รวมธรรมเนียม "รับปริญญาแปลกๆ" จากทั่วโลก เห็นแล้วแอบอยากไปเข้าร่วมด้วย!

Food Fight!

​      เวลาไปเที่ยวอาร์เจนตินาแล้วเห็นคนกำลังโดนปาอาหารใส่อย่าเพิ่งรีบเข้าไปห้ามนะคะ เพราะในวันสุดท้ายของการเรียนนั้นจะมีการฉลองให้บัณฑิตใหม่ป้ายแดงค่ะ โดยญาติพี่น้องและเพื่อนๆ จะไปดักรอนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเพื่อโยนไข่ แป้ง ซอสมะเขือเทศ ไซรัป หรืออะไรก็ได้ที่เหนียวๆ มันๆ ใส่พวกเขา แน่นอนว่ากิจกรรมเลอะเทอะแบบนี้ เหล่าว่าที่บัณฑิตบางคนก็เตรียมตัวใส่เสื้อผ้าเก่าๆ รอไว้ล่วงหน้าเลยทีเดียว ถ้าขืนใส่เสื้อผ้าใหม่มา จากงานสนุกจะกลายเป็นงานกร่อยตอนซักเสื้อแน่ๆ 

   
   

​      และไม่ได้มีแค่ที่อาร์เจนติน่าอย่างเดียวนะคะที่บรรดาคนสนิทจะโยนอาหารใส่นักศึกษาจบใหม่ เพราะที่อิตาลีและอังกฤษเองก็มีประเพณีแบบนี้ค่ะ แต่ที่อังกฤษจะจัดขึ้นเฉพาะที่ Oxford University บัณฑิตที่อยู่ในชุดครุยเต็มยศจะถูกสาดแชมเปญ วิปครีม กระดาษสายรุ้ง หรือนมสดค่ะ แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่งก็คือ ของทุกอย่างที่นำมาใช้จะต้องสามารถย่อยสลายได้เท่านั้นนะคะ   

ใบลอเรล

​      ในอิตาลีนอกจากจะปาอาหารใส่บัณฑิตใหม่แล้ว ในวันรับปริญญาญาติๆ จะนำมงกุฎที่ทำมาจากใบลอเรลมาสวมให้ เพื่อแสดงถึงเกียรติยศและชื่อเสียง เหมือนสมัยโรมันที่ผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับมงกุฎใบลอเรลเป็นของรางวัลค่ะ

​      ที่ Connecticut College ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกาเองก็มีการใช้ใบลอเรลเช่นกัน โดยนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ทั้งชายและหญิงจะสวมชุดสีขาวและทำโซ่ขึ้นจากใบลอเรล ยืนถือเรียงกันเป็นแถวเพื่อให้เหล่าบัณฑิตเดินขบวนผ่านในวันรับปริญญาค่ะ

แอปเปิลสีเขียว

​      แอปเปิลสีเขียวเป็นสัญลักษณ์สุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ของ Kirkland College หลังจากที่ได้รวมเข้ากับ Hamilton College ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เนื่องจาก Kirkland College ตั้งอยู่บนพื้นที่ของสวนแอปเปิล ทางมหาวิทยาลัยจึงนำแอปเปิลเขียวมาเป็นสัญลักษณ์ กลายเป็นธรรมเนียมที่นักศึกษาหญิงจะได้รับเข็มกลัดรูปแอปเปิลเขียวมาติดไว้ที่ชุดครุย และจะมีผลแอปเปิลเขียววางอยู่บนโพเดียมระหว่างพิธีมอบใบปริญญา

ระฆังยักษ์

​      ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่นักศึกษาหลายๆ คนรอกันมาตลอดเลยทีเดียวสำหรับ College of William & Mary ที่รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา หลังจากชั่วโมงสุดท้ายของการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยจบลง นักศึกษาจะดึงเชือกเพื่อสั่นระฆัง ‘Wren bell’ แทนการประกาศว่าตนจบการศึกษาแล้ว ส่วนที่ Rutgers University ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกาเองก็มีธรรมเนียมแบบนี้เช่นกันค่ะ แต่จะต่างกันตรงที่นักศึกษาจะได้สั่นระฆัง ‘Red Lion Bell’ ก่อนหนึ่งครั้งตอนเข้าเรียนที่นี่ และอีกครั้งเมื่อจบการศึกษาค่ะ

ดาบและหมวกทรงสูง

​      ในประเทศฟินแลนด์ ว่าที่ดุษฎีบัณฑิตทั้งหลายจะสวมหมวกทรงสูง และสามารถพกดาบเข้ามาในวันรับปริญญาได้ โดยดาบนั้นจะต้องมีการรับรองอย่างเป็นทางการจากสาธารณรัฐฟินแลนด์ คือ มีความยาว 87 เซนติเมตร หนัก 1.6 ปอนด์ และพกไว้ข้างซ้าย สำหรับผู้หญิงจะต้องมีเข็มขัดสำหรับใส่ดาบที่มีสีและดีไซน์ที่เข้ากับชุด ดาบนี้แทนสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับความจริงและความถูกต้องที่นักศึกษาได้ทำระหว่างการค้นคว้าในระดับปริญญาเอกนั่นเอง        

หมวกรับปริญญา

​      สำหรับงานรับปริญญาที่ University of Notre Dame ที่รัฐอินดีแอนา สหรัฐอเมริกาก็ไม่ธรรมดาค่ะ เรียกว่าเป็นงานปล่อยของของเด็กสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่นี่เลยทีเดียว เนื่องจากนักศึกษาจะงัดฝีมือและความรู้ที่เรียนกันออกมาตกแต่งหมวกรับปริญญาให้เป็นโมเดลรูปทรงอาคารต่างๆ ตั้งแต่ตึก สะพาน อนุสาวรีย์ หรือแม้แต่ปราสาทก็มีค่ะ และแน่นอนว่าถ้าจะเพิ่มความสูงให้หมวกขนาดนี้ เหล่าว่าที่บัณฑิตต้องถูกย้ายไปนั่งแถวหลังสุด จะได้ไม่บังเพื่อนๆ สาขาอื่นค่ะ           

แข่งกลิ้งห่วงไม้

​      แรกเริ่มเดิมที Wellesley College รัฐแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ได้จัดกิจกรรมแข่งกลิ้งห่วงไม้ขึ้นในทุกวันแรงงานค่ะ แต่ต่อมา ได้นำกิจกรรมนี้เข้ามาเป็นประเพณีสำคัญของวันรับปริญญาแทน เหล่าบัณฑิตจะแข่งกันกลิ้งห่วงไม้ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามไปยังทะเลสาบวาบาน ผู้ชนะการแข่งขันจะถูกโยนลงน้ำ ก่อนที่จะร่วมเฉลิมฉลองริมทะเลสาบกันต่อ สาเหตุที่ต้องโยนผู้ชนะลงน้ำนั้นก็เพราะเชื่อว่าเคยมีนักศึกษาจาก Harvard University ปลอมตัวมาแข่งและชนะ แต่เมื่อถูกจับได้ เขาจึงถูกโยนลงไปในทะเลสาบเพื่อเป็นการลงโทษนั่นเอง

ชุดเจ้าสาว

​      กลับมาที่ฝั่งเอเชียกันบ้างค่ะ อย่างในประเทศจีนเองก็มีความเก๋ไก๋ไม่แพ้ชาติตะวันตกเลย สำหรับนักศึกษาจีน เขาถือว่าวันรับปริญญาเป็นงานฉลองกับเพื่อนๆ มากกว่าครอบครัวค่ะ พวกเขาเลยเลือกที่จะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ โดยพวกผู้หญิงจะนิยมใส่ชุดเจ้าสาวแทนชุดครุย เพราะพวกเธอรู้สึกว่าการใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวนั้นเป็นสัญลักษณ์ถึงการบ่งบอกว่าวันรับปริญญาเป็นวันหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต      

แต่งแฟนซี

​      ถ้าพูดถึงญี่ปุ่น แน่นอนว่าคงไม่ได้มาเรียบๆ ง่ายๆ แน่นอน โดยเฉพาะที่ Kanazawa College of Art ที่อนุญาตให้ใส่ชุดอะไรมารับปริญญาก็ได้ ว่าที่บัณฑิตก็เลยขอจัดเต็มแบบแทบจะเปลี่ยนงานรับปริญญาเป็นงานฮาโลวีนเลยทีเดียว เพราะมีตั้งแต่การแต่งคอสเพลย์เป็นตัวการ์ตูน ซูเปอร์ฮีโร่ ใส่ชุดกิโมโน หรือแม้แต่แต่งตัวเป็นเครื่องดนตรีก็มี เรียกได้ว่าใครที่แต่งตัวธรรมดามาจะถือว่าเชยมากๆ ค่ะ

      เป็นอย่างไรกันบ้างคะ แต่ละมหาวิทยาลัย แต่ละประเทศก็มีประเพณีไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกันก็คือ ความสุขและความภาคภูมิใจจากครอบครัว เพื่อนๆ และตัวนักศึกษาเองที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตรั้วมหาวิทยาลัยไปได้อย่างดงาม ส่วนใครที่กำลังจะเรียนจบ หรือเตรียมตัวรับปริญญาอยู่ พี่ก็ขอร่วมแสดงความยินดีด้วยนะคะ ^^

ข้อมูล