สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ชอบมากๆ ไปแล้วไปอีก ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยพอ พี่เป้ เองก็มีเหมือนกันค่ะ ส่วนตัวแล้วพี่ชอบ "เกาะบาหลี" มากๆ ล่าสุดไปมาเป็นครั้งที่ 3 ก็ชอบมากกว่าเดิมอีก วันนี้เลยมีทิปน่ารู้เกี่ยวกับบาหลีมาฝาก เผื่อใครอยากสนใจไปบ้าง^^
— PaEDek-D (@paydekd) 4 กันยายน 2560
ชอบบาหลีมาก มาแล้วมาอีก 3วันไม่รวมที่พักกับตั๋ว ใช้ไป4พัน คือกินอย่างเทพ ซื้อของเพียบ ราคาพอกับบ้านเรา สปาถูก คนไทยไม่เยอะมาก ฝรั่งเพียบจ้า pic.twitter.com/zTTUnYmAi8
บาหลีเป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย มีสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะ หลายคนจึงเรียกติดปากว่าเกาะบาหลี แต่มีวัฒนธรรมหลายอย่างที่แตกต่างจากคนบนเกาะใหญ่(เกาะสุมาตราและเกาะชวา) หลักๆ คือคนอินโดนีเซียส่วนมากนับถือศาสนาอิสลาม แต่คนที่เกาะบาหลีจะนับถือศาสนาฮินดูค่ะ รวมถึงมีภาษาบาหลีของตัวเองด้วย แต่โดยทั่วไปคนที่นี่จะสื่อสารภาษาอินโดนีเซียทั่วไปนี่แหละค่ะ
บาหลีเป็นเกาะขนาดใหญ่ ใหญ่กว่ากรุงเทพประมาณ 3-4 เท่า มีหลายอำเภอบนเกาะ แต่ละอำเภอก็จะมีเมืองหลัก โดย 2 จุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดคือ
- เมืองอูบุด จะเป็นย่านท้องถิ่นที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่พัก และสปาเยอะมากๆ จะคล้ายๆ กับถนนนิมมานที่เชียงใหม่เลยค่ะ อยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
- เมืองเดนปาซาร์ มีย่านสำคัญคือ คูต้า เป็นชายหาดติดทะเลที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นเซิร์ฟกัน อยู่ห่างจากสนามบินไม่เกิน 20 นาที นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาพักที่นี่คืนก่อนเดินทางกลับเพราะใกล้สนามบินมากๆ ค่ะ
ค่าครองชีพที่บาหลีใกล้เคียงกับไทยมากๆ ค่ะ อาหารทั่วไปแบบไม่ได้หรูเริด ก็ตกประมาณ 20,000 รูปีหรือประมาณ 50 บาท (10,000 รูปีตกประมาณ 25 บาท) เรียกว่ากำเงินแบบที่พวกเราใช้ในชีวิตประจำวันไปบาหลีก็บอกเลยว่าใช้พอแน่นอน ใครเน้นกินแบบไม่หรู ใช้ 500 บาทต่อวันคืออยู่ได้สบายๆ
บาหลีคือสวรรค์ของคนรักสปาค่ะ สปาถูกมากกกกกกกกกกก อย่างนวดอะโรม่า บ้านเราเริ่มต้นก็เกือบ 500 บาทต่อชั่วโมงแล้ว แต่ที่บาหลีนั้นหลายร้านถูกมาก ชั่วโมงหนึ่งแค่ 300 บาทก็หาได้ง่ายมาก บางร้านมีเป็นแพ็คเกจนวดตัว สครับ แช่น้ำนม อะไรอีกสารพัด รวมๆ 3 ชั่วโมง ยังแค่ 500-600 บาทเอง ขอใช้คำว่าถูกจนจะเป็นบ้าเลยค่ะ ถูกมากกกกกกก
ที่พักในบาหลีนั้นมีเยอะมากๆ มีตั้งแต่เกสต์เฮาส์ โฮมสเตย์ รีสอร์ท จนถึงระดับหรูแบบพูลวิลล่า ราคาเริ่มต้นที่ไม่กี่ร้อยจนถึงหลักหมื่นแล้วแต่ความหรูหรา หากใครจะพักในงบจำกัดก็สามารถหาแบบคืนละ 400-500 บาทได้ไม่ยาก แต่อย่าลืมเช็กดีๆ นะคะว่ามีแอร์มั้ย เพราะบาหลีเป็นเกาะ ทำให้มีลมพัดเข้ามาตลอดปี ตอนกลางคืนของบางช่วงก็จะไม่ร้อนมาก ตกประมาณ 24-25 องศา แบบว่าต้องไม่เปิดแอร์ก็อยู่ได้ค่ะ แต่ถ้าใครขี้ร้อนก็ต้องเช็กดีๆ ว่าที่พักนั้นมีแอร์หรือเปล่า ไม่งั้นตกกลางคืนนี่นอนรักแร้เปียกแน่นอน
ใครจะไปค้างหลายๆ คืน อาจจะจองที่พักก่อนล่วงหน้าแค่ 2 คืน แล้วที่เหลือค่อยไปเดินไล่หาเอาก็ได้นะคะ จะได้เห็นของจริงก่อนด้วย พี่เคยทำ สนุกดี 5555
ถ้าจะซื้อของฝาก แนะนำให้ลองหาซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ จะดีที่สุดค่ะ เพราะพวกมินิมาร์ทเล็กๆ ส่วนมากไม่มีป้ายราคาบอก! แถมของราคาแพงกว่าในซูเปอร์มาร์เก็ตอีกด้วย สำหรับของดีนั้น ขอแนะนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปค่ะ ดังมากและอร่อยมาก มีหลายๆ รสชาติและหลายยี่ห้อที่ไม่มีขายในไทยด้วย
ที่บาหลีมีร้านแลกเงินเยอะพอสมควร รับแบงค์ไทยเลย (ที่นั่นใช้เงินสกุล IDR หรือรูปีอินโดนีเซีย) ยิ่งร้านไหนที่เขียนเรทเงินไทยสูงๆ แปลว่าเรทยิ่งดีค่ะ แต่จริงๆ เดี๋ยวนี้สามารถนำเงินไทยไปแลกเงินอินโดนีเซียได้ที่ร้านแลกเงินในไทยแล้วนะคะ เพราะคนไทยไปเที่ยวอินโดนีเซียเยอะขึ้น จากแต่ก่อนที่ต้องแลกเป็นดอลลาร์ USD จากไทยไปก่อนแล้วค่อยเอา USD ไปแลกเป็นเงินอินโดนีเซียที่ปลายทาง
การเดินทางในบาหลีอาจจะไม่ง่ายมากแต่ก็ไม่ยากมาก หลักๆ คือแท็กซี่ที่ราคาก็ไม่ได้แพงกว่าที่ไทยซักเท่าไหร่นัก หรือถ้าใครขี่มอเตอร์ไซค์เป็น ก็สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ได้ ฝรั่งขี่กันให้พรึบเลย ส่วนการเช่ารถยนต์ขับเองนั้นก็สามารถทำได้นะคะ แต่ต้องบอกก่อนว่าถนนในเกาะบาหลีนั้นแคบมากและคดเคี้ยวพอสมควร ดังนั้นถ้าจะเช่ารถขับ ขอแนะนำว่าเช่ารถพร้อมคนขับน่าจะดีกว่าค่ะ
เวลาทานอาหาร คนบาหลี(และอินโดนีเซีย)จะนิยมมีเครื่องเคียงคือ ซัมบัล เป็นเหมือนน้ำพริกเผ็ดๆ คล้ายๆ กับที่คนไทยบางคนชอบเติมพริกน้ำปลา ใครชอบทานเผ็ดนี่แนะนำเลยว่าซัมบัลนั้นดีงามมากๆ สามารถซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับมาได้ด้วย
กิจกรรมบนเกาะบาหลีมีหลายสไตล์ให้เลือกทำแล้วแต่ความชอบ ตั้งแต่ปีนเขา ดำน้ำ เข้าป่า เข้าถ้ำ ขี่จักรยาน โยคะ นั่งสมาธิ ชิมกาแฟ ทำสปา เที่ยววัดฮินดู เรียนทำอาหาร เรียนศิลปะ อย่างพี่จะชอบอะไรที่เป็นแนว aroma ก็จะวนอยู่แถวสปา แล้วก็เคยไปเข้าคลาสที่เก็บเอาสมุนไพรมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสปาด้วยค่ะ ซึ่งสามารถหาซื้อทัวร์แนวๆ นี้ได้ที่บาหลีเลย ร้านขายทัวร์เยอะมาก
นักท่องเที่ยวส่วนมากบนเกาะบาหลีนั้นเป็นชาวออสเตรเลียค่ะ เพราะบาหลีอยู่ใกล้ออสเตรเลียมากๆ บินแค่ 3-4 ชั่วโมงก็ถึงออสเตรเลียฝั่งตะวันตกแล้ว บางคนมาเที่ยวทีหลายสัปดาห์เลย เรียกว่าเที่ยวครบทุกเม็ดจริงๆ ส่วนคนไทยนั้นไม่ค่อยเยอะเท่าไร จากที่พี่เคยไปบาหลีมา 3 ครั้ง รวมกันแล้วเจอคนไทยไม่ถึง 5 คนค่ะ (คนไทยตอนนี้เหมือนจะฮิตไปที่สุราบายาเพื่อดูภูเขาไฟโบรโม่กันซะมากกว่า)
ทุกวันในตอนเช้า คนบาหลีจะนำกระทงเล็กๆ โรยด้วยดอกไม้ พรมน้ำมนต์ เรียกว่า Canang Sari ออกไปไหว้ที่หน้าบ้านของตัวเองค่ะ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าทางศาสนาฮินดู โดยดอกไม้สีแดงแทนพระพรหม สีขาวแทนพระอิศวร สีเหลืองแทนพระศิวะ และสีเขียวหรือฟ้าแทนพระวิษณุ นอกจากจะไหว้ที่หน้าบ้านแล้ว ยังยกไปไหว้ตามจุดต่างๆ ที่เชื่อว่าจะช่วยให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองหรือปลอดภัย เช่น ไว้ที่รถยนต์ หรือพวกร้านค้าก็จะวางไว้ตามเคาน์เตอร์คิดเงินค่ะ ดังนั้นเดินๆ อยู่ ก็ระวังจะเผลอเหยียบ Canang Sari นะคะ
ไปบาหลีต้องมีงบเท่าไร? ถูกที่สุดน่าจะเป็นสายการบินโลว์คอสต์สีแดงๆ 2 เจ้า ไปกลับตกคนละประมาณ 6,000 บาท ที่พักต่อคนแบบไม่แพง ตีไว้สักคืนละ 700 บาท ค่ากินเที่ยวชิลล์ๆ อีกวันละ 1,000 บาท ดังนั้นถ้าไปสัก 4 วัน น่าจะใช้ไปทั้งหมดประมาณ 10,000 นิดๆ ก็ไหวอยู่ค่ะ
พี่เพิ่งจะกลับจากบาหลีได้แป๊บๆ แต่พอมาเขียนเล่าอะไรแบบนี้ ก็อยากจะพุ่งตัวไปอีกเดี๋ยวนี้เลย ใครเคยไปก็มาแชร์ประสบการณ์กันได้ค่ะ หรือใครยังไม่เคยไป ก็ขอแนะนำเลยว่า ไปเถอะ มันดี๊ดีมากจ้า!
พี่เคยเขียนอีกบทความเกี่ยวกับ วัน Nyepi ซึ่งเป็นวันสำคัญของคนบนเกาะบาหลี ใครสนใจก็เข้าไปอ่านได้เลย "วัน Nyepi" วันที่เกาะบาหลีแทบไร้ผู้คน แม้แต่สนามบินยังต้องปิด!
5 ความคิดเห็น
เคยไปบาหลีมาเหมือนกันค่ะพี่เป้ ตอนนั้นไปรถล้มตอนขึ้นเขาด้วย กลับไทยมาหมอบอกรอดชีวิตมาได้ยังไง TT
หูววว อันนี้คือขี่มอเตอร์ไซค์หรอคะ เจ็บแทนเลยTT
น่าเที่ยวจัง // แต่พอมองกระเป๋าสตางค์ เศร้าแป๊ป