สวัสดีค่าชาว Dek-D … สำหรับคนไทยแล้วเรื่องกินถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ทำต่างชาติอเมซิ่งกับวัฒนธรรมการกินจุบจิบ กินตลอดทั้งวันของเรามานักต่อนักแล้ว แต่ถ้าพูดถึงฝั่งยุโรป ชาติที่จริงจังกับเรื่องอาหารไม่แพ้เราก็คงเป็นชาวอิตาเลียนนี่แหละค่ะ ถ้าคนไทยประท้วงการใส่ถั่วฝักยาวและผักนานาชนิดในผัดกะเพรา ชาวอิตาเลียนเค้าก็มีเรื่องปวดหัวกับวิธีกินอาหารอิตาเลียนสไตล์คนต่างชาติเหมือนกัน จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าค่า!
คาปูชิโนดื่มได้เฉพาะตอนเช้า
กาแฟเรียกว่าเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของประเทศอิตาลีเลยก็ว่าได้ค่ะ คนที่นั่นก็มีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ แถมดื่มกันทั้งวันชนิดไม่กลัวคาเฟอีน หลังมื้ออาหารจะต้องตบท้ายด้วยผลไม้และกาแฟสักแก้ว แต่ที่น่าแปลกใจก็คือคนอิตาเลียนจะถือว่ากาแฟคาปูชิโนเป็นเครื่องดื่มสำหรับมื้อเช้าเท่านั้น (หรือบางครั้งก็นับว่าเป็นอาหารเช้าไปเลย) หลังมื้ออาหารอื่นๆ ตั้งแต่ 11 โมงเป็นต้นไป ร้านอาหารหรือบาร์จะไม่เสิร์ฟคาปูชิโนให้แม้ว่าเราจะสั่งก็ตามค่ะ
ส่วนเหตุผลมีคนบอกว่าเพราะแต่ละมื้อก็กินเข้าไปหลายแคลอรี่แล้ว ถ้าดื่มคาปูชิโนที่เป็นกาแฟใส่นมจะยิ่งเพิ่มแคลอรี่เข้าไปอีก ควรสั่งเป็นเอสเปรสโซ่ หรือถ้าใครที่ดื่มกาแฟดำไม่ได้จริงๆ ก็แนะนำว่าให้สั่งเป็น Caffe Macchiato แทน คนอิตาเลียนพอรับได้ค่ะ T v T
สับปะรดในพิซซ่าถือเป็นของต้องห้าม!
.jpg)
ข้อนี้ก็เป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับชาวอิตาเลียนเลยค่ะ เพราะพิซซ่าฉบับอิตาเลียนแท้ๆ จะไม่ใส่สับปะรดหรือผลไม้อื่นๆ อย่างพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยนที่อุดมไปด้วยสับปะรดเน้นๆ จะไม่มีทางเห็นในอิตาลีแน่นอน ถึงมันจะอร่อยสำหรับชาวต่างชาติอย่างเรา แต่ถ้ามองกลับกันก็คงเหมือนเวลาเราเห็นแกงเขียวหวานใส่แคร์รอตและมะเขือม่วงนั่นแหละค่ะ เป็นความรู้สึกสงสัยว่ามันอร่อยยังไงกันนะ ...
ส่วนน้องๆ คนไหนที่สงสัยว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ เคยมีช่องยูทูบนึงทำคลิปสัมภาษณ์คนอิตาเลียนด้วยค่ะว่าคิดยังไงกับพิซซ่าใส่สับปะรด รีแอคชันแต่ละคนรุนแรงมาก มีคนนึงถึงกับบอกว่า "Pineapple on pizza is sh*t" เลยทีเดียว 555555 (ใครอยากตามไปดูคลิปก็จิ้มได้เลยจ้า)
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับพาสต้ามีเยอะมาก
ถ้าพูดถึงอาหารอิตาเลียนนอกจากพิซซ่าแล้วก็ต้องพาสต้านี่แหละค่ะ ถือเป็นอีกเมนูที่ดังไปทั่วโลกเลย เราจะเห็นว่าหลายๆ ชาตินำไปปรับสูตรให้เข้ากับอาหารในบ้านตัวเอง อย่างประเทศไทยก็ต้องนึกถึงสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาแซ่บๆ นัวๆ แต่ที่จริงแล้วพาสต้าเป็นคำที่ใช้เรียกรวมๆ ถึงบรรดาเส้นแบบต่างๆ เท่านั้น แต่ละชนิดก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป แถมที่สำคัญคือมีเรื่องน่าที่ชาวต่างชาติเข้าใจผิดเกี่ยวกับพาสต้าเยอะมากๆ
สปาเก็ตตี้คาโบนาราต้องไม่ใส่ครีม
พี่เองเป็นคนนึงที่ติดตามอินสตาแกรมทำอาหารบ่อยๆ ค่ะ สังเกตว่าทุกครั้งที่มีคนทำสปาเก็ตตี้คาโบนาราแบบใส่ครีม จะมีชาวอิตาเลียนเข้ามาคอมเมนต์ว่านั่นมันไม่ใช่คาโบนาร่านะ! จริงๆ แล้วคาโบนาราต้นตำรับจะมีส่วนผสมแค่ 4 อย่าง คือ เส้นสปาเก็ตตี้, ไข่, ชีส Pecorino และ Guanciales (เบคอนที่ทำจากส่วนแก้มหมู) ซึ่งส่วนผสมดังกล่าวอาจสลับไปใช้วัตถุดิบอื่นที่ใกล้เคียงกันได้ อย่างเช่นใช้เบคอนแทน Gualciales เพราะหาได้ง่ายกว่า แต่ที่คนอิตาเลียนเซย์โนตัวโตๆ เลยก็คือการใส่ครีมลงไปค่ะ ใครเรียกซอสใส่ครีมว่าคาโบนารารับรองว่าโดนมองแรงใส่แน่นอน
อย่าใส่น้ำมันมะกอกในน้ำต้มพาสต้า
ทริกที่ให้ใส่น้ำมันมะกอกในน้ำต้มเส้นพาสต้าพี่เองก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน แต่คนอิตาเลียนจะไม่ทำแบบนั้นค่ะ เค้าบอกว่าพาสต้าที่ต้องใส่น้ำมันลงไปแสดงว่าเป็นพาสต้าที่คุณภาพไม่ค่อยดี ถ้าอยากทำตามต้นตำรับล่ะก็เวลาต้มเส้นให้ใส่เกลือทะเลลงไปแทน ส่วนน้ำมันมะกอกให้โรยบางๆ หลังเทน้ำทิ้งไปแล้วจ้า
ไม่มีสปาเก็ตตี้โบโลญเนสในอิตาลี!?
อีก 1 เมนูพาสต้าที่ดังไปทั่วโลกก็คือ “สปาเก็ตตี้โบโลญเนส” หรือสปาเก็ตตี้ซอสเนื้อนี่แหละค่ะ พี่เองก็ชอบเมนูนี้มากเหมือนกัน วัตถุดิบหลักของซอสก็คือมะเขือเทศและเนื้อบด แต่ขอบอกว่าถ้าน้องๆ ไปสั่งเมนูนี้ในอิตาลีอาจจะได้รับสายตาแปลกๆ กลับมาได้ เพราะว่าไม่มีใครในอิตาลีกินสปาเก็ตตี้โบโลญเนสกัน (หน่านี้!?)
ที่จริงแล้วเรื่องนี้มีที่มาค่ะ ในแต่ละเมืองของอิตาลีเค้าจะมีซอสหรือพาสต้าที่แตกต่างกันไปเป็นสูตรเฉพาะของตัวเอง อย่างเส้นสปาเก็ตตี้นั้นมาจากเมืองเนเปิลส์ ในขณะที่ซอสโบโลญเนสมาจากเมืองโบโลญญา ภาษาอิตาเลียนเรียกว่า Ragù alla Bolognese (Ragù หมายถึงซอสเนื้อ แปลโดยรวมก็คือซอสเนื้อของเมืองโบโลญญา) จุดสำคัญของอาหารอิตาเลียนคือเค้าจะไม่นำสูตรของแต่ละเมืองมาผสมกัน พูดง่ายๆ คือสปาเก็ตตี้โบโลญเนสเป็นเมนูที่คนต่างชาติมิกซ์ขึ้นมาเอง ฉะนั้นถ้าใครอยากกินเมนูนี้ให้สั่งเป็น Tagliatelle al ragù แทน เพราะเส้นที่คนโบโลญญานิยมกินกับซอสเนื้อคือ Tagliatelle ค่า
ไก่กับพาสต้าไปด้วยกันไม่ได้
เมนูพาสต้าใส่เนื้อไก่อาจจะปกติในไทยหรือในต่างประเทศ แต่น้องๆ จะไม่มีวันเจอที่อิตาลีเด็ดขาดเลยย คนอิตาเลียนจะไม่ใช้เนื้อไก่เป็นส่วนประกอบในอาหารประเภทพาสต้า มีคนบอกไว้ว่าอาจเป็นเพราะเนื้อไก่และพาสต้ามีสัมผัสคล้ายกัน เลยไม่ใส่ลงไปค่ะ (แต่พี่ว่ามันก็ไม่คล้ายนะ เนื้อกับแป้งมันคนละอย่างเลย 55555)
อย่าใส่ซอสมะเขือเทศในพิซซ่าหรือพาสต้า
ข้อนี้น่าจะลำบากเด็กไทยสักเล็กน้อย เพราะบ้านเรากินซอสมะเขือเทศกับพิซซ่าเป็นปกติมากก แทบจะเป็นของคู่กันเลย ถ้าไม่ใส่จะรู้สึกขาดอะไรไปสักอย่าง หรืออย่างผัดมักกะโรนีก็จะใส่ซอสมะเขือลงไปด้วย แต่ที่อิตาลีซอสมะเขือเอาไว้กินกับเฟรนช์ฟรายส์หรือจังค์ฟู้ดสไตล์อเมริกัน เช่น ฮอตดอกหรือแฮมเบอร์เกอร์เท่านั้น การขอซอสมะเขือเทศมากินกับพิซซ่าอาจจะทำให้เชฟโกรธได้เลยเพราะเหมือนเป็นการบอกว่าพิซซ่าที่เค้าทำไม่อร่อย อันนี้ก็เป็นเรื่องวัฒนธรรมในการทานอาหารแหละเนอะ เพราะคนไทยปรุงเครื่องปรุงกันถ้วนหน้าจ้า 55555
ระหว่างทานอาหารควรดื่มแค่น้ำเปล่าหรือไวน์
ปิดท้ายที่เรื่องเครื่องดื่มระหว่างมื้ออาหารค่ะ ข้อนี้คนไทยจะไม่ค่อยเก็ตเท่าไหร่เพราะสั่งกันตามใจเลย ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ อยากดื่มอะไรก็ดื่ม แต่สำหรับคนอิตาเลียนแล้ว ระหว่างมื้ออาหารเค้าจะดื่มเฉพาะน้ำเปล่า น้ำเปล่าอัดแก๊ส หรือไวน์เท่านั้น จะไม่เสิร์ฟเครื่องดื่มอื่นๆ อย่างน้ำผลไม้หรือกาแฟดื่มคู่กับอาหาร เค้าบอกว่ามันจะไปทำลายรสชาติของอาหารได้ค่ะ
แอบรู้สึกว่าคนอิตาเลียนมีวิถีปฎิบัติด้านอาหารที่ค่อนข้างชัดเจนเหมือนกันนะคะ แอบต่างจากบ้านเรานิดหน่อยตรงที่คนไทยอยากกินอะไรก็กิน สั่งกาแฟกินคู่กับข้าวแกงก็ได้ ถือคติกินอร่อยแต่สุดท้ายก็ตกลงไปในท้องเหมือนกัน 55555 ถ้าน้องๆ คนไหนมีเรื่องน่าสนใจมาแชร์ก็ลองแชร์กันได้ค่า ส่วนเรื่องนี้รู้ไว้เป็นความรู้รอบตัวก็ดีเหมือนกัน เผื่อไปเที่ยวอิตาลีเราจะได้ไม่เด๋อกัน อิ _ อิ
Sources:
3 ความคิดเห็น
เรื่องพิซซ่านี่ถ้าเป็นที่อิตตาลีจะกินคู่กันน้ำมันมะกอกเลยค่ะ555 ตอนที่ที่บ้านไปนี่คือคนที่ไม่มีปัญหาสุดแล้วเพราะปกติไม่กินซอสมะเขือเทศหรือสัปรสในพิซซ่าเลยเพราะคิดว่ามันไม่เข้ากัน5555
โห เพิ่งรู้เลยค่ะเนี่ยว่าเค้ากินคู่กับน้ำมันมะกอก เคยเห็นว่าอาหารเมดิเตอร์เรเนียนอย่างพวกอาหารสเปนนิยมใส่น้ำมันมะกอกมากๆ แต่ไม่รู้ว่าพิซซ่าด้วย 5555 ขอบคุณนะคะ
จำไว้เวลาไปกินที่อิตาลี
นี่ก็ไม่ชอบสัปปะรดในพิซซ่าค่ะคือแบบไม่โอเคอ่ะ555