สวัสดีค่ะน้องๆ Dek-D ทุกคน เวลานัดกันไปเที่ยวต่างจังหวัดกับแก๊งเพื่อนๆ พี่ว่าทะเลน่าจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่วัยรุ่นชอบไปกันมากที่สุด เพราะในเมืองไทยเองก็มีทะเลและหาดสวยๆ หลายแห่ง แต่วันนี้ พี่เยลลี่ จะขอเปลี่ยนบรรยากาศพาน้องๆ ไปส่องชายหาดแปลกๆ ที่ต่างประเทศกันแทนค่ะ รับรองว่าต้องร้องอู้หู!! แน่นอน จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลยดีกว่า

 

Photo Credit: https://9gag.com/
 

      ใครที่ชอบกินป็อปคอร์นอย่าพลาดที่นี่เลยเด็ดขาด “Popcorn Beach” หรือชายหาดป็อปคอร์นนี้ อยู่ที่เมือง Corralejo บนเกาะ Fuerteventura หนึ่งในหมู่เกาะคานารีของประเทศสเปน ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อไม่กี่ปีมานี้หลังจากมีคนถ่ายภาพแล้วแชร์ลงอินสตาแกรม หากดูในภาพแล้วจะเห็นเหมือนว่าที่ชายหาดมีป็อปคอร์นปกคลุมไว้ด้านบนใช่มั้ยล่ะคะ แต่ไม่ได้มีคนเล่นอะไรประหลาดๆ ด้วยการโรยเมล็ดข้าวโพดทิ้งไว้นะ เจ้าป็อปคอร์นที่น้องๆ เห็นนั่นคือปะการังสีขาวที่ถูกพัดขึ้นมาบนชายฝั่งต่างหากค่ะ ใครที่หวังจะไปนอนอาบแดดเล่นคงต้องระวังสักหน่อยเพราะมันไม่ได้นุ่มเหมือนป็อปคอร์นจริงๆ (แข็งอีกต่างหาก เป็นหินปะการังนี่นา) แต่ถ้าอยากจะมาถ่ายรูปเก๋ๆ จะเหมาะมากๆ บางคนโพสต์ทำทีว่ากำลังกัดเจ้าหินปะการังป็อปคอร์นอยู่นั่นเอง 

 

Photo Credit: https://www.flickr.com/photos/
 

       พูดถึงชายหาดในอเมริกาก็ต้องนึกถึงแคลิฟอร์เนีย แต่ “Glass Beach” ที่อยู่ในเมืองริมชายหาดอย่าง Fort Bragg นั้น จะเรียกว่าเป็นหาดที่มีส่วนเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์ก็ได้เหมือนกันค่ะ แต่เดิมในช่วงต้น-กลางศตวรรษที่ 19 บริเวณนี้เคยเป็นที่ทิ้งขยะ จนกระทั่งในปี 1967 ทางการของแคลิฟอร์เนียได้เข้ามาปิดพื้นที่เพื่อกำจัดขยะและฟื้นฟูธรรมชาติ แม้จะพยายามเคลียร์ขยะออกไปจนหมดแต่ก็ยังเหลือพวกเศษแก้วทิ้งเอาไว้ เวลาผ่านไปหลายสิบปี คลื่นก็เซาะจนบรรดาแก้วที่คมๆ นั้นโดนลบเหลี่ยมออกไปจนหมด กลายเป็นกรวดแก้วหน้าตาสวยงามคลุมชายหาด ถือว่าโชคดีที่ธรรมชาติให้ผลลัพธ์ออกมาดีอย่างที่คาดไม่ถึง แต่ทางที่ดีเวลาไปเที่ยวไหน เราควรรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการไม่ทิ้งขยะเอาไว้นะคะ

 

Photo Credit: https://commons.wikimedia.org/
 

       ชายหาดสีเขียวถือเป็นอีกสีที่หายาก และบนโลกก็มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น หนึ่งในนั้นอยู่ที่เมือง Kourou แคว้นเฟรนช์เกียนา ของประเทศฝรั่งเศส แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าถ้าใครบินไปฝรั่งเศสแล้วจะแว่บไปที่ชายหาดนี้ต้องนกแน่ๆ เพราะเฟรนช์เกียนานั้นเป็นแคว้นโพ้นทะเลที่อยู่ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ต่างหาก ส่วนสีเขียวของหาดทรายนั้นมาจากแร่โอลิวีน ซึ่งเกิดจากลาวาที่เย็นตัวลงอย่างรวดเร็วในทะเล เพราะฉะนั้นสีเขียวที่เห็นจึงเป็นของจริงแท้แน่นอน ไม่ใช่ทรายเคลือบสาหร่ายแต่ประการใด ที่พิเศษมากๆ อีกอย่างคือเค้าบอกว่าทรายที่นี่นุ่มมากด้วยค่ะ น่าลองไปเที่ยวดูสักครั้งน้า

 

Photo Credit: https://www.flickr.com/photos/
 

       โผล่มาที่ "Giants Causeway Beach" ในไอร์แลนด์เหนือกันบ้าง ขอบอกว่าที่นี่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน แต่ใครที่อยากนอนอาบแดดคงต้องพับโครงการไปก่อนค่ะ เพราะชายหาดที่นี่คือเสาหินบะซอลต์ที่เกิดจากลาวาเย็นตัวลงเมื่อ 50-60 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าเสาหินที่ว่านี้ก็มีความสูงไล่เรียงลดหลั่นกันไปจนจมหายไปในทะเล ส่วนเสาที่สูงที่สุดอยู่ที่ 12 เมตรเลยค่ะ ที่สำคัญคือที่นี่ได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ในปี 1986 ด้วย รับรองว่ามาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน!

 

Photo Credit: Instagram @mangoholidays-min via https://www.edreams.com/
 

       ปิดท้ายกันด้วยชายหาดที่มีชื่อน่ารักๆ ว่า “Love Beach” ซึ่งอยู่บนเกาะ Marieta ของประเทศเม็กซิโก ดูจากรูปแล้วเหมือนจะเป็นหาดธรรมดาๆ แต่ที่จริงๆ แล้วความพิเศษคือ ชายหาดนี้ถูกคลุมล้อมด้วยถ้ำและมีส่วนที่เว้นไว้เป็นวงกลมใหญ่ๆ ให้แสงอาทิตย์ส่องลงมา เหมือนกับสวรรค์บนดินไม่มีผิด บางคนก็เรียกที่นี่ว่า Hidden Beach ด้วยเช่นกัน หาดสวยและพิเศษขนาดนี้จึงมีนักท่องเที่ยวมากมายเข้ามาเยี่ยมชม และเพื่อที่จะรักษาความงามของธรรมชาติเอาไว้ไม่ให้ถูกทำลาย ในปี 2005 จึงตั้งให้ที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยนักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมอย่างว่ายน้ำหรือพายเรือคายักได้เท่านั้นค่ะ ส่วนตัวพี่เองคิดว่ากฎนี้เป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวรุ่นหลังๆ ได้มีโอกาสเห็นสถานที่พิเศษๆ แบบนี้ด้วย

 

       เป็นยังไงกันบ้างคะกับชายหาด 5 แห่งที่พี่พาไปดู ใครชอบที่ไหนเป็นพิเศษกันบ้างเอ่ย สำหรับพี่อยากลองแวะไปเที่ยวชายหาดป็อปคอร์นดูสักครั้ง น่าจะสวยมากแล้วก็ถ่ายรูปฮาๆ ได้เยอะเลย ><