที่ยวนั้นมีราคาค่อนข้างสูง ซื้อ Railpass ค่อนข้างคุ้มกว่ามากๆ ค่ะ พอมีตั๋วในมือแล้ว ก็โหลดแอปนี้มาเพิ่มเพื่อเช็กตารางรถไฟอีกที โดยเมนูที่ใช้บ่อยที่สุดคือ Trip Planner และ Timetable นั่นเอง

     เริ่มที่ Trip Planner จะเป็นการเซิร์ชว่า จะมีรถไฟจากเมือง A ไปเมือง B รอบกี่โมงบ้าง พี่ลองเซิร์ชหารถไฟจากเมืองซูริคไปยังเมืองลูเซิร์น สวิตเซอร์แลนด์ รอบช่วง 11 โมง แอปก็จะบอกขึ้นมาเลยว่าจะมีรอบกี่โมงบ้างและจะถึงปลายทางกี่โมง

 
     น้องๆ ลองสังเกตคำว่า Chg. มันคือ Change หรือการเปลี่ยนขบวนรถไฟค่ะ แอปจะบอกด้วยว่า ถ้าเราเลือกจะนั่งรถไฟรอบนี้ขบวนนี้ มันจะพุ่งตรงไปยังปลายทางเลย หรือเราต้องไปเปลี่ยนขบวนรถมั้ย เปลี่ยนอะไรยังไง ถ้า 0x Chg. แปลว่าไม่ต้องเปลี่ยน นั่งพุ่งตรงไปเลย แต่ถ้าพี่เลือกรถไฟเที่ยว 11.09 น. ที่จะต้องมีการเปลี่ยนรถไฟ แอปก็จะบอกด้วยค่ะว่าเปลี่ยนที่ไหน มีเวลาเปลี่ยนรถไฟกี่นาที


     จากภาพข้างบน แอปจะบอกว่า ต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่เมือง ZUG มีเวลาเปลี่ยนรถไฟ 6 นาที ... ถ้าถามว่า 6 นาทีพอมั้ย? ในกรณีที่น้องๆ มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ด้วย บอกเลยว่าไม่น่าจะทันค่ะ ถ้าลากกระเป๋าเดินทางมาด้วย ควรเตรียมเวลาเปลี่ยนรถไฟอย่างน้อย 10 นาที แต่ถ้ามาตัวเปล่าๆ ไม่มีสัมภาระ 6 นาทีก็พอไหวอยู่ค่ะ .... ยิ่งใครเดินทางไกลๆ เช่น ข้ามประเทศ แน่นอนว่าต้องเปลี่ยนรถไฟหลายขบวนแน่นอน พี่เคยเจอเปลี่ยนไป 3 รอบ ลากกระเป๋าขึ้นลงจนกล้ามขึ้นเลยค่ะ สำคัญมากๆๆๆ คือเวลาเปลี่ยนรถไฟนี่แหละค่ะ เพราะรถไฟในยุโรปค่อนข้างตรงเวลามากถึงมากที่สุด ออกตามเวลาเป๊ะๆ ตกรถแล้วคือรถขบวนหน้าเลยจ้า

    
     มาต่อกันที่เมนู Timetable ตัวนี้จะเป็นเมนูไว้เช็กเที่ยวรถไฟค่ะว่า ณ จุดที่เราอยู่นั้น จะมีรถไฟไปไหนบ้าง ยกตัวอย่างเช่น พี่เช็กจากสถานีรถไฟเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตอนประมาณ 11 โมง แอปก็จะโชว์มาเลยว่า จะมีเที่ยวรถไฟไปไหนบ้าง


     พี่ลองกดดูเที่ยว 11.17 น. ที่ปลายทางคือเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส แอปก็จะบอกด้วยว่า รถไฟแวะจอดที่ไหนตอนกี่โมงบ้าง อย่างเช่นตอน 11.54 น. จะจอดที่เมืองรอทเทอร์ดัม และจะเคลื่อนออกจากรอทเทอร์ดัมตอน 11.58 น.


 
     ความเจ๋งอีกอย่างที่่พี่ชอบมากก็คือ บางทีเราขึ้นรถไฟไปแล้วเผลอหลับไป ตื่นมาก็งงๆ ว่า เอ๊ะ ตอนนี้อยู่ตรงไหนของโลกแล้ว น้องๆ ก็สามารถใช้เมนูนี้กดดูเที่ยวรถไฟที่เราขึ้นไปแล้ว แอปจะมีแถบแดงๆ บอกค่ะว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนแล้ว


      อย่างภาพบนทำให้รู้ว่า ตอนนี้รถไฟเพิ่งเคลื่อนออกจากเมือง UTRECHT นั่นเอง เจ๋งมากๆ เลย สะดวกต่อผู้ใช้บริการมากๆ ค่ะ


    
      เอามารีวิวกันพอหอมปากหอมคอ แนะนำเลยค่ะว่า เป็น A MUST ที่ต้องโหลดมาใช้เลยหากใครจะไปเที่ยวที่นั่น ^^
พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น