เทียบให้ชัด! หยิบท่อนฮิตจาก 7 เพลงติดหูมาแปลงเป็นเวอร์ชัน IELTS จะแอดวานซ์เบอร์ไหน?

               สวัสดีผู้อ่านชาว Dek-D ทุกคนค่ะ เชื่อว่าน้องๆ หลายคนคงเคยได้ยินกิตติศัพท์ความยากของข้อสอบ    "IELTS"    (International English Language Teaching System)   มาพอสมควร มันคือข้อสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษที่นิยมทั่วโลก แบ่งออกเป้็น IELTS Academic (เหมาะกับเรียนต่อ) กับ   IELTS General Training (เหมาะกับใช้สมัครทำงาน/ย้ายถิ่นฐาน)

              แล้วด้วยความที่ศัพท์และรูปแบบประโยคจะแอดวานซ์กว่าที่ใช้สื่อสารกันปกติ     วันนี้ English Issues เลยอยากเปรียบเทียบให้เห็นภาพ โดยหยิบเนื้อเพลงท่อนฮิตมาแปลงเป็นเวอร์ชัน IELTS ว่าจะมีหน้าตาประมาณไหน? (คนออกข้อสอบจะใจดีกับเรามั้ย? 555)  *แต่ละข้อพี่จะแทรกเกร็ดความรู้ไว้เตรียมสอบด้วยนะคะ* ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย!
 

 
Original:  “I’d be a fearless leader”   
(  The Man  -   Taylor Swift)



IELTS:   " I would probably be a brave and courageous    leader."
 
                การสอบนี้ยิ่งมีคลังคำ (vocab bank)  เยอะยิ่งได้เปรียบเลยค่ะ      เพราะจะช่วยให้เรียงประโยคได้เร็วและลื่นไหลขึ้น  เช่น ถ้าอยากทำให้    "I'd be..." ดูน่าสนใจขึ้น พี่ก็อาจเติม probably คั่นลงไปเพื่อเน้นการคาดคะเน หรือสมมติพี่นึกอยากสื่อคำว่า fearless ให้สาสมกับความยาก IELTS ก็อาจใช้คำว่า "brave and courgeous" ซึ่งเป็น synonym ที่หมายถึง (ผู้นำ) ที่กล้าหาญชาญชัยก็ได้

 

 
Original > “I just can't help falling in love with you.”
(How to love   -   ALLY (feat. GRAY))



IELTS > “I just can’t help because you sweep me off my feet.”
                
                
                 สำนวน (Idioms) เป็นตัวช่วยให้เราใช้ภาษาได้แบบมีชั้นเชิงขึ้น   พบได้บ่อยใน IELTS ค่ะ สมมติพี่อยากหยิบเพลง How to love ของน้องแอลลี่มาแปลงเล่นๆ ถ้าเป็นคำว่า   Love  คงธรรมดาไปสำหรับ IELTS เลยต้องแทนที่ด้วยสำนวนเก๋ๆ ว่า sweep (someone) off their feet ที่แปลว่า “มีเสน่ห์จนตกหลุมรักแบบหมดใจ” ก็ได้ บอกรักกันแบบแอดวานซ์ๆ เลย!
 
Original > “We found somewhere between you and I.”
(How to love -   ALLY (feat. GRAY))



IELTS  > “We encountered at unspecified location.”

                แล้วถ้าอยากแปลงท่อนนี้บ้างล่ะ? ถ้ารู้สึกคำว่า found ในเพลงของน้องแอลลี่ดูไม่ว้าวพอ เราอาจแทนที่ด้วยคำเฉียบๆ อย่าง encounter ก็ได้ จากนั้นก็ลองหยิบเอาคำคุณศัพท์ somewhere มาแปลงอีกสักคำ ประโยคธรรมดาก็จะกลายเป็นประโยคเท่ๆ ว่า We encountered at an unspecified location.
 

 
Original > I wish I could pretend I didn’t need ya.
(Señorita   -   Shawn Mendes, Camila Cabello)



IELTS  > Although I try to hide my feelings, I still have an overwhelming desire for you. 
 
                Adverb clause คือ อนุประโยคย่อยที่อยู่เดี่ยวๆ ไม่ได้ ต้องอาศัยประโยคหลักมาประกอบด้วย โดยมีคำสันธานเป็นตัวเชื่อมให้ข้อความนั้นสมบูรณ์ ถ้าอยากแปลงท่อนนี้ของ  Señorita ให้แอดวานซ์เทียบเคียง IELTS ก็ใช้กฎแกรมมาร์นี้ได้เหมือนกัน  เริ่มจากใส่คำเชื่อม Although แล้วเปลี่ยนคำว่า pretend เป็นวลี  hide my feelings  ที่แปลว่า ซ่อนความรู้สึกว่า ส่วนคำว่า need ก็แทนที่ด้วย desire แล้วเพิ่มคำคุณศัพท์เข้าไปจะกลายเป็น  overwhelming desire  หมายถึง ปรารถนาเกินต้านทาน นั่นเอง (ซับซ้อนคูณสองไปเลยค่า)
 

 
Original > I buy myself fast cars.
(Good Thing -   Zedd & Kehlani)



IELTS Version > I purchase my own high-performance sports cars.

                ถ้าเราใช้คำเดิมซ้ำบ่อยๆ ในการสอบ IELTS คงเรียกคะแนนเพิ่มไม่ค่อยได้ เลยต้องแก้ัปัญหานี้ด้วยการหลากคำค่ะ สมมติพี่อยากลองหยิบต้นฉบับเพลงนี้มาปรับคำใหม่ ก็อาจแทนคำว่า buy ด้วย purchase ส่วน fast cars ก็เลือกคำคุณศัพท์เท่ๆ มาวางหน้าคำนามจะได้ว่า high-performance sports cars ที่แปลว่า รถสปอร์ตสมรรถนะสูง นั่นเอง
 

 
Original > She ran away in her sleep and dreamed of paradise.
(Paradise - Coldplay)



IELTS Version > It is impossible to escape reality; therefore, she dreamed of living in a utopia.
 

               ปกติแล้ว การเรียบเรียงประโยคให้เป็นสไตล์ของ IELTS นั้น อาจทำได้โดยการวางโครงสร้างประโยคแบบใหม่ทั้งหมด หากใครยังนึกไม่ออก อาจเริ่มจากการแทนที่คำว่า run away ด้วย to escape reality แล้วแทรกคำเชื่อม therefore มารวมสองประโยคเข้าด้วยกัน ในส่วนของประโยคหลัง เมื่อลองแทนที่คำว่า paradise ด้วย utopia ก็จะได้ประโยคที่เป็นทางการมากขึ้นอีกประโยคหนึ่งเลยละ
 

 
Original > Never mind, I'll find someone like you.
(Someone Like You - Adele)




IELTS >  Someone like you will be found by me
 
               ใครเขียนประโยคได้หลายแบบย่อมต้องได้เปรียบตอนสอบจริงไหมคะ เพลง Someone like you ของ Adele มีท่อนฮิตที่ร้องกันบ่อยๆ ว่า “Never mind, I'll find someone like you.” เป็นโครงสร้าง active voice ที่บ่งบอกว่าประธานเป็นผู้กระทำกริยา  ฉะนั้นเราอาจเรียบเรียงประโยคนี้ใหม่ในรูปของ passive voice ก็ได้ เช่น Someone like you will be found by me.   

Tips: น้องๆ สังเกตไหมคะว่า โครงสร้างประโยคทั้ง 2 แบบบอกเล่าเรื่องราวเดียวกันได้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้เขียนด้วยว่าต้องการเน้นจุดสนใจไปที่ผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ
 

 
Original > We haven't talked all morning.
(Kiss and Make Up - Dua Lipa & BLACKPINK)



IELTS  >  For the entire morning, we haven't engaged in conversation  at all.
 

               การกล่าวซ้ำ (paraphrasing) คือการเรียบเรียงความคิดของคนอื่นขึ้นใหม่ โดยใช้ภาษาของเราเอง  แล้วถ้าเราอยากนำเพลง Kiss and Make Up มาแปลงเป็นเวอร์ชัน    IELTS   บ้างล่ะ ว่าแล้วก็ยกท่อนแรกจากเพลงมาเลยค่ะ "We haven't talked all morning." เริ่มจากนำคำบอกเวลาอย่าง all morning มาวางต้นประโยคซะเลย แล้วเขียนใหม่ว่า For the entire morning...  จากนั้นแทนที่ “talked” ด้วย be engaged in conversation หมายถึง ร่วมบทสนทนาหรือชวนคุย สุดท้ายเติม at all ท้ายประโยค เพื่อเน้นความเข้มข้น เช่น He doesn’t know anything at all about computers. แปลว่า เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เลย
 

               เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเนื้อเพลงเวอร์ชั่น IELTS ที่นำมาเสนอกันในวันนี้ น้องๆ อย่าลืมลองนำเทคนิคไปปรับใช้กันดูนะคะ หากเตรียมตัวดีๆ รับรองว่าต้องได้แบนด์ตามที่หวังไว้แน่นอน ^^
 
Oxford-River Books English-Thai dictionary
พี่ไก่กุ๊ก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด