เปิดใจ 'ชอลซู-จางโฮ' คู่รักยูทูบเบอร์เกาหลี กับการ come out ท่ามกลางสังคมที่ยังไม่เปิดรับ!

         อันยองครับชาว Dek-D … น้องๆ ทราบหรือเปล่าครับว่าเดือนมิถุนายนของทุกปีนั้นเป็นเดือน Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศทั่วโลก   และเนื่องในโอกาสเดือนแห่ง LGBTQI+ ทั้งที วันนี้ พี่วุฒิ มีบทสัมภาษณ์น่ารักๆ ของคู่รักเกย์เกาหลีคู่นึงที่ได้เปิดตัวออกสื่อสาธารณะ ซึ่งเรียกว่าการ come    out ออกมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าที่เกาหลีนั้นยังไม่ยอมรับเรื่องความหลากหลายทางเพศมากนัก (ค่อนข้างไปทางมากๆๆๆ) 
 
        ว่าแต่มีน้องๆ คนไหนเคยติดตามช่อง Channel Gim Cheolsoo มาก่อนบ้างมั้ยครับ? แชนเนลนี้ถ้าดูผิวเผินอาจจะเหมือน Vlog ของยูทูบเบอร์คู่รักทั่วไปที่มีการถ่ายทำแบบสารคดี เล่าเรื่องราวกิจวัตรชีวิตประจำวันของตัวเองผ่านวิดีโอ แต่ถ้ามองถึงในบริบทของสังคมเกาหลีแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายมากสำหรับ ‘ชอลซูและจางโฮ’ สองหนุ่มคู่รักที่ได้สร้างคอนเทนต์วิดีโอของตัวเองขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดทั้งเรื่องราวความรัก พูดคุยปัญหาเรื่องเพศ รวมถึงแมวที่พวกเค้าเลี้ยง    และอัปโหลดลงในแชนเนลยูทูบจนตอนนี้มีผู้ติดตามเกือบ 2 แสนคนแล้ว แน่นอนว่าระหว่างทางก็อาจไม่ได้ง่ายนัก ทั้งคู่จึงได้เปิดใจในการสัมภาษณ์ลงในบล็อก 사소한 인터뷰 บนเว็บไซต์ชื่อดังของเกาหลีอย่าง Naver เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงกล้าที่จะ coming out เปิดตัวออกมาท่ามกลางสังคมที่ยังไม่เปิดรับความรักรูปแบบนี้ และนอกจากเผยเรื่องราวความรัก ยังมีมุมมองของครอบครัวและสังคมเกาหลีอีกด้วย ไม่รอช้า ตามมาหาคำตอบพร้อมกันเลยครับ 
 
 

จางโฮ (ซ้าย)  และ  ชอลซู (ขวา)
 
        “สำหรับผม จางโฮเหมือนวันสบายๆ ในช่วงฤดูร้อน เป็นสถานที่ให้พักพิงในวันที่แสงแดดอุ่นๆ ส่องมาจากบนท้องฟ้า มันรู้สึกสดชื่น ในขณะที่ผมนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น แต่งแต้มด้วยความเศร้าหมอง และเค้าเป็นคนเดียวที่ฉุดผมขึ้นมาจากจุดนั้น” ชอลซูได้นิยามถึงแฟนหนุ่มของตัวเอง เช่นเดียวกับจางโฮก็ได้นิยามถึงคนรักของตัวเองว่า    “ชอลซูเป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่ในทุ่งหญ้ากว้าง ผมรู้สึกผ่อนคลายเวลาที่อยู่เคียงข้างเค้า และชอลซูก็เป็นคนที่สุขุมและมีความรับผิดชอบสูง เค้าเลยเป็นเหมือนเสาหลักในชีวิตผม”
 
ชอลซู: “มันเริ่มจากจุดที่ผมรู้สึกว่าคนที่เป็นเกย์ในเกาหลีมักถูกเลือกปฏิบัติจากสังคม และผมเองก็มีประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกสิ้นหวังมากๆ จนไม่สามารถบรรยายความเจ็บปวดออกไปได้ เมื่อตัวเองไม่สามารถสารภาพความรูสึกกับคนที่ผมชอบ  จากนั้นมันก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้ที่ให้ผมรู้สึกเหมือนโดนฆ่าให้ตายไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมันก็ติดอยู่ในใจมาตลอดตั้งแต่ตอนที่ผมเป็นเด็ก เพราะผมเคยต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมเป็นเกย์อยู่ตลอดแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นการทำแชนเนลบน Youtube จึงเป็นทางเลือกที่ผมจะเปิดเผยตัวตนออกไปครับ”
 
ชอลซู: “ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ชอบเรียกร้องความสนใจอยู่ตลอดเวลา (ฮา) มันมีอยู่ครั้งนึงตอนที่ผมเรียนอยู่ม.2 ผมเคยป่าวประกาศไปว่า "ผมเป็นเกย์" หลังจากนั้นก็เลยรู้สึกมันยากมากที่จะปฏิเสธตัวเองว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น และผมก็ไม่สามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้แน่ๆ ถ้าไม่หาทางออกมาให้ตัวเองสบายใจที่สุด และนั่นก็เป็นวิธีที่ทำให้ผมพยายามอย่างมากที่จะ come out ออกมา”
 
จางโฮ: "ความจริงแล้ว แชนเนลนี้ชอลซูเป็นคนสร้างคนเดียวครับ คือตอนแรกผมเป็นแฟนคลับเค้าตั้งแต่ช่วงที่เปิดช่องช่วงแรกๆ ซึ่งหลังจากที่ได้ดูคลิปของเค้า ผมก็รู้สึกว่าได้รับแรงบันดาลใจและรู้สึกว่าชอลซูนั้นดูเท่มากเลยเวลาที่เค้าพูดออกมาว่าตัวเองเป็นเกย์ ในตอนนั้นผมอายุ 26 ปี และยังมีความคิดปฏิเสธตัวเองอยู่เลยครับ ผมก็เลยคิดว่าอยากที่จะเปิดเผยตัวเองออกมาได้อย่างมั่นใจแบบเค้า และต้องการที่จะให้กำลังคนที่เป็นเหมือนผม และหลังจากนั้นชอลซูเค้าได้จัด fanmeeting สำหรับคนที่ติดตามในช่วงแรกๆ ผมก็ได้มีโอกาสได้เจอและบอกเค้าว่าอยากมาออกวิดีโอของเค้าบ้าง จากนั้นเราก็เลยสนิทกันและก็พัฒนาความสัมพันธ์จนเป็นแฟนกันครับ”
 
ชอลซู: “ทุกครั้งที่ผมจะทำคอนเทนต์อะไรก็ตาม ผมมักคิดเสมอว่าเมื่อเราเป็นกลุ่มคนหลากหลายทางเพศในเกาหลี มันเหมือนเป็นเรื่องที่มาจากต่างแดน หรืออะไรที่ไกลตัวออกไปมากๆ ไม่ได้อยู่รอบตัวผู้คนทั่วไป เพราะบางครั้งผู้คนก็ไม่ได้คิดว่าเราเป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเค้าด้วยซ้ำ ดังนั้น ผมจึงอยากที่จะโชว์เรื่องราวของคู่รักเกย์รอบตัวเรา ซึ่งพวกเค้าก็ใช้ชีวิตเหมือนกับคนทั่วไปนี่แหละ ผมต้องการเผยสิ่งที่ผมเป็น และสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่”
 


 
มันคงจะดีถ้าเราเปลี่ยนความคิดคนเกาหลีได้ 
 
ชอลซู: "ในทุกๆ วันพุธ ผมจะมี live stream บนช่อง แล้วมีอยู่ครั้งนึงซึ่งจำได้ไม่เคยลืมเลย ผมได้พูดคุยกับ Transgender เป็นหญิงข้ามเพศคนนึง เธอทำงานอยู่ในแวดวงการบันเทิง ซึ่งเธอเองเผยว่ามีช่วงเวลาที่ยากลำบากจากการเผชิญความคิดเห็นพูดจาแย่ๆ รวมถึงคำดูถูกมากมายจากโลกอินเทอร์เน็ต เธอบอกว่า เธอต้องการเพียงคำปลอบโยนและกำลังใจเพียงเท่่านั้น จึงพยายามที่จะหาคนที่เข้าใจเธอ เรื่องเล่าของเธอในวันนั้นเป็นสิ่งที่ผมจำได้ไม่ลืมเลยว่ามันเศร้าขนาดไหน"
 
จางโฮ: “จากการทำแชนเนลนี้ ผมมีเรื่องราวประทับใจมากๆ เรื่องนึง ตอนนั้นมีคุณแม่ของนักเรียนม.ต้น ได้มาเล่าให้เราฟังว่า เธอเองเคยมีความคิดลบๆ กับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ และครั้งนึงลูกชายของเธอได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็ไม่รู้จะเล่ายังไงและปฏิเสธที่จะพูดถึง แต่หลังจากที่ได้ดูแชนเนลของพวกเรา คุณแม่คนนั้นได้เปิดมุมมองใหม่ๆ มากขึ้นเกี่ยวกับความรักรูปแบบนี้ เธอได้เลิกอคติและเธอก็นำเรื่องราวของพวกเราไปเล่าให้ลูกชายของเธอฟังด้วย ข้อความของเธอทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งมากๆ ครับ” 
 

Clip


 
"เพราะความรักก็คือความรัก และไม่ได้จำกัดว่าต้องเกิดกับเพศไหน
เราอาจมีนิยามความรักมากมาย แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อสุดท้ายมันก็คือความรักเหมือนกัน"

 
'ครอบครัว' กับการ come out

ชอลซู: "จริงๆ มันก็ไม่ใช่ทุกครอบครัวที่จะยอมรับได้ง่าย แต่พี่สาวของผมก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายนะตอนที่เริ่มทำช่องนี้ขึ้นมา เธอกลับถามเพียงว่า 'ทำไมมีคนกดติดตามเยอะจังล่ะ' และ 'ทำไมมีแต่คอมเมนต์คนต่างชาติอ่ะ?' และเธอก็เอาช่องของผมไปโฆษณาต่อให้คนอื่นตามไปดูด้วยครับ ㅋㅋㅋ ผมเองมีหลานสาว เธอได้บอกว่าให้ดูแลจางโฮดีๆ ส่วนพ่อของผมอ เค้าไม่ได้สนใจเลยครับ มีครั้งนึงผมเคยเปิดวิดีโอให้เค้าดู และพ่อก็ตอบมาว่า 'อื้มมม' (หัวเราะ)"
 
จางโฮ: ส่วนผมเองก็เคยเปิดให้แม่ดูเหมือนกันครับ และหลังจากที่เธอได้ดูก็ตอบกลับมาว่า 'ทำไมห้องรกขนาดนั้นล่ะ รีบทำความสะอาดแล้วถ่ายใหม่ซะ ไม่รู้สึกเขินบ้างหรือไงที่มีคนต่างชาติดูเยอะขนาดนี้!!' จะเป็นทำนองนี้มากกว่าครับ (หัวเราะ) ถึงแม้จะดูบ่น ดูเหมือนไม่ยอมรับเต็มที่ แม่ผมเค้าก็ซื้อพวกอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำหรือตัดต่อให้พวกเราด้วยครับ :)" 
 
ชอลซู: "ผมสารภาพกับพี่สาวตัวเองว่าผมเป็นเกย์ ตอนช่วงที่ผมได้พักเบรกจากค่ายทหาร พวกเรายืนอยู่บนถนน และเมื่อผมบอกออกไป พี่สาวก็ทำเพียงแค่ดึงผมเข้าไปกอด ส่วนพ่อของผมก็เพิ่งรู้หลังจากที่ผมออกจากกรม ผมคิดว่าเค้าเองก็รูัสึกตกใจแต่พ่อผมไม่แสดงอาการออกมาเลย แต่บอกผมเพียงว่า ให้รีบหางานทำให้ได้ก่อน จากนั้นอยากจะทำอะไรก็ตามใจตัวเองเลย ผมก็เลยคิดว่า เค้าน่าจะห่วงเรื่องอนาคตของผมในฐานะลูกมากกว่าผมเป็นเพศอะไร"
 
จางโฮ: "ผมเปิดตัวกับแม่และน้องชาย พวกเขาก็เลยถามว่า ผมมีแฟนเหรอ? ผมก็เลยเปิดแชนเนลนี้ให้พวกเขาดูแล้วก็ช็อกมาก ทั้งแม่และน้องก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าผมมจะเป็นเกย์ ซึ่งในตอนแรกแม่ได้ตอบกลับมาว่า ผมไม่ใช่ลูกของเธออีกต่อไป แต่ในสุดท้ายแม่ก็ยอมรับในสิ่งผมเป็น อาจจะเป็นเพราะว่าแม่ก็รู้จักความรักในรูปแบบเกย์มาก่อน ก็เลยพยายามทำความเข้าใจได้ง่ายครับ แต่ถ้าไม่รู้มาก่อนเลย ผมก็อาจต้องใช้เวลาในการทำให้แม่ยอมรับมากกว่านี้"
 

 
คอมเมนต์เกลียดชังจากเนติเซน 

ชองซู: "หลังจากทำแต่ละคลิปเผยแพร่อออกมา คอมเมนต์ส่วนใหญ่ก็มีทั้งบวกและลบ แต่ผมจะไม่ค่อยอ่านความคิดเห็นที่แสดงความเกลียดชังเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่าส่วนใหญ่ก็คงเป็นคำพูดร้ายแรงที่สร้างบาดแผลในใจได้ และบางทีพวกเขาก็เชื่อมโยงไปถึงเรื่องศาสนา คัมภีร์ไบเบิล รวมถึงเรื่องโรคเอดส์อีกด้วย แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดเหล่านั้นครับ แต่จางโฮจะกลับกัน แม้ว่าจะมีร้อยคอมเมนต์ดีๆ แต่ถ้ามีสักความเห็นที่แย่ เขาจะรู้สึกแย่ตาม และพูดประมาณว่า 'ผมควรทำอย่าไงดีนะ?' "
 

Clip


ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังจากทำแชนเนล Youtube

ชอลซู: "ผมคิดว่ามันเปลี่ยนโลกแห่งความจริงของผู้ชายที่ชื่อกิมชอลซูไปเลยครับ ผมรู้สึกภูมิใจในความคิดของตัวเอง เพราะถ้าผมไม่ผลักดันตัวเองมาถึงตรงนี้ ก็คงจะเป็นกิมชอลซู ผู้ชายวัย 31 ปีที่ดูจากสายตนคนทั่วไป คงเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต และไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในชีวิตตัวเอง ผมจึงรู้สึกขอบคุณมากๆ ที่เกิดมาเป็นเกย์ และได้มาทำช่องของตัวเองและได้รับความสนใจมากขนาดนี้ และผมก็รู้สึกซาบซึ้งมากๆ ที่มีคนชื่นชอบเราทั้งสองคนครับ"
 
จางโฮ: "ผมได้พบกับชอลซูในช่วงที่ผมกำลังเตรียมตัวเพื่อเป็นตำรวจ แต่ตอนนี้ผมได้มาทำ Youtube กับเค้า ดังนั้น ชีวิตผมเรียกว่าเปลี่ยนไปแบบ 180 องศาเลยครับ ซึ่งมันก็เป็นชีวิตธรรมดาๆ แบบคนทั่วไป และผมเองก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่สามารถไปไหน ทำอะไรก็ได้แบบเป็นตัวเอง และสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองและพูดเพื่อให้กำลังใจคนอื่นที่อาจจะเคยมีความรู้สึกแบบเดียวกับผมได้"
 
What is Love?  
사랑이란 뭘까요?

จางโฮ: "ผมมองความรักแบบง่ายๆ เลย ถ้าผมไม่เห็นมัน ผมก็ต้องการที่เห็นมัน และก็คงจะคิดถึงและเฝ้ารอแต่มันครับ (ชอลซู: มันเป็นคำตอบที่น่าเบื่อมากกก 555) ผมคิดว่ายิ่งเราเจอกันมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรักกันมากขึ้น และผมคิดว่ามันเป็นความรักที่แตกต่างไปจาากตอนแรกที่เริ่มคบกัน เพราะวันนี้ผมรู้สึกได้ว่ามันเป็นความรักแบบครอบครัว"
 
ชอลซู: "ผมคิดว่าความรักคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ แล้วก็มันเหมือนเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นประจวบกับเวลาแห่งโชคชะตาที่ผมได้เจอกับจางโฮ นั่นก็คงเป็นสาเหตุที่ตอนนี้ เค้าอยู่ตรงนี้ข้างๆ ผม และก็ได้มาทำ Youtube ด้วยกันครับ"
 

 
“ผมมีความสุขที่สุดเมื่อตอนที่ผมได้นอนใช้แขนและขากอดตัวของชอลซู”
“บ้านของเราอยู่บนชั้นดาดฟ้า เพียงแค่มีจางโฮและแมวของเรานอนด้วยกัน
ภายใต้แสงแดดอบอุ่นในยามบ่าย แค่นั้นก็มีความสุขแล้วครับ” 

 
          ก่อนหน้านี้พี่เคยได้ดูช่องของทั้งคู่ก็รู้สึกว่าน่ารักมากๆ แล้ว พอได้อ่านบทสัมภาษณ์อีกก็ยิ่งรู้สึกถึงความรักและทัศนคติดีๆ ของทั้งคู่มากขึ้นไปอีก และก็ชื่นชมมากๆ ที่พวกเค้านั้นคอยให้กำลังใจและคอยผลักดันให้กับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศที่ได้รับความเจ็บปวดจากความกดดันละการไม่ยอมรับจากสังคมเกาหลีให้กล้า come out เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ไม่แน่ในอนาคตมุมมองและความคิดของคนในประเทศอาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็ได้นะครับ
 
         สุดท้ายถ้าอยากติดตามทั้งคู่ก็กด subscribe ได้ที่ช่อง 채널 김철수 CHANNEL GIMCHEOLSOO รวมถึงไอจี  @cheolssoo    ของชอลซูและจางโฮกันได้นะครับ แมวของพวกเค้าน่ารักมากกกกก   Happy Pride Month ครับทุกคน :D
 

 

 
Source
https://m.blog.naver.com/PostView.nhn?blogId=talktalktv&logNo=221524211099&navType=tl
พี่วุฒิ
พี่วุฒิ - Columnist มนุษย์ 4 มิติผู้หลงใหลในเพลงเกาหลี ชาเนสที และหมูกระทะ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

TARA22 Member 23 มิ.ย. 63 21:36 น. 1

...ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ..ไม่ว่าจะเพศไหนเราก็มีความรักได้เหมือนกันเพราะการที่เราชอบใครสักคน มันไม่ได้มีขีดหรือข้อจำกัด ว่าต้องเป็นหญิงหรือชาย หากเพียงแต่เรารู้สึกว่า...อยู่ด้วยแล้วรู้สึกดี... รู้สึกสบายใจ...และเรายิ้มง่ายเวลาอยู่กับเขา..นั่นแหละมันคือรักบริสุทธิ์...

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน

กำลังโหลด
กำลังโหลด