เปิดแฟ้มคดีสะเทือนญี่ปุ่น! ‘ยูอะ ฟุนาโตะ’ เด็กน้อย 5 ขวบที่ถูกพ่อแม่บังคับทำงานจนตาย

     ถ้าจะถามว่าประเทศไหนที่มีระเบียบวินัยมากที่สุด คำตอบของหลายคนจะต้องมี ‘ประเทศญี่ปุ่น’ อยู่เป็นลิสต์แรกๆ เพราะอย่างที่น้องๆ ชาว Dek-D หลายคนน่าจะพอรู้มาบ้างว่า ชาวญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นระเบียบมาก เรียกว่าถูกสอนเรื่องนี้จากรุ่นสู่รุ่นอย่างเคร่งครัด หลายคนมักชื่นชมในสไตล์การเลี้ยงลูกแบบฉบับคนญี่ปุ่นที่มักสอนให้แต่ละคนรู้จัก ‘ความยากลำบาก’ ตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งมันก็อาจจะได้ผลดีอย่างที่ใครต่อใครบอกกกัน 
 
     แต่ในความเป็นระเบียบที่ถูกปลูกฝังตั้งแต่เล็กแต่น้อยนั้น บางทีก็อาจจะไม่ได้ส่งผลดีกับเด็กเสมอไป ซึ่งภายใต้ความดีงามเหล่านั้น กลับมีรายงานว่า เด็กญี่ปุ่นหลายคนมักได้รับ ‘บาดแผล’ จากสไตล์การเลี้ยงลูกที่เข้มงวดจนเกินไปของคนญี่ปุ่น และยิ่งตอกย้ำความรุนแรงของเรื่องนี้มากขึ้น เมื่อในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกิดข่าวสะเทือนใจจากการเสียชีวิตของเด็กน้อยวัย 5 ขวบ ซึ่งมีการเปิดเผยว่า เธอเสียชีวิตจากการที่ถูกพ่อแม่บังคับให้ทำงานอย่างหนัก คดีนี้หดหู่อย่างไร และมีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาอ่านกันเลยครับ 


 


 

 “ได้โปรดยกโทษให้หนูเถอะนะคะ หนูขอโทษ ได้โปรด
หนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ยกโทษให้หนูนะคะ ”

 

      ใครจะไปคิดว่า ข้อความที่แสดงความรู้สึกผิด ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เขียนย้ำอยู่ในทุกหน้า คือข้อความที่เขียนโดย ‘ยูอะ ฟุนาโตะ’ เด็กน้อยวัย 5 ขวบ ที่พร่ำเขียนบอกขอโทษพ่อแม่ของเธอลงในสมุดบันทึก และนี่เหมือนจะเป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่เธอได้ทิ้งไว้ ก่อนจากโลกอันแสดโหดร้ายไปตลอดกาล และคงเป็นหลักฐานชิ้นหลักที่บ่งบอกถึงความรุนแรงที่เธอได้รับจากคนที่เธอเรียกว่า ‘พ่อแม่’
 
      หนูน้อยยูอะ ได้เสียชีวิตตั้งแต่ 2 มีนาคม 2018 ซึ่งจากข่าวรายงานว่า เธอเสียชีวิตจากการติดเชื้อปอดบวม ซึ่งในตอนแรกการเสียชีวิตของเธอนั้นอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เด็กอาจจะเป็นปอดบวมได้ แต่เมื่อทางตำรวจได้เข้าไปตรวจห้องพัก เพื่อหาหลักฐานอื่นๆ ก็ได้พบว่า ในห้องนอนของยูอะนั้น มีกระดาษเขียนสั่งจากพ่อแม่ของเธอ ซึ่งเป็นคำสั่งกิจวัตรประจำวันที่ยูอะต้องทำ ติดอยู่เต็มห้อง และในใบสั่งนั้น ได้เขียนไว้ว่าในทุกๆ วัน ยูอะจะต้องตื่นตี 4 เพื่อมาทำงานบ้าน ทั้งขัดห้องน้ำ กวาดบ้าน ถูบ้าน และถูกบังคับให้ฝึกเขียนหนังสือในห้องมืดในช่วงเช้ามืดตลอดช่วงฤดูหนาว
 
     ยูอะถูกสั่งให้ทำแบบนี้อยู่ทุกวัน จนมาถึงวันหนึ่ง วันที่เธอทนพิษบาดแผลทั้งทางจิตใจและทางร่ายกายไม่ไหว จนในที่สุด เธอได้ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลในสภาพที่โรยแรง ทั้งตัวของยูอะนั้นสวมใส่ผ้าอ้อมเปียกชื้นผืนเดียว และรอบๆ ร่างกายพบแต่รอยช้ำที่คาดว่ามาจากการถูกทำร้ายร่างกายโดยคนที่เธอเรียกว่า ‘พ่อแม่’

 


 
     เมื่อได้สอบสวนและพบข้อเท็จจริง ตำรวจก็ได้ออกหมายจับ ‘ยูได’ พ่อเลี้ยง วัย 33 ปี และ ‘ยูริ’ แม่บังเกิดเกล้าของยูอะ วัย 25 ปี ในข้อหากระทำความรุนแรงและปล่อยปละละเลยลูกจนเสียชีวิต ซึ่งยูริได้เผยว่า เธอไม่กล้าขัดคำสั่งสามีใหม่ของเธอ จึงต้องยอมให้ ยูได ลงมือทำการกระทำรุนแรงกับยูอะ ส่วนยูได พ่อเลี้ยงใจร้ายก็ได้บอกว่า ที่ทำไปแบบนั้นเพราะว่า แค่ต้องการที่จะสอนลูกเฉยๆ   
 
      ทางการตำรวจได้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ครอบครัวของยูอะเพิ่งย้ายมาอยู่อะพาร์ตเมนต์ใจกลางกรุงโตเกียวแห่งนี้เมื่อช่วงเดือนมกราคม และนอกจากยูอะแล้ว พวกเค้ายูอะมีลูกอีกคน ซึ่งเป็นลูกที่เกิดจากพ่อเลี้ยงและแม่ของเธอ และเพื่อนร่วมที่พักเดียวกันได้บอกอีกว่า ไม่เห็นยูอะออกจากห้องมาหลายเดือนแล้ว และครอบครัวของยูอะมักทิ้งเธอไว้ที่ห้องคนเดียว แม้กระทั่งออกไปกินข้าวนอกบ้าน ยูอะก็ไม่ได้ไป แถมเวลาอยู่ในห้องปกติ ยูอะก็ถูกแยกให้นอนเพียงคนเดียวอยู่เสมอ พวกเค้ามักปฏิบัติเหมือนกับว่ายูอะไม่ใช่ลูก

 

อะพาร์ตเมนต์ที่ครอบครัวฟุนาโตะเช่าอาศัย
 
     พอตำรวจได้เปิดอ่านสมุดบันทึกของยูอะ ก็ยิ่งรู้สึกหดหู่มากขึ้นไปอีก ตัวอย่างข้อความในสมุดบันทึกความโหดร้ายนั้น เขียนไว้ว่า
 
“หนูสัญญาว่าหนูจะพยายามทำพรุ่งนี้ให้ดีขึ้นมากกว่าวันนี้ ได้โปรดยกโทษให้หนูด้วยนะคะ”
 
“ได้โปรดยกโทษให้หนู ให้อภัยหนูเถอะนะคะ ที่หนูเอาแต่เล่นเหมือนคนโง่
หนูจะไม่ทำมันอีกแล้ว หนูสัญญา หนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”

 
“แม่คะ หนูจะพยายามให้หนักมากยิ่งขึ้น จะทำวันนี้ให้พรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้โดยไม่ต้องรอให้คุณพ่อคุณแม่ต้องมาเหนื่อยที่จะคอยบอกหนู ได้โปรดให้อภัยหนูเถอะนะคะ ยกโทษให้หนูด้วย หนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ยกโทษให้หนูนะคะ”
 
“หนูจะแก้ไขสิ่งที่หนูเคยทำไม่ได้ในเมื่อวานและจนถึงตอนนี้ หนูเอาแต่เลนเหมือนคนโง่ การเล่นไร้สาระไปวันๆ นั้นมันคือการกระทำสำหรับคนโง่ ดังนั้น หนูขอสัญญาอย่างจริงจังว่าหนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว คุณพ่อคุณแม่เข้าใจหนูใช่มั้ยคะ หนูสัญญาจริงๆ”
 
“พรุ่งนี้เช้า หนูจะไม่ทำแบบที่หนูทำในวันนี้อีกแล้ว และในวันพรุ่งนี้ หนูจะพยายามอย่างเต็มที่ และหนูจะทำให้คุณพ่อกับคุณแม่เห็น หนูจะทำให้ได้”

 

ภาพถ่ายของน้องยูอะ ที่ถูกคุณทวดของเธอเก็บไว้ 
 
     พออ่านจบแล้ว ตอนนี้พี่เกิดความรู้สึกอยู่ในใจมากมายเต็มไปหมดเลยครับ นี่คือประโยคที่เด็ก 5 ขวบเขียนจริงๆ เหรอ? ทำไมถึงได้โหดร้ายกับชีวิตเด็กคนนึงขนาดนี้ และนี่คือการกระทำของคนที่เรียกตัวเองว่าพ่อแม่จริงหรือ? ครอบครัวควรจะเป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับลูกไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ? เกินไปจริงๆ!
 
     คดีของการเสียชีวิตของน้องยูอะ ถือว่าเป็นข่าวใหญ่มากๆ ของประเทศญี่ปุ่นในตอนนี้ แม้กระทั่งนักข่าวของญี่ปุ่นยังร้องไห้ตอนอ่านข่าวนี้ (พี่เองก็จะร้องไห้เหมือนกัน T__T) หลายคนก็พยายามเปิดประเด็นและทำการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเด็ก เพราะว่านี่ไม่ใช่กรณีแรกที่เกิดเรื่องราวแบบนี้ เพราะว่าประเด็นการใช้ความรุนแรงกับเด็ก และการบังคับขู่เข็ญเด็กนั้น มีอยู่ในหลายครอบครัวของคนญี่ปุ่น แต่ก็ไม่มีใครที่กล้าออกมาพูด หรือเปิดประเด็นเรียกร้องให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ดูเหมือนว่าการใช้ความรุนแรงในครอบครัวโดยเฉพาะกับเด็กนั้น มีอัตราทวีคูณความรุนแรงมากยิ่งขึ้น อย่างในปีนี้ แค่นับจากช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายน พบเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันนี้มากกว่า 319 กรณี แต่ก็ยังไม่มีใครที่เจ็บปางตายหรือรุนแรงเท่ากับที่น้องยูอะได้เจอ และทางรัฐบาลของญี่ปุ่นก็ได้ออกมาบอกว่า พวกเขาจะเข้มงวดและจริงจังกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เด็กคนไหนต้องมาตกเป็นเหยื่อความรุนแรงจากครอบครัวอีกแล้ว
 


 
     จริงๆ แล้วประเด็น ‘Domestic Violence หรือ การใช้ความรุนแรงในครอบครัว’ นั้นเป็นประเด็นที่มีนานมาก และหลายฝ่ายก็พยายามต่อสู้เพื่อต้องการที่จะลดความรุนแรงเหล่านี้ในสังคมญี่ปุ่น ก่อนหน้านั้นประเด็นนี้ส่วนใหญ่แล้วจะโฟกัสแค่เรื่อง ‘การกดขี่ผู้หญิง’ หรือการที่ภรรยาโดนสามีกดขี่และกระทำความรุนแรง ซึ่งปัญหานี้ก็ใช่ว่าจะหมดไปแล้ว มิหนำซ้ำความรุนแรงเหล่านั้นยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อลูกอีกด้วย ก็เหมือนกับที่ครอบครัวของยูอะ ที่แม่ไม่กล้ามีปากเสียงกับสามีใหม่ และยอมให้ลูกของตัวเองถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในที่สุด 

 

 

 

คนญี่ปุ่นหลายคนแวะไปวางดอกไม้เพื่อแสดงความระลึกถึงน้องยูอะบริเวณหน้าอะพาร์ตเมนต์ที่เคยอาศัยอยู่

 
     สุดท้ายนี้ก็ขอแสดงความเสียใจและขอให้ดวงวิญญาณของน้องยูอะไปสู่สุขคตินะครับ และพี่เองก็หวังว่าเหตุการณ์นี้คงจะเป็นครั้งสุดท้าย และขอให้ไม่เกิดกับใครอีกแล้ว เพราะมันหดหู่เกินไปจริงๆ T__T 

 
Source:
https://mainichi.jp/english/articles/20180609/p2a/00m/0na/015000c
https://english.kyodonews.net/news/2018/06/ae2970ff6ed2-japan-vows-to-tackle-abuse-after-death-of-girl-who-wrote-forgive-me.html
https://english.kyodonews.net/news/2018/06/27c759cff5fc-focus-many-child-abuse-authorities-failing-to-share-information-with-police.html
https://mainichi.jp/english/articles/20180609/p2a/00m/0na/006000c
https://www.americanbar.org/publications/human_rights_magazine_home/human_rights_vol29_2002/summer2002/irr_hr_summer02_fulcher.html
https://www.japantimes.co.jp/news/2017/08/04/national/social-issues/japanese-women-likely-keep-domestic-abuse-secret-eu-peers-survey/#.WyiAjKczbIV
พี่วุฒิ
พี่วุฒิ - Columnist มนุษย์ 4 มิติผู้หลงใหลในเพลงเกาหลี ชาเนสที และหมูกระทะ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กิมจินาโดะ 21 มิ.ย. 61 23:41 น. 5

ใจร้ายจริงๆ

บางทีเราควรมีคำแยกคนพวกนี้ออกจากคำว่าพ่อแม่อ่ะ

เพราะพ่อแม่มีความหมายมากกว่านั้น ไม่ใช่แค่การให้กำเนิดลูก ทำให้ลูกเกิดมามีชีวิตแค่นั้น แต่ความเป็นพ่อแม่จะต้องให้ชีวิตที่ดีกับลูกด้วย จะต้อบให้ความรักความเมตตา ให้การศึกษา ให้อนาคต ทำให้คุณภาพชีวิตของลูกดีที่สุด

ซึ่งคนพวกนี้ไม่ได้มีนิยามอะไรแบบนั้นเลย

ตรงข้ามกันด้วยซ้ำ

เรียกได้ว่าเป็นแค่คนที่ให้กำเนิดคนๆนึงขึ้นมาตามสัญชาตญาณการสืบพันธุ์ของตัวเองแค่นั้นมากกว่า ไม่ได้มีความเป็นพ่อแม่เลย

ในกรณีนี้ขอว่าตัวแม่เด็กเต็มๆเลยแล้วกัน มีอย่างที่ไหนปกป้องลูกไม่ได้แล้วยังทำร้ายลูกอีก

ส่วนตัวพ่อเลี้ยงก็ใจไม้ไส้ระกำเหลือเกิน กับเด็กคนนึงยังทำได้ลง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

11 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กิมจินาโดะ 21 มิ.ย. 61 23:41 น. 5

ใจร้ายจริงๆ

บางทีเราควรมีคำแยกคนพวกนี้ออกจากคำว่าพ่อแม่อ่ะ

เพราะพ่อแม่มีความหมายมากกว่านั้น ไม่ใช่แค่การให้กำเนิดลูก ทำให้ลูกเกิดมามีชีวิตแค่นั้น แต่ความเป็นพ่อแม่จะต้องให้ชีวิตที่ดีกับลูกด้วย จะต้อบให้ความรักความเมตตา ให้การศึกษา ให้อนาคต ทำให้คุณภาพชีวิตของลูกดีที่สุด

ซึ่งคนพวกนี้ไม่ได้มีนิยามอะไรแบบนั้นเลย

ตรงข้ามกันด้วยซ้ำ

เรียกได้ว่าเป็นแค่คนที่ให้กำเนิดคนๆนึงขึ้นมาตามสัญชาตญาณการสืบพันธุ์ของตัวเองแค่นั้นมากกว่า ไม่ได้มีความเป็นพ่อแม่เลย

ในกรณีนี้ขอว่าตัวแม่เด็กเต็มๆเลยแล้วกัน มีอย่างที่ไหนปกป้องลูกไม่ได้แล้วยังทำร้ายลูกอีก

ส่วนตัวพ่อเลี้ยงก็ใจไม้ไส้ระกำเหลือเกิน กับเด็กคนนึงยังทำได้ลง

0
กำลังโหลด
durian_dekd Member 22 มิ.ย. 61 01:33 น. 6

น้องน่ารักมากๆครับ แต่ก็นะ ไม่มีใครทนความเจ็บปวดได้มาหมายขนาดนั้นหรอก กว่าเวลาจะผ่านไปในแต่ละวัน น้องก็คงเหนื่อยใช่เล่น ..บางที นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับน้องก็ได้นะครับ แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรอก ฉะนั้นแล้วก็จงรักลูกๆให้มากๆนะครับคุณผู้ปกครองทั้งหลาย รักให้พอเหมาะพอควรเนอะ ^^

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
jjannyj190347 Member 23 มิ.ย. 61 19:56 น. 10

ใจร้ายมาจริงๆ ทำไมถึงทำร้ายเด็กที่น่ารักแบบนั้นได้ลงคอนะ น้องพึ่ง5ขวบต้องทนมามากมายขนาดนี้..... น้องจะเป็นกำลังใจของพี่!!!! พี่จะสู้ให้ได้เหมือนน้อง คือไม่รู้สิ... เป็นข่าวที่บีบหัวใจมากๆอ่ะ//หลับให้สบายนะตัวเล็ก

0
กำลังโหลด
วงวาร 3 ก.ย. 61 15:56 น. 11

เราก็โดนแม่เลี้ยงใช้งาน ขัดห้องน้ำ ทำงานบ้านจุกจิกเป็นซินเดอเรลล่าตั้งแต่เล็กแบบนี้เหมือนกันนะ เล่นอะไรแบบเด็กๆ ไม่ได้เหมือนกัน โดนดุด่า อ่านหนังสือยังไม่ได้เลย ทำร้ายร่างกายก็โดนบ้าง เลือดสาดแต่ไม่หนักจนถึงตาย 555555555 นึกถึงทีไรแล้วตูรอดมาได้ไง ตอนเด็กๆ นี่ไม่มีความสุขเลยอยากโดดน้ำตายแทบทุกวัน

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด