เมื่อของเล่นไม่ได้ทำให้สนุกอีกต่อไป.. 5 เรื่องจริงของเด็กน้อยที่เกือบตายเพราะของเล่น!

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ของเล่น เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยในการพัฒนาเด็กในหลายๆ ด้าน ทั้งความคิด การสังเกต การสัมผัส การเล่นกับเพื่อนคนอื่นๆ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ในขณะเดียวกันของเล่นก็อาจมีด้านมืดของมันอยู่หากใช้งานไม่ถูกต้อง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทั้งวิธีการใช้และการผลิตอย่างได้มาตรฐานและความปลอดภัยด้วยค่ะ วันนี้ พี่นิทาน เลยรวบรวมเหตุร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากของเล่นจนทำให้เด็กเสียชีวิต มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง


1. ของเล่นแม่เหล็ก "Buckyballs"



    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 เมื่อเด็กหญิงวัย 19 เดือน (หรือขวบกว่าๆ) ที่ชื่อว่า แอนนากา (Annaka Chaffin) กลืนแม่เหล็กลูกเล็กๆ 7 ลูกจากสร้อยคอที่พี่ชายได้มาจากเพื่อนที่โรงเรียน และเวลาต่อมาก็เกิดอาการเลือดออกทางปากและจมูกจนเสียชีวิต หลังจากการชันสูตรก็พบว่าแม่เหล็กพวกนั้นเข้าไปดูดติดกันอยู่ในลำไส้เล็กของหนูน้อยแอนนากา ซึ่งทำให้ลำไส้ทะลุเป็นรูและติดเชื้อ ซึ่งแพทย์บอกว่าการกลืนแม่เหล็กลงไปในร่างกายทำให้วินิจฉัยโรคได้ยากว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพราะอาการจะค่อนข้างกำกวมระหว่างโรคอาหารเป็นพิษหรือกระเพาะอักเสบ และยิ่งในกรณีที่แม่เหล็กมีขนาดเล็กมากจนหายากก็จะยากในการตรวจพบและนำออกมาด้วยค่ะ 

    จากเหตุการณ์นี้ทำให้องค์กรรับรองมาตรฐานสินค้าในสหรัฐอเมริกา (The Consumer Product Safety Commission) สั่งแบนผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า "Buckyballs" นี้ทันที เพราะนอกจากเหตุเสียชีวิตของเด็กหญิงแอนนากาแล้ว ยังมีเด็กๆ อีกกว่า 7,700 คนถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลเพราะกลืนแม่เหล็กไปเหมือนกันค่ะ น้องๆ คงสงสัยว่าแล้วไอ้เจ้า Buckyballs นี้มันเป็นยังไง ทำไมถึงสร้างความเดือดร้อนให้เด็กๆ เยอะขนาดนี้ โฉมหน้าของ Buckyballs นี้ก็คือเป็นผลิตภัณฑ์แม่เหล็กลูกเล็กๆ กลมๆ ที่มีพลังดึงดูดสูงมาก บรรจุในกล่องจำนวน 216 ลูก โดยความสนุกของมันคือคนที่ซื้อไปสามารถเอาไปครีเอทต่อเป็นรูปทรงต่างๆ ได้หรือไม่ก็เอาไปทำสร้อยคอหรือเครื่องประดับเก๋ๆ ก็ได้ค่ะ แต่เนื่องจากมันมีขนาดเล็กจึงเกิดอันตรายได้ถ้าเด็กๆ เอาไปเล่นอย่างไม่ถูกวิธี และจริงๆ ก็ไม่ใช่ความผิดของเด็กซะทีเดียว ของแบบนี้พ่อแม่ก็ควรจะดูแลให้ดีและไม่ควรนำมาขายด้วยค่ะ 

    โชคดีที่ในที่สุด Buckyballs รุ่นนี้ก็ถูกสั่งเก็บไปหมดแล้วและสั่งห้ามผลิต แต่รุ่นอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่ปกติที่เด็กๆ ไม่น่าจะกลืนได้ก็อนุญาตให้ขายต่อไปได้ค่ะ 


2. ไข่เซอร์ไพรส์ Kinder Surprise Egg 



    น้องๆ น่าจะเคยเห็นขนมช็อกโกแลตรูปไข่ยี่ห้อ Kinder ที่ข้างในจะมีของเล่นเซอร์ไพรส์เด็กๆ อยู่ แต่ของเล่นที่อยู่ด้านในก็มีขนาดค่อนข้างเล็กอยู่เหมือนกันค่ะ จึงเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้ แล้วก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อเด็กหญิงวัย 3 ขวบชาวฝรั่งเศสได้เผลอกลืนของเล่นในไข่ Kinder นั้นไปจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุด แม้ว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิง (ที่เข้ามาช่วยชีวิต) จะพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้วก็ตาม

    จากการชันสูตรพบว่าของเล่นชิ้นนี้ไปติดอยู่ที่ทางเดินหายใจ จึงทำให้เด็กหญิงหายใจไม่ออกและทำให้สมองหยุดทำงานจนเสียชีวิต จากเหตุการณ์นี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจและควรระมัดระวังเด็กเล็กๆ หรือน้องๆ ให้ดีเลยนะคะ เพราะของเล่น Kinder Surprise Egg นี้ค่อนข้างนิยมในหมู่เด็กๆ เพราะมีของเล่นอยู่ด้านใน และของเล่นก็มักจะไม่ซ้ำ จึงทำให้เด็กๆ มักตื่นเต้นว่าเปิดไข่มาครั้งนี้จะได้ของเล่นอะไร แต่ถึงแม้ในไข่นั้นจะมีแคปซูลเล็กๆ หุ้มของเล่นไว้อยู่ก็ตาม ตัวของเล่นก็ค่อนข้างเล็กและบางอันก็ต้องมาประกอบเองอีกที ทางบริษัท Kinder เองก็เขียนข้อควรระวังในผู้ปกครองอ่านไว้ในนั้นอยู่แล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้ถ้าหากเด็กเล็กมาเจอและหยิบเข้าปากไปเอง ดังนั้นทางที่ดีก็ควรดูแลเด็กๆ ให้อยู่ในสายตาไว้ตลอดค่ะ 

    Kinder Surprise Egg นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกแบนในอเมริกา แต่ในอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลกก็ยังคงอนุญาตให้วางขายต่อไปค่ะ 


3. เลโก้



    เลโก้ ของเล่นที่มีทุกบ้าน.. แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยเล่น และปัจจุบันบางคนก็น่าจะยังเล่นอยู่ เพราะเลโก้มีคอลเลคชั่นใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลาสำหรับนักเล่นและนักสะสมไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม และด้วยความที่เลโก้มีหลายแบบให้เล่น ในแต่ละแบบนั้นก็จะมีเขียนไว้ว่าเหมาะสำหรับผู้เล่นอายุเท่าไหร่ เช่น 0-5 ปี หรือ 4-99 ปี เป็นต้น 

    แต่เมื่อปลายปี 2016 ที่ผ่านมา มีเด็กชายวัย 3 ขวบที่ชื่อว่าเอสชาน (Eshaan Bilal) เสียชีวิตเนื่องจากกลืนเลโก้ที่ต่อเล่นกับพี่ชายระหว่างที่เล่นกันอยู่ในบ้าน โดยเลโก้ชิ้นนั้นเป็นชิ้นที่เด็กทั้งสองต่อกันเป็นรูปลูกศรธนู มีความยาวประมาณ 3 เซนติเมตร โดยที่กล่องเลโก้อันนี้มีเขียนระบุไว้ว่า 'สำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป' ระหว่างที่เหตุการณ์เกิดขึ้น แม่ของเอสชานพยายามทำ CPR หรือช่วยปั๊มหัวใจแล้ว แต่เมื่อส่งไปที่โรงยาบาลเด็กชายก็เสียชีวิตในอีก 1 ชั่วโมงถัดมา 

    เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าของเล่นเลโก้ชุดนี้ค่อนข้างเล็กและมีชิ้นส่วนที่ละเอียด ดังนั้นมันก็เหมาะกับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไปตามที่บนกล่องเขียนอยู่แล้ว และจากเท่าที่ตรวจสอบสิ่งอื่นๆ ในบ้านก็พบว่าจริงๆ แล้วเอสชานและพี่ชายก็อยู่ในบ้านที่อบอุ่น มีทุกอย่างพร้อม น่าเสียดายที่เหตุการณ์แบบนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับเขา ดังนั้นการที่พ่อแม่ควรระวังเรื่องความปลอดภัยของของเล่นเด็กนั้นก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ 


4. ฟิดเจต สปินเนอร์ 



    เป็นของเล่นที่เพิ่งจะมีกระแสมากๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเลยนะคะ ถึงขนาดที่ว่าเดินไปไหนหรือไปที่ไหน ประเทศอะไร ก็มีแต่คนเล่น (ทุกประเทศจริงๆ นะ แถมเล่นกันทุกวัยเลย) เหตุการณ์ที่พี่จะเล่านี้ไม่ได้มีใครเสียชีวิตค่ะ แต่แค่ 'เกือบ' ไปเท่านั้นเอง คือมีเด็กหญิงวัย 10 ปีชาวอเมริกันคนหนึ่งเผลอกลืนชิ้นส่วนของฟิดเจต สปินเนอร์ไป เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่คุณแม่กำลังขับรถพาลูกสาวกลับบ้านจากสระว่ายน้ำ แม่ขับรถเพลินๆ อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงแปลกๆ จากเบาะด้านหหลัง เมื่อมองกระจกมองหลังก็ต้องตกใจเพราะเห็นหน้าลูกสาวแดงก่ำและสำลักน้ำลายไหล คุณแม่จึงรีบจอดรถและหันไปถามลูกสาวว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนลูกสาวจะทำได้แค่ส่งเสียงและชี้ไปที่ลำคอของตัวเอง แม่เลยพยายามช่วยเอาสิ่งที่ติดอยู่ในคอลูกสาวออกมาแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงต้องรีบขับรถพาเธอไปโรงพยาบาล


    ภายหลังจากการเฉียดตายครั้งนี้ ลูกสาวสารภาพกับแม่ว่าเธอพยายามจะเอาชิ้นส่วนของฟิดเจต สปินเนอร์เข้าปากเพื่อทำความสะอาด แต่ด้วยความไม่ระมัดระวัง (และไม่ควรทำอย่างยิ่ง) จึงทำให้ชิ้นส่วนนั้นหลุดลงคอเธอไปและติดอยู่ในหลอดอาหาร โชคดีที่คุณหมอสามารถนำชิ้นส่วนนั้นออกมาได้ และสาวน้อยคนนี้ก็รอดชีวิตไปอย่างหวุดหวิด ถึงแม้ของเล่นชนิดนี้จะเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มเด็กๆแต่หลายๆ โรงเรียนก็สั่งแบนกันมาสักพักแล้ว ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลนั้นเช่นกันค่ะ 


5. 'Slinky' สปริงของเล่น 



    คุ้นหน้าคุ้นตากันมั้ยคะกับของเล่นสปริงอันนี้ ตอนเด็กๆ พี่ก็เคยเล่นเป็นสีรุ้งๆ สนุกมากๆ เลย แต่ใครจะไปคิดว่าของเล่นชนิดนี้จะทำให้เด็กชายคนหนึ่งเกือบตายได้จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน นั่นก็คือเมื่อต้นปี 2016 มีแม่ของเด็กชายคนหนึ่งโพสต์ในเฟซบุ๊กชื่อว่า Emma Bozner เพื่อเตือนภัยและเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีวันหนึ่งลูกชายวัย 3 ขวบของเธอกำลังเล่นกับของเล่นสุดโปรด ก็คือเจ้า Slinky ของเล่นสปริงนี้โดยการยืดและให้มันเด้งไปเด้งมาบนมือตัวเอง แต่เมื่อเอมม่าละสายตาไปแค่ไม่กี่นาที หันมาอีกทีลูกชายก็เอาของเล่นสปริงนี้พันไปรอบๆ คอ 3 รอบจนกระทั่งหายใจไม่ออก เมื่อเห็นดังนั้นเอมม่าจึงรีบเอาออก แต่สปริงนั้นแนบติดคอเด็กชายแน่นมากจนเธอต้องใช้กรรไกรช่วยตัดออกมา เมื่อเด็กชายปลอดภัยแล้วเธอจึงรู้สึกว่าของเล่นชิ้นนี้มีความอันตรายอยู่สูงเหมือนกันโดยที่พ่อแม่หลายๆ คนอาจไม่เคยคิดมาก่อน จนเธอต้องโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเตือนใจให้พ่อแม่หลายๆ คนเผื่อไว้ค่ะ


    

      พออ่านแล้วก็บอกเลยว่าของใช้ทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ แต่บางครั้งอุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือพ่อแม่อาจไม่ทันระวัง ดังนั้นถ้าใครมีน้องๆ หรือเด็กๆ ที่รู้จักที่เคยเล่นด้วยกันก็ช่วนกันดูและระวังกันด้วยนะคะ เพราะต่อให้เล่นสนุกยังไง ความปลอดภัยต้องมาก่อนค่ะ ^^ 

อ้างอิง
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

我爱你。 21 ก.ย. 60 10:30 น. 2

มันไม่ได้ผิดที่ของเล่น มันผิดที่คนเล่นไม่ถูกวิธีและไม่ได้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วย คือโง่จังวะของเล่นก็-นำมาเข้าปากจะเด็กก็เถอะเพราะทุกกรณีที่กล่าวมานั้นคือเหตุการณ์คล้ายๆกันหมดคือนำของเล่นเข้าปากแล้วไง มันก็ไปอุดตันทางเดินต่างๆ -ก็ตายดิ เออ

#กูบ่นเฉยๆวอนอย่าด่าแรงอิอิ

0
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากเว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

กำลังโหลด
我爱你。 21 ก.ย. 60 10:30 น. 2

มันไม่ได้ผิดที่ของเล่น มันผิดที่คนเล่นไม่ถูกวิธีและไม่ได้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วย คือโง่จังวะของเล่นก็-นำมาเข้าปากจะเด็กก็เถอะเพราะทุกกรณีที่กล่าวมานั้นคือเหตุการณ์คล้ายๆกันหมดคือนำของเล่นเข้าปากแล้วไง มันก็ไปอุดตันทางเดินต่างๆ -ก็ตายดิ เออ

#กูบ่นเฉยๆวอนอย่าด่าแรงอิอิ

0
กำลังโหลด
Atom Naramon Member 18 ต.ค. 60 23:10 น. 3

อย่าด่านะตัวผุ้เล่นอ่ะผิด ประเด็นคือทำไมผู้ปกครงไม่คุมถ้าลูกตัวเล็กหรือยังเด็กควรจะหาคนดูแลไม่ก็ใกล้ชิดลูกให้มากกว่านี้ดิ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด