ดีหรือหลอน? เมื่อโลกพัฒนามาถึงการมีโปรแกรม "แชทคุยกับคนที่ตายไปแล้ว"

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ความตายเป็นเรื่องที่เศร้าและต้องใช้เวลาเพื่อการเยียวยาจิตใจ แต่ในโลกที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ และทุกสิ่งเปลี่ยนไปตลอดเวลาก็มีการพัฒนาโปรแกรมแชทขึ้นมาเพื่อจำลองการพูดคุยกับคนที่ตายไปแล้วได้ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งการเยียวยาจิตใจให้กับคนที่เพิ่งสูญเสียคนที่รักไป หากสงสัยว่ามันเป็นยังไง พี่นิทาน จะเล่าให้ฟังค่ะ 

 
Photo credit : Pixabay

    เมื่อคนที่เรารักเสียชีวิตและจากโลกนี้ไปแล้ว ก็คงยากที่จะทำใจและอดคิดถึงไม่ได้นะคะ ถ้าเป็นสมัยก่อนเราคงไปเยี่ยมคนตายที่หลุมศพ หรือไม่ก็รูปภาพหรือของต่างหน้าที่เรายังเก็บไว้อยู่ เวลาคิดถึงจนทนไม่ไหวก็อาจมีแอบพูดกับหลุมศพบ้าง รูปภาพบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะอย่างน้อยในใจเราก็คิดว่าบางทีเขาอาจจะได้ยินก็ได้ แต่ในยุคที่เทคโนโลยีทันสมัยขนาดนี้ บางครั้งความคิดถึงก็ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะพิมพ์ไปทักทายพวกเขาในเฟซบุ๊กหรือส่งข้อความไปที่เบอร์เดิมที่เขาเคยใช้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาไม่มีวันตอบมาอีกแล้วแน่นอน 

    แต่อย่างที่บอกว่านี่มันยุคสมัยใหม่แล้ว ไม่ว่าอะไรก็สามารถสร้างขึ้นมาได้เพื่อความสะดวกสบาย รวมไปถึงความสบายใจ นั่นคือมีธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายที่ช่วยให้พวกเรา "พูดคุยกับคนตาย" ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่การพูดคุยกับคนที่ตายไปแล้วจริงๆ หรือวิญญาณของพวกเขา แต่อย่างน้อยก็เป็นการสนทนาที่ทำให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้อุ่นใจและหายคิดถึงได้บ้าง 

 
Photo credit : Pixabay

    การพูดคุยหรือสนทนากับคนที่ตายไปแล้วผ่านช่องทางแชทต่างๆ นั้นก็เหมือนการแชทคุยกับคนอื่นทั่วไปธรรมดาที่ต้องใช้ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ลองนึกภาพว่าเราชอบทะเลาะกับเพื่อนสนิททุกวันเลย เถียงกันเรื่องไร้สาระเป็นประจำ มีง้องอนกันบ่อยๆ แต่สุดท้ายก็ดีกัน และเพื่อนคนนี้ก็เข้าใจเราสุดๆ แต่ถ้าเขาตายไปและเราอยากคุยกับเขาในแชทต่อไป ต่อให้มีแอพฯ หรือเว็บไซต์ที่ใช้ Chat bot (โปรแกรมแชทอัตโนมัติ) มันจะเข้าใจและคุยรู้เรื่องเท่าเพื่อนเราจริงๆ เหรอ? มันเป็นไปได้ค่ะ เพราะไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการศึกษาวิจัยหลายอย่างเกี่ยวกับการสร้างโปรแกรมแชทอัตโนมัติที่ดึงข้อมูลส่วนตัวของบุคคลนั้นๆ มาพัฒนาตัวเอง 

    ยกตัวอย่างมาจากโครงการศึกษาวิจัยหุ่นยนต์ AI ของ Ryerson University และ MIT Media Lab ที่มีชื่อว่า "augmented eternity" เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลบนโลกดิจิตัลของคนที่ตายไปแล้ว แต่เป็นข้อมูลที่เคยโพสต์บนโลกอินเทอร์เน็ตทั้งหลายแหล่ที่เขาเคยโพสต์ไว้ตอนยังมีชีวิตอยู่ เช่น อีเมล, ข้อความต่างๆ ทั้งในมือถือและแชทต่างๆ, ทวีต, Snapchat และอื่นๆ และเจ้าโปรแกรมนี้ก็จะเอาข้อมูลมารวบรวม วิเคราะห์รูปแบบการใช้งาน การสนทนาของคนๆ นั้นเพื่อนำมาพัฒนาให้ตัวเอง "มีความคิด" ของคนๆ นั้นขึ้นมาเพื่อใช้ในการแชทพูดคุยกับใครสักคนที่ต้องการใช้บริการนี้ ฟังดูน่าสนใจและฉลาดมาก แต่ยังไงคนทีมสร้างเจ้าโปรแกรมนี้ก็ต้องคอยระวังเรื่องการสร้างความคิดหรือแนวคิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาไม่ให้มันผิดแปลกไปจากคนเดิม เพราะยังไงก็ต้องคงความเป็นคนๆ นั้นเอาไว้ ในเมื่อเขาจากไปแล้วก็ไม่ควรคิดอะไรใหม่ๆ แทนเขา และโปรแกรมนี้ก็ยังคงต้องพัฒนาอีกมาก 

Photo credit : Pixabay

    แต่นอกจากโปรแกรม "augmented eternity" แล้วก็มีคนอื่นๆ ที่มีแนวคิดสร้างโปรแกรมหรือแอพอะไรแบบนี้ขึ้นมาเช่นกัน เช่น โปรแกรมแชทที่คิดค้นโดยชาวรัสเซียคนหนึ่งที่อยากคุยกับเพื่อนสนิทชื่อโรมันที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2015 ด้วยอุบัติเหตุรถชน คอนเซปต์ของโปรแกรมแชทนี้คือการระลึกถึงโรมันและการจำลองการพูดคุยกับคนที่ตายไปแล้วนั่นเองค่ะ การสร้างโปรแกรมนี้ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องรวบรวมข้อมูลของโรมันและใส่ความเป็นตัวตน อารมณ์ขัน แนวคิดของเขาลงไปให้เหมือนจริงที่สุด และก่อนจะใช้งานจริงเธอก็ต้องเอาข้อมูลเหล่านั้นไปให้แม่ของโรมันเช็กอีกครั้งเพื่อความเป๊ะด้วยค่ะ 

    ถึงแม้โปรแกรมแชทนี้จะดีตรงที่ทำให้เราได้จำลองการพูดคุยกับคนที่ตายไปแล้ว แต่การแชทแบบนี้ก็ไม่ได้ให้ความสุขเราได้เต็มที่ เพราะเรารู้ดีอยู่แล้วว่าโปรแกรมแชทไม่ใช่คนจริงๆ อาจจะเหมือนเวลาเราพูดคุยกับพระเจ้าเพื่อความอุ่นใจทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาไม่มีตัวตนและจากโลกนี้ไปนานแล้วด้วยซ้ำ บางครั้งมันก็เป็นแค่การเยียวยาและบำบัดจิตใจคนที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นเอง 

Photo credit : Pixabay

    แอนเดรีย (Andrea Warnick) นักมรณะวิทยาและที่ปรึกษาเรื่องความเศร้าจากประเทศแคนาดากล่าวว่า การจำลองการพูดคุยกับคนที่ตายไปแล้วไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้น แต่สำหรับบางคนที่ต้องการจะจัดการกับความเศร้าและความคิดถึงจริงๆ โปรแกรมแชทพวกนี้อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้ให้ถูกวิธี เพราะท้ายที่สุดแล้วคำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เศร้าและทำใจไม่ได้มากๆ ก็คือเราต้องปล่อยวางและใช้ชีวิตของเราต่อไป 

    มีโครงการคล้ายๆ กันที่น่าสนใจไม่แพ้กันภายใต้ชื่อว่า "Eterni.me" ที่เปิดตัวเว็บไซต์ประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้เปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการ ในเว็บไซต์มีคนเข้ามาสมัครกันแแล้วเกือบ 40,000 คน โดยทางเว็บไซต์ Eterni.me เขียนไอเดียคร่าวๆ ไว้ประมาณว่าที่นี่จะเป็นที่ๆ รวบรวมความทรงจำต่างๆ ของเราหรือพ่อ, แม่, พี่, น้อง หรือคนอื่นๆ ที่เรารักเก็บเอาไว้ โดยความทรงจำเกี่ยวกับพวกเขาเหล่านั้นจะยังคงอยู่และมีชีวิตในแบบของมัน หรือเราอาจสมัครเพื่อเก็บข้อมูลของเราเอาไว้เผื่อลูกหลานก็ได้ เพราะเราไม่มีวันรู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ นอกจากนั้นที่เด็ดที่สุดก็คือการพูดคุยสนทนาผ่านตัวคนที่เสียชีวิตไปแล้วให้เหมือนจริงมากที่สุดได้ด้วย ใครที่สนใจในไอเดียหรืออยากสมัครก็ลองเข้าไปดูต่อได้ในเว็บไซต์ http://www.eterni.me/ เลยค่ะ 

Photo credit : Pixabay

  

      ถึงแม้ว่าทั้ง Eterni.me หรือโครงการคล้ายๆ กันจะเชื่อว่าเราสามารถมีชีวิตอยู่บนโลกจำลองหรือเทคโนโลยีต่างๆ ได้ตลอดกาล แต่เราก็ไม่สามารถหยุดยั้งความตายในโลกแห่งความเป็นจริงได้อยู่ดี และการจำลองพูดคุยติดต่อกับคนที่ตายไปแล้วอาจไม่ใช่ทางออกเพื่อความสบายใจของทุกคน บางคนอาจเศร้ามากจนเอาตัวเองไปจมอยู่กับโลกจำลองมากเกินไปก็อาจจะแย่ได้ค่ะ ยังไงตัวพี่เองก็เชื่อในการยอมรับความเป็นจริงและปล่อยวาง อาจมีคิดถึงพวกเขาบ้างเป็นธรรมดา แต่อย่างน้อยเขาก็ยังอยู่ในใจเราตลอดไปค่ะ ^^ 

อ้างอิง
https://qz.com/
https://www.theguardian.com/
https://medium.com/
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Pream_Parinuttha Member 1 ก.ย. 60 07:24 น. 1

ก็ดีนะ.... แต่เราว่าปลงดีกว่า อย่าขังตัวเองไว้กับอะไรที่ไม่มีตัวตนจริงๆเลย ทรมานเปล่าๆ ในเมื่อมันไม่ใช่ความจริง

0
กำลังโหลด

1 ความคิดเห็น

Pream_Parinuttha Member 1 ก.ย. 60 07:24 น. 1

ก็ดีนะ.... แต่เราว่าปลงดีกว่า อย่าขังตัวเองไว้กับอะไรที่ไม่มีตัวตนจริงๆเลย ทรมานเปล่าๆ ในเมื่อมันไม่ใช่ความจริง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด