อันยองครับน้องๆ ชาว Dek-D ทักทายมาเป็นภาษาเกาหลีแบบนี้ ใช่ครับ วันนี้ พี่วุฒิ จะพาน้องๆ ไปส่องสนามสอบแอดมิชชั่นของเด็กเกาหลี หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ‘ซูนึง’ ซึ่งจัดขึ้นในทุกๆ เดือนพฤศจิกายนของทุกปี ต้องบอกเลยว่าเป็นการสอบที่สำคัญมาก เป็นวาระแห่งชาติเลยก็ว่าได้ ว่าแล้วไม่รอช้า เรามาดูบรรยากาศการสอบของปีนี้ดีกว่า จะเป็นยังไงบ้างนะ
เราต้องยอมรับเลยว่าประเทศเกาหลีใต้นั้นเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีมากๆ (ติด top4 ของโลก) ที่นี่มีการเรียนการสอนอย่างเข้มข้นและค่อนข้างกดดัน เด็กเกาหลีใต้ส่วนใหญ่จึงมีความจริงจังต่อการเรียนสุดๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของที่นี่ก็ถือเป็นเรื่องที่โหดสุดอะไรสุด! ซึ่งที่เกาหลีใต้นั้นมีระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ชื่อว่า College Scholastic Ability Test (CSAT) หรือที่หลายคนรู้จักว่า “ซูนึง (수능)”
โดยผลสอบซูนึงสามารถนำไปยื่นสอบเข้าได้ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐบาลและเอกชน และใน 1 ปีจะจัดสอบแค่เพียงครั้งเดียว และจัดสอบทุกวิชาแค่เพียงวันเดียวเท่านั้น (ชี้เป็นชี้ตายกันเลยทีเดียว) แต่ละปีนั้นก็จะมีผู้เข้าร่วมสอบไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน แต่สำหรับปี 2019 ในปีนี้ มีจำนวนนักเรียนม.ปลายที่เข้าสอบลดลงกว่าแต่ก่อนเยอะมาก (ยอดผู้สมัครต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1993) มีทั้งหมด 394,024 คน จากสนามสอบทั้งหมด 1,185 แห่งทั่วประเทศ
การสอบซูนึงปกติแล้วจัดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2 เดือนพฤศจิกายนของทุกปี และสำหรับปีนี้การสอบตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2562 โดยจัดสอบตั้งแต่เวลา 8.40 น. - 17.40 น. ตามเวลาของประเทศเกาหลีใต้
โดยผลสอบซูนึงสามารถนำไปยื่นสอบเข้าได้ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐบาลและเอกชน และใน 1 ปีจะจัดสอบแค่เพียงครั้งเดียว และจัดสอบทุกวิชาแค่เพียงวันเดียวเท่านั้น (ชี้เป็นชี้ตายกันเลยทีเดียว) แต่ละปีนั้นก็จะมีผู้เข้าร่วมสอบไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน แต่สำหรับปี 2019 ในปีนี้ มีจำนวนนักเรียนม.ปลายที่เข้าสอบลดลงกว่าแต่ก่อนเยอะมาก (ยอดผู้สมัครต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1993) มีทั้งหมด 394,024 คน จากสนามสอบทั้งหมด 1,185 แห่งทั่วประเทศ
การสอบซูนึงปกติแล้วจัดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2 เดือนพฤศจิกายนของทุกปี และสำหรับปีนี้การสอบตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2562 โดยจัดสอบตั้งแต่เวลา 8.40 น. - 17.40 น. ตามเวลาของประเทศเกาหลีใต้
ภาพนักเรียนเกาหลีเช่าห้องอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำเพื่อเตรียมตัวสอบซูนึง
Cr. https://twitter.com/bluesherbet_/status/976828081762521088
สำหรับการสอบซูนึง เหล่านักเรียนเกาหลีหลายคนมีการเตรียมพร้อมสำหรับการสอบอย่างหนักหน่วง บางคนก็อาจลงทุนติวหนังสือหามรุ่งหามค่ำ บ้างก็กวดวิชาจนดึกดื่น และดูเหมือนว่าการกลับบ้านหลังเที่ยงคืนก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กที่นี่ จะเห็นได้ว่าเด็กเกาหลีส่วนมากเริ่มติวการสอบซูนึงตั้งแต่เรียนมัธยมต้น และที่พีคกว่านั้นคือ มีโรงเรียนกวดวิชาเพื่อเตรียมตัวสอบซูนึงตั้งแต่ระดับอนุบาลเลยก็มีครับ (โหดเกิ๊น!) เตรียมตัวกันหนักขนาดนี้ ว่าแล้วเรามาดูกันดีกว่าว่า สำหรับการสอบแอดมิชชั่นครั้งนี้ เด็กเกาหลีเค้าต้องสอบอะไรบ้าง
1. ภาษาประจำชาติ (วิชาบังคับ)
2. คณิตศาสตร์ (วิชาบังคับ)
3. ภาษาอังกฤษ (วิชาบังคับ)
4. ประวัติศาสตร์เกาหลี (วิชาบังคับ)
5. สังคมศึกษา / วิทยาศาสตร์ / อาชีวศึกษา (เป็นวิชาเลือก สามารถเลือกสอบได้มากที่สุดหมวดละ 2 วิชา)
6. ภาษาต่างประเทศ แบ่งออกเป็น ภาษาเยอรมัน, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาสเปน, ภาษาจีน, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษารัสเซีย, ภาษาอาหรับ, ภาษาเวียดนามพื้นฐาน และ อังจา (อักษรจีน-เกาหลี) โดยนักเรียนจะต้องเลือกสอบ 1 วิชา
โดยส่วนใหญ่แล้ววิชาที่เราจะเลือกสอบนั้น ผู้สมัครแต่ละคนก็ต้องดูมาก่อนว่าคณะและสถาบันที่เราอยากจะเรียนต้องใช้วิชาอะไรบ้าง เพราะวิชาที่ต้องสอบนั้นจะถูกกำหนดโดยคณะและมหาวิทยาลัยที่เราต้องการจะเข้า แต่ละที่มีเกณฑ์ไม่เหมือนกัน บางครั้งคณะเดียวกัน สาขาเดียวกันแต่ละต่างมหาวิทยาลัย คะแนนที่ใช้ก็ต่างกัน จะไม่เหมือนกับของไทยที่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้คะแนนวิชาสอบเหมือนๆ กัน ดังนั้น เด็กเกาหลีส่วนใหญ่จึงต้องมีเป้าหมายและรู้ตัวเองเลยว่า ต้องการจะเข้าคณะหรือมหา’ลัยไหน เพราะจะได้เลือกสอบถูกวิชา และหลังจากทุกคนสอบเสร็จทุกวิชา ในวันเดียวกันนี้ก็สามารถรู้คะแนนของตัวเองได้เลย เพราะว่ากระดาษคำตอบที่ถูกต้องจะถูกเผยออกมาทันทีหลังจากสอบเสร็จ และขั้นตอนหลังจากนั้น เราก็สามารถนำผลคะแนนไปยื่นตามมหาวิทยาลัยที่ตัวเองอยากสอบเข้าได้เลย
อย่างที่บอกไปว่าที่เกาหลีใต้จะให้ความสำคัญกับการสอบซูนึงมากๆ หลายๆ ภาคส่วนจะให้ความร่วมมือกับการสอบในวันนี้ เช่น ห้างสรรพสินค้าและตลาดหลักทรัพย์จะเปิดช้ากว่าปกติ 1 ชั่วโมง และในช่วงการทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จะห้ามเครื่องบินบินผ่าน เพราะเสียงเครื่องบินอาจจะรบกวนการสอบได้ รวมถึงระบบขนส่งมวลชนในประเทศก็จะคอยบริการรับ-ส่งนักเรียนให้ทันช่วงเวลาสอบ แถมสำนักข่าวทุกช่องก็จะคอยรายงานข่าวการสอบทั้งวันเลยครับ เรียกว่าทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญกับวันนี้สุดๆ เพราะมันอาจะเป็นวันกำหนดชะตาชีวิตของคนๆ นึงได้เลย
และอีกไฮไลต์ที่ทุกปีต้องมีก็คือ ข่าวการสอบของเหล่านักร้องไอดอล KPOP ที่ตบเท้าเข้าสอบกันเพียบ โดยคนที่สอบส่วนใหญ่ในปีนี้จะเป็นคนที่เกิดในปี ค.ศ.2000-2001 ครับ ว่าแล้วเรามาดูกันดีกว่าว่าปีนี้มีเมนของใครเข้าสอบกันบ้างนะ?
โซมี (Photo : dispatch)
นอกจากนี้ยังมีไอดอลคนดังคนอื่นๆ อีกมายที่เข้าสอบปีซูนึงเช่นกัน ได้แก่ มินจู IZONE, เอริค The Boyz, ซูยุน-ยุนคยอง Rocket Punch, อึยอุง Produce101, มินกยู - ดงยุน - ชางอุค - วอนจิน ProduceX101, ยุนจฮยอก Treasure13 และอื่นๆ อีกมากมาย
ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนคนสอบเหยียบหกแสนคนในแต่ละปี ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะได้เรียนในมหาวิทยาลัยที่ตัวเองหวังไปซะทั้งหมด ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วก็ตกปีละประมาณ 1% ที่จะสอบติดที่สถาบันในฝันของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่ม SKY ที่เป็นสุดยอดมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของเกาหลี ซึ่งได้แก่ Seoul National University, Korea Univeristy และ Yonsei Univeristy
แน่นอนว่ามีคนสมหวังก็ต้องมีคนผิดหวังจากการสอบนี้ และสำหรับคนที่สอบไม่ติด ถ้ายังมีแรงฮึดสู้ต่อ ปีหน้าก็มาสอบใหม่ เพราะว่าการสอบซูนึงไม่ได้จำกัดอายุของผู้เข้าสอบ จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นว่าในทุกๆ ปี จะมีผู้คนหลากหลายวัยตั้งแต่เด็กนักเรียนไปยันเหล่าอาจุมม่าเข้าร่วมสอบด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้มแข็งและยอมรับความผิดหวังนี้ได้ หลายคนผิดหวังจนเกิดอาการซึมเศร้าและที่แย่ไปกว่านั้น ความผิดหวังและความกดดันนี้ก็อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้เช่นกัน
อย่างที่ทุกคนน่าจะพอทราบกันมาบ้างว่า ประเทศเกาหลีนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราประชากรฆ่าตัวตายสูงมาก สาเหตุหลักๆ ก็มาจากความเครียดและความกดดันทั้งจากตัวเองและคนรอบข้าง และอัตราการฆ่าตัวตายก็มักเกิดขึ้นกับเหล่าเยาวชนที่แบกความกดดันจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยซะส่วนใหญ่ ซึ่งในทุกๆ ปีจะมีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องตามสถานที่ต่างๆ เพราะกลัวว่าเด็กๆ จะมาฆ่าตัวตาย โดยสถานที่คนนิยมเลือกปลิดชีพตัวเอง ก็คงจะเป็นบริเวณสะพาน และรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น
การฆ่าตัวตายของเด็กเกาหลีนั้นถือว่าเป็นอีกปัญหาใหญ่ของประเทศ โดยทางรัฐบาลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ เพราะว่านับเป็นเวลาทศวรรษแล้วที่ทางรัฐก็พยายามที่จะหาทางแก้ไข ซึ่งกับกรณีของนักเรียนที่สอบเข้ามหาวิทาลัยไม่ได้ ทางรัฐก็ได้เพิ่มช่องทางอื่นๆ เพื่อพิจารณาในการเรียนต่อ เช่น สะสมคะแนนจากการทำกิจกรรมอาสาสมัคร, กิจกรรมนอกหลักสูตร รวมถึงคะแนนสอบจากโรงเรียนอีกด้วย แต่นั่นก็ไม่รู้ว่าเป็นหาทางที่ดีหรือไม่ เพราะว่ามีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกกดดันกว่าเดิม พวกเค้าคิดว่า สุดท้ายแล้วก็ต้องทำคะแนนทุกอย่างออกมาให้ดี ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสอบซูนึงหรือกิจกรรมนอกหลักสูตรด้วย
ถือว่าเป็นอีกวาระใหญ่ของประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่ล้วนให้ความสนใจ เพราะว่าคนเกาหลีให้ความสำคัญกับการศึกษามากๆ อีกทั้งยังมีคติที่ว่า “การเรียนในมหาวิทยาลัยที่ดี ก็เหมือนกับการันตีความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว” จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสักเท่าไหร่ที่เด็กเกาหลีจะรู้สึกกดดันกับการสอบครั้งนี้มากๆ เพราะกับบางคนก็คิดว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายของชีวิต และเป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
Source:
4 ความคิดเห็น
เครียดแทน
กรี๊ดดดดดดดตามมาเพราะฮยอนจินstray kidsเลยอ่าาาา
ฮยอนจินนี่ ❤️❤️❤️❤️❤️
ขอบคุณ