เล่าชีวิตเด็ก AFS อิตาลี: เมื่ออยู่ รร.อันดับ 2 ใน Veneto & เจอกฎโฮสต์ที่ทำให้ปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่!



 
         สวัสดีค่ะชาว Dek-D ตอนนี้โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS รุ่น 60 (ปี 2564-2565) กำลังเปิดรับสมัคร เราเลยอยากมาแชร์เรื่องราวของหนึ่งในเด็ก AFS อิตาลีที่น่าสนใจมากกก    ความพีคคือเขาได้เรียนในโรงเรียนอันดับ 2 ของแคว้น Veneto แถมเรียนเป็นภาษาอิตาเลียนล้วนๆ ทุกวิชา   และนอกจากรีวิวชีวิตการเรียนแล้ว ยังมีเรื่องวัฒนธรรมอาหารที่ไม่คุ้นเคย กับการตั้งกฎของโฮสต์ที่ช่วยให้ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ด้วย~    บอกว่าเป็นช่วงที่ทั้งเหนื่อย ท้าทาย และเต็มไปด้วยความประทับใจ  ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านเรีื่องราวแต่ละพาร์ตกันค่ะ :)
 
 

‘ณัฐ’ - ณัฐนันท์ หาญธนะสุกิจ


อายุ 18 ปี เด็กแลกเปลี่ยนที่อิตาลี
ในโรงเรียน Liceo Scientifico Galileo Galilei
แคว้น Veneto เมือง  San Donà di Piave
 


โหมดปรับตัวเรื่องภาษา
 

        “ปกติเราจะรู้โรงเรียนก็ต่อเมื่อได้โฮสต์แล้วครับ (โรงเรียนจะขึ้นอยู่กับว่าโฮสต์ที่รับเราเขาอยู่พื้นที่ไหน) อย่างผมได้มาอยู่ที่แคว้นเวเนโต (Veneto) แถวเมืองเวนิส (Venice) ช่วงว่าง 1 สัปดาห์ก่อนเปิดเทอม  โฮสต์เขาก็พาไปเที่ยวไปดูโรงเรียน เลยเห็นว่า Veneto ดูเป็นโซนที่สงบสุขมากๆ แถมผู้คนเฟรนด์ลี่และต้อนรับเต็มที่   ตลอดเวลาที่แลกเปลี่ยนผมได้ไปหลายที่มากทั้งทะเลที่ติดเมืองสโลเวเนีย (Slovenia) ดูคอนเสิร์ตแถวๆ มิลาน (Milan) ไปเที่ยวภูเขาแอลป์ (The Alps) และเมืองเมราโน (Merano) ฯลฯ ผมว่าอิตาลีเป็นประเทศที่เดินไปมุมไหนก็สวยไปหมด บ้านเมืองเขามีเสน่ห์มากๆ ครับ"


เมืองเวนิส
 

เมืองเวนิส
 
        “จริงๆ ก่อนออกเดินทาง AFS มีคอร์สภาษาอิตาเลียนให้เรียน 1-2 เดือนด้วย  เราต้องเรียนให้ครบตามกำหนดเพื่อให้มีเบสิกไปอยู่ที่นั่นได้ พอไปถึงช่วงแรกๆ คอร์สนั้นช่วยชีวิตได้จริงๆ   เรา พอจะสื่อสารได้ว่า ง่วงนะ, หิว, อยากเข้าห้องน้ำ, ถามเบื้องต้นกับโฮสต์ได้ แต่โฮสต์ก็กำหนดชาเลนจ์ให้ครับว่าหลังจาก 1 เดือนแรกต้องพูดภาษาอิตาเลียนให้มากที่สุด ถ้าไม่ได้จริงๆ ถึงจะให้พูดภาษาอังกฤษนิดนึง”
 
        กว่าภาษาจะลงตัวใช้เวลานานมั้ย? “เดือนแรกเริ่มเข้าที่เข้าทาง พอ 3 เดือนได้ระดับเบสิก จับคีย์เวิร์ดได้ว่าเขาคุยอะไรกับเรา วิธีของผมคือพยายามอย่าอยู่คนเดียว พยายามพูดกับคนอื่นเยอะๆ อีกอย่างผมได้คำแนะนำจากโฮสต์ให้หากิจกรรมนอกโรงเรียนทำด้วยครับ (มีหลากหลายมาก) สุดท้ายผมได้ลงคลาสร้องเพลง สนุกดีและได้ภาษาด้วย”



 

โรงเรียนอันดับ 2 ใน Veneto
เจอเนื้อหาสุดเข้มเป็นภาษาอิตาเลียน

 

        “ผมจะมีเรียนคณิต คอมพ์ วิทย์เคมี อังกฤษ พละ ประวัติศาสตร์ ภาษาอิตาเลียน ปรัชญา และฟิสิกส์ โดยเขาจัดตารางสอนให้เราได้เรียน 5 ห้อง เลยได้เจอเพื่อน 5 กลุ่มที่แตกต่างกันมากครับ เหมือนเป็นธีม แบบบางห้องเฟรนด์ลี่ คุยง่าย บางห้องเด็กเรียนมาก แต่บางห้องนี่กวนมากจนสงสารครูเลย 5555 (เรื่องนึงที่ชอบคือเขามีแอปฯ จัดการที่ดีมาก ขาดลามาสายขึ้นหมด  แถมถ้าขาดจะส่ง message บอกผู้ปกครองด้วย)
 
        “ในการเรียนทุกวิชาจะเป็นอิตาเลียนล้วนๆ ยกเว้นวิชาภาษาอังกฤษ แต่ก็มีครูบางคนพยายามยืดหยุ่น ถ้าไม่ไหวจริงๆ จะอะลุ่มอล่วยให้ครับ เพราะโรงเรียน  Liceo Scientifico Galileo Galilei เป็นอันดับ 2 ของ Veneto จุดเด่นคือวิชาการแน่นมากกก ถ้าวิชาคณิตจะยากมากครับ วิทย์เคมีก็พอต่อติดจากที่เคยเรียนมา แต่บางเรื่องอย่างภูมิศาสตร์ (Geography) ผมยังเรียนไม่ถึง  ”
 
        “แต่วิชาที่ชอบสุดคือภาษาอังกฤษ มันท้าทายนะ  โรงเรียนจะเน้น Grammar กับ Reading กันเยอะ แล้วนักเรียนที่อิตาลีเขาเก่งวรรณกรรมมากๆ   เวลาอ่านก็เน้นเข้าใจไม่ใช่ท่องจำ  จากที่ผมเคยคิดว่าภาษาอังกฤษตัวเองได้แล้ว แต่พอไปถึงจริงๆ เราไม่เท่าเขาเลย   ตอนสอบวรรณกรรมครั้งแรกผมได้ 4.5/10 เลยพยายามสปีดตัวเอง นั่งอ่าน 3-4 วัน เตรียมตัวล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ ค่อยๆ พยุงตัวเองมาเป็น 6.5/10”


Photo Credit:   nuovavenezia.gelocal.it

 

อาจดูเหมือนโฮสต์จะเฮี้ยบ

แต่จริงๆ อยากให้เราโตขึ้น
 

        “โฮสต์คือความทรงจำที่ดีมาก  ตอนแรกที่ไปเขาแทบไม่ตั้งกฎอะไรกับผมเลยครับ แต่ไปๆ มาๆ เขาอาจอยากให้ผมปรับพฤติกรรมบางอย่างเพื่อให้เราโตขึ้น เช่น ให้ใส่ชุดหนาๆ แทนการเปิดฮีตเตอร์ ตอนกลางคืนอย่าพูดเสียงดัง อย่าเล่นมือถือตอนทานข้าว จัดเวรทำงานบ้าน ซึ่งโฮสต์ mom เป็นคนละเอียดมากๆ ครับ การจัดการดีมาก ถ้าเกิดเราไม่มีระเบียบก็จะโดนตำหนิได้ เรื่องเวลาก็ยืดหยุ่นได้แต่เราแค่ต้องบอกเขาก่อน”
 
        “และสิ่งที่เคร่งมากคือต้องกินข้าวตรงเวลา ห้ามแอบกินก่อนหรือแยกไปกินคนเดียว (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เช่น คนอื่นไม่ว่างร่วมโต๊ะเวลานั้น) เวลากินข้าวห้ามใช้โทรศัพท์เด็ดขาด เป็นผลดีกับเราด้วย เพราะจะได้คุยกับคนอื่น แชร์ว่าเจออะไรมาบ้าง โดยมี topic คุยประจำวัน **แต่ต้องบอกว่าทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับโฮสต์นะ ข้อปฏิบัติบ้านอื่นอาจจะแตกต่างจากนี้”
 
        หลังจากนั้น... “กฎที่เขาทำให้เราซึมซับมาจริงๆ เมื่อก่อนผมหลุดตลอด เรียนไปไม่มีสมาธิ ติดโทรศัพท์ แต่ตอนนี้จัดการตัวเองดีขึ้น กำหนดเวลาแล้วหยุดได้ เขาจะบอกเราว่าต้องแบ่งเวลานะ ถ้าอยากทำอะไรให้มุ่งมั่นไปเลย ไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ แล้วพยายามทำให้ได้ด้วยตัวเอง อย่าหวังแต่พึ่งคนอื่น ซึ่งสังคมที่นั่นสอนให้พึ่งพาตัวเองจริงๆ ต้องพยายามให้ถึงที่สุดก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น”






ไปเที่ยวที่ Misurina, Belluno กับโฮสแฟมมิลี่ 
ได้ไปเจอหิมะและแอบชิมหิมะด้วย!


 

เรื่องที่ทำน้ำตาไหล...
 

        “เรื่องที่ประทับใจมากๆ คือตอนที่มีเหตุให้กลับประเทศกะทันหัน ผมบอกเขาว่าต้องกลับพรุ่งนี้นะ (ซึ่งเป็นวันเกิดผมพอดี) เลยได้รู้ว่าโฮสต์เขาเตรียมของขวัญวันเกิดรอไว้แล้วครับ T_T  สรุปคือวันนั้นได้จัดฉลองวันเกิดให้ล่วงหน้า 1 วัน   มีเปิดอัลบั้มภาพที่แอบถ่ายเราบางจังหวะเอาไว้ด้วย เห็นแล้วน้ำตาไหล ภายนอกที่เขาดูดุๆ จริงๆ เขารักเรามากครับ”



 

เม้าท์มอยเรื่องกิน & เที่ยว
(Homesick Foodsick)

 

        “ถ้าพูดถึงอิตาลีคือไม่พูดถึงอาหารไม่ได้เลย ส่วนตัวผมชอบพาสตา (Pasta) มากๆ ครับ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ พาสตาที่นั่นไม่ใส่ซอสมะเขือเทศ (ketchup) ถ้าเขาเห็นจะรู้สึกแปลกๆ ยิ่งถ้าเชฟเห็นคือโมโหเลยแหละ (ผมเคยทำเพราะลิ้นคนไทยจะชอบหวานๆ แล้วอร่อยดี แต่คนที่นู่นคือไม่เลย) คนอิตาเลียนจะรักวัฒนธรรมของเขามากๆ ไม่อยากให้ใครดัดแปลงสูตรอาหารของชาติเขา และก็จะชอบสนับสนุนแบรนด์ในประเทศด้วย แม้แต่แบรนด์อาหารที่เห็นๆ ส่วนใหญ่ก็แบรนด์ตัวเองทั้งนั้น”
 
        “ส่วนพิซซ่าจะเป็นอาหารโปรดของผมรองลงมาจากพาสตา    ความฟินคือเขาจะมีสูตรต้นตำรับของแต่ละพื้นที่เลยนะ แล้วโฮสต์ก็ใจดีมาก ไปหาสูตรแล้วทำมาให้ แต่ถ้าเป็นข้างนอกปกติจะขายแยกชิ้นละ 1.5 ยูโร ที่น่าตกใจคือคนอิตาเลียนจะชอบกินคนละ 1 ถาดใหญ่ๆ ซึ่งกินหมดด้วย 5555 ผมกินได้ 2 ชิ้นก็อิ่มแล้ว แต่เราเริ่มพัฒนาขีดความสามารถตัวเองในจุดนี้ แปลกที่ยังไม่อ้วนขึ้น (สงสัยระบบเผาผลาญอาจยังดีอยู่) อาจเพราะเน้นชีสไม่เน้นแป้ง ไม่ค่อยกินขนมปัง”


Salsiccia
พิซซ่าที่ชอบมากที่สุด ทุกคนต้องลอง!!

 
        “ส่วนบรรยากาศเทศกาลสำคัญๆ  วันฮาโลวีนของที่นี่คือเป็นเด็กเล็ก 4-6 ขวบใส่ชุดผีไปเคาะประตูบ้านคนอื่น แต่ถ้าโตแล้วจะอยู่ในบ้านกัน ถ้าวันคริสต์มาสก็เป็นวันหยุดยาว คนในบ้านช่วยกันตกแต่งต้นไม้ แล้วก็มีไปหาครอบครัวโฮสต์เพื่อฉลองด้วยกัน และที่พิเศษคือเวนิสจะเป็นเมืองศูนย์กลางของเทศกาล Carnevale (อ่านว่า คาร์เนวาเล่  นะครับ) เขาจะเฉลิมฉลองใส่หน้ากาก เดินขบวนพาเหรดสร้างสีสันให้ตัวเมือง”


เทศกาลคริสต์มาส


เทศกาล Carnevale


เทศกาล Carnevale


เทศกาล Carnevale



คำแนะนำถึงน้องๆ

ที่อยากไป AFS
 

        “ตอนสอบข้อเขียนแนะนำให้ทำข้อสอบเก่าครับ ผมขอจากรุ่นพี่มา 1-2 ชุด จะมีทั้ง Grammar, Reading, Conversation เน้นวัดความรู้ภาษาอังกฤษมากกว่าการสื่อสาร ถ้าผ่านจะมีสอบสัมภาษณ์ แบ่งเป็นสอบกลุ่ม เขาจะสังเกตการมีส่วนร่วมของเรา เราต้องแอคทีฟ มั่นใจ และเป็นตัวของตัวเอง พอช่วงบ่ายจะมีสัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวเรา เช่น อยากไปประเทศไหน? เพราะอะไร? มีพื้นฐานภาษาเขามั้ย? จึงควรทำการบ้านเกี่ยวกับประเทศเขา หรืออาจหัดพูดมาบ้างเล็กๆ น้อยๆ (ส่วนตัวผมไม่ว่าเขาจะถามไทยหรืออิ๊ง ผมก็ตอบเป็นอิ๊งครับ)”

        “สุดท้ายนี้อยากบอกว่า ตอนเขียนอีเมลหาโฮสต์ เขียนตามความจริงนะ 5555 เขาจะได้รู้ว่าเรานิสัยเป็นยังไง ชอบหรือไม่ชอบอะไร จะเป็นผลดีกับเรามากกว่าครับ”




[ เก็บข้อมูลกันต่อ ]

พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น