จริงหรือจ้อจี้? เมื่ออิตาลีทำโปรเจ็กต์ขายบ้านในราคา 1 ยูโร!

       สวัสดีค่าน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคน ใครๆ ก็ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเองทั้งนั้น แต่เดี๋ยวนี้บ้านหลังนึงราคาหลักหลายล้านบาท เรียกว่าถ้าไม่รวยก็ต้องผ่อนกันจนหืดขึ้นคอเลยทีเดียว ยิ่งถ้าเป็นบ้านในต่างประเทศอย่างยุโรปยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ เหมือนฝันกลางวันเอาซะมากกว่า แต่น้องๆ รู้มั้ยคะว่าที่อิตาลีเค้ามีโปรเจ็กต์ขายบ้านในราคาเพียง 1 ยูโรด้วย! ตอนเห็นข่าวครั้งแรกพี่ก็อึ้งค่ะ ว่าแต่เค้าขายกันจริงๆ มั้ย หรือว่าเป็นข่าวจกตากันแน่ อยากรู้ก็ตามมาพิสูจน์กันในบทความได้เลยจ้า

 

Photo Credit: https://pixabay.com/
 

       บ้านที่ถูกที่สุดที่น้องๆ เคยเห็นราคาเท่าไหร่กันบ้างคะ? อย่างของพี่ที่เคยเห็นตอนสมัยเด็กๆ บ้านหลังนึงราคาก็เฉียดล้านแล้ว ทุกวันนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย ยิ่งถ้าเป็นทำเลอย่างใจกลางเมืองราคาพุ่งไปถึงหลักสิบล้านอย่างแน่นอน แต่ประเทศอิตาลีเค้ามาแปลกกว่าชาวบ้านเลยค่ะ เพราะเค้ามีโปรเจ็กต์ขายบ้านในราคาเพียง 1 ยูโรเท่านั้น! ถูกกว่าข้าวกะเพราหมูสับบ้างร้านไปอี๊กก แต่พออ่านแล้วหลายคนอาจสงสัยว่ามันเป็นไปได้เหรอ พี่เองก็สงสัยเหมือนกันค่ะ พอไปค้นดูก็พบว่าหลายๆ เมืองของอิตาลีเค้ามีโปรเจ็กต์นี้จริง แต่ถ้ามองตามความเป็นจริงแล้วการจะขายสินค้าที่มูลค่าจริงมหาศาลด้วยราคาแค่นี้ ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นพี่ก็เลยไปขุดคุ้ยมาเพิ่มว่าสาเหตุของการขายบ้านด้วยราคาเท่านี้คืออะไรกันแน่
 

       เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เกิดโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมาก็คือประชากรในอิตาลีกำลังลดลงค่ะ ในบรรดาเมืองที่ประกาศขายบ้านราคา 1 ยูโรล้วนกำลังประสบปัญหาประชากรลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว เพราะคนในเมืองนิยมย้ายถิ่นฐานเข้าเมืองใหญ่เพื่อแสวงหาโอกาสที่ดีกว่า รวมไปถึงอัตราการเกิดที่ลดต่ำลงจนติดอันดับ 1 ในประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในยุโรปด้วย จากสมัยก่อนที่ครอบครัวนึงมีลูกหลานหลายสิบคน ปัจจุบันก็อาจเหลือเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น
 

Photo Credit: https://unsplash.com/
 

        ด้วยเหตุนี้เองทำให้ชาวอิตาเลียนหลายคนได้รับมรดกตกทอดเป็นบ้านจากญาติๆ ที่ไม่มีลูกหลาน น้องๆ อาจจะคิดว่า เอ้า มีบ้านหลายๆ หลังก็ดีแล้วนี่นา แต่ความจริงคือการมีบ้านหลายๆ หลังทำให้คนที่เป็นเจ้าของต้องจ่ายภาษีในจำนวนที่มากขึ้น ยิ่งถ้าเป็นบ้านที่ปล่อยร้างเอาไว้ไม่ได้อาศัยก็ไม่ต่างจากภาระเลยค่ะ หลายๆ คนจึงเลือกที่จะบริจาคบ้านคืนให้แก่เทศบาล ซึ่งก็เป็นปัญหาที่เทศบาลต้องคิดแก้ไขว่าจะทำยังไงกับบ้านเหล่านี้นั่นเอง
 

        และโจทย์ที่ว่าก็กลายมาเป็นโปรเจ็กต์บ้าน 1 ยูโรนี่แหละค่ะ นายกเทศมนตรีได้ตั้งโปรเจ็กต์ขายบ้านเหล่านี้ในราคาที่ถูกมากให้กับคนที่พร้อมจะรีโนเวตบ้าน โดยมองว่าในระยะยาวจะช่วยให้เมืองกลับมาครึกครื้นเพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมด้วย ซึ่งโปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนโดยนายกเทศมนตรีเมืองซาเลมี เป็นการประกาศขายบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในราคา 1 ยูโรให้กับผู้ที่พร้อมจะซ่อมแซมบ้าน มีทั้งบ้านที่ไม่ทนทานต่อเหตุแผ่นดินไหว หรือบ้านที่ยึดคืนมาจากเหล่ามาเฟีย (...) เพราะเหตุผลมันค่อนข้างจะน่ากลัวโปรเจ็กต์นี้ล่มไม่เป็นท่าค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ช่วยจุดประกายไอเดียให้กับเมืองอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีหลายๆ เมืองในอิตาลีที่เข้าร่วมโปรเจ็กต์นี้ด้วย
 

Photo Credit: https://unsplash.com/
 

       ส่วนวิธีการซื้อบ้านนั้นคนที่สนใจจะต้องยื่นใบคำร้องขอซื้อบ้าน เราสามารถเช็กได้ว่ามีบ้านในเมืองไหนเข้าร่วมบ้างได้ที่เว็บไซต์: https://1eurohouses.com/case-a-1-euro-houses/ ซึ่งเค้าเปิดรับแบบฟอร์มจากผู้ที่สนใจซื้อจากทั่วทั้งโลกเลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นชาวอิตาเลียนก็ซื้อได้ สนใจบ้านหลังไหนจากเมืองไหนก็สามารถส่งใบไปได้โลด อย่างโปรเจ็กต์ที่ประสบความสำเร็จล่าสุดคือเมืองโอโลเลีย มีคนยื่นคำร้องเข้ามาถึง 120 ฉบับจากทั่วโลกในปลายปี 2017 (แต่เอกสารเป็นภาษาอิตาเลียนนะคะ ต้องงมๆ กันหน่อย)
 

       อ่านมาถึงตรงนี้บางคนอาจรู้สึกฮึกเหิมเตรียมตัวเป็นเจ้าของบ้านกันแล้วเรียบร้อย 55555 แต่ช้าก่อนค่ะ ถึงแม้บ้านจะราคา 1 ยูโรก็จริง แต่ราคาที่จ่ายจริงไม่มีทางเป็นเท่านี้แน่นอน อย่างแรกเลยถ้าบ้านที่น้องๆ เล็งไว้มีคนหมายตาด้วยเหมือนกัน ก็จะต้องทำการเสนอราคากันอีก ใครให้ราคามากกว่าถึงจะได้ไป
 

ตัวอย่างบ้านที่อยู่ในเมืองซัมบูกา เกาะซิซิเลีย
Photo Credit: https://1eurohouses.com/
 

       อย่างที่ 2 คือบ้านที่เข้าร่วมโปรเจกต์ไม่ได้สวยงามเช้งวับพร้อมเข้าอยู่ใดๆ ทั้งสิ้น ต้องมีการซ่อมแซมรีโนเวตกันยกใหญ่ และการจะซื้อบ้านในโปรเจ็กต์นี้มีเงื่อนไขที่ผู้ซื้อต้องทำตามอยู่ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างบ้านในโปรเจ็กต์เมืองซัมบูก้า ที่เกาะซิซิเลีย ผู้ซื้อจะต้องทำการซ่อมแซมและรีโนเวตบ้านภายใน 3 ปีที่ซื้อบ้านไป และมีการกำหนดมูลค่าขั้นต่ำของเงินที่จะใช้รีโนเวตบ้านด้วย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ของบ้านอีกทีค่ะ (ที่อื่นๆ ที่เห็นขั้นต่ำคือ 15,000-20,000 ยูโร) ที่สำคัญคือบ้านที่เปิดขายนั้นอยู่ในโซนที่เป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ เพราะฉะนั้นวัสดุที่จะนำมารีโนเวตบ้านก็ต้องใช้ของท้องถิ่นเพื่อรักษาความดั้งเดิมให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้การซื้อบ้านต้องมีภาษียิบย่อยที่ต้องชำระตามกฎหมายอีกด้วย ราคาจึงไม่ได้ถูกอย่างที่คิดไว้ แต่สำหรับคนมีเงินพี่ว่าก็เป็นความคุ้มค่าอย่างหนึ่งเหมือนกันค่ะ เพราะหลายๆ เมืองนั้นเป็นเมืองศิลปะหรือเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานใช่ย่อย

 

       สรุปแล้วค่าใช้จ่ายโดยรวมในการซื้อบ้านหลังนึงก็บวกไปอีกเยอะเลยค่ะ 55555 แต่จริงๆ แล้วพี่ว่าถ้ามีเงินก็น่าสนใจอยู่เหมือนกันเนอะ เพราะถึงจะต้องรีโนเวตบ้านแต่ราคาที่บังคับก็ยังไม่เท่ากับราคาที่ต้องซื้อบ้านหลังนึงจริงๆ เลย