'พลอย' เด็กกิจกรรมโพรไฟล์แน่น & รีวิวทุน IMES เรียนต่อ 'UBC' ม.ดังในแคนาดา!

        สวัสดีค่ะชาว Dek-D แม้ "แคนาดา" จะเป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูง แต่ก็ยังคงเป็นเป้าหมายที่หลายคนอยากไปเรียนภาษาหรือเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย เพราะเป็นประเทศที่ทั้งสงบปลอดภัย เจริญ ธรรมชาติสวย มาตรฐานการศึกษาสูง และเป็นอีกแห่งที่นักเรียนนานาชาติเยอะมากด้วยเช่นกันค่ะ

        และเนื่องจากค่าครองชีพคือเรื่องใหญ่(ไม่แพ้เรื่องอากาศที่หนาวมากกก) เราก็เลยอยากพาไปฟังรีวิวของคนไทยที่ได้ทุน IMES ไปเรียนต่อ ป.ตรี ที่สถาบันในแคนาดา ถ้าใครหลงรักประเทศนี้แต่กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ลองมาอ่านเก็บเป็นแนวทางกันนะคะ ^^


 


Photo Credit: UBC
 

Photo Credit: studyabroad.shiksha.com
 

แนะนำตัว


        "สวัสดีค่ะ 'พลอย' พลอยประกาย ภูศรี อายุ 19 ปี จบ ม.ปลายจาก รร.กำเนิดวิทย์ ตอนนี้กำลังเรียนปี 1 Faculty of Arts ที่ University of British Columbia (UBC) ในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดาค่ะ ตั้งใจไว้ว่าจะเลือกสาขาจิตวิทยา (Psychology) เพราะสนใจเรื่องพฤติกรรมและความคิดของมนุษย์ ถ้าเข้าใจศาสตร์นี้ สายงานก็เปิดกว้างมากๆ"

        "พลอยไปเรียนด้วยทุนของมหา'ลัยสำหรับเด็กอินเตอร์ ชื่อทุน International Major Entrance Scholarships (IMES) ลดค่าเรียนให้เทอมละ 10,000 CA$ ซึ่งเกือบครึ่งนึงของค่าเรียน ถ้าอยู่ 4 ปีก็ได้ 80,000 CA$ ค่ะ"


รีวิวการขอทุน IMES


        "ทุน IMES คือทุนของมหาวิทยาลัย UBC โดยตรง ให้เด็กต่างชาติประมาณปีละ 100 คน หากเราสมัครรอบปกติก็จะถูกพิจารณาทุนโดยอัตโนมัติเลยค่ะ สามารถยื่น IELTS, TOEFL หรือ SAT ได้ (ไม่มีเกณฑ์ขั้นต่ำนะคะ พลอยยื่น TOEFL 100) จากนั้นเราก็ต้องเข้าไปอัปโหลด essay ออนไลน์ ทั้งหมดมี 4 essay (บังคับเขียน 3 ข้อ) กับอีก 1 คำถามให้ลิสต์พร้อมอธิบายกิจกรรม 5 กิจกรรมที่เราทำช่วง ม.ปลาย แนวทางการตอบของพลอยคือเน้นข้อมูลให้เขารู้จักเราและเห็นภาพมากที่สุดค่ะ"

ประเด็น essay ที่พลอยเจอ (แต่ละปีจะมีประกาศบนเว็บ)

- คุณเป็นคนยังไง? อธิบายว่าคุณภูมิใจกับอะไร? แล้วเพื่อนๆ คนรอบตัวมองคุณยังไง?
- อะไรสำคัญกับคุณ? เพราะอะไร?
- อธิบาย 1 หรือ 2 กิจกรรมที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ แล้วคุณเรียนรู้อะไรจากกิจกรรมนั้น?
- เตรียมตัวด้าน academic ยังไงบ้าง? (*ข้อนี้ไม่บังคับ)
 
        เราได้เล่าความภูมิใจของตัวเองยังไงบ้าง?

- ได้ทุนเต็มไปเรียน ม.ปลาย ที่ รร.กำเนิดวิทย์
- ตอน ม.ปลาย เคยทำโครงงานจิตวิทยา ซึ่งได้รับคัดเลือกให้ไปพรีเซนต์ในงาน “Kolmogorov Readings, The 18th International Science Conference of Students” ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ช่วงวันที่ 3-6 พ.ค. 2561 ที่รัสเซีย แล้วได้เหรียญทองแดงสาขามนุษยศาสตร์
- เป็นคนก่อตั้งและประธานชมรมหมากล้อม
- เป็นคนก่อตั้งและประธานชมรม Charity Shop ขายของนำเงินไปให้ รร. ใช้จัดค่ายการกุศล 
- เคยเป็นพิธีกรทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษในงานของโรงเรียน เช่น งานวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติ
 
        "พอเรา submit essay ไปแล้ว ถ้าผ่านเขาจะส่งเมลกลับมา ตอนนั้นเราสมัครเดือน ม.ค. รู้ผลประมาณ มี.ค. ค่ะ ไม่มีสัมภาษณ์ (ปกติจะมีสัมภาษณ์แค่บางมหา'ลัย)"

        >> อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุน IMES <<
 


 


การปรับตัวช่วงแรก
เมื่อ "อากาศ" คือเรื่องใหญ่!


       "ถ้าคนไทยจะมาที่นี่ต้องระวังเรื่องอากาศ พลอยเป็นคนขี้หนาวมาก แล้วมาเจออุณหภูมิ 9-10 องศา ใส่แจ็กเก็ตหนาๆ เลยค่ะ TT (แต่หลังๆ ก็ปรับตัวได้มากขึ้น) แล้วอีกเรื่องที่ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกันคือวัฒนธรรม เวลาเพื่อนๆ คุยกันเราอาจตามไม่ทัน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะ UBC มีนักเรียนต่างชาติราวๆ 30% ได้ ก็เลยมีเพื่อนที่งงๆ มึนๆ ไปด้วยกัน ต้องค่อยๆ ศึกษากันไปค่ะ 555"

        แล้วสำเนียงแคนาเดียนฟังยากรึเปล่า? "สำเนียงคนแคนาเดียนจะฟังง่ายเหมือน american ค่ะ ส่วนคำศัพท์จะเป็น british ผสม american ฟังไม่ยาก แต่จะตอนเรียนก็จะมีศัพท์เทคนิคที่ต้องเก็บเพิ่มค่ะ" 


เรียนมาแล้ว 1 เดือนครึ่ง
ได้เจอเนื้อหาประมาณไหน?

 

        "เปิดเทอมต้น ก.ย. เรียนมาประมาณ 1 เดือนครึ่งค่ะ พลอยเรียนใน Faculty of Arts เนื้อหาช่วงแรกไม่เน้นหนัก ปี 1 ปี 2 เน้นเรียนกว้างๆ อยากเรียนตัวไหนตอนเทอมไหนก็เลือกได้ ถ้าพลอยรู้ตัวว่าจะเลือกเอกจิตวิทยาตอนปี 2 ช่วงปี 1ก็ต้องเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับสายนี้ตาม requirement แต่ถ้าใครยังไม่แน่ใจก็เลือกลงกว้างๆ ไปก่อนเพื่อให้รู้ว่าเราชอบแนวไหนที่สุดค่ะ"

วิชาที่ลงเรียนในเทอมนี้มี 5 วิชา
 
       - วิชา Philosophy เรียนประวัติของนักปรัชญา เช่น Plato, Socrates ฯลฯ ดูว่าเขามีมุมมองต่อโลกยังไงบ้าง แล้วถกเถียงกับคนก่อนหน้ายังไงบ้าง

       - วิชา Ecomonic ก็จะเรียนตาม textbook เนื้อหาเป็น microeconomics ทั่วไป อาจารย์เขาจะเน้นเล่าเหตุการณ์ในชีวิตจริง ยกตัวอย่างแล้วเชื่อมโยงกับหลักการ หากใครสงสัยสามารถยกมือถามได้ตลอดค่ะ"

        - วิชา Drug & Society ชีวะจ๋ามากๆ เขาจะสอนสรรพคุณของยาแต่ละชนิด การทำงานของยาหลังเข้ามาในร่างกาย

        - วิชา Psychology จะเป็น overview ของวิชาจิตวิทยาว่ามีศึกษาเรื่องอะไรบ้าง ทฤษฎีพื้นฐานของจิตวิทยาแขนงต่างๆ ในการสอบมิดเทอมทั้งคลาส drug และ Psychology ครั้งที่ผ่านมาคือเขาจะให้ชอยส์มาแบบฉลาดมาก มี 4-5 ชอยส์ ต้องรู้จริงถึงจะตอบได้ เช่น สมมติเหตุการณ์ของคนๆ นึงมา ให้เราดูว่าอาการแบบนี้คืออะไร แล้วจะแสดงออกยังไงบ้าง ซึ่งเราก็ต้องวิเคราะห์ด้วย เวลาทำข้อสอบก็ไม่มาก ส่วนตัวพลอยคิดว่าตัวเองยังทำเวลาได้ไม่ค่อยดีเพราะแทบไม่มีเวลาทวนเลยค่ะ TT

        - วิชาภาษาอังกฤษ (Writing) วิชานี้เป็นตัวบังคับ เรียนคลาสเล็ก แค่ 30 คน เน้นการเขียน ให้อ่านเปเปอร์แล้ววิเคราะห์การเขียน เช่น คุณคิดว่ามันเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันคุณยังไงบ้าง? พอตอนจบก็ต้องเลือกหัวข้อมาเขียนเปเปอร์ของตัวเองเป็นโปรเจกต์แล้วนำเสนอด้วย


        "วิธีเรียนที่พยายามทำตอนนี้คือ หลังเลิกคลาสจะพยายามเก็บทุกอย่างให้ครบ ถ้ายังติดตรงไหนก็รีบถามเพื่อนหรือครู ถ้าเกิดดองไว้นานเดี๋ยวจะลืม เพราะคำถามตอนสอบเขาเก็บทุกเม็ดจริงๆ"

         "หลังจากนี้ตอนปี 2 ก็จะได้เรียนพวกพื้นฐานการวิจัย เครื่องมือต่างๆ และปี 3 จะเริ่มเจาะลึกเฉพาะทางมากขึ้นค่ะ แต่ละสายก็จะมี requirement ที่เราต้องลงเรียนตามนั้น"


ผู้คนน่ารัก & การใช้ชีวิตสโลไลฟ์
 

        "มหาวิทยาลัยของพลอยอยู่ติดทะเลและภูเขา และอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก นั่งบัสแค่ 30 นาทีก็ถึง แต่ความเจริญของที่นี่จะไม่กระจุกอยู่ที่เดียวค่ะ ข้างทางจะมีร้านขายของเยอะมากๆ ส่วนเรื่องค่าครองชีพก็สูงพอสมควร อาหารจานละ 10 ดอลลาร์เป็นเรื่องปกติ แล้วถ้าไปร้านอาหารก็ควรให้ทิปประมาณ 12% สวัสดิการของเราคือบัตรนักเรียนค่ะ ถ้าซื้อของที่หอหรือตามร้านอาหารก็สามารถใช้บัตรรูดเพื่อจ่ายได้ในหลายๆ ร้าน ส่วนตอนเดินทางก็จะมีบัตรรถไฟ รสบัส ซึ่งรสบัสตรงเวลามากๆ

        รีวิวคนแคนาดาจากประสบการณ์ของเราหน่อย "พวกเขาเฟรนด์ลี่มากๆ ค่ะ วัฒนธรรมนึงที่เรารู้สึกแปลกๆ แต่ก็น่ารัก คือเวลาลงจากรสบัส คนจะพูดว่า thank you เป็นเรื่องปกติ ส่วนคนขับรถก็จะทักทายเราตอนแตะบัตรขึ้นรถด้วย ^^"

Photo Credit: UBC
 



คำแนะนำถึงน้องๆ ที่อยากขอทุน
 

        นอกจากเธอจะได้การตอบรับเข้าเรียน ป.ตรี จาก UBC แล้ว ในช่วงเวลาดังกล่าวยังมี ม.ในอเมริกา อย่าง Georgia Institute of Technology, University of Washington-Seattle Campus, University of Michigan-Ann Arbor, University of Texas at Austin และอีกหลายมหา'ลัยตอบกลับด้วยเช่นกัน เราเลยขอถามวิธีเตรียมตัวสำหรับน้องๆ ม.ปลายที่อยากขอทุนสักเล็กน้อยค่ะ ^^
  
        "ก่อนอื่นคือต้องหาตัวเองให้เจอว่าอยากเรียนแนวไหน แล้วเก็บข้อมูลตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างพลอยเองรู้ตัวตั้งแต่ ม.5 ว่าอยากเรียนโซนอเมริกาหรือแคนาดา เลยสร้างโอกาสให้ตัวเอง ทำกิจกรรมเยอะๆ ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง เพื่อปลดล็อกให้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถ้าเกิดเพิ่งมาทำทุกอย่างตอน ม.6 จะเครียดเกินไป"
 
        "เรื่องภาษาก็สำคัญมากๆ วิธีฝึกของพลอยคือพยายาม 'หาเรื่องใช้ภาษา' เช่น ตั้งค่ามือถือ-อุปกรณ์ต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าดูซีรีส์หรือยูทูบเป็นภาษาอังกฤษก็น่าจะง่ายสุด เพราะเราได้สนุกด้วย ที่สำคัญคือต้องกล้าพูด กล้าลองผิดลองถูกค่ะ ส่วนการเขียน essay เพื่อขอทุนไปแคนาดา เราก็ต้องดูว่าเรามีอะไรขายได้บ้าง ให้เขียนร่างเอาไว้ เช่น การแข่งหมากล้อม โครงงานจิตวิทยา ฯลฯ จากนั้นไปเปิดดูแนวทางการเขียน essay ของแคนาดาว่าเราจะ adapt สิ่งที่มีไปตอบคำถามยังไงบ้างค่ะ ยังไงพลอยก็ขอเอาใจช่วยให้ทำเต็มที่และได้ทุนที่ตั้งใจไว้นะคะ" 


 

 
        นอกจากวิชาการจะเด่น ประสบการณ์ทำกิจกรรมมีผลให้กรรมการสนใจและติดต่อกลับมาด้วยค่ะ พี่เองหวังว่าเรื่องราวของน้องพลอยจะทำให้น้องๆ ยิ่งอยากลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ เช่นกันนะคะ เพราะนอกจากจะได้เก็บเข้า Portfolio สวยๆ ยังช่วยพัฒนาตัวเองและได้คอนเนกชันอีกเพียบ เป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตแน่นอนค่ะ ^^
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น