“ลัทธิปีศาจสปาเก็ตตี้บิน” ลัทธิที่เชื่อว่า พระเจ้ามีรูปร่างคล้ายสปาเก็ตตี้มีตบอล!


       สวัสดีค่ะชาว Dek-D จริงๆ แล้ว ประเทศไทยเราถือว่าให้อิสระในการนับถือศาสนาค่อนข้างมากเลยค่ะ อย่างช่วงหลังมานี้คนไทยบางคนถึงกับระบุศาสนาลงในบัตรประชาชนว่านับถือ “ลัทธิเบคอน” ไปแล้ว วันนี้ พี่เยลลี่ เลยจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับอีกลัทธินึงที่ชื่อว่า “ลัทธิปีศาจสปาเก็ตตี้บิน” เห็นชื่อน่ากินแบบนี้ ขอเคลมเลยนะว่าต้นกำเนิดของเขาน่าสนใจยิ่งกว่าซะอีกค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าลัทธินี้เป็นยังไง ตามมาอ่านได้ในบทความนี้เลยค่า Q(.\ /. )

 

“ลัทธิปีศาจสปาเก็ตตี้บิน” คืออะไรกันแน่?

       ลัทธิ Flying Spaghetti Monster (FSM) แปลเป็นไทยว่า “ปีศาจสปาเกตตี้บิน” เกิดขึ้นในปี 2005 โดย บ็อบบี้ เฮนเดอร์สัน (Bobby Henderson) บัณฑิตป้ายแดงในสาขาวิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยออริกอนสเตต (Oregon State University) โดยผู้ที่นับถือลัทธิสปาเก็ตตี้บินนี้มีชื่อเก๋ๆ ว่า พาสตาฟาเรียน (Pastafarian) ซึ่งมาจากการผสมคำว่า Pasta + Rastafarian เข้าด้วยกัน 
    

      

จากจดหมายที่ถูกเมิน สู่การเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านทฤษฎีพระเจ้าสร้างโลก!



Photo Credit: https://i.ytimg.com/
 
       จุดกำเนิดลัทธินี้น่าสนใจมากๆ ค่ะ ในตอนนั้นรัฐแคนซัสได้ออกนโยบายบังคับให้โรงเรียนมัธยมสอน "ทฤษฎีพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก" เพิ่มในวิชาชีววิทยา! แต่จริงๆ วิชานี้อยู่ในหมวดวิทยาศาสตร์ จึงไม่ควรมีเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลรวมอยู่ด้วย
    
       เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เฮนเดอร์สันจึงเขียนจดหมายถึงกระทรวงศึกษาธิการของรัฐแคนซัสเพื่อต่อต้านนโยบายดังกล่าว เพราะเห็นว่าเรื่องความเชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ควรถูกนำมายัดเยียดลงในบทเรียน แถมคนเราก็มีสิทธิ์จะเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติยังไงก็ได้ เพราะไม่มีใครหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้อยู่แล้วว่าเรื่องของใครจริงกว่ากัน ซึ่งคนที่เห็นด้วยกับความคิดนี้ไม่ได้มีแค่ในอเมริกาเท่านั้นนะคะ แต่มีอยู่ทั่วโลกเลย โดยเฉพาะในรัสเซีย เนเธอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ 
     
       ว่าแล้วก็มาแง้มจดหมายของเฮนเดอร์สันดูกันสักเล็กน้อย ใจความในนั้นสรุปได้ว่าเขาได้อธิบายเรื่องความเชื่อในลัทธิปีศาจสปาเก็ตตี้ที่เขาสร้างขึ้น และเรียกร้องให้โรงเรียนจัดสอนทฤษฎีของเขาด้วยเหมือนกัน เพราะเขามองว่าความเชื่อของเขาเองก็เชื่อถือได้พอๆ กับทฤษฎีพระเจ้าสร้างโลก 
    
       เห็นจริงจังเบอร์นี้ก็ใช่ว่ากระทรวงฯ จะฟังนะคะ เพราะจดหมายของเขาโดนเมินสนิท พอไม่เห็นปฏิกิริยาตอบกลับใดๆ ให้ชื่นใจเท่านั้นล่ะ เฮนเดอร์สันเลยจัดการโพสต์เรื่องลัทธินี้ลงเว็บไซต์ของตัวเองซะเลย สิ่งที่เกิดขึ้นคือจดหมายเผยแพร่อย่างรวดเร็วเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ต และในที่สุดก็กลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการสอนทฤษฎีพระเจ้าสร้างโลกแก่เด็กมัธยมค่ะ   
  
    

"พระเจ้าของเราหน้าตาคล้ายสปาเก็ตตี้มีตบอล"

       เอาล่ะ! ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าทำไมจดหมายของเฮนเดอร์สันถึงโดนเมิน บอกตรงๆ ว่าความเชื่อของศาสนานี้ถือเป็นสิ่งที่พีคสุดเรื่องหนึ่งเลยค่ะ พี่อ่านแล้วชอบใจมาก 5555 ในปี 2006 เฮนเดอร์สันเขียนและตีพิมพ์หนังสือคำสอนที่ชื่อ The Gospel of the Flying Spaghetti Monster โดยในคำสอนระบุว่า “พระเจ้านั้นล่องหน มีรูปร่างคล้ายสปาเก็ตตี้มีตบอล พระองค์สร้างจักรวาลนี้ขึ้นหลังจากดื่มเหล้าเมาหนักมาก และเพราะความแฮงก์นี้เอง เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกของเราเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง” 
 
      ลัทธินี้กล่าวว่า ชาวพาสตาฟาเรียนกลุ่มแรกบนโลกนี้คือพวกโจรสลัด และการลดลงของโจรสลัดตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน! ส่วนกฏแรงโน้มถ่วงบนโลกก็มาจากพระเจ้ายื่นเส้นสปาเก็ตตี้มากดสิ่งต่างๆ เอาไว้นั่นเองค่ะ (นึกแล้วขนลุกเบาๆ...)
 
      มาที่ความเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์บ้าง สวรรค์ของลัทธินี้เต็มไปด้วยภูเขาไฟลาวาที่ไหลออกมาเป็นเบียร์ (ไม่แปลกใจว่าทำไมพระเจ้าถึงเมาหนัก…) และมีโรงงานผลิตสาวๆ โชว์เต้นระบำเปลื้องผ้า ส่วนนรกจะมีข้อแตกต่างอยู่ที่ เบียร์รสชาติไม่เอาไหน ส่วนสาวๆ สุดเซ็กซี่ก็มีของแถมเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย
    
    

วิถีปฏิบัติแบบชาวพาสตาฟาเรียน



Photo Credit: https://edition.cnn.com/
  
       หากน้องๆ นับถือลัทธินี้ วิธีโชว์ความศรัทธาและแสดงตัวให้สาธารณชนรับรู้ คือการนำ “กระชอน” ครอบไว้บนศีรษะค่ะ ตอนแรกพี่คิดว่าจะไม่มีใครกล้าทำ แต่ความจริงออกมาตรงกันข้าม เพราะชาวพาสตาฟาเรียนหลายคนภูมิใจมากกับวางกระชอนกรองสปาเก็ตตี้ไว้บนหัว มีถึงขั้นไปไฟท์กับเจ้าหน้าที่รัฐให้ยอมถ่ายรูปทำบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ในสภาพนั้น (ยอมใจความเคร่งจริงๆ) 
 
       ความพีคยังไม่หมดแค่นั้นค่ะ ในทุกๆ วันศุกร์ถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา เวลาสวดอธิษฐานแต่ละบทเสร็จจะพูดลงท้ายว่า “ราเมน” อิงถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่รูปร่างเป็นเส้นเหมือนปีศาจสปาเก็ตตี้บิน ผู้เป็นพระเจ้าในความเชื่อของชาวพาสตาฟาเรียนนั่นเอง!


 
       บนโลกนี้ยังมีอีกหลายศาสนาที่เราไม่รู้จัก และบางศาสนาก็มีที่มาอันลึกซึ้งจนเราคิดไม่ถึงเลยล่ะค่ะ อย่างที่เฮนเดอร์สันได้กล่าวไว้ว่า ความเชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล ดังนั้นเราควรเคารพความคิดและความเชื่อของคนอื่นด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ส่วนใครที่รู้จักศาสนาอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มาแชร์ให้เพื่อนๆ ชาว Dek-D อ่านกันได้นะคะ พี่จะรออ่านด้วยคน Q(>v<) 

 
พี่เยลลี่
พี่เยลลี่ - Columnist อักษรศาสตร์ เอกมโน โทติ่ง หิวชานมตลอดเวลาและเป็นทาสลูกน้องแมว

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด