5 เหตุผลสำคัญ! “ทำไมอิสราเอลถึงเป็นแหล่งผลิตนักโปรแกรมเมอร์ชั้นดีที่ทั้งโลกต้องการ”

     การที่จะมีวิทยาการหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบุคคลที่เป็นส่วนสำคัญในการสรรค์สร้างก็คือ “นักโปรแกรมเมอร์” และถ้าพูดถึงประเทศที่มีนักโปรแกรมเมอร์เก่งๆ เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก ก็คงจะมีชื่อประเทศอิสราเอล อยู่ในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ 
 
     วันนี้ พี่วุฒิ เลยรวบรวมเหตุผลว่าทำไมประเทศอิสราเอล ถึงเป็นแหล่งผลิตนักโปรแกรมเมอร์ชั้นดีที่บริษัทชั้นนำระดับโลกนั้นต้องการร่วมงานด้วย มาฝากน้องๆ ชาว Dek-D.com ให้ได้อ่านกัน มีเหตุผลอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ....


 

"เพราะพวกเราขาด ...จึงต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ มาทดแทน"
 



 
     น้องๆ หลายคนน่าจะพอทราบกันมาบ้างว่า ประเทศอิสราเอล นั้นเพิ่งเกิดได้ไม่นาน ก่อตั้งได้เพียงแค่ 70 ปีเท่านั้น ทั้งประเทศมีประชากรเพียงประมาณ 8 ล้านคน เทียบเป็นอัตราส่วนร้อยละ 1.6 ของประชากรทั้งหมดในเขตตะวันออกกลาง และมีอาณาเขต 0.001 ของภูมิภาคเพียงเท่านั้น นั่นหมายความว่าประเทศอิสราเอลนั้นมีขนาดเล็กมากกกก! ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพว่าเล็กขนาดไหน ลองนึกภาพดูสิครับว่า น้องๆ สามารถเดินทางจากภาคตอนเหนือไปยังทางตอนใต้ของประเทศ ได้ภายในเวลา 5 ชั่วโมงเพียงเท่านั้น!! 
 
     และด้วยความที่เป็นประเทศที่มีพื้นที่เกินกว่าร้อยละ 60 เป็นทะเลทราย แน่นอนว่าทรัพยากรทางธรรมชาตินั้นค่อนข้างที่จะจำกัดมากๆ และเพื่อความอยู่รอด คนเก่าคนแก่ที่เริ่มก่อตั้งประเทศก็เลยพยายามที่จะผลิตสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทน ด้วยการงัดสารพัดวิธีในการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ คนอิสราเอลจึงมักบอกเสมอว่า “ถึงแม้ว่าเราจะไร้ทรัพยากรธรรมชาติ แต่สิ่งที่เรามีก็คือสมอง ซึ่งป็นอาวุธหลักของเราในการสร้างสิ่งใหม่ๆ” 
 
      ถ้าจะยกตัวอย่างผลงานเจ๋งๆ ของอิสราเอลที่ไม่คิดว่าจะสามารถทำได้บนภูมิประเทศที่แห้งแล้ง นั่นก็คือ การผลิิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ซึ่งอิสราเอลเป็นประเทศแรกของโลกที่ทำได้ อีกทั้งยังเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีจำนวนต้นไม้เพิ่มขึ้นในทุกปี บอกเลยว่าผืนทะเลทรายไม่สามารถทำอะไรอิสราเอลได้จริงๆ 

 

"เพราะประเทศล้อมรอบไปด้วยศัตรู" 
 



 
     พี่เชื่อว่าน้องๆ หลายคนน่าจะพอทราบมาบ้างว่าอิสราเอลนั้นมีความขัดแย้งกับปาเลสไตน์มานานหลายปี นอกจากนี้แล้วยังมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านล้อมรอบอยู่ ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วนเป็นชาติที่สนับสนุนปาเลสไตน์ทั้งนั้น และถึงแม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีใครคบ แต่ประเทศอิสราเอลก็โนสนโนแคร์อยู่แล้ว อารมณ์ประมาณว่า "ยื่งมีคนเกลียดมากเท่าไหร่ ฉันก็จะยิ่งพัฒนาตัวเองให้เธอทำอะไรฉันไม่ได้!" พอล้วนมีแต่ศัตรูขนาบข้าง แน่นอนว่าอิสราเอลนั้นเป็นพื้นที่ที่ต้องพร้อมสู้รบ พร้อมมีสงครามอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องมีการผลิตนักวิทยาศาสตร์และนักโปรแกรมเมอร์เพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารที่ใช้ในปกป้องประเทศไม่ให้ถูกโจมตีอยู่เสมอ จะเห็นได้จากการสร้าง “Iron Dome” หรือระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศเป็นที่แรกของโลก ซึ่งหลายต่อหลายประเทศนั้นพยายามที่จะทำตามอิสราเอล 
 
     นอกจากนี้แล้ว เหล่าทีมนักประดิษฐ์ของอิสราเอลยังมีการสร้างกล้องอินฟาเรดเอาไว้คอยสอดส่องศัตรูที่พยายามบุกเข้าประเทศ และน้องๆ เชื่อมั้ยครับว่า ประเทศอิสราเอลไม่ต้องมีทหารไว้คอยสอดส่องตามชายแดนเลยด้วยซ้ำ เพราะกล้องตัวนี้มีระบบที่มีประสิทธิที่สูงภาพมาก และไม่มีศัตรูหน้าไหนที่จะสามารถแอบผ่านเข้ามาประเทศอิสราเอลได้เลย เพราะระบบป้องกันของเค้ามันดีจริงๆ (ประเทศที่มีนักโปรแกรมเมอร์เก่งๆ มันดีแบบนี้นี่เอง!) 

 

"เพราะระบบการฝึกทหาร คือ โรงเรียนค้นหาตัวเอง"
 


Photo by: Menahem Kahana/AFP/Getty Images

 
     ในขณะที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกและรวมทั้งไทยที่มีกฎหมายบังคับให้เฉพาะผู้ชายเข้ารับการเกณฑ์ทหาร แต่ที่ประเทศอิสราเอลนั้น มีกฎหมายบังคับว่า “ทุกคนต้องเป็นทหาร” นั่นหมายความว่า ไม่ใช่แค่ผู้ชายเท่านั้น แต่ผู้หญิงก็ต้องได้รับการฝึกให้เป็นทหารด้วยเช่นกัน เพราะอย่างที่บอกไปในข้อที่แล้วว่าประเทศนี้เป็นดินแดนที่พร้อมสู้รรบอยู่เสมอ และมีประชากรที่ค่อนข้างน้อย จีึงจำเป็นที่จะต้องเกณฑ์ทหารทุกคน ไม่ว่าคุณจะเกิดเป็นเพศอะไรก๋็ตาม ทุกคนล้วนเป็นชาวอิสราเอลเหมือนกัน และพร้อมที่จะพลีชีพเพื่อปกป้องดินแดนแห่งพันธสัญญาแห่งนี้ 
 
     และน้องๆ รู้มั้ยครับว่าระบบการฝึกทหารของอิสราเอลนั้นจะแตกต่างกับประเทศอื่นๆ ตรงที่ไม่ได้ฝึกหนัก ตากฝน ตากแดด (หรือโดนสอบซ่อมแบบไร้เหตุผล) เพราะว่าศูนย์ฝึกทหารของอิสราเอลนั้นเปรียบเสมือนโรงเรียนซะมากกว่า เพราะว่าในเวลาอยู่ในศูนย์ฝึกทหาร ทุกคนจะได้นั่งเรียนหลากหลายวิชามาก อ่านไม่ผิดครับ! ทุกคนจะได้นั่งเรียนหนังสือ ซึ่งมีวิชาหลากหลายแขนงให้ได้เรียน และได้ลองค้นคว้าพร้อมคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ พูดง่ายๆ คือ นักโปรแกรมเมอร์ส่วนใหญ่ก็มาจากการฝึกทหารนี่แหละ และคนที่ฝึกทหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่อยู่ในช่วงวัยเรียนทั้งนั้น หลายคนจึงใช้เวลานี้้เพื่อค้นหาตัวเองว่าชอบอะไร อยากเรียนหรือทำอะไรต่อหลังออกจากกรม บางคนจึงเลือกที่จะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยในทันที แต่เลือกที่จะเข้ามาหาค้นตัวเองในกรมทหารแทน (อึ้งมั้ยล่ะครับ!)     

 

"เพราะว่ามีสถาบันการศึกษาที่ดี การันตีเรียนจบมีงานทำ 100%"
 



 
     น้องๆ หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าประเทศอิสราเอลนั้นเป็นประเทศที่มีการศึกษาที่ดีมากๆ และหลายๆ มหาวิทยาลัยของอิสราเอลก็มีการคัดนักศึกษาเข้าเรียนต่อที่เข้มข้น เพราะว่าไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถเข้าเรียนได้ และไม่ได้ดูแค่คะแนนสอบเพียงเท่านั้น สิ่งที่คุณต้องมีก่อนจะเลือกเรียนก็คือ “Passion” เพราะสิ่งนี้คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้การเรียนของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ใช่แค่เรียนไปวันๆ ไม่ใช่เอาแค่ให้จบก็พอ คุณจะต้องรู้ว่าเรียนในสาขานี้ไปทำไม เรียนจบแล้วต้องรู้ว่าตัวเองจะทำอะไรต่อ และคุณต้องทำได้จริง และด้วยระบบการเรียนการสอนก็เพอร์เฟ็กต์ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนอิสราเอลจึงพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้เรียนต่อ และไม่ใช่แค่คนในประเทศเพียงเท่านั้น หลากหลายชาติก็พยายามอย่างมากที่จะได้เข้ามาเรียนต่อในสถาบันของอิสราเอล โดยเฉพาะคนที่อยากเป็นนักโปรแกรมเมอร์ หลายคนบอกว่า “ถ้าอยากจะเป็นนักโปรแกรมเมอร์เก่งๆ ระดับโลก ให้มาเรียนต่อที่อิสราเอล” 
 
     และน้องๆ รู้มั้ยครับว่าอิสราเอลเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนการศึกษาต่อจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก คนอิสราเอลส่วนใหญ่จบปริญญาตรีเกือบทั้งหมด อีกทั้งอัตราส่วนของผู้ที่ไม่รู้หนังสือเป็นศูนย์! หลังจากเรียนจบหลายคนจึงหันมาเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมประเทศอิสราเอลถึงมีบริษัทสตาร์ทอัพมากที่สุดในโลก โดยมีบริษัทเปิดใหม่ด้านเทคโนโลยีล้ำสมัยกว่า 3,000 บริษัท เป็นที่สองรองแค่ซิลิคอน วัลลีย์ ของสหรัฐอเมริกาเพียงแค่นั้น และด้วยความที่ระบบการศึกษาดี ทุกๆ สถาบันล้วนคอนเฟิร์มว่าทุกคนเรียนจบมีงานทำแน่นอน โดยเฉพาะนักศึกษาโปรแกรมเมอร์ที่มักได้รับการทาบทามจากบริษัทดังๆ ให้ร่วมงานด้วย พูดเลยว่ายังไม่ทันเรียนจบก็มีงานทำต่อเลยล่ะ 

 

"เพราะว่าเรียน เขียนโปรแกรม ตั้งแต่เด็ก"
 


 

     การที่สร้างนักโปรแกรมเมอร์เจ๋งๆ จนเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลกได้นั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “รากฐานคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” เพราะว่าประเทศอิสราเอลนั้นจะสอนเด็กๆ ได้เรียน เขียนโปรแกรม เพื่อให้มีทักษะในการฝึกคิดวิเคราะห์ คิิดเชิงนามธรรม ซึ่งการปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆ นั้น จะทำให้เด็กสามารถมีระบบคิดอย่างมีตรรกะและเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อแก้ปัญหา

     ทางอิสราเอลเองก็เห็นว่าเรื่องนี้นั้นสำคัญอย่างยิ่งที่จะให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และศึกษาพร้อมกับวิชาหลักอื่นๆ พูดเลยว่าเด็กๆ อิสราเอลนั้นถูกปลูกฝังความเป็นโปรแกรมเมอร์มาตั้งแต่ยังเล็กยังน้อย ซึ่งผลลัพธ์ของการมีรากฐานที่ดีก็ส่งผลให้ประเทศอิสราเอลมีนักโปรแกรมเมอร์เก่งๆ ที่คอยสรรค์สร้างนวัตกรรมเลิศๆ ออกสู่สังคมอยู่เสมอ และดูเหมือนว่าเหล่านักโปรแกรมเมอร์ของอิสราเอลก็ยังไม่หยุดพัฒนาและสร้างสิ่งใหม่เพียงเท่านี้แน่ๆ ดังนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนักถ้าอิสราเอลจะได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากที่สุดในโลก   

     สำหรับประเทศไทยก็เริ่มวางรากฐานการเขียนโปรแกรมในเด็กแล้วเช่นกันในวิชา "วิทยาการคำนวณ" ซึ่งเป็นวิชาบังคับในระดับชั้น ป.1 - ม.6 ที่จะเริ่มเรียนในปีการศึกษา 2561 ที่จะถึงนี้แล้ว สามารถอ่านรายละเอียดของวิชา "วิทยาการคำนวณ" เพิ่มเติมได้ที่ https://school.dek-d.com/blog/featured/รู้จักวิชา-วิทยาการคำนว/
 




 
     พออ่านเหตุผลต่างๆ แล้วก็ไม่อยากจะเชื่อเลยนะครับว่าประเทศอิสราเอลเพิ่งก่อตั้งได้เพียง 70 ปีเท่านั้น การที่จะใช้ระยะเวลาสั้นๆ ในการสร้างสิ่งใหม่ๆ ภายใต้ทรัพยากรที่จำกัดมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยด้วยซ้ำ เห็นแบบนี้ต้องยอมรับแล้วล่ะครับว่าเหล่านักวิทยาศาสตร์และนักโปรแกรมเมอร์ของอิสราเอลนั้นเจ๋งจริงๆ 



 
Source:
https://nypost.com
https://thenextweb.com
https://www.pri.org/
https://pixabay.com
https://school.dek-d.com 
พี่วุฒิ
พี่วุฒิ - Columnist มนุษย์ 4 มิติผู้หลงใหลในเพลงเกาหลี ชาเนสที และหมูกระทะ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

a.pam194 Member 16 เม.ย. 61 22:55 น. 1

เราก็เรียนเขียนโปรแกรมตั้งแต่เด็กนะ...แต่แบบ...ไม่มีความรู้นั้นในหัวเลยจ้า...ฮรือออ

งี้แหละ ตอนนั้นไม่เห็นค่า ไม่เคยทบทวน ตอนนี้เลยต้องมานั่งงมใหม่ จะบ้าตาย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด