ศัพท์เป๊ะ-หน้าปัง! ถอด 5 เคล็ดลับ 'Skincare Routine' ฉบับเซเลบเกาหลี

          สวัสดีชาว Dek-D ที่น่ารักทุกคนค่า พอเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น น้องๆ หลายคนอาจจะเริ่มดูแลผิวหน้าตัวเองกันมากขึ้น และสำหรับใครที่เป็นมือใหม่สำหรับการใช้ Skincare เพื่อบำรุงผิวหน้า วันนี้พี่ปุณมีเคล็ดลับดีๆ จาก Irene Kim นางแบบสาวอเมริกัน-เกาหลี วัย 32 ที่มีดีกรีเป็นถึงบิวตี้บล็อกเกอร์ทั้งในด้านความงามและแฟชั่น    เธอได้เผยขั้นตอน Skincare Routine ในแต่ละวันของเธอลงในช่องของ Vogue เอาไว้ ซึ่งเคล็ดลับนี้ทำให้หน้าของเธอใสมากกกก น้องๆ คนไหนที่เป็นสาวกของเธอ    หรือมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับดูแลผิว ก็อย่ารอช้า ตามไปจดทิปส์ความงาม พร้อมเก็บคำศัพท์สายบิวตี้ที่อาจจะยังไม่รู้มาก่อน ว่าแล้วตามมาเลยค่าา!
 


What’s your skin type? ผิวเราอยู่ประเภทไหน


          ก่อนที่เราจะเลือกซื้อสกินแคร์หรือเครื่องสำอาง เราก็ควรจะทำความรู้จักกับสภาพผิวหน้าของตนเองก่อนค่ะ โดยสาวไอรีนเองก็ได้แนะนำไว้ว่า “Everything is not for everyone” ไม่ใช่ทุกอย่างที่จะเหมาะกับทุกคน เพราะคนเรามีสภาพผิวหน้าและมีปัญหาผิวที่ต่างกัน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดีสำหรับคนหนึ่งอาจจะไม่ได้ดีที่สุดสำหรับอีกคนก็ได้
 
ประเภทของผิวหน้าหรือสภาพผิว (Skin Types) สามารถแบ่งได้เป็น 7 ประเภทหลัก ได้แก่
 

- Normal Skin ผิวธรรมดาหรือที่เรามักจะเรียกกันว่า Dewy Skin ซึ่งเป็นผิวที่นุ่ม ยืดหยุ่น และรูขุมขนละเอียด

- Sensitive Skin ผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย ผิวประเภทนี้จะมีความไวต่ออิทธิพลของสิ่งแวดล้อม เมื่อเจออากาศแห้ง ฝุ่น หรือความร้อน ผิวก็มักจะถูกทำลายโดยง่าย 

- Combination Skin ผิวผสม คือผิวที่มีการผสมผสานระหว่างผิว 2 ประเภท คือผิวปกติไปจนถึงผิวแห้งหรือมัน ผู้ที่มีผิวผสมมักจะพบรอยด่างดำบริเวณหน้าผาก จมูก หรือคาง และมีแนวโน้มการเกิดสิวหัวดำหรือสิวเสี้ยน (Blackheads) มากกว่าผิวชนิดอื่นค่ะ

- Oily Skin ผิวมัน การที่ผิวหน้าของเรามีความมันอยู่ตลอดเวลาทำให้ง่ายต่อการเกิดสิวทุกประเภท อีกทั้งยังทำให้- รูขุมขนกว้างอีกด้วย 

- Dry Skin/ Dehydrated Skin ผิวแห้ง ผิวประเภทนี้มักจะแห้งตึงและมีความหยาบกร้าน ซึ่งนั่นเป็นเพราะผิวขาดทั้งความชุ่มชื้นและไขมัน!

- Acne prone skin ผิวมันเป็นสิวง่าย เป็นหนึ่งในประเภทของผิวที่มีความมันและมีปฏิกิริยาต่ออิทธิพลภายนอก ความเครียด หรือฮอร์โมนสูงและไวมาก เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายหรือเมื่อผิวเจอสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้เกิดสิวได้ทันทีเลยค่ะ

- Aging Skin ผิวแก่ก่อนวัย ลักษณะโครงสร้างของผิวหนังของเราก็มักจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อเซลล์บนใบหน้ามีประสิทธิภาพในการทำงานลดลงจึงทำให้ผิวแก่ก่อนวัยและเกิดริ้วรอยได้ง่ายๆ เลยค่ะ
 

          ด้วยสภาพผิวที่ต่างกัน ทำให้แต่ละคนมีวิธีการและตัวช่วยในการดูแลผิวที่แตกต่างกันออกไป เมื่อน้องๆ รู้จักกับผิวของตัวเองมากขึ้นแล้ว ก็ไปเริ่มปฏิบัติการกำจัดปัญหาผิว ลดริ้วรอย บำรุง ยกกระชับ ไปกับพี่และไอรีน คิมได้เลยค่ะ!

 
Step 1 Wash your face 
  ล้างใบหน้าให้สะอาด!
 
Photo credit:   VOGUE
 
          ขั้นตอนแรกก่อนการบำรุง เราต้องทำความสะอาดเพื่อล้างสิ่งสกปรก คราบมัน และเครื่องสำอางออกจากใบหน้าค่ะ และตัวช่วยหลักๆ ในขั้นตอนนี้คือเคลนซิ่ง (Cleansing) และเคลนเซอร์(Cleanser) ค่ะ เห็นเขียนคล้ายกันแบบนี้อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าคือตัวเดียวกันนะคะ เพราะทั้ง 2 สิ่งมีวิธีใช้แตกต่างกันค่ะ
 
-        Cleansing: ใช้เช็ดทำความสะอาดผิวในวันที่ต้องแต่งหน้าหรือทาครีมกันแดด เพื่อให้รูขุมขนไม่เกิดการอุดตันนั่นเอง ซึ่ง Cleansing ก็จะมีรูปแบบหลักๆ 3 แบบคือแบบน้ำ (Water) แบบน้ำมัน (Oil) หรือแบบโลชั่น (Lotion) 

-        Cleanser หรือเรียกอีกอย่างว่า Face wash จะใช้หลังจากขั้นตอนด้านบนเพื่อช่วยล้างเอาคราบสิ่งสกปรกที่เหลืออยู่ออกไปค่ะ

Note คำศัพท์!

Pore (n.) รูขุมขน
Ex. I have large pores on my face, mostly on my cheeks and nose.
ฉันมีรูขุมขนบนใบหน้ากว้าง โดยเฉพาะบริเวณแก้มและจมูก

 
Step 2 Bind moisture skin with ‘Toner’ 
  เพิ่มความชุ่มชื้นด้วยโทนเนอร์

 
Photo credit:   VOGUE
 
          หลังจากล้างหน้าแล้ว เราก็เข้ามาสู่ขั้นตอนแรกของการดูแลผิวกันอย่างจริงจังนั่นก็คือการใช้โทนเนอร์ (Toner) ซึ่งจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างหลังการล้างหน้าอีกหนึ่งที นอกจากนี้ยังจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูระดับความสมดุลค่า pH ของผิวหน้าอีกด้วย 
 
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของโทนเนอร์ประกอบด้วย

-        Toner: ใช้เช็ดทำความสะอาดหลังการล้างหน้า มักจะมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ น้ำมันหอมระเหย และสารสกัดที่ช่วยบำรุงฟื้นฟูผิว

-        Astringents (แอสทริงเจนท์) หรือที่เราเรียกกันว่า ‘สารฝาดสมาน’ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขนบนใบหน้า ลดขนาดรูขุมขน และควบคุมความมันบนใบหน้า

-        Fresheners: ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น มีคุณสมบัติคล้าย Astringents แต่จะไม่มีแอลกอฮอล์เจือปนอยู่เลยค่ะ
 
Note คำศัพท์!

Extract (v.) สกัด บีบ คั้น, (n.) สารสกัด
Ex. Botanical extracts are usually used in skincare products to soothe your skin.
สารสกัดจากธรรมชาติมักถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อปลอบประโลมผิว
 
Essential oil (n.) น้ำมันหอมระเหย
Ex. Essential oils can relieve headaches and migraines.
น้ำมันหอมระเหยสามารถบรรเทาอาการปวดศีรษะและไมเกรนได้
 
Moisturize (v.) ทำให้ชุ่มชื้น
Ex.  Before going to bed, she moisturizes her skin with the skincares to avoid dryness.
ก่อนนอน เธอจะเพิ่มความชุ่นชื้นให้กับผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อไม่ให้ผิวแห้ง

 
Step 3 Take ‘Serum’ to penetrate more deeply 
 เซรั่ม! ช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก


Photo credit:   VOGUE
 
          เซรั่ม (Serum) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก มีเนื้อสัมผัสบางเบา และมักจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยคุณสมบัติเด่นของเซรั่มก็คือความบางเบาและการฟื้นบำรุงแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุดได้โดยตรง เซรั่มจึงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ช่วยดูแลผิวอย่างล้ำลึกและมีประสิทธิภาพมากๆ เลยค่ะ ซึ่งสำหรับไอรีนแล้ว เซรั่มที่เธอเลือกใช้จะแปรเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศและมลภาวะที่เธอต้องเจอในแต่ละช่วง โดยตัวเซรั่มเองก็จะมีหลายสูตร หลายประเภท อย่างเช่น
 
-        Hydrating Serums ซึ่ง Hydrate ก็คือสารประกอบที่มีโมเลกุลของน้ำอยู่ด้วย จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเหมาะกับผู้ที่มีสภาพผิวแห้งค่ะ

-        Skin-Brightening Serums จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำและความหมองคล้ำ เหมาะจะใช้ในวันที่ต้องไปเจอฝุ่นหรือมลภาวะมากๆ ค่ะ เพราะเซรั่มประเภทนี้จะช่วยฟื้นฟูและทำให้ผิวกลับมากระจ่างสดใสอีกครั้ง
 
Note คำศัพท์!

Exfoliate (v.) ลอกหรือนำเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก, ผลัดเซลล์ผิว
Ex. Exfoliating serums can clear up acne, improve skin texture, and smooth wrinkles.
เซรั่มผลัดเซลล์ผิวจะช่วยกำจัดสิว ฟื้นฟูผิวหน้า และลดเรือนริ้วรอย
 
Wrinkle (v.) ย่น ทำให้เป็นรอยย่น, (n.) ริ้วรอยบนใบหน้า
Ex. The young men looked like old people because their flesh was so full of wrinkles.
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของชายหนุ่มทำให้เขาดูเหมือนคนแก่

 
Step 4 Improved and shined by ‘Face Mask’ 
 ฟื้นฟูไว กระจ่างใสด้วยมาสก์

 

Photo credit:   VOGUE
 
          ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ปังที่สุดเลยค่ะ! เพราะการมาสก์หน้า (Face mask) เป็นการฟื้นฟูทุกสัดส่วนของผิวหน้าในคราวเดียว เนื้อมาสก์จะช่วยกระตุ้นให้ผิวของเราได้รับออกซิเจนมากกว่าปกติ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้นในทันที นอกจากนี้มาสก์ยังมักจะมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติอย่างมินต์หรือโรสแมรี่ที่มีกลิ่นหอม ช่วยผ่อนคลายได้อีกด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไปเลยยย

Beauty Tip:    ในเนื้อมาสก์มักมีสารสกัดที่มีความเข้มข้นมาก ซึ่งสารนี้อาจไปทำลายผิวบริเวณที่มีความบอบบางอย่างบริเวณรอบดวงตาจนเกิดรอยแดงหรือผดเม็ดเล็กๆ ขึ้นมาได้ ดังนั้นก่อนจะมาสก์หน้า เราจึงควรหาตัวช่วยอย่าง Eye gel หรือ Eye cream ทาไปบริเวณรอบดวงตาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแห้ง แพ้หรืออาการระคายเคืองค่ะ
 
Note คำศัพท์!
 
Delicate (adj.) ละเอียดอ่อน ไวต่อความรู้สึก
Ex. People who have delicate skins should always wear sunscreen.
คนที่มีผิวละเอียดอ่อนแพ้ง่ายควรทาครีมกันแดดเป็นประจำสม่ำเสมอ
 
Rehab/ Rehabilitation (n.) การบำบัดฟื้นฟู การทำให้กลับสู่สภาพเดิม
Ex. This skin rehab product can help you soothing your sensitive skin in two weeks.
ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวตัวนี้จะฟื้นฟูและปลอบประโลมผิวที่บอบบางของคุณให้ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์

 
Step 5 Applying ‘Moisturizer’ to keep skin from drying out 
ไม่แห้ง ไม่พัง ผิวปังด้วยมอยส์เจอไรเซอร์!



Photo credit:   VOGUE
 
          ขั้นตอนการบำรุงผิวลำดับสุดท้ายที่ขาดไม่ได้! เพราะทั้งปัจจัยความเครียด อายุ และสภาพแวดล้อม มักทำให้ผิวหน้าของเรามีการเปลี่ยนแปลง ผิวแห้งบ้าง เป็นขุยบ้าง มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดอาการที่เรียกว่า ‘ผิวขาดน้ำ’ ที่มักเกิดขึ้นกับคนที่มีผิวมันมากอีกด้วยค่ะ และสาวไอรีนยังบอกอีกนะคะว่าวันไหนที่เธอต้องออกจากบ้านไปเจอฝุ่น เจอแดดหนักๆ มอยส์เจอไรเซอร์นี่แหละค่ะที่ช่วยให้ผิวของเธอกลับมาสดใสได้อีกครั้ง!
 
Note คำศัพท์!
 
Epidermis (n.) ผิวหนังชั้นนอก หนังกำพร้า
Dermis (n.) หนังแท้
Membrane (n.) เยื่อบุผิว เยื่อหุ้มเซลล์
Ex. Structurally, the skin consists of epidermis, dermis and basement membrane zone.
โครงสร้างของผิวประกอบด้วยผิวหนังชั้นนอก หนังแท้ และส่วนที่เป็นเยื่อบุผิว
 

 
            Skincare แต่ละประเภท แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติในการดูแลผิวแตกต่างกันออกไป น้องๆ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวหน้าของตนเองเพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุดในการบำรุงและฟื้นฟูผิวของเราค่ะ แต่นอกจากการใช้ Skincare แล้ว การดื่มน้ำสะอาดวันละ 1 – 2 ลิตร การดื่มน้ำผลที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง หรือน้ำมะเขือเทศ และการพักผ่อนให้เพียงพอ ยังเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยบำรุงผิวใสจากภายในในแบบธรรมชาติอีกด้วยค่ะ :)
 
Sources: 
https://www.youtube.com
https://health.howstuffworks.com
https://int.eucerin.com
https://discovergoodnutrition.com
https://dictionary.cambridge.org
พี่ปุณ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น