สวัสดีค่ะชาว Dek-D ตอนนี้อากาศที่เมืองไทยของเราก็ร้อนมากๆ เลยใช่มั้ยล่ะคะ แต่ไม่น่าเชื่อว่าที่คนไทยบ่นร้อนตับแตกกันอยู่ทุกวันนี้ อุณหภูมิเรายังไม่เทียบเท่ากับ “ญี่ปุ่น” ที่ตัวเลขแตะ 40 องศาเซลเซียสไปแล้ว! ที่น่าตกใจคือความร้อนรุนแรงระดับนี้ทำให้เกิดเหตุการณ์หลายอย่างในญี่ปุ่น แต่จะมีเหตุการณ์อะไรบ้างนั้น ไปตามอ่านกันได้เลยค่ะ
1. ประชาชนเสียชีวิตและเข้าโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก
คลื่นความร้อนในญี่ปุ่นปีนี้ส่งผลให้อุณหภูมิบางพื้นที่พุ่งสูงในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ที่ส่งผลต่อชีวิตมนุษย์ อย่างเช่นในเมืองคุมากายะ (Kumagaya) ใกล้ๆ กับกรุงโตเกียว ต้องเจอกับความร้อนถึง 41.1 องศาเซลเซียส ซึ่งมากกว่าอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของทุกปีถึง 12 องศาเซลเซียส สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีประชาชนเสียชีวิตจากความร้อนถึง 65 ราย และอีกกว่า 35,000 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะ "โรคลมแดด" (Heat Stroke)
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ออกมาแนะนำให้ประชาชนดื่มน้ำเยอะๆ และหลีกเลี่ยงการออกแดดเป็นเวลานาน ในขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาทางญี่ปุ่นได้ออกมาบอกข่าวร้ายว่า อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนต่อมา!
2. หยุดแห่ขบวนพาเหรดประจำปี
ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) ได้จัดเทศกาล "กิออนมัตสุริ" (Gion Matsuri) ขึ้นที่เมืองเกียวโตตลอดทั้งเดือนกรกฎาคมของทุกปี จุดประสงค์คือเดินขบวนเพื่อปัดเป่าโรคระบาดและสิ่งไม่ดีต่างๆ ไปทิ้งลงที่แม่น้ำ และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวเมือง ...แต่เนื่องจากปีนี้อากาศร้อนแรงมากจนผู้จัดงานถึงกับสั่งยกเลิกการเดินพาเหรดนี้ลง เพราะเกรงว่าจะเสี่ยงต่อชีวิตเด็กและผู้ใหญ่จำนวนมากที่เป็นผู้ร่วมเดินขบวน
3. รัฐบาลหวั่นกระทบโอลิมปิกในอีก 2 ปีข้างหน้า
เนื่องจากญี่ปุ่นกำลังจะเป็นเจ้าภาพในการจัดงานกีฬาโอลิมปิกปี 2020 ซึ่งตรงกับช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น แถมยังเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดด้วย พอมาเจอกับปีนี้ที่อุณหภูมิกลับสูงจนประชาชนเสียชีวิตมากมาย ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงเริ่มกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอีก 2 ปีข้างหน้าหรือไม่?
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเสนอว่าจะวางแผนป้องกันความร้อน อย่างการติดตั้งเครื่องเป่าลมเย็นขนาดใหญ่ รวมไปถึงปลูกต้นไม้สูงๆ เพื่อช่วยบังแดดให้สนามวิ่งมาราธอนอีกด้วย เห็นมั้ยคะว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มองการณ์ไกลและเตรียมพร้อมอยู่เสมอเลยค่ะ
4. รัฐบาลทุ่มงบซื้อแอร์แจกโรงเรียน
สืบเนื่องจากความร้อนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทางรัฐบาลจึงมีมาตรการให้เงินทุนเพื่อสนับสนุนในการซื้อแอร์มาติดตั้งที่โรงเรียนในญี่ปุ่นทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอากาศร้อนในปีหน้า เพราะเกือบๆ 60% ของโรงเรียนในญี่ปุ่นนั้นไม่มีแอร์เลย นอกจากนี้ หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น รัฐบาลก็มีพิจารณาแผนการขยายเวลาปิดเทอมภาคฤดูร้อนของเด็กนักเรียนออกไปอีกด้วย
5. ข้าวของแพงขึ้น!
ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าอากาศจะเป็นพิษต่อกระเป๋าสตางค์ด้วย เพราะราคาผักในญี่ปุ่นพุ่งขึ้นสูงถึง 65% เช่น ผักกาดราคา 129 เยน ซึ่งกระทรวงการเกษตรในกรุงโตเกียวให้ความเห็นว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียว หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมผักถึงแพงขึ้น เหตุผลหลักๆ คือ ปกติแล้วเวลาปลูกผักต้องพึ่งพาฝน แต่อากาศกลับร้อนจนฝนไม่ตก
อย่างไรก็ตาม บางร้านค้าก็สามารถหากำไรได้จากความร้อนที่น่ากลัวเช่นนี้ อย่างร้านไอศกรีมที่พอจะช่วยดับร้อนได้ หรือแม้แต่ค่าไฟของการใช้แอร์และพัดลมก็พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
เห็นมั้ยคะว่าผลจากอุณภูมิที่สูงขึ้นที่ญี่ปุ่นส่งผลกระทบหลายต่อมากๆ แต่ก็ขอชื่นชมรัฐบาลญี่ปุ่นที่ไม่เพิกเฉย แต่พยายามคิดหาทางป้องกันและแก้ปัญหาในระยะยาว ส่วนประเทศไทยตอนนี้...อากาศก็ไม่เบาเหมือนกันค่ะ แนะนำว่าต้องดื่มน้ำเยอะๆ นะคะ Take care ค่ะ ^^
Sources:
www.theguardian.com
www.worldofbuzz.com
www.bbc.com
edition.cnn.com
www.insidekyoto.com
dailycaller.com
www.dw.com
www.japantimes.co.jp
www.thestar.com
www.express.co.uk
www.worldofbuzz.com
www.bbc.com
edition.cnn.com
www.insidekyoto.com
dailycaller.com
www.dw.com
www.japantimes.co.jp
www.thestar.com
www.express.co.uk
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ