เท่มาก! หนุ่มอังกฤษใช้เฟซบุ๊กสืบหาข้อมูล ช่วยเด็กที่โดนลักพาตัวได้สำเร็จ

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com เชื่อว่าน้องๆ น่าจะมีเฟซบุ๊กกันแทบทุกคนอยู่แล้วเนอะ ปกติน้องๆ ใช้เฟซบุ๊กทำอะไรบ้างคะ หลายคนน่าจะใช้เป็นอีกช่องทางในการติดต่อกับเพื่อนๆ เหมือนกับ พี่พิซซ่า แต่วันนี้พี่มีเหตุการณ์หนึ่งมาเล่าให้ฟังค่ะ เป็นเหตุการณ์ช่วยเด็ก 4 ขวบให้กลับสู่อ้อมอกตายายผู้เป็นที่รักได้โดยใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือ แถมคนที่ช่วยได้ยังเป็นคนแปลกหน้าที่อยู่คนละทวีปกันเลยด้วย ไปอ่านรายละเอียดกันเลยค่ะ




เวอร์จิลและแฟนสาวที่ลักพาตัวหนูน้อยวัย 4 ขวบไป
Photo Credit: Facebook/Gary Forester

     หลังเสียแม่ไป อิเว็ตต์ในวัย 4 ขวบต้องอยู่กับพ่อแท้ๆ ที่เลี้ยงดูไม่ค่อยดีจนทำให้เด็กน้อยได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ แกรี่ และคิม ฟอเรสเตอร์ ผู้เป็นตาและยายจึงยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้เลี้ยงดูอิเว็ตต์เอง ซึ่งศาลตัดสินให้ตาและยายได้เป็นผู้เลี้ยงดูอิเว็ตต์ได้ในวันที่ 20 มิถุนายน ทว่ากว่าจะถึงวันที่ศาลประกาศคำตัดสิน เวอร์จิล เฮนลีย์ ผู้เป็นพ่อแท้ๆ และแฟนสาวก็ลักพาตัวอิเว็ตต์หายไปเรียบร้อยแล้ว


แกรี่ และคิม ฟอเรสเตอร์ คุณตาคุณยายของหนูน้อยที่โดนพ่อลักพาตัว
Photo Credit: Facebook/Gary Forester

     แกรี่และคิมจึงแจ้งความกับตำรวจ จากนั้น FBI ก็เข้ามาดูแลคดีนี้และตามหาอยู่ 3 สัปดาห์ก็ไม่ได้ร่องรอยอะไรเลย ในที่สุดแกรี่และคิมก็ตัดสินใจสืบหาเองโดยใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือค่ะ แกรี่เข้าไปในเฟซบุ๊กเดิมของเวอร์จิล ที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อบนเฟซบุ๊กเป็นมาร์ก จอห์นสัน เพื่อพยายามสืบหาร่องรอย แต่เวอร์จิลก็ไม่เคยหลุดเช็คอินที่ไหนหรือโพสต์สเตตัสที่จะทำให้เดาตำแหน่งที่อยู่ได้เลย แกรี่เลยเปลี่ยนมาลองดูรายชื่อคนกดไลก์ในเฟซของเวอร์จิลแทน และส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เป็นเพื่อนในเฟซของเวอร์จิล ข้อความที่ส่งไปมีดังนี้ค่ะ


Photo Credit: SWNS: South West News Service

     สวัสดีครับ ผมชื่อแกรี่ ฟอเรสเตอร์ ผมเห็นว่าคุณเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกับคนชื่อมาร์ก จอห์นสัน ซึ่งจริงๆ ชายคนนี้มีชื่อจริงว่าเวอร์จิล ลามาร์ เฮนลีย์ และเป็นพ่อของหลานสาววัย 4 ขวบของผม อิเว็ตต์
     ตอนนี้ ผมและภรรยาได้สิทธิเลี้ยงดูอิเว็ตต์อย่างถูกต้อง และทีมคดีลักพาตัวเด็กของ FBI ก็กำลังตามหาตัวอิเว็ตต์อยู่
     ถ้าคุณช่วยยังไงก็ได้ให้ผมได้ที่อยู่ที่แน่นอนของหลานสาวผม ผมมีรางวัลสองพันเหรียญตอบแทนสำหรับข้อมูลที่ช่วยให้พาเธอกลับมาอย่างปลอดภัย
     กรุณาตอบข้อความผมกลับหรือโทรหาผมที่ xxxxxxxx เพื่อช่วยหลานสาวผมด้วยนะครับ ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากๆ เลย

     ไม่นานนักก็มีเพื่อนในเฟซบุ๊กคนหนึ่งของเวอร์จิลที่เห็นข้อความนี้และติดต่อกลับหาแกรี่ เขาคนนั้นเป็นหนุ่มอังกฤษวัย 21 ปีชื่อว่าแฮร์รี่ บราวน์ ค่ะ แฮร์รี่บอกว่าเขาเองก็ไม่ได้รู้จักเวอร์จิลเป็นการส่วนตัว แค่เคยเล่นเกมในอินเตอร์เน็ตแล้วมันแอดไปหาเวอร์จิลเองเมื่อหลายปีก่อน เขาเคยคุยในเฟซกับเวอร์จิลแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่แฮร์รี่ก็ตกลงว่าจะลองชวนเวอร์จิลคุยเพื่อหาที่อยู่ให้ค่ะ


แฮร์รี่ บราวน์ หนุ่มอังกฤษที่ยินดีช่วยตามหาอิเว็ตต์
Photo Credit: SWNS: South West News Service

     จากนั้นแฮร์รี่ก็ทักไปหาเวอร์จิลและชวนคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไปเพื่อตีสนิท หลังชวนคุยเนียนๆ ได้ 2 วัน แฮร์รี่ก็ได้ข้อมูลว่าเวอร์จิลพาแฟนสาวและอิเว็ตต์ไปอยู่ที่มลรัฐแอริโซน่า และเปลี่ยนที่ค้างไปเรื่อยๆ บางทีก็เป็นโมเต็ลราคาถูก บางทีก็จอดรถนอนข้างทางเอา แต่ที่แกรี่ต้องการจริงๆ ก็คือที่อยู่ชัดเจนในระดับเลขที่ห้องเลย เพื่อจะได้ให้ตำรวจตามไปถูก แฮร์รี่จึงต้องพยายามคิดวิธีที่จะได้ที่อยู่ของเวอร์จิลมาค่ะ นั่นคือหลอกว่าจะสั่งพิซซ่าไปส่งให้ฟรี ข้อความที่แฮร์รี่พิมพ์คุยกับเวอร์จิลมีดังนี้ค่ะ


Photo Credit: SWNS: South West News Service

แฮร์รี่: คุณอยากกินพิซซ่ามั้ย :3
เวอร์จิล: ผมเจ็บที่ไตมากเลยคงกินไม่ได้ แต่ภรรยาผมกินได้นะ
แฮร์รี่: อ้าวหรอ ทำไมคุณเจ็บไตล่ะ
         แม่ผมก็เคยผ่าตัดไป 2 ครั้งเพื่อเอานิ่วในไตออก
         แล้วคุณจะเอาพิซซ่าหน้าอะไร
เวอร์จิล: ไม่รู้สิ คงนิ่วนั่นแหละ
แฮร์รี่: มันเป็นอะไรที่แย่สุดในโลกแล้ว ฮ่า
เวอร์จิล: ผมก็เพิ่งผ่านมันมาเหมือนกันเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน
แฮร์รี่: พวกหมอก็เคยคิดว่าผมมีนิ่วในไตตอนที่ไส้ติ่งแตก
เวอร์จิล: นี่ที่อยู่โรงแรม xxxxxxxxxxxx
            ห้อง 120

     ทีนี้แฮร์รี่ก็รีบก๊อปชื่อโรงแรมและเลขห้องให้แกรี่ แกรี่ก็รีบส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกที และไม่นานนักเวอร์จิลก็เปิดประตูห้องเพื่อจะรับพิซซ่า แต่กลับเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปจับกุมแทนค่ะ ทำให้ในที่สุดอิเว็ตต์ก็ได้กลับไปอยู่บ้านคุณตาคุณยายที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย

     แฮร์รี่ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นของอังกฤษว่าเขาใช้เวลาอยู่กับอินเตอร์เน็ตแทบจะตลอดเวลาก็จริง แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าการคุยกับคนแปลกหน้าอย่างไม่ตั้งใจจะทำให้เขาช่วยหาตัวเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเจอได้ "ผมร้องไห้หนักมากตอนที่เห็นภาพเธอที่ได้กลับไปอยู่กับคุณตาคุณยายแล้ว เธอดูมีความสุขมากจริงๆ ในตอนนี้"


อิเว็ตต์และแกรี่ คุณตาของเธอ
Photo Credit: SWNS: South West News Service

     แกรี่ให้สัมภาษณ์ว่าตอนที่อิเว็ตต์หายไป เขาใจสลายมาก และเขาก็ตั้งใจว่าจะต้องตามหาเธอให้จนได้ แม้ในระหว่างนั้นเขาจะถูกให้ออกจากงานทั้ง 2 แห่ง รวมถึงงานภารโรงที่เป็นงานประจำของเขา ดังนั้นพอแฮร์รี่ช่วยหลานสาวเขาได้เขาก็อธิบายไม่ถูกเลยว่าแฮร์รี่ช่วยครอบครัวเขาไว้มากขนาดไหน "ผมจำวินาทีที่เจ้าหน้าที่มาส่งอิเว็ตต์ที่บ้านได้เลย ตอนนั้นผมยืนรออยู่หน้าบ้าน พอรถจอดสนิทอิเว็ตต์ก็รีบลงจากรถ ตะโกนหาผม แล้วก็วิ่งมากระโดดใส่อ้อมแขนของผม ผมกอดและหอมเธอไปพร้อมๆ กับร้องไห้ด้วยความยินดี ได้เห็นสีหน้าที่มีความสุขของหลานทำให้ผมสุขไปด้วย ผมคิดเสมอว่าแฮร์รี่คือคนช่วยชีวิตเธอเอาไว้ และเขาจะมีบุญคุณกับเราตลอดไป"

     แกรี่และคิมเชิญแฮร์รี่บินมายังสหรัฐอเมริกาในฐานะแขกคนสำคัญของครอบครัว ด้านแฮร์รี่เองก็ดีใจมากเช่นกันที่จะได้ไปเจอหน้าครอบครัวที่เขาช่วยเอาไว้ได้ "มันเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย เรื่องที่ผมเคยกังวลมาก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องไร้สาระไปเลย แต่ตอนนี้ผมมีอะไรให้มีความสุขไปด้วยแล้ว" แฮร์รี่กล่าวอย่างอารมณ์ดี


     เป็นเรื่องดีมากเลยนะคะที่สุดท้ายก็ช่วยอิเว็ตต์กลับมาได้ แถมคนที่ช่วยยังเป็นคนแปลกหน้าที่อยู่อีกทวีปอีกต่างหาก ถ้าเรามีโอกาสให้ความช่วยเหลือใครได้เมื่อไหร่ อย่าปล่อยโอกาสนั้นไปนะคะ
พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

SailorVfan / หลงอักษร Member 27 ส.ค. 60 22:19 น. 1

เรื่องนี้คือสุดยอดจริง ๆ ค่ะ! อ่านแล้วรู้สึกดีใจกับคุณตาคุณยายและน้องหนูอิเว็ตต์ด้วย คุณแฮร์รี่ก็เป็นพลเมืองดีจริง ๆ


แต่อยากจะบอกว่า...ถ้าเป็นคนไทย เจอข้อความแบบนั้นส่งมา...คิดว่าส่วนใหญ่น่าจะคิดว่าเป็นสแปมไม่ก็ติดไวรัสไม่ก็โดนแฮก และคงเลือกจะปิดหน้าต่างแชทนั้นไปเลยมากกว่าน่ะค่ะ หนักหน่อยอาจจะบล็อคไปเลยด้วยซ้ำ...อารมณ์คล้าย ๆ กับเวลาเจออีเมล์สแปมที่ส่งมาบอกว่า ตามหาคนนี้ เชิญให้ไปทำงานที่นี่...(ความจริงอีกด้านช่างโหดร้าย)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

SailorVfan / หลงอักษร Member 27 ส.ค. 60 22:19 น. 1

เรื่องนี้คือสุดยอดจริง ๆ ค่ะ! อ่านแล้วรู้สึกดีใจกับคุณตาคุณยายและน้องหนูอิเว็ตต์ด้วย คุณแฮร์รี่ก็เป็นพลเมืองดีจริง ๆ


แต่อยากจะบอกว่า...ถ้าเป็นคนไทย เจอข้อความแบบนั้นส่งมา...คิดว่าส่วนใหญ่น่าจะคิดว่าเป็นสแปมไม่ก็ติดไวรัสไม่ก็โดนแฮก และคงเลือกจะปิดหน้าต่างแชทนั้นไปเลยมากกว่าน่ะค่ะ หนักหน่อยอาจจะบล็อคไปเลยด้วยซ้ำ...อารมณ์คล้าย ๆ กับเวลาเจออีเมล์สแปมที่ส่งมาบอกว่า ตามหาคนนี้ เชิญให้ไปทำงานที่นี่...(ความจริงอีกด้านช่างโหดร้าย)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด