สวัสดีค่ะน้องๆ Dek-D บรรยากาศการเลือกตั้งก็เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานนี้ เป็นยังไงกันบ้างคะ? วันนี้พี่ไอซ์ก็เลยขออิงกระแสเลือกตั้งนิดนึง เพราะว่าพี่จะพาทุกๆ คนไปรู้จักกับมหาวิทยาลัยชื่อดัง London School of Economics and Political Science (LSE) ซึ่งถือว่าเป็นสถาบันที่รวบรวมนักการเมืองชื่อดังของโลกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา งั้นเรามาเริ่มกันเลย!!
London School of Economics and Political Science (LSE)
สถาบัน LSE ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในด้านสังคมศาสตร์ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยที่นักการเมืองที่เป็นที่รู้จักมากมายจบการศึกษามาจากที่นี่ มหาวิทยาลัยแห่งนี้เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นป.ตรี ป.โท ป.เอก หลักสูตรการศึกษาสำหรับผู้บริหาร การศึกษาทางไกล (การสอนออนไลน์) การศึกษาด้านภาษา การศึกษาภาคฤดูร้อน ไปจนกระทั่งการเลือกศึกษาต่อในต่างประเทศ
โปรแกรมที่เปิดสอน
ปริญญาตรี
ในระดับชั้นป.ตรีนั้น น้องๆ สามารถเรื่องคณะที่สนใจได้มากมาย เช่น สาขาเศรษฐศาสตร์ สาขาการบริหารและการจัดการ สาขาภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อม สาขากฎหมาย สาขานโยบายทางสังคม สาขาการเมืองการปกครอง สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สาขาสังคมวิทยาและอีกมากมาย (อื้อหืออ ตัวเลือกเยอะแบบนี้สายสังคมศาสตร์ต้องไม่พลาดแล้ว!!)
ปริญญาโทและปริญญาเอก
ในระดับชั้นป.โทและป.เอกก็มีสาขามากมายให้ทุกๆ คนได้ศึกษากันเช่นเดียวกับป.ตรี อีกทั้งยังมีการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาในบางสาขาอีกด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับทุนกันหมดนะคะ เพราะว่าผู้ที่สนใจรับทุนการศึกษาก็ต้องทำงานวิจัยส่งเพื่อให้ทางสถาบันคัดเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด
หลักสูตรการศึกษาสำหรับผู้บริหาร
ในหลักสูตรนี้ ทางมหาวิทยาลัยก็ได้เปิดสอนคอร์สในระยะสั้นๆ ในสายธุรกิจ สายเศรษฐศาสตร์ สายการเงิน สายนโยบายสากล สายทักษะความเป็นผู้นำ และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งที่น่าสนใจสำหรับหลักสูตรนี้คือ ผู้ที่ศึกษาสามารถปรับเปลี่ยนเวลาได้ด้วยตนเอง สามารถเลือกได้ว่าอยากจะศึกษาแบบเต็มเวลาเหมือนนักศึกษาทั่วไป หรือว่าจะศึกษาแบบเป็นช่วงเวลาก็ได้เช่นกัน (เหมาะสำหรับคนที่ทำงานแล้วแต่อยากศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจริงๆ นะคะเนี่ย)
การสอนออนไลน์
ทาง LSE ก็เปิดโอกาสสำหรับนักศึกษาที่อาจจะไม่สะดวกในการเดินทาง หรืออาศัยอยู่ในที่ที่ห่างไกลได้ศึกษาหลักสูตรของทางมหาวิทยาลัยเช่นกัน นักศึกษาในคอร์สนี้จะสามารถเรียนออนไลน์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของโลกก็ตาม อีกทั้งพวกเขาจะได้รับประกาศนียบัตรหลังจากจบหลักสูตรอีกด้วย แต่ว่าคอร์สนี้เป็นเพียงแค่คอร์สในระยะสั้นเท่านั้น และมีเพียงบางสาขาที่เปิดสอน เช่น เศรษฐศาสตร์อสังหาริมทรัพย์และการเงิน สาขาธุรกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเศรษฐกิจการเมือง สาขาการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการจัดการ ใครที่สนใจสาขาเหล่านี้ก็ลองไปหารายละเอียดดูนะ น่าสนใจไม่น้อยเลย
การศึกษาด้านภาษา
นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้เชิงวิชาการแล้ว มหาวิยาลัยแห่งนี้ยังมีโปรแกรมภาษาสำหรับนักศึกษาที่สนใจศึกษาทางด้านภาษาเพราะอยากจะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นในสาขาที่เรียนอยู่ รวมทั้งศิษย์เก่าของสถาบัน และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อไม่นานมานี้ LSE ก็เพิ่งได้เปิดหลักสูตรใหม่ซึ่งเป็นหลักสูตรป.ตรีที่ผสมผสานระหว่างภาษาศาสตร์และสังคมศาสตร์เพื่อมุ่งเน้นให้นักศึกษาที่เรียนสามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องในทุกๆ บริบทไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การเรียน หรือการทำงาน ภาษาที่เปิดสอนก็มีมากมายหลายภาษา เช่น จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน อิตาลี และอื่นๆ
การศึกษาภาคฤดูร้อน
เช่นเดียวกันกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ทาง LSE ก็มีคอร์สสำหรับนักศึกษาที่สนใจเรียนในภาคฤดูร้อน ซึ่งวิชาที่เปิดสอนก็จะเป็นวิชาที่อยู่ในหลักสูตรทั่วไป รวมทั้งคอร์สภาษาและหลักสูตรสำหรับผู้บริหาร เป็นจำนวนมากกว่า 100 คอร์ส แต่ที่พิเศษคือ ทางสถาบันมีคอร์สภาคฤดูร้อนที่ต่างประเทศ อย่างประเทศจีนและแอฟริกาใต้ด้วยเช่นกัน
บริการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
เมื่อเป็นนักศึกษาของที่นี่แล้ว สิ่งที่น้องๆ จะได้รับนอกจากการอยู่ใจกลางเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษแล้ว ยังจะได้รับสิทธิในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ของทางสถาบันที่จะทำให้รู้สึกไม่อยากออกจากมหาวิยาลัยไปไหนเลย ไม่ว่าจะเป็นสื่อที่ช่วยในการเรียน กิจกรรมต่างๆ ของทางสถาบัน ศูนย์ให้คำปรึกษาและคำแนะนำและอื่นๆ อีกมากมาย
บริการอีกอย่างหนึ่งที่พี่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ หอพักอาศัย เพราะว่าที่นี่มีหอพักหลากหลายรูปแบบให้นักศึกษาได้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นห้องเดี่ยว ห้องพักรวมที่แชร์ห้องน้ำร่วมกับคนอื่นๆ ห้องเดี่ยวที่มีห้องน้ำในตัว ห้องสตูดิโอซึ่งมีห้องน้ำและห้องครัวในตัว หรือห้องทาว์นเฮาส์ซึ่งมีห้องเดี่ยวหลายๆ ห้องในที่เดียวกันแต่ว่าแชร์ห้องครัวและห้องน้ำ (สุดยอดมากๆ เลยใช่มั้ยคะน้องๆ พี่ไม่เคยเห็นสถาบันไหนที่มีหอพักให้นักศึกษาเลือกขนาดนี้มาก่อนเลย -0-) แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ ทางมหาวิทยาลัยมีทางเลือกสำหรับนักศึกษาที่สนใจจะพาแฟนหรือครอบครัวมาพักด้วยกันอีกด้วย
(พี่ช็อกกว่าเดิมอีกค่ะ!!)
ค่าเล่าเรียน
ส่วนเรื่องข้อมูลของค่าเล่าเรียนของที่นี่ก็จะแตกต่างกันไปตามสาขาที่น้องๆ เลือกเรียน รวมทั้งเงื่อนไขต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งมันค่อยข้างละเอียดเกินกว่าที่พี่จะอธิบายให้ฟังได้หมด แต่ว่าทุกๆ คนสามารถเข้าไปดูรายละเอียดของสาขาที่เราสนใจด้วยตัวเองได้ที่นี่นะ
ข้อมูลสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
น้องๆ คนไหนที่สนใจจะศึกษาต่อที่นี่ ก็สามารถดูรายละเอียดคณะหรือสาขาที่เราสนใจในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้เลยนะ (คลิกที่นี่) เพราะที่ LSE เขาต้อนรับนักศึกษาชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมามีนักศึกษาจากมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลกเข้ามาศึกษาที่สถาบันแห่งนี้ (มีนักศึกษาชาวไทยถึง 89 คนเลยด้วยนะคะน้องๆ)
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าไม่ใช่ว่าไม่อยากเรียนที่นี่นะพี่ แต่ว่าค่าใช้จ่ายคงสูงมากจนไม่มีโอกาสได้เรียนหรอก ไม่ต้องห่วงไปค่ะทุกคน! เพราะว่าทาง LSE ได้มีการทำสัญญากับโครงการ Erasmus ซึ่งมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่สนใจศึกษาต่อในระดับป.ตรีหรือป.โทในมหาวิทยาลัยที่อยู่ภายใต้โครงการ (น้องๆ สามารถศึกษาเกี่ยวกับโครงการเพิ่มเติมได้ที่นี่) ดังนั้นถ้าหากน้องๆ สนใจก็ลองศึกษาข้อมูลของโครงการนี้ดูแล้วก็ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่อีกทีนะคะ ไม่แน่น้าน้องๆ อาจจะได้มาเป็นศิษย์ที่นี่ในอนาคตก็ได้นะ^^
ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่เมื่อพูดถึง LSE แล้วจะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ เพราะว่าอะไรรู้มั้ยคะน้องๆ เพราะว่าศิษย์เก่าของที่นี่น่ะแค่พูดชื่อก็ต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน เริ่มกันด้วยคนแรกเลยดีกว่า คนๆ นั้นก็คือ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา ผู้ซึ่งมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ใหญ่ๆ อย่างการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนของชาวอเมริกาหรือการสร้างกำแพงเบอร์ลิน
คนที่ 2 ก็คือ นายควน มานูเอล ซานโตส หรือประธานาธิบดีของโคลัมเบียที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2559 จากความพยายามในการยุติสงครามกลางเมืองกับกบฏฟาร์กในโคลัมเบียที่ยืดเยื้อมานานกว่า 50 ปี
คนที่ 3 ศาสตราจารย์ พันตรี ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของประเทศไทย นอกจากนี้เขายังเคยเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีอายุน้อยที่สุดอีกด้วย (พี่ไอซ์ยังได้ยินมาว่าตอนที่เขาเรียนจบนั้นเขายังได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งอีกด้วย)
คนที่ 4 คือ คุณธานินทร์ กรัยวิเชียร ซึ่งเป็นองคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 14 ของประเทศไทย เขาได้ไปศึกษาต่อทางด้านกฎหมายที่นั่นหลังจากที่เรียนจบจากมหาวิยาลัยธรรมศาสตร์
คนสุดท้ายก็คือ คุณช่อ พรรณิการ์ วานิช โฆษกของพรรคอนาคตใหม่นั่นเอง หลังจากจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ คุณช่อก็ได้ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ในสาขาการเมืองสากล (MSc in Global Politics) ค่ะ
สาขาก็มีให้เลือกมากมาย สิ่งอำนวยความสะดวก บริการต่างๆ ก็มี ครบครันขนาดนี้ อ่านแล้วอยากไปเรียนกันเลยใช่มั้ยล่ะ พี่ไอซ์เองก็อยากไปเรียนต่อที่นั่นบ้างเลยเนี่ยย ไม่แน่นะคะในอนาคตเราอาจจะได้ไปเจอกันที่นั่นก็ได้> <
Source:
http://www.lse.ac.uk/
https://www.ranker.com/list/famous-london-school-of-economics-alumni-and-students/reference
1 ความคิดเห็น