สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศ พี่เชื่อว่าต้องมีอังกฤษเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน แต่อาจยังไม่มีข้อมูลมากพอว่าจะตัดสินใจเรียนต่อที่ไหนดี วันนี้ พี่เยลลี่ เลยจะพาไปดูอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้กับน้องๆ ว่าแล้วไปดูรายละเอียดกันเลยดีกว่า!
มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล (Newcastle University) เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีชื่อเสียงเรื่องงานวิจัยที่ยอดเยี่ยม แถมยังติดโผรายชื่อมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกลำดับที่ 141 จากการจัดอันดับของ QS อีกด้วยค่ะ สถาบันนี้ตั้งอยู่ในเมืองนิวคาสเซิลอะพอนไทน์ (Newcastle upon Tyne) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ความพิเศษของเมืองนี้คือมีค่าครองชีพและค่าที่พักที่ถูกกว่าเมืองหลวงอย่างลอนดอนค่อนข้างมากเลยทีเดียว จึงเป็นอีกหนึ่งแห่งที่เหมาะกับนักศึกษาต่างชาติ (อ่านต่อได้ที่ 5 อันดับเมืองน่าเรียนในสหราชอาณาจักร ที่มีค่าเรียนและค่าครองชีพถูกที่สุด!)
หลักสูตรที่เปิดสอน
มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลเปิดสอนทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ทั้งหมดจะมี 3 คณะหลัก เห็นตัวเลขดูน้อยๆ แบบนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีหลักสูตรที่อยากจะเรียนนะคะ เพราะการจัดคณะของเค้าต่างจากบ้านเราเล็กน้อย ว่าแล้วไปดูกันดีกว่าค่ะว่า 3 คณะดังกล่าวนั้นเปิดสอนวิชาอะไรบ้าง
Faculty of Humanities and Social Sciences
- School of Architecture, Planning and Landscape
- School of Arts and Cultures
- Business School
- Combined Honours Centre
- School of Education, Communication and Language Sciences
- School of English Literature, Language and Linguistics
- School of Geography, Politics and Sociology
- School of History, Classics and Archaeology
- Newcastle Law School
- School of Modern Languages
- Philosophical Studies
Faculty of Medical Sciences
- School of Biomedical Sciences
- School of Dental Sciences
- School of Medical Education
- School of Pharmacy
- School of Psychology
Faculty of Science, Agriculture and Engineering
- School of Computing
- School of Engineering
- School of Mathematics, Statistics and Physics
- School of Natural and Environmental Sciences
การสมัครเข้าเรียน
เงื่อนไขหลักๆ ในการสมัครเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี คือ ต้องจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งนี้ เขาจะมีเงื่อนไขย่อยๆ อีกที่แตกต่างกันในแต่ละหลักสูตร เราสามารถเช็กได้ที่ ลิงก์นี้ ค่ะ
ส่วนระดับปริญญาโท ทางมหาวิทยาลัยแนะนำว่าควรได้เกรดเฉลี่ย (GPA) ในระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยที่ไทย 2.80 - 3.00 ขึ้นไป โดยสามารถเช็กเงื่อนไขของแต่ละหลักสูตรได้ที่ ลิงก์นี้ เช่นกัน
นอกจากนี้ อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษค่ะ ที่นี่ใช้คะแนน IELTS 6.5 ขึ้นไป โดยที่คะแนนแต่ละส่วน ทั้ง Reading, Writting, Speaking และ Listening ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 5.5 คะแนน ทั้งนี้ บางสาขาวิชาอาจมีที่มีเงื่อนไขคะแนนภาษาอังกฤษแตกต่างออกไป ต้องเช็กดูให้ดีๆ นะคะ (ดูได้ ที่นี่ เลย)
ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา
ค่าเล่าเรียนของแต่ละสาขาในมหาวิทยาลัยไม่เท่ากัน หากเป็นสาขายอดฮิตอย่าง BBA ปีแรกจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ £17,175 (ประมาณ 710,000 บาท) และอาจลดลงในปีต่อไป โดยทุกหลักสูตรจะต้องแบ่งจ่าย 2 ครั้ง ครั้งแรกในเดือนกันยายน และอีกครั้งคือเดือนมกราคม
แต่ถ้าคนไหนต้องการทุนสนับสนุนการศึกษา ข่าวดีคือที่นี่เค้ามีทุนมอบให้เช่นกัน อย่างเช่นทุน Vice-Chancellor's International Scholarships สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่มีสัญชาติอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย หรือเวียดนาม ดังนั้นใครสนใจทุนนี้ อย่าเพิ่งปล่อยโอกาสผ่านไปง่ายๆ เราสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดได้ ที่นี่ เลยค่ะ
ไม่ใช่แค่หลักสูตรดี แต่ยังจัดหนักจัดเต็มด้านกีฬา
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของ “เมืองนิวคาสเซิล” ที่โดดเด่นในวงการฟุตบอล บอกเลยว่าทางมหาวิทยาลัยก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ ที่นี่มีชมรมกีฬามากถึง 65 ชมรมให้นักศึกษาเลือกเข้าร่วม และยังลงเรียนคลาสกีฬาได้ตามความสนใจด้วย ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อมนั้นหายห่วง เพราะนอกจากจะมีสนามกีฬาในร่มตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยแล้ว ยังมีสนามกีฬากลางแจ้งไว้สำหรับเล่นฟุตบอล รักบี้ หรือแม้กระทั่งพายเรือแคนูก็ยังมีค่ะ เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มมากๆ ในพาร์ตกีฬา ถ้าได้เรียนที่นี่รับรองว่ามีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ไม่มีเบื่อแน่นอน!
พออ่านถึงตรงนี้ พี่เชื่อว่าน้องๆ ที่อยากไปเรียนอังกฤษ โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นกีฬา ต้องบุ๊กมาร์กเก็บไว้ในใจแล้วแน่ๆ เพราะนอกจากมหาวิทยาลัยเองจะโดดเด่นทั้งเรื่องการเรียนและกิจกรรม ค่าครองชีพยังน่ารักกับนักศึกษาต่างชาติอีกต่างหาก ถ้าใครเคยไปเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ อย่าลืมมาเล่าความประทับใจให้พี่ฟังหน่อยนะคะ :)
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ