เผย 11 วิธีง่ายๆ ที่ทำให้ชีวิตเรา 'มีความสุข' มากขึ้น (เริ่มได้เลยวันนี้!)

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำที่ผู้ใหญ่ชอบพูดกันบ่อยๆ ว่า "ชีวิตมันไม่ง่ายเลย" มาก่อนแน่ๆ ซึ่ง พี่นิทาน เองคิดว่ามันก็จริงแหละ แต่มันก็ไม่ได้ยากเสมอไปถ้าเรามีทัศนคติและมุมมองของชีวิตในแบบ 'แง่บวก' 

    ถึงแม้ในบางสถานการณ์ในชีวิตอาจจะทำใจให้มองแง่บวกยาก แต่อย่างน้อยก็มีหลายๆ วิธีที่จะทำให้เราลดความทุกข์และเพิ่มความสุขเข้ามาในชีวิตได้บ้างค่ะ เอาล่ะ เราลองมาดูกันดีกว่าว่าแต่ละข้อมีอะไรบ้าง ขอบอกว่าไม่ยาก และสามารถเริ่มทำได้ทันทีเลยค่ะ :) 


1. เลือกคบเพื่อนที่ดี 



    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำไม่ยาก เพราะการที่เราจะคบใครเป็นเพื่อนนั้นย่อมแปลว่าเราเห็นอะไรที่ 'คล้ายกับตัวเรา' จากเพื่อนคนนั้นแน่ๆ ค่ะ แต่ถ้าบังเอิญว่าเราดันเข้าไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ไม่ค่อยดี หรือมักจะชักชวนเราให้ทำเรื่องที่น่าลำบากใจอยู่บ่อยๆ พี่ขอแนะนำว่าพยายามเลี่ยงๆ และออกมาจากกลุ่มเพื่อนแบบนั้นดีกว่า 

    ที่ต้องแนะนำให้ถอยห่างจากเพื่อนเหล่านั้นเพราะการคบเพื่อนมีผลต่ออนาคตของเราเหมือนกันนะ เช่น ถ้าเราคบกับเพื่อนๆ ที่มองโลกในแง่บวก รู้จักช่วยเหลือ แบ่งปันกัน พากันเรียนและคอยติวหนังสือให้กันเสมอ พวกเขาจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น แต่ถ้าเผลอไปคบเพื่อนที่ชอบชวนไปเที่ยว ชวนโดดเรียนจนการเรียนเราแย่ หลายๆ อย่างในชีวิตก็จะแย่ไปด้วย ดังนั้นพี่แนะนำว่า ถ้าอยากเป็นคนยังไง อยากมีชีวิตแบบไหน ให้พยายามคบเพื่อนที่เป็นแบบนั้นค่ะ 

เพื่อนที่ไม่น่าคบหา และควรเลี่ยง จะสังเกตได้ง่ายดังนี้..

-ขี้นินทา
-ชอบโหก 
-ขี้อิจฉา 
-ชอบบ่น ชอบว่าเรา
-มองโลกในแง่ร้าย 
-ไม่ซื่อสัตย์  เป็นต้น

    ที่จริงน้องๆ ก็อาจจะรู้กันแล้ว แต่ถ้ายังมีเพื่อนๆ ประเภทนี้อยู่ในชีวิต แนะนำว่าตีออกห่างด่วนค่ะ! 


2. มีน้ำใจและรู้จัก 'ให้'


    นอกจากจะแนะนำให้อยู่ห่างๆ เพื่อนที่ไม่ดีต่อชีวิตเราแล้ว พี่แนะนำว่าเราก็ต้องปรับปรุงตัวเองเช่นกัน ปรับปรุงในที่นี้ไม่ได้จะตำหนิว่าเราไม่ดีนะคะ แต่หมายความว่าที่เราเป็นอยู่นั้น เราสามารถเป็นได้ 'ดีกว่าเดิม' เช่น รู้จักใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น รู้จักมีน้ำใจ ใจดีกับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ในชีวิตเรา เช่น ช่วยเหลือเท่าที่เราจะทำได้แม้ว่าเขาจะขอหรือไม่ได้ขอร้องให้เราทำก็ตาม 

    นอกจากนั้น เมื่อเราเคยเป็นผู้ 'รับ' แล้ว ไม่ว่าจะรับความรัก ความมีน้ำใจ หรือความดีอะไรก็ตาม เราก็อย่าลืมที่จะเป็นผู้ 'ให้' กับคนรอบๆ ข้างด้วยค่ะ ให้ในที่นี้คือให้อะไรก็ได้ ให้รู้ว่าเราก็มีบางสิ่งที่อยากแบ่งบันบ้าง ไม่ใช่แค่สิ่งของหรือวัตถุที่จับต้องได้เท่านั้นนะคะ แต่การให้นั้นสามารถให้ใจ และให้ความรู้สึกดีๆ ได้เช่นกันค่ะ 


3. รู้จักให้อภัย


Photo: Pixabay

    นอกจากจะให้ทั้งสิ่งของและความรู้สึกที่ดีแล้ว เราก็ไม่ควรลืมที่จะ 'ให้อภัย' คนรอบๆ ตัวเรา แน่นอนว่าเรื่องบางเรื่องที่ใครบางคนทำให้เราโกรธหรือเสียใจนั้นยากที่จะให้อภัย แต่หากเราลองปล่อยวางและอยู่กับปัจจุบัน การให้อภัยนั้นจะทำให้เราโล่งใจ สบายใจ และไม่ต้องแบกความทุกข์หรือความโกรธที่มีอีกต่อไปเลยค่ะ ถึงมันจะฟังดูยาก แต่ถ้าทำได้แล้วรับรองว่ารู้สึกมีความสุขขึ้นจริงๆ ค่ะ 


4. พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี


    บางครั้งเรามักบ่นหลายๆ เรื่องที่เจอในชีวิตประจำวัน หรืออาจเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับชีวิตคนอื่นแล้วรู้สึกหดหู่และมักคิดว่า ทำไมเราถึงไม่มีแบบนั้น แบบนี้ แบบคนนั้น คนนี้บ้างนะ ความคิดเหล่านี้มักทำให้ตัวเราจมดิ่งไปกับความรู้สึกติดลบ และแน่นอนว่าท้ายที่สุดเราก็จะไม่มีความสุข 

    วิธีง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนความคิดเหล่านั้นก็คือจงคิดไว้เสมอว่าสิ่งที่เรามีนั้นดีที่สุดแล้ว บางครั้งที่เราคิดว่าไม่ดีเท่าใครๆ ก็เป็นเพราะเรานำไปเปรียบเทียบนั่นแหละค่ะ ลองคิดดูสิว่าคนเหล่านั้นเขาก็อาจจะอิจฉาบางสิ่งที่เรามีเหมือนกัน เราทุกคนย่อมมีข้อดีและเรื่องเด่นๆ ของตัวเองที่บางคนก็ทำไม่ได้อย่างเราด้วยซ้ำ 

    หรือถ้าจะให้คิดอีกแบบที่พวกผู้ใหญ่ชอบพูด (จนเราแอบเบื่อ แต่เป็นความจริง) ก็คือ จงดีใจที่เราได้เกิดมา ได้มีชีวิตอยู่ และมีสิ่งที่เรามีในปัจจุบัน อย่าลืมว่ายังมีอีกหลายล้านคนบนโลกที่อาจมีชีวิตที่แย่กว่าเราด้วยซ้ำ ถึงชีวิตอาจจะดูไม่แฟร์ในบางครั้ง แต่อย่างน้อยสิ่งที่เรามีก็ไม่เหมือนใครค่ะ 


5. ทำสิ่งที่รัก 



    หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้คนเรามีความสุขก็คือ 'การได้ทำในสิ่งที่รัก' ค่ะ แน่นอนว่าคงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านั้นแล้ว การรู้ตัวว่าชอบทำอะไรและกล้าที่จะเริ่มทำสิ่งๆ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยาก แต่อาจจะต้องใช้ความกระตือรือร้นและตั้งใจให้มากกว่าเดิมซักหน่อย เราจะได้รู้จักพัฒนาความสามารถเหล่านั้นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ 

    บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบทำอะไรกันแน่ วิธีง่ายๆ ที่จะหาคำตอบก็คือ 'ลองทำ' หลายๆ อย่างดูเลยค่ะ อะไรก็ได้ เริ่มจากกิจกรรมไหนก็ได้ อาจลองทำตามเพื่อนไปก่อน เช่น เล่นบาสเกตบอล หรือจะเป็น เล่นดนตรี ร้องเพลง ออกแบบเสื้อผ้า แต่งหน้า วาดรูป อะไรก็แล้วแต่ ถ้าเรารู้สึก 'มีความสุข' กับสิ่งนั้นๆ แสดงว่านั่นแหละค่ะคือสิ่งที่เราชอบ และเมื่อเรารู้ว่าเราชอบอะไร ก็อย่ารีรอ ทำมันให้บ่อยขึ้นๆ จนเป็นนิสัยค่ะ 


6. หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ 


    การเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ไม่ควรหยุดสงสัยหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งนี้ไม่ใช่แค่การเรียนรู้แค่ในห้องเรียนเท่านั้นนะคะ แต่เป็นการเรียนรู้สิ่งใดก็ได้ในชีวิต หลายคนที่ประสบความสำเร็จมักแนะนำเคล็ดลับในการมีแรงบันดาลใจอยู่ตลอดเวลาว่าควรเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างน้อยวันละ 1 อย่าง จะเป็นเรื่องง่ายๆ ก็ได้ค่ะ เช่น วันนี้เรียนวิธีพูดคำว่า 'สวัสดี' ในภาษารัสเซีย หรือจะเป็นการปลูกต้นไม้ เรียนรู้เคล็ดลับต่างๆ เป็นต้น 

    คนที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่ 'อยากรู้อยากเห็น' อยู่เสมอ และไม่ทะนงตัวหรือคิดว่าเรารู้ทุกอย่างแล้ว หรือเราเก่งที่สุดในด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้นการเรียนรู้อะไรก็ตามคือสิ่งสำคัญที่จะนำเราไปสู่สิ่งใหม่ๆ ในชีวิต และทำให้เราเป็นคนน่าสนใจ และมีเรื่องสนุกๆ ให้ทำในทุกๆ วันด้วยค่ะ 


7. ซื้อประสบการณ์แทนสิ่งของ


   
     เงินอาจไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง แต่มีหนึ่งอย่างที่พี่รู้สึกว่าใช้เงินซื้อแล้วคุ้มค่าก็คือ 'การซื้อประสบการณ์' แทนที่จะซื้อข้าวของเครื่องใช้แพงๆ นั่นเองค่ะ บางครั้งเราทำงานหาเงิน หรือได้ค่าขนมมาจากที่บ้านแล้วก็อยากจะเอาไปซื้อสิ่งของที่อยากได้มานาน อุตส่าห์เก็บเงินตั้งนาน พอได้ซื้อมันก็คุ้มค่ากับที่รอคอยและอดทนจริงมั้ย? ก็จริงค่ะ แต่ถ้าเรามีโอกาสก็ลองนำเงินเหล่านั้นไปซื้อสิ่งต่างๆ ที่เพิ่มประสบการณ์ให้เราดูบ้าง

    สิ่งที่เพิ่มประสบการณ์ให้ชีวิตเราได้อย่างแรกเลยก็คือการไปท่องเที่ยว เปิดโลกกว้าง ใครที่ที่บ้านอนุญาตให้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ได้แล้วก็ไปโลดเลยค่ะ โดยเฉพาะไปเที่ยวต่างประเทศจะทำให้เราเปิดโลกกว้างได้มากว่าเดิมหลายเท่า หรืออาจจะเป็นการไปลงคอร์สอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือคอร์สระยะสั้นต่างประเทศก็ย่อมได้ทั้งความรู้และประสบการณ์ที่ประเมินค่าไม่ได้เลยค่ะ 

    ตัวพี่เองถ้ามีเงินก็อยากจะเลือกซื้อตั๋วไปต่างประเทศแทนที่จะไปซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ (อันนี้ความชอบส่วนตัวนะคะไม่ได้หมายความว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ดีหรือสิ้นเปลือง) เพราะพี่ชอบเจอผู้คน เจอสถานที่ใหม่ๆ และเรียนรู้วัฒนธรรมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน อยากทำแบบนี้ให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะทำไม่ไหวค่ะ 


8. ดูแลตัวเองดีๆ


    เชื่อว่าหลายๆ คนต้องชอบนอนดึกกันแน่ๆ เลย แต่การที่เรารู้จักหมั่นดูแลรักษาสุขภาพกายให้ดีๆ ก็จะเป็นผลต่อสุขภาพจิตที่ดีค่ะ ดังนั้นการออกกำลังกายก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญและทุกคนไม่ควรมองข้าม ถ้าใครไม่ชอบเล่นกีฬา ขี้เกียจออกไปวิ่งหรือหาเวลาออกกำลังกายไม่ได้จริงๆ พี่ก็แนะนำให้ 'เดิน' เยอะๆ ค่ะ การเดินก็เหมือนเป็นการออกกำลังกายอีกอย่างเช่นกัน 

    นอกจากนั้นก็อย่าลืมเลือกอาหารที่ดีทาน ไม่ทานรสจัดมากเกินไป และรู้จักทานอาหารให้ครบทุกมื้อ ใครที่อยากลดความอ้วนขอบอกว่าอย่าลดโดยการงดอาหารนะคะ เพราะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง และร่างกายอาจขาดสารอาหารได้ อีกอย่างคือควรพักผ่อนและนอนให้เพียงพอค่ะ ถ้านอนน้อย ตื่นมาก็อาจจะอารมณ์ไม่ค่อยดี ไม่สดชื่น และอาจทำให้เรียนหนังสือไม่รู้เรื่องด้วยนะ 


9. นั่งสมาธิ


Photo: Pixabay

    เรื่องของการนั่งสมาธินั้นบางทีมีมากกว่าศาสนาและความเชื่ออีกนะคะ เพราะมีวิจัยจากหลายๆ ที่ อย่างเช่นจากมหาวิทยาลัย Harvard ว่าการนั่งสมาธิเป็นการฝึกสมองอย่างหนึ่งที่ได้ผลจริงๆ ค่ะ เนื่องจากการนั่งสมาธินั้นจะทำให้เราสามารถสงบจิตใจไปได้ช่วงหนึ่ง และทำให้ลดความเครียดที่เรามีอยู่ได้ เพราะการนั่งสมาธิทำให้เราโฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีขึ้น 

    นอกจากนั้น การนั่งสมาธิยังช่วยในเรื่องของ 'ความจำ' ด้วยค่ะ ดังนั้นใครที่ความจำสั้นหรือคิดว่าตัวเองขี้ลืม ลองหาวิธีนั่งสมาธิให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพดูกันค่ะ


10. มองโลกในแง่ดี (แม้เจอเรื่องร้ายๆ) 


    หลายครั้งเวลาเราเจอเรื่องแย่ๆ หรือกำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่ยากๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอบ การเรียน การทำงาน หรือการแข่งขันต่างๆ และผลที่ได้อาจไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ก็อาจทำให้เรารู้สึกแย่และหดหู่ ท้อแท้ในชีวิตบ้าง แต่อย่าลืมนะคะว่าเราท้อแท้และผิดหวังได้แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น เพราะเราต้องรีบไปต่อ คืออย่ายอมแพ้ และอยากให้คิดว่าทุกๆ ความผิดหวังหรือเรื่องร้ายๆ ที่เจอมาก็ถือว่าเป็น 'ครู' ที่สอนให้เราได้เรียนรู้ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าวันนี้เราไม่เจอเรื่องแย่ๆ วันข้างหน้าเราอาจรับมือกับสิ่งที่แย่กว่าหรือยากกว่าไม่ได้ด้วยซ้ำค่ะ 


11. มีเป้าหมาย 



    เคยมีการวิจัยและตีพิมพ์ลงในหนังสือ "Applied Research in Quality of Life" บอกไว้ว่าช่วงที่แฮปปี้ที่สุดของการท่องเที่ยวนั้นคือช่วงที่เราวางแผนและฝันเรื่องทริปนั้นๆ นั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่จะไปกับครอบครัว เพื่อน หรือไปคนเดียว ทุกการวางแผนและการเตรียมตัวนั้นจะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและตื่นตัวกว่าเดิมเป็นไหนๆ ดังนั้นการที่เรามี 'เป้าหมาย' สำหรับอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วนั้นมักเป็นพลังขับเคลื่อนให้ชีวิตเราตื่นเต้นมากขึ้นค่ะ 

    หากใครกำลังอยู่ในช่วงเซ็งๆ ชีวิต ไม่มีอะไรตื่นเต้น พี่แนะนำให้ลองหาเป้าหมายอะไรก็ได้อย่างน้อย 1 อย่างมาทำให้เรากระตือรือร้นมากขึ้นดูดีไหมคะ 

   

 
     ทั้งหมด 11 ข้อนี้อาจเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะทำอยู่แล้วก็ได้ แต่พี่ก็ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่มาย้ำเตือน (ทั้งเตือนตัวเองและคนอื่นด้วย) เพื่อชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น ส่วนใครที่มีวิธีหาความสุขอื่นๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ก็สามารถคอมเมนต์เพิ่มเติมได้นะคะ ^^ 

อ้างอิง
https://cycleharmony.com/
http://time.com/
https://www.simplemost.com/
https://www.facebook.com/worldeconomicforum/
http://successmogul.com/
https://www.theodysseyonline.com/
https://www.lifehack.org/
http://www.businessinsider.com/

 
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด