สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com หลายๆ คนที่เรียนภาษาจีนคงจะเคยได้ยินการสอบ HSK มาบ้างใช่มั้ยคะ บางคนก็เคยผ่านการสอบมาแล้วด้วย วันนี้พี่ดังกิ้นจะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับการสอบ HSK ค่ะ
HSK ที่พวกเราเรียกกันเป็นชื่อย่อที่มาจากตัวสะกดเสียงพินอินของคำว่า “Hànyǔ Shuǐpíng Kǎoshì” แปลตามตัวว่าการสอบวัดระดับความรู้ทางภาษาจีน ไว้สำหรับทดสอบความรู้ความสามารถด้านภาษาจีนของคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาแม่ค่ะ เพราะว่าข้อสอบ HSK เป็นข้อสอบที่มีความเป็นมาตรฐาน เป็นสากล และเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย และ บริษัทต่างๆ จึงมักนำผลการสอบ HSK มาประเมินคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานหรือเข้าเรียนค่ะ ปัจจุบันมีการสอบแบบออนไลน์ด้วย
ระดับขั้นการสอบวัดความรู้ HSK
คำศัพท์
|
คะแนนเต็ม
|
คะแนนที่ผ่าน
|
จำนวนข้อ
|
เวลาสอบ
|
|
HSK1
|
150 คำ
|
200
|
120
|
40 ข้อ
|
40 นาที
|
HSK2
|
300 คำ
|
200
|
120
|
60 ข้อ
|
55 นาที
|
HSK3
|
600 คำ
|
300
|
180
|
80 ข้อ
|
90 นาที
|
HSK4
|
1,200 คำ
|
300
|
180
|
100 ข้อ
|
105 นาที
|
HSK5
|
2,400 คำ
|
300
|
180
|
100 ข้อ
|
125 นาที
|
HSK6
|
5,000 คำ
|
300
|
180
|
101 ข้อ
|
140 นาที
|
HSK1
เป็นระดับที่ง่ายที่สุดค่ะ ในข้อสอบจะแบ่งออกเป็นพาร์ท Listening 20 ข้อ และ Reading 20 ข้อ
น้องๆ อย่าลืมคำนวณเวลาในการทำข้อสอบให้ดีๆ นะคะ โดยเฉพาะพาร์ท Listening ต้องมีสมาธิมากๆ เพราะเค้าพูดเพียง 2 ครั้งเท่านั้น! ถ้าพลาดก็เสียคะแนนไปฟรีๆ เลยน้า แต่การสอบระดับนี้ไม่ค่อยนิยมสอบกันค่ะ เพราะใครๆ ก็เห็นว่าง่ายเกินไป ส่วนใหญ่จะคนที่เรียนภาษาจีน จะเริ่มสอบกันที่ระดับ 3 หรือ 4 ค่ะ
(ใครที่อยากลองทำข้อสอบ HSK1 ดาวน์โหลดตัวอย่างข้อสอบไปทำได้ที่นี่เลย – ข้อสอบ / ไฟล์เสียง)
(ใครที่อยากลองทำข้อสอบ HSK1 ดาวน์โหลดตัวอย่างข้อสอบไปทำได้ที่นี่เลย – ข้อสอบ / ไฟล์เสียง)
HSK2
เพิ่มระดับความยากขึ้นมาอีกนิดค่ะ ข้อสอบจะแบ่งเป็นพาร์ท Listening 35 ข้อ และ Reading 25 ข้อ
ข้อสอบจะเริ่มเป็นประโยคที่ยาวขึ้นเมื่อเทียบกับ HSK1 ในพาร์ท Listening ต้องตั้งใจฟังให้ดีนะคะ เพราะว่าเสียงพูดจากเทปอาจจะทำให้เราหลับได้ค่ะ 555555 ไม่ใช่สิ ถึงจะพูดช้า ก็ต้องตั้งใจฟังนะคะ
HSK3
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท Listening 40 ข้อ, Reading 30 ข้อ และ Writing 10 ข้อ
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท Listening 40 ข้อ, Reading 30 ข้อ และ Writing 10 ข้อ
ข้อสอบ HSK3 จะเพิ่มในส่วนของพาร์ท Writing มาค่ะ สิ่งที่ความรู้คือการเขียนคำศัพท์ และการเรียงประโยคให้ถูกไวยากรณ์ค่ะ เพราะถ้ารู้ว่าคำตอบแต่เขียนไม่ถูกก็เสียคะแนนได้เหมือนกันนะ
HSK4
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท Listening 45 ข้อ, Reading 40 ข้อ และ Writing 15 ข้อ
แนะนำเลยว่าทุกพาร์ทต้องมีสมาธิค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพาร์ท Listening เพราะจะพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น! แถมยังพูดเร็วขึ้นอีกด้วย โอกาสฟังไม่ทันมีสูงมากต้องตั้งใจฟังดีๆ นะคะ
HSK5
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท Listening 45 ข้อ, Reading 45 ข้อ และ Writing 10 ข้อ
เปิดข้อสอบมาอย่าเพิ่งตกใจนะคะ ว่าทำไมข้อสอบไม่มีโจทย์ให้ นั่นก็เพราะว่าเราต้องฟังโจทย์เองจากเทปที่เปิดค่ะ แนะนำว่าให้เอาผมเกี่ยวหูแล้วตั้งใจฟังเสียงเลยค่ะ
จะไม่พูดถึงพาร์ท Reading เลยก็คงจะไม่ได้ หลายๆ คนที่เคยสอบมาแล้วต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นพาร์ทที่เสียเวลาทำที่สุดเลย เพราะเรื่องที่ให้มามันยาวมากๆ ดังนั้นแนะนำให้มีสมาธิและแปลคำถามและตัวเลือกก่อนที่จะไปอ่านเนื้อเรื่องก็มีส่วนช่วยให้ทำได้เร็วขึ้นค่ะ
สำหรับ Writing จะให้พวกเราเขียนบทความสั้นๆ จากคำศัพท์และรูปภาพที่กำหนดให้ค่ะ ต้องแม่นคำศัพท์และไวยากรณ์หน่อยนะคะ จะได้ทำได้คะแนนเยอะๆ
HSK6
ระดับนี้เป็นระดับที่ยากที่สุดแล้วค่ะ ใครสอบผ่านถือว่าคนนั้นเก่งมากๆ เลย ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท Listening 50 ข้อ, Reading 50 ข้อ และ Writing 1 ข้อ
ระดับนี้เป็นระดับที่ยากที่สุดแล้วค่ะ ใครสอบผ่านถือว่าคนนั้นเก่งมากๆ เลย ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท Listening 50 ข้อ, Reading 50 ข้อ และ Writing 1 ข้อ
พาร์ท Listening ต้องตั้งใจฟังให้ดีค่ะ มีสมาธิให้มากๆ จับประเด็นให้ถูก เพราะนอกจากเนื้อหาจะยาวแล้วคนพูดยังพูดเร็วมาก! เร็วในระดับที่คนจีนปกติพูดคุยกันเลยค่ะ
พาร์ท Reading มีทั้งให้เลือกประโยคที่ผิด เติมคำศัพท์/ประโยคที่ถูกต้องลงในช่องว่าง และอ่านเนื้อเรื่องแล้วตอบคำถามค่ะ วัดทั้งคำศัพท์ และไวยากรณ์เลย สิ่งที่ควรระวังคือเวลา เนื้อหาที่ยาวมากอาจจะทำให้เราทำไม่ทันได้
พาร์ท Writing ต้องอ่านเนื้อหาที่ให้มาประมาณ 1,000 ตัวอักษร ต้องย่อความให้ได้ ประมาณ 400 ตัวอักษร (ห้ามใส่ความรู้สึกส่วนตัวลงไปค่ะ) และต้องตั้งชื่อเรื่องให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่เขียนเองด้วยนะคะ
ค่าสมัครสอบ
ระดับ 1 500 บาท
ระดับ 2 700 บาท
ระดับ 3 900 บาท
ระดับ 4 1,200 บาท
ระดับ 5 1,600 บาท
ระดับ 6 2,000 บาท
ประกาศผลสอบหลังจากวันที่สอบ 1 เดือน เช็คได้จากเว็บไซต์ http://www.chinesetest.cn
ผลการสอบ HSK ใช้ได้ 2 ปีค่ะ
การเตรียมตัวก่อนสอบ
ค่าสมัครสอบแอบสูงอยู่ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าจะไปสอบเล่นๆ ไม่ได้เลย ต้องมีการเตรียมพร้อมล่วงหน้า แล้วจะเตรียมตัวยังไงดีล่ะ สิ่งที่สำคัญคือคลังคำศัพท์ของเราค่ะ ยิ่งเรามีคำศัพท์มากก็จะยิ่งได้เปรียบ เราต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าเราไม่เก่งด้านไหน อย่างเช่น
ถ้าไม่ถนัดเรื่องคำศัพท์ จำตัวอักษรไม่ได้ ก็ต้องฝึกท่องจำคำศัพท์ทุกวัน หัดเขียนคำศัพท์ให้ชินมือเข้าไว้ค่ะ
ถ้าไม่ถนัดด้านการฟัง ก็ควรจะฟังให้เยอะๆ เข้าไว้ค่ะ อย่างเช่น ฟังเพลง ดูหนัง ดูรายการที่เป็นภาษาจีน นอกจากได้ความสนุกแล้ว ยังได้คำศัพท์ แพทเทิร์นประโยคที่ถูกต้อง แถมเรายังได้พัฒนาทักษะการฟังด้วยค่ะ คุ้มจริงๆ
การพักผ่อนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ก่อนวันสอบควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้านอนน้อย นอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้สมองเราไม่แจ่มใสคิดอะไรไม่ออก ไม่มีสมาธิในการอ่านเนื้อหา และอาจจะง่วงระหว่างสอบได้ค่ะ จะง่วงตอนไหนก็ได้ แต่ห้ามง่วงตอนสอบเด็ดขาด!!
เทคนิคเล็กๆ น้อย ๆ ในการทำข้อสอบ
พาร์ท Listening ก่อนที่คลิปเสียงจะเปิดยังพอมีเวลาอยู่ไม่กี่นาที แนะนำให้กวาดตาอ่านข้อสอบและแปลความหมายคร่าวๆ ตรงโจทย์และตัวเลือก อาจจะจดความหมายกำกับเอาไว้ด้วยภาษาที่เราเข้าใจได้ง่ายๆ ก่อน ตอนที่ฟังเนื้อหาและโจทย์จะได้มีสมาธิมากขึ้นค่ะ ถ้าเกิดว่าข้อไหนฟังไม่ทันให้ข้ามทันที อย่าลังเล เพราะจะทำให้ข้ออื่นไม่ทันไปด้วยค่ะ
พาร์ท Reading จะมีเนื้อหาที่ยาวเป็นหน้ากระดาษ แนะนำให้อ่านคำถามก่อนแล้วค่อยไปอ่านเนื้อหาเอาค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน บางคนก็ถนัดการอ่านเนื้อเรื่องก่อนมาอ่านคำถาม แต่สิ่งที่สำคัญในพาร์ทการอ่านก็คือความเร็วและการจับประเด็นสำคัญที่โจทย์ต้องการค่ะ
พาร์ท Writing เน้นการเขียนให้ตรงกับสิ่งที่กำหนดให้ค่ะ พาร์ทนี้คำศัพท์สำคัญมาก บางคนคิดออกว่าจะเขียนยังไงแต่เขียนเป็นภาษาจีนไม่ออกก็มีค่ะ ดังนั้นคำศัพท์จึงสำคัญมากๆ ต้องท่องไปให้แม่นๆ ค่ะ
น้องๆ คนไหนที่เคยไปสอบมาแล้วหรือใครที่มีเทคนิคหรือวิธีเตรียมความพร้อมตัวเองก่อนสอบแบบอื่นๆ ก็อย่าลืมมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันบ้างนะคะ
7 ความคิดเห็น
มีสอบเดือนไหนบ้างหรอคะ
ตอนนี้กำลังเตรียมตัวอยู่ค่ะ ระดับ 5 อยู่ในช่วงท่องศัพท์ค่ะ (บางทีดู series หรือฟังเพลง ก็จะมีศัพท์ระดับนี้ผ่านหูผ่านตาไปเยอะเหมือนกัน) เราจะผ่านมันไปได้มั้ยก็ต้องพยายามต่อไปค่ะ เฮ้ ๆ T^T
สมัครได้ที่ไหนคะ จำกัดอายุหรือป่าวคะ
ข้ามปี 60 มาแล้วแต่ก็ขอตอบแทนนะคะ คิดว่าไม่จำกัดอายุค่ะ จากประสบการณ์เด็ก ป.3 ก็มีสอบ hsk ระดับ 3 นะคะ การสมัครสมัครได้หลายที่ค่ะ เพราะมีเปิดสอบตลอดทั้งปี ของ ม.บูรพา ก็เปิดรับสมัครบ่อยนะคะ หรือลองค้นหาในเน็ตเอาก็ได้ค่ะ
ขออนุญาตินำ Link นี้ไปอ้างอิงในบล็อกเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสอบ HSK นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
อยากทราบว่าการเปิดสอบHSK แต่ละปีจะมีการเปิดสอบกี่ครั้งคะ?
เปิดสอบHSK เดือนละครั้งค่ะ สามารถใช้แอพในการทดสอบวัดระดับภาษาจีนดูค่ะ จะได้รู้ว่าเราในอยู่ HSK ระดับไหน และจะต้องเตรียมตัวอย่างไร อันนี้เป็นแอพที่เคยใช้ แนะนำค่ะ http://www.hskonline.com/app
ตอนนี้กำลังเตรียมตัวสอบ HSK ค่ะ เห็นมีแอพนึงให้ลองทดสอบวัดระดับภาษาจีนฟรี มีให้ฝึกคำศัพท์ และโหลดแนวข้อสอบฟรี ใช้แล้วรู้สึกว่าช่วยได้เยอะ ก่อนสอบก็ฝึกศัพย์อยู่บ่อยๆ อันนี้ค่ะ http://www.hskonline.com/app
ต้องสอบไล่ระดับให้ผ่านHSK1 ถึงจะสอบ HSK2 แล้วสอบระดับต่อไปรึเปล่าคะ หรือใครอยากจะสอบระดับไหนเลยก็ได้?
ไม่จำเป็นต้องไล่ระดับค่ะ อยากสอบระดับไหนก็ได้แล้วแต่เราค่ะ