Review : ที่นั่งชั้นธุรกิจ Malaysia Airlines บนเครื่องรุ่นใหม่ A330 มันหรูและคุ้มมาก!

     
      สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เมื่อไม่นานมานี้ พี่เป้ มีโอกาสได้โดยสารชั้นธุรกิจ (Business Class) ของสายการบิน Malaysia Airlines เลยเก็บรีวิวมาฝากค่ะ

      เที่ยวบินที่พี่นั่งนั้นมีปลายทางคือ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เท่ากับว่าต้องบินทั้งหมด 4 เที่ยวบิน ขาไปคือกรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์ และ กัวลาลัมเปอร์-บาหลี ส่วนขากลับก็คือบาหลี-กัวลาลัมเปอร์ และ กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่จะนำมารีวิวคือเที่ยวบินบาหลี-กัวลาลัมเปอร์ ที่มีโอกาสได้นั่งเครื่องใหม่ด้วยค่ะ!
 

   

       พูดถึง Malaysia Airlines หลายคนคงใจตุ้มๆ ต่อมๆ กันแน่ๆ เลย ซึ่งก็เข้าใจได้ค่ะ (แหะๆ) แต่ราคาโปรโมชั่นที่ออกมาเรื่อยๆ นั้นค่อนข้างล่อใจมาก แถมช่วงที่พี่จะเดินทางนั้นเป็นช่วงที่เค้านำเครื่องบินใหม่ที่พี่ชอบมากๆ มาใช้กับเส้นทางขากลับจากบาหลี-กัวลาลัมเปอร์ เลยไม่มีเหตุผลอะไรเลยค่ะที่จะไม่รีบจอง

 

อย่างภาพด้านล่างนี้คือชั้น Business Class ของ Boeing 737-800 ค่อนข้างเก่า(มาก)
ส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าเสียเงินนั่ง Business Class แล้วได้เครื่องนี้ ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่แฮะ

     

   
       เริ่มต้นรีวิวกันที่สนามบินบาหลี ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Ngurah Rai International Airport เค้าเพิ่งทำการปรับปรุงใหม่ไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน หรูหราอลังการอย่างกับเป็นเมืองหลวงของประเทศ โอ่อ่าใหญ่โตมากเลยค่ะ

       สำหรับผู้โดยสารชั้น Business Class ขึ้นไป จะสามารถเข้าไปใช้บริการเลาจน์เพื่อนั่งพักหรือหาอาหารทานกันก่อนขึ้นเครื่องค่ะ โดยเลาจน์หลักๆ ของที่นี่คือ Premier Lounge ที่ใช้กับสายการบินสัก 80% เห็นจะได้

      อาหารก็มีตามสมควรค่ะ รสชาติใช้ได้เลย ส่วนตัวพี่ชอบรสชาติอาหารอินโดนีเซียอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาใดๆ กับอาหารที่นี่เลย ภาพบนเป็นข้าวผัดกับซุป บอกเลยว่าอร่อยมากๆ 

     
      ได้เวลาสมควรก็มาที่เกทค่ะ ใหญ่โตจริงๆ รีโนเวทสนามบินได้ยอดเยี่ยมจริงๆ กลับมาคือต้องไปหาชื่อบริษัทสถาปนิกที่เป็นคนออกแบบเลย ชื่นชมมากๆ

      มาแล้วค่ะกับ A330 เครื่องใหม่ที่เพิ่งเริ่มบินเมื่อปีก่อน ไฮไลต์ของชั้น Business Class บนเครื่อง A330 คือ "ที่นั่ง" ค่ะ เพราะเป็นเพียงไม่กี่สายการบินในโลกที่มีที่นั่งแบบ Throne Seat จะเป็นยังไงเดี๋ยวลองดูกัน

      

   

     ปกติที่นั่งชั้น Business Class แบบใหม่ของสายการบินต่างๆ มักมีบาร์หรือที่วางแขนอยู่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่หากเป็น Throne Seat ซึ่งมีไม่กี่สายการบิน จะมีที่วางแขนอยู่ทั้ง 2 ด้านเลยค่ะ อย่างผังที่นั่งข้างบนคือ Seat Map ของ A330 ชั้น Business Class ที่พี่กำลังรีวิว และที่พี่วงสีน้ำเงินไว้ก็คือ Throne Seat ซึ่งมีแค่ 3 ที่นั่งบนเครื่องเท่านั้น

      แน่นอนว่าพี่อยากนั่ง Throne Seat มากๆ เลยทำการจองไว้ล่วงหน้า เลขที่นั่ง 4K คือดีงามมากๆ กว้างขวางสมคำร่ำลือ ส่วนด้านหลังที่นั่งของพี่ จะเห็นว่าเป็น 2 ที่ติดกัน เหมาะกับคนมาเป็นคู่มากกว่ามาคนเดียวค่ะ และข้ามไปก็จะเป็น Throne Seat อีกที่ค่ะ

       หย่อนก้นลงได้สักพัก ลูกเรือก็มีเวลคัมดริงก์มาให้เลือก เครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์ก็คือ "น้ำฝรั่งสีชมพู" ค่ะ รสชาติดีมากๆ ใครอยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง ลองไปหาของดอยคำมาชิมได้

      เหลือบไปมองที่วางแขนข้างๆ มีรีโมทที่ไว้ใช้กับจอทีวีส่วนตัว ไฟไว้อ่านหนังสือ และแผงปรับระดับที่นั่ง แน่นอนว่าปรับได้ถึง 180 องศา! นอนสบายยยยยย นี่แหละข้อดีของการนั่งชั้น Business Class นั่งยาวนอนยาวเป็นสิบชั่วโมงก็ไหวจ้า แต่ขึ้นบ่อยๆ ก็ไม่ไหว เพราะไม่มีตังค์จ้า TT

     
      ส่วนเมนูอาหารก็ใช้ได้ค่ะ ไม่ได้ดีเด่นแต่ก็ไม่ได้แย่อะไร ความแตกต่างหลักๆ กับชั้น Economy คือ การเสิร์ฟในชั้น Business Class เมนูจานหลักจะถูกใส่ลงบนจานชามจริงๆ ไม่ใช่ฟอยล์พลาสติก

   
      จากนั้นก็นอนยาวไปเลยค่ะ เที่ยวบินนี้ประมาณ 3 ชั่วโมงหน่อย เรียกว่าฟินมาก สบายมากกกกก อยากจะนั่งบินวนไปเรื่อยๆ

     
       ใครอยากลองนั่ง Business Class ในราคาจับต้องได้ สายการบินนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่เลว แถมมีโปรโมชั่นออกมาบ่อยมากๆ ค่ะ ถ้ามีโอกาสและมีโปรโมชั่นอีก พี่ก็ใช้บริการอีกแน่นอน แต่อย่าลืมเช็กนะคะว่าเค้าใช้เครื่องรุ่นไหนบิน เพราะถ้าได้ Boeing 737-800 นี่คงแอบเฟลเบาๆ

        ใครชอบดูรีวิวที่นั่ง Business Class ฝากรีวิวของสายการบินเอมิเรตส์ด้วยค่ะ คลิกเลย