สวัสดีค่ะชาว Dek-D พูดถึงเรื่องปัญหาเรื่องมลภาวะนี่ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วทั้งโลกต้องเผชิญ โดยเฉพาะมลภาวะทางอากาศนี่เรียกได้ว่ามีผลกระทบกับเราโดยตรง เพราะเราต้องหายใจเข้าไปทุกวัน อย่างช่วงที่เมืองไทยปกคลุมไปด้วยฝุ่น PM 2.5 หลายๆ คนก็รู้สึกว่าสุขภาพไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่ บางคนถึงกับเลือดกำเดาไหลท่วมเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงเมืองที่มีปัญหานี้รุนแรงเลยค่ะว่าประชาชนจะอยู่กันยังไง ซึ่งหนึ่งในที่ที่ขึ้นชื่อว่าอากาศเป็นพิษมากๆ อีกแห่งนึงก็คือรัฐเดลี ประเทศอินเดียนั่นเอง ถามว่าอากาศแย่แค่ไหน ก็ขนาดที่มีธุรกิจ “บาร์ออกซิเจน” เกิดขึ้นและมีคนไปใช้บริการด้วย! ว่าแต่เจ้าบาร์นี้จะเป็นยังไง เราตามไปอ่านกันในบทความได้เลยจ้า
หลายๆ คนคงได้ยินกันมาแล้วว่าที่อินเดียมีปัญหาเรื่องมลภาวะหนักมากกก อย่างในแม่น้ำคงคาก็เต็มไปด้วยขยะและมลพิษ ถึงกับติดอันดับหนึ่งในแม่น้ำที่สกปรกมากที่สุดในโลกอีกต่างหาก แถมไม่ไกลจากเมืองหลวงของประเทศอย่างนิวเดลีนั้นก็มีแหล่งฝังกลบขยะอยู่ จริงๆ ก็อาจจะไม่แปลกเท่าไหร่เพราะหลายๆ ประเทศก็ใช้วิธีนี้การกำจัดขยะ แต่ที่น่าตกใจก็คือจุดทิ้งขยะที่ว่านี้ใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอล 40 สนาม และสูงถึง 65 เมตร! ยิ่งกว่าท่วมหัวอีกค่ะเคสนี้ ซึ่งก็มีการคาดการณ์กันเอาไว้ว่าภูเขาขยะนี้จะสูงขึ้นปีละ 10 เมตร และภายในปี 2020 ก็จะสูงแซงหน้าทัชมาฮาลที่สูง 73 เมตรด้วย ดูจากภาพแล้วเหมือนภูเขาตามธรรมชาติเลย แต่ซูมเข้าไปแล้วมีแต่ขยะทั้งนั้น
แน่นอนว่ากองขยะมหาศาลขนาดนี้ย่อมสร้างมลพิษอย่างหนัก ไม่ว่าจะบนพื้นดินหรือในอากาศล้วนมีผลกระทบทั้งสิ้น หลังจากที่มีการศึกษาถึงเรื่องนี้ เค้าก็พบว่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรนั้นได้รับความเสี่ยงต่อสุขภาพมากๆ เพราะนอกจากภูเขาขยะนี้จะมีกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว ยังทำให้เกิดหมอกควันจากฝุ่น แถมเป็นจุดกำเนิดเชื้อโรคทั้งหลายอีก ในปี 2017 เองก็เคยมีคนเสียชีวิตจากการที่ภูเขาขยะถล่มมาด้วยค่ะ
เพราะปัญหานี้คนในรัฐเดลีเลยแทบไม่มีโอกาสได้หายใจสูดอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งพี่ว่ามันคงสร้างความเครียดให้กับประชาชนไม่น้อย งานนี้ Aryavir Kumar และ Margarita Kuritsyana เลยเกิดไอเดียสร้างธุรกิจบาร์ขายอากาศบริสุทธิ์ขึ้นมา ชื่อว่า “Oxy Pure” แม้จะไม่ใช่บาร์ออกซิเจนแห่งแรกของโลก แต่ก็ถือเป็นร้านแรกในรัฐเดลีเลยค่ะ ซึ่งเค้าก็เพิ่งเปิดไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง
สำหรับผู้ที่ไปใช้บริการก็จะได้สูดออกซิเจนสะอาดๆ ผ่านทางสายยาง โดยเค้าจะมีกลิ่นต่างๆ ให้เลือกผสมด้วย เช่น ตะไคร้ ลาเวนเดอร์ เชอร์รี่ ยูคาลิปตัส และกลิ่นอื่นๆ อีกมากมาย แต่ละกลิ่นก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ค่าบริการก็จะอยู่ที่ 300 รูปี (ประมาณ 130 บาท) ต่อ 15 นาทีค่ะ ซึ่งคุณ Aryavir เจ้าของร้านก็บอกว่า การสูดออกซิเจนสะอาดๆ เป็นเวลา 15 นาทีเนี่ย จะช่วยดีท็อกซ์พิษในร่างกายเราออกไปได้
ทีนี้มาถามทางฝั่งคนที่มาใช้บริการกันบ้างดีกว่าค่ะ คุณ Shivani Chopra ให้สัมภาษณ์ว่าเพราะปัญหามลภาวะอย่างหนัก เธอเลยรู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวกและก็รู้สึกเครียด จนกระทั่งญาติแนะนำบาร์นี้ให้และบอกว่าออกซิเจนสะอาดจะช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น
ส่วนคุณ Prem Jain ซึ่งเป็นลูกค้าอีกรายก็บอกว่า ร่างกายเค้ายังแข็งแรงดี แต่เค้าก็รู้สึกกังวลกับการที่ต้องหายใจเอามลพิษต่างๆ นี้เข้าไปเหมือนกัน ซึ่งคุณ Prem ยังเสริมอีกว่า สำหรับราคา 300 รูปีนี่ค่อนข้างจะมากไปสักหน่อย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินจ่ายไหว อีกอย่างคือผลลัพธ์ในการใช้บริการก็ไม่สามารถวัดได้อีกเช่นกัน
งานนี้พอไปถามความเห็นจากแพทย์ แพทย์เองก็ไม่เชื่อเหมือนกันค่ะว่าการสูดออกซิเจนแบบนี้จะช่วยได้ คุณหมอ Ashish Jain บอกว่าบาร์ลักษณะนี้เหมือนกลายเป็นเทรนด์ไปแล้ว แต่บอกได้ยากว่ามันมีประสิทธิภาพมากขนาดไหน เพราะปัญหาที่ชาวเดลีกำลังเผชิญอยู่คือเรื่องอากาศที่หายใจเข้าไปมีคุณภาพต่ำ ไม่ใช่ระดับออกซิเจนต่ำ เพราะฉะนั้นการสูดออกซิเจนสะอาดเพิ่มก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี ถึงเราจะไปใช้บริการที่บาร์ สูดออกซิเจนเป็นชั่วโมง แต่ออกซิเจนก็จะมีผลอยู่แค่ตอนนั้น พอออกมาข้างนอกที่เต็มไปด้วยมลพิษก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม ซึ่งคุณหมอก็ออกความเห็นเพิ่มเติมว่า บาร์ออกซิเจนไม่น่าใช่ทางแก้สำหรับปัญหานี้ แต่เป็นการที่นักธุรกิจกำลังหาประโยชน์จากความกลัวของคนมากกว่า
ถึงคุณหมอจะให้ความเห็นมาอย่างนั้นแต่ธุรกิจนี้ก็ฮอตฮิตใช้ได้เลยค่ะ เจ้าของร้านอย่างคุณ Aryavir บอกว่าเค้ามีแผนจะขยายบาร์ออกซิเจนให้ได้ 50 สาขาต่อปี โดยกลุ่มลูกค้าหลักๆ ก็คือวัยรุ่น เพราะว่าเป็นกลุ่มที่ชอบคอนเซ็ปต์ของร้านแล้วก็ชอบทดลองออกซิเจนกลิ่นต่างๆ ด้วย
ต้องถือว่าเจ้าของร้านพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์อย่างชาญฉลาดเลยนะคะเนี่ย พี่ว่าการสูดออกซิเจนอาจจะช่วยในเรื่องอื่นๆ ได้ แต่สำหรับเรื่องมลภาวะก็เห็นด้วยกับคุณหมอว่ามันน่าจะไม่ได้มีผลอะไรมากเพราะยังไงพอออกไปก็สูดฝุ่นเข้าไปอยู่ดี ใครที่เคยไปใช้บริการบาร์ออกซิเจนก็อย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันบ้างนะคะว่าเป็นยังไง พี่จะรอฟังค่า
Sources:
1 ความคิดเห็น