Pilchuck Glass School โรงเรียนศิลปะการทำแก้ว ศิลปะการออกแบบเฉพาะทางที่น่ารู้จัก!

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com นอกจากมหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ ที่สอนวิชาตามหลักสูตรของประเทศต่างๆ แล้ว บนโลกนี้ยังมีอีกหลายที่ที่เน้นสอนวิชาเฉพาะในแบบลงลึก ทั้งเพื่อเพิ่มความรู้และทักษะแบบเฉพาะด้านและสนับสนุนโอกาสทางอาชีพ วันนี้ พี่นิทาน เลยมีโรงเรียนสอน "ศิลปะการทำแก้ว" ที่ฟังแล้วอาจไม่คุ้นหู แต่ขอบอกว่าน่าสนใจมากๆ เลยค่ะ

Pilchuck Glass School 
Photo: Facebook

    Pilchuck Glass School หรือโรงเรียนศิลปะการทำแก้ว ก่อตั้งเมื่อปี 1971 อยู่ที่รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เป็นศูนย์กลางนานาชาติแห่งการศึกษาเกี่ยวกับศิลปะการทำแก้วที่มีชื่อเสียงและเปิดรับผู้เรียนจากทุกสายอาชีพที่สนใจในการออกแบบหรือศิลปะเกี่ยวกับแก้ว 

    ทุกๆ เดือนพฤษภาคมจนถึงกันยายนของทุกปี ที่โรงเรียนจะเปิดคอร์สฤดูร้อน หรือ Summer program และที่พักอาศัยให้กับผู้เข้าเรียน โดยคอร์สที่เปิดสอนก็จะมีให้เลือกหลากหลายและหลายระดับตามความสามารถของผู้เรียน โดยผู้สอนจะเป็นศิลปินเกี่ยวกับแก้วที่มีชื่อเสียงและไว้วางใจได้ 

 
Photo: Facebook

    แต่อย่าเพิ่งสงสัยว่าทำไมจะต้องมีโรงเรียนสอนแต่ศิลปะของ 'แก้ว' อย่างจริงจัง สาเหตุก็เพราะว่าศิลปะการทำแก้วนั้นมีหลายแบบมากเลยค่ะ แถมยังน่าสนใจอีก ตั้งแต่แก้วน้ำธรรมดาที่เราใช้ดื่มกัน หรือจะเป็นการเป่าแก้ว การเพนท์แก้ว หรือการนำแก้วมาประยุกต์ในการออกแบบและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ออกมาในหลายๆ รูปแบบก็ได้ 

หลักสูตร Summer program

 
Photo: Facebook

    สำหรับหลักสูตร Summer program ในปีนี้ พี่ยกหัวข้อและรายละเอียดสั้นๆ มาให้น้องๆ ลองดูกันค่ะว่าที่นี่เขาเรียนอะไรกันบ้าง และคอร์สดังต่อไปนี้คือผู้เรียนสามารถเลือกเรียนตามความถนัดและเหมาะสมกับความสามารถตัวเองได้ค่ะ 

Session 1: Form + Function

    คอร์สนี้จะเป็นการปั้นและสร้างรูปแบบขึ้นมาก่อน โดยจะมีเทคนิคที่น่าสนใจสอนโดยศิลปินหลายท่าน เช่น การเป่าแก้ว การปั้นแก้วแบบร้อน การออกแบบการปั้นรูปทรงแก้ว การใช้งานไฟในการทำรูปทรงแก้ว การทำลวดลายแก้ว เป็นต้น

Session 2: Ephemeral

    คอร์สนี้ก็ยังมีการเรียนการสอนในเรื่องการเป่าแก้วอยู่ค่ะ แต่จะเน้นไปที่การทดลองแบบใหม่ๆ การใช้แสง ใช้วัตถุดิบอื่นๆ เข้ามาตกแต่งผลงาน จะเน้นไปทางงานสวยๆ งามๆ เช่น ผลงานที่จะไปโชว์ในนิทรรศการ เครื่องประดับ เป็นต้นค่ะ

Session 3: Metrics

    เรียนรู้ลงลึกในเทคนิคที่ซับซ้อนขึ้น ทั้งงานเล็กและงานสเกลใหญ่ๆ และการทำรูปทรงต่างๆ และนำเรื่องการใช้ไฟฟ้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การทำโคมไฟ การติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์กับงานแก้ว 

 
Photo: Facebook

Session 4: Method

    เรียนรู้การเป่าแก้ว, งานแกะสลัก, การใช้สี, งานพิมพ์ การออกแบบที่ซับซ้อนขึ้น และการใช้เทคนิคอื่นๆ มารวมเข้าด้วยกัน เช่น 3D-Printing การหล่องาน, การออกแบบแสงไฟ, งานนีออน เป็นต้น 

Session 5: Archetype

ส่วนมากเน้นงานสเกลใหญ่ๆ เช่น Installation ค่ะ 

Session 6: Corporeal

การออกแบบการปั้นแก้วและเคลือบแก้วสำหรับผลงานเป็นชิ้นๆ โดยเฉพาะ เช่น ของตกแต่ง 

การสมัครเข้าเรียน

 
Photo: Facebook

    สำหรับหลักสูตร Summer program นี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และจะเปิดรับสมัครช้าสุดคือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ของทุกปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคอร์สที่จะลงเต็มหรือยัง ถ้าสนใจก็สามารถสมัครเข้าไปได้ตลอด ถ้าคอร์สเต็มก็จะไม่ได้เรียน แต่ถ้าคอร์สยังมีที่ว่าง เราก็มีสิทธิ์ได้เข้าเรียนค่ะ ทางโรงเรียนแนะนำให้ผู้สมัคร สมัครเข้าเรียนมากกว่า 1 คอร์สเพื่อกันคอร์สอื่นเต็มด้วยค่ะ 

การสมัครสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ได้เลยค่ะ 
http://www.pilchuck.com/

คุณสมบัติผู้สมัคร

 
Photo: Facebook

-ผู้สมัครจะต้องอายุ 18 ปี ขึ้นไป แต่สำหรับบางหลักสูตรจะต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไปถึงจะเรียนได้
-คอร์สต่างๆ จะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน เช่น บางคอร์สต้องการผู้สมัครที่มีทักษะในด้านนั้นๆ มาก่อนอย่างน้อย 1 ปี ทั้งนี้แนะนำให้อานรายละเอียดของแต่ละคอร์สก่อนสมัครค่ะ 

ค่าใช้จ่าย

    การจะสมัครเข้าในแต่ละคอร์สจะเสียค่าธรรมเนียม US$50 หรือประมาณ 1,611 บาทในการสมัคร โดยค่าธรรมเนียมนี้จะเสียแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และสามารถสมัครกี่คอร์สก็ได้ ส่วนค่าเรียนแต่ละคอร์ส ผู้สนใจจะต้องสอบถามทางอีเมลของโรงเรียนโดยตรงค่ะ 

 
Photo: Facebook

    เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่น่าสนใจมากเลยนะคะ ใครที่อยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปที่ http://www.pilchuck.com/ ค่ะ การเรียนการสอนเฉพาะทางถึงแม้ว่าอาจจะเป็นแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงเรื่องเดียว แต่ก็มีข้อดีคือได้ลงลึกและเน้นฝึกสกิลเพื่อใช้ในอาชีพในอนาคตได้ค่ะ ^^ 
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น