#รีวิวเวียดนาม เยือน ‘Bana Hills’ นั่งกระเช้ายาวที่สุดในโลก เที่ยวเมืองฝรั่งเศส เดินเล่นสะพานมือยักษ์ มันดีย์มากกก!

         ซินจ่าวครับน้องๆ ชาว Dek-D เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา พี่วุฒิ มีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองดานัง ประเทศเวียดนามมาครับ เป็นเมืองที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรา เดินทางแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึง แถมเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายมาก คือมีทั้งทะเลสวยๆ ทุ่งนาสีเขียว และมีภูเขามากมาย เรียกว่าเป็นเมืองที่ครบรสมากกก ซึ่งหนึ่งในแลนด์มาร์กที่หลายคนมาแล้วต้องไปเยือนก็คือ "Bana Hills" หรือภูเขาบานานั่นเอง ที่มีดียังไงบ้าง ตามพี่มาเลยครับ (รูปเยอะมากกก!)  


ประวัติ Bana Hills


        ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักประวัติ Bana Hills กันแบบคร่าวๆ กันก่อนนะครับ ต้องบอกว่าที่นีเป็นเมืองตากอากาศที่ถูกสร้างมาเป็นร้อยปีแล้ว ถูกสร้างโดยชาวฝรั่งเศสและทหารที่มาประจำการอยู่ที่เวียดนามในช่วงสงครามโลก ซึ่งในตอนนั้นพวกเค้าต้องการหาสถานที่เอาไว้พักผ่อน และได้มาพบกับภูเขาบานาแห่งนี้ซึ่งมีอากาศที่เย็นสบาย แถมธรรมชาติก็สมบูรณ์แบบ คือมีน้ำตก มีทะเลอยู่ใกล้ๆ แถมภูเขาก็มีต้นไม้เต็มไปหมด จากนั้นก็ได้เริ่มสร้างถนนตัดขึ้นภูเขา ใช้เวลาสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1901 และเสร็จสิ้นในปีค.ศ. 1919 
 
        และด้วยความที่อยู่ในช่วงสงคราม ชาวฝรั่งเศสจึงได้พัฒนาและสร้างที่นี่เป็นวิลล่าขึ้นมา จากนั้นก็สร้างรีสอร์ท โรงแรมขึ้นมาเรื่อยๆ และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขนาดย่อมๆ ในสมัยนั้น แต่หลังจากที่ฝรั่งเศสพ่ายแพ้สงคราม เมื่อปี 1945 จึงทำให้พวกเค้าต้องถอนตัวและหอบข้าวของกลับบ้านเกิดกลับไป และทิ้งบานาฮิลล์ไว้เป็นเมืองร้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปทางเวียดนามก็ได้ผุดแผนพัฒนาที่นี่ขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเปิดบริการเมื่อปี 2009 เป็นต้นมาจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างในปัจจุบันนั่นเองครับ  
 

 
        และสำหรับการเดินทางมาบานาฮิลล์ พี่เลือกนั่งแท็กซี่จากเมืองดานัง ระยะทางห่างจากที่นี่ประมาณ 40 กิโลเมตร เดินทางไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง ซึ่งจริงๆ แท็กซี่ที่พี่นั่งเจอจากใน Grab ตอนที่ลงเครื่องจากสนามบิน (ที่เวียดนาม Grab เยอะมากกก ไม่ต้องกลัวไม่มีรถเลย) และเค้าก็บอกว่า ถ้าอยากไปเที่ยวไหนเรียกใช้บริการเค้าได้เลยนะ ซึ่งเค้าจะคิดราคาถูกกว่าในแอป แบบเหมาพาเที่ยวทั้งวันก็ยังได้ คือเสนอขายมาเป็นแพ็กเก็จให้เราเลย 5555  ซึ่งพี่ก็เหมาแค่ตอนไปบานาฮิลล์ รวมไป-กลับอยู่ที่ 600,000 ดอง หรือ 780 บาท หารหลายคนก็ถือว่าไม่แพงเลย โดยระหว่างทางที่ไปบานาฮิลล์ พี่คนขับรถเค้าก็จอดรถซื้อตั๋วให้เราเรียบร้อย ซึ่งตั๋วเราสามารถซื้อตามร้านทัวร์ข้างทางได้เลยครับ ค่าตั๋วอยู่ที่ 750,000 ดอง หรือ 975 บาท ราคานี้คือเราสามารถเข้าสถานที่ต่างๆ ในบานาฮิลล์ได้หมดเลย ทั้งนั่งกระเช้า เล่นสวนสนุก ชมพิพิธภัณฑ์ เล่นรถไฟเหาะ คือถ้าเราเก็บครบทุกกิจกรรมก็ถือว่าคุ้มมากกก (แต่พี่เก็บไม่ครบ เพราะเหนื่อย 5555)    
 

 
       พอมาถึงก็นั่งกระเช้าไฟฟ้า (Cable Car) ขึ้นไปที่บานาฮิลล์ ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุดในโลกเลยล่ะ ตอนขึ้นไปก็รู้สึกเสียวมากกก ด้วยความสูงและความไกล ฮือออ ซึ่งใช้เวลานั่งประมาณ 10 กว่านาทีก็ถึงที่หมายแล้วครับ
 

 
       ระหว่างทางก็จะมีภูเขา มีต้นไม้สีเขียวเต็มไปหมด แถมหมอกก็เยอะด้วย อดเห็นน้ำทะเลเลย TT

 

 
       และความโชคดีคือได้เห็นน้ำตกของภูเขาบานาฮิลล์ด้วย สวยมากกก (คือมันจะมีจุดขึ้นกระเช้าไฟฟ้าหลายที่ ถ้าเลือกขึ้นบางเส้นทางอาจไม่ได้เห็นน้ำตก แต่ก็อาจเห็นวิวมุมอื่นๆ เช่นทะเล)

 

 
        พอมาถึงด้านบนก็จะเจอนั่งท่องเที่ยวประมาณพันล้านคนได้ (เวอร์ไป!) คือคนเยอะมากกก พูดเลยว่าเกือบ 90% เป็นนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ เดินไปทางไหนก็เจอ ต้องบอกว่าเมืองดานังเป็นสถานที่ยอดนิยมของชาวเกาหลีที่แท้เลยล่ะ มีภาษาเกาหลีเต็มไปหมด ส่วนร้านอาหารเกาหลีก็เยอะมากกก 

 

 
        ด้วยความที่คนเยอะ เพราะไปช่วงเทศกาลเลยอาจจะหามุมถ่ายรูปยากหน่อย แต่ก็รู้สึกครึกครื้นดีนะ แนะนำให้มาช่วงเช้าๆ คนจะไม่ค่อยเยอะมาก เดินเล่นเพลินๆ ได้เลย 

 

 
         ใครที่อยากมาเที่ยวแล้วเจอหมอกแบบนี้ แนะนำให้มาช่วงเดือนธันวาคมเลยครับ อากาศจะค่อนข้างหนาวเลย ตอนพี่ไปอุณหภูมิอยู่ที่ 12 องศา ด้วยความที่อยู่ไทยแล้วไม่เคยเจออากาศแบบนี้ก็จะรู้สึกหนาวเป็นพิเศษ 5555 แนะนำให้ใส่เสื้อหนาๆ นิดนึงก็ดีนะครับ แต่ถ้าใครไม่กลัวก็ลุยเลยจ้า 
 

 
        มาเที่ยวที่นี่ไม่ต้องกังวลเรื่องหิวนะครับ เพราะมีร้านอาหารเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์ยุโรป และก็มีอาหารเกาหลีประปราย 

 

 
       เดินไปเรื่อยๆ ทางจะคอ่นข้างชันนิดนึงนะครับ เพราะว่ามันตั้งอยู่บนภูเขาอะเนอะ 

 

 
        ที่บานาฮิลล์มีโรงแรมมาตั้งหลายที่เลย และที่กำลังสร้างก็มีอีกเยอะเหมือนกัน ใครอยากจะมาพักโรงแรมที่นี่ก็ดีเลยนะ จะได้เที่ยวให้คุ้ม และบรรยากาศก็ดีมากจริงๆ 

 

 
        และด้วยความที่มันเป็นตึกสไตล์ยุโรป-ฝรั่งเศส เป็นสีโทนอิฐเยอะมาก พี่แนะนำว่าแต่งชุดสีดำก็ดีนะครับ เวลาถ่ายรูปแล้วเข้ากับโลเกชั่นมากกก ยิ่งอากาศหนาวๆ ก็จัดคอสตูมเหมือนเที่ยวยุโรปไปเล้ย รูปที่ออกมามันก็พอถูๆ ไถๆ ได้อยู่น้า 555   

 

 
        แค่เดินเล่นเฉยๆ ระหว่างทางก็จะมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายเพียบเลย ประทับใจมากกก

 

 
        ถึงจะอยู่บนภูเขาสูงก็มีร้าน Starbucks มาตั้งด้วยนะ แล้วตึกร้านก็สวยมาก แต่คนก็เยอะมากเช่นกัน แทบไม่มีที่นั่งเลยครับ เศร้า TT 

 

 
        ดูวิวมุมสูงก็เหมือนเมืองย่อมๆ เลยอ่ะ

 

 
ที่นี่มีโบสถ์ด้วยนะครับ อลังการมาก 

 

        บนบานาฮิลล์นอกจากจะมีโบสถ์แล้ว ยังมีวัดด้วยนะครับ (ไม่แน่ใจว่าของญี่ปุ่นหรือจีนอ่ะ ฮือ) เป็นสถานที่แห่งพหุวัฒนธรรมที่แท้ทรู

 

 
        ทางขึ้นก็ก็ร่มเย็นมาก เป็นซุ้มต้นไม้สีเขียวสดชื่นมากเวอร์ 

 

 
        มาเวียดนาม มีนักท่องเที่ยวเกาหลีเต็มเมือง และก็มีวัดญี่ปุ่นด้วย งงไปหมด ตอนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่ ฮ่าๆ

 




 
        ศาลานี้คนขึ้นไปเยอะมาก คือมองเห็นวิวของเมืองดานังได้ชัดเลยแหละ แต่ตอนที่ไปมีแต่หมอกครับ ท้อเลย

 

 
        มาถึงบานาฮิลล์ทั้งทีต้องห้ามพลาดสะพานมือยักษ์ หรือ Golden Bridge เลยนะครับ คือสวยมากจริงๆ แต่คนก็จะเยอะเป็นพิเศษ ถ้าใครอยากจะถ่ายรูปแบบไม่ให้ติดคนนี่ยากมากก ต้องหาจังหวะจริงๆ หรือถ้าจะมาตอนที่คนน้อยๆ ก็ต้องมาตอนเช้าเลยครับ 

 

 
รบกวนรีทัชคนด้านหลังให้หน่อยครับ 5555

 

 
        เดินเล่นสะพานมือยักษ์เสร็จก็นั่งกระเช้าย้อนกลับไปด้านบน เพื่อเล่นสวนสนุกสักหน่อย คือสวนสนุกที่นี่อาจจะไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ก็มีเครื่องเล่นที่น่าเล่นหลายอันอยู่เหมือนกัน แถมเข้าฟรีด้วยนะ ไม่ต้องจ่ายค่าเครื่องเล่นแล้ว ราคาก็จะรวมอยู่ในตั๋วที่เราซื้อแต่แรกเลย

 

 
        ส่วนอันนี้ ใครไหวก็ไปก่อนเลย ทางนี้ขอบายจ้า กลัวหัวใจวาย 55555

 

 
         เล่นเครื่องเล่นมาเหนื่อยๆ ก็ขอแวะกินขนมนิดนึง อันนี้จะเป็นขนมโดนัทเวียดนาม มีขายอยู่เต็มบานาฮิลล์เลยครับ อร่อยมากกก ยิ่งกินตอนร้อนๆ อากาศเย็นๆ คือฟินสุด ส่วนตัวพี่คิดว่าแอบคล้ายขนมไข่หงส์บ้านเราเหมือนกันนะ อธิบายไม่ถูกแต่อร่อย 555

 

 
        มาถึงเวียดนามเค้าบอกว่าต้องกินกาแฟมะพร้าว รสชาติก็โอเคนะครับ เหมือนกินกาแฟใส่กะทิอะ ออกหวานหน่อยๆ แก้วนี้ราคา 59000 ดอง ประมาณ 76 บาทครับ (จริงๆ กาแฟที่อื่นๆ ในดานังราคาไม่แพงมากนะ)

 

 
        ก่อนกลับตั้งใจจะเล่นรถไฟเหาะ New Alpine Coaster แต่วันนั้นหมอกลงเยอะมากกกก เจ้าหน้าที่เค้าก็เลยไม่อนุญาตให้ลงไปเล่น แอบเสียดาย แต่จริงๆ ที่เดินเที่ยวมาทั้งวัน สำหรับพี่ก็ถือว่าคุ้มมากแล้วครับ 5555 ส่วนตอนนั่งกระเช้ากลับไปจุดเริ่มต้นหมอกคือลงเยอะมาก นั่งทะลุหมอกกันเลยทีเดียว 
   

 
         ตอนแรกไปเที่ยวที่ดานังก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่พอได้มาเยือนที่เมืองเค้าจริงๆ ก็รู้สึกว่าที่เวียดนามเค้าเจริญมากๆ     และเป็นประเทศที่คอยพัฒนาอยู่เสมอ ที่เห็นได้จัดก็ที่บานาฮิลล์นี่แหละครับ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีสถานที่และอะไรที่ดึงดูดใจหลายอย่าง แต่เค้าก็ยังสร้างอะไรเพิ่มเติมอีกเยอะเลย ในอนาคตถ้ามีโอกาสได้มาที่ดานังอีกก็คงจะไม่พลาดมาที่นี่บานาฮิลล์แน่นอนครับ ส่วนน้องๆ คนไหนอยากมาเที่ยวที่นี่ก็ขอแนะนำเลย ค่าเครื่องบิน ค่าที่พักราคาไม่แพงเลย เอาจริงถูกกว่าเที่ยวในไทยบางที่อีก 55555 และค่าครองชีพที่เวียดนามก็ไม่ได้สูงมาก หากใครกำลังหาที่เที่ยววันหยุดหน้าอยู่ ก็ขอแนะนำเลยครับ ^^
พี่วุฒิ
พี่วุฒิ - Columnist มนุษย์ 4 มิติผู้หลงใหลในเพลงเกาหลี ชาเนสที และหมูกระทะ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด