สวัสดีค่ะชาว Dek-D ทุกคน ตำนานหรือเทพนิยายถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่มีความหลากหลายและเต็มเปี่ยมไปด้วยมุมมองทางประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรม แม้แต่ชื่อตัวละครหรือเทพปกรณัมเองก็ยังซ่อนเรื่องราวน่าค้นหาอยู่ภายใน แถมยังมีความหมายลึกซึ้งกินใจจนใครหลายคนต้องหยิบยกเอาไปใช้เป็นชื่อของตัวเอง ชื่อลูก ชื่อสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่ชื่อของตัวละครเด็กดีก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ 
 

         วันนี้ พี่ปุณ และ English Issues ก็ได้คัด 20 ชื่อภาษาอังกฤษที่มีที่มาจากเทวตำนานมาให้น้องๆ ได้จับจองกัน แต่ละชื่อก็คือทั้งเพราะและมีความหมายสุดพีค ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีชื่อไหนโดนใจน้องๆ บ้าง!
 

Photo credit: https://www.curiouskeeda.com
 

         ต้องบอกก่อนค่ะว่าหลายชื่อสามารถเป็นได้ทั้งชื่อผู้ชายและชื่อผู้หญิง แต่ในที่นี้พี่จะขอแบ่งเป็นชื่อผู้ชายและผู้หญิงตามแบบภาษาดั้งเดิมนะคะ
 

         ‘แองกัส’ เป็นชื่อที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเทพเจ้าแห่งความรักและความเยาว์วัยในตำนานเคลติก (Celtic) ชื่อนี้มีความหมายว่า ‘ความแข็งแรง’ ฟังแล้วก็รู้สึกถึงความมีพลังเหมาะจะเอามาตั้งชื่อสุดๆ
 

         ‘เดมอน’ มีที่มาจากศัพท์ภาษากรีก ‘damazo’ ที่มีความหมายว่า ‘ทำให้สงบลงหรือทำให้เชื่อง’ ในตำนานเทพเจ้ากรีก เดมอนเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีทั้งความเสียสละและความซื่อสัตย์ ขนาดชีวิตที่ว่ามีค่าเขายังยอมสละให้เพื่อนรักอย่าง Pythias (ไพเธียส) ได้เลยค่ะ ชื่อนี้ฮิตถึงขนาดที่ว่าเหล่าคนดังทั้ง Damon Wayans และ Matt Damon ยังเอาไปตั้งเป็นชื่อและนามสกุลกันเลย
 

         ชื่อนี้ก็จะมีความยูนีคอยู่หน่อยๆ ‘เฟานัส’ แปลว่า ‘การผูกมิตรไมตรี’ มีที่มาจากชื่อของเทพเจ้าแห่งเกษตรกรรมและความอุดมสมบูรณ์ ใครที่อยากมีกินมีใช้ไม่ขาดมือก็ลองเอาชื่อนี้ไปใช้เป็นชื่อตัวเองได้เลย
 

         ‘เฮกเตอร์’ เป็นชื่อของวีรบุรุษในตำนานกรีกโบราณที่ได้เข้าร่วมสงครามกรุงทรอย เขาเป็นหนึ่งในนักรบที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเก้าผู้ยิ่งใหญ่ (The Nine Worthies) ที่เปี่ยมไปด้วยเกียรติยศและความกล้าหาญ นอกจากชื่อนี้จะมีประวัติที่น่าสนใจแล้ว ก็ยังมีความหมายดีๆ ที่แปลว่า ‘การถือครองหรือการคว้า’ อีกด้วยค่ะ
 

         ‘โจฟ’ เป็นชื่อเล่นของ ‘Jupiter’ เทพแห่งสายฟ้าและเจ้าแห่งเทพเจ้าทั้งปวง ชื่อนี้เป็นชื่อที่สั้น กระชับ เรียกง่าย และมีความหมายตรงไปตรงมา ถ้าใครกำลังมองหาชื่อที่ให้ความรู้สึกถึงพลังและความแข็งแกร่งละก็ พี่ขอแนะนำชื่อนี้เลย
 

Photo credit: https://fineartamerica.com
 

         ‘แพน’ ชื่อภาษาอังกฤษหนึ่งพยางค์สุดจะเรียบง่ายแต่ความหมายแน่น! ชื่อนี้ที่มีที่มาจากเทพเจ้ากรีกผู้ที่เป็นทั้งเทพแห่งคนเลี้ยงแกะและฝูงแกะ ป่าเขา การล่าสัตว์ และดนตรีพื้นเมือง ตามตำนานแพนมีลักษณะเป็นกึ่งสัตว์กึ่งมนุษย์ มีขาเหมือนแพะและมีร่างกายครึ่งบนเหมือนมนุษย์ นอกจากนี้เขายังมีความเกี่ยวพันกับฤดูใบไม้ผลิ ฤดูแห่งความสดใสและการเริ่มต้นใหม่อีกด้วย
 

         ‘พลูโต’ แปลว่า ‘ความมั่งคั่ง’ หลายคนคงคุ้นหูคุ้นตากับชื่อนี้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากพลูโตจะเป็นชื่อของดาวเคราะห์แคระที่เคยโคจรอยู่ในระบบสุริยะจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลของเราแล้ว ชื่อนี้ยังเป็นอีกชื่อหนึ่งของ ‘ฮาเดส’ เทพเจ้าแห่งความตาย อัญมณี และทรัพย์สมบัติทั้งหมดทั้งมวลในใต้พิภพอีกด้วย ใครอยากร่ำอยากรวยก็แอบหยิบชื่อนี้ไปใช้กันได้ค่ะ
 

         ‘พอลลักซ์’ เป็นบุตรชายของเทพเจ้าซุส (Zeus) ราชาแห่งทวยเทพผู้ปกครองโอลิมปัส (Olympus) ครั้งหนึ่งพอลลักซ์เคยเสียสละความเป็นอมตะเพื่อให้ ‘แคสเตอร์’ ฝาแฝดของเขาได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ในเวลาต่อมาพวกเขาได้กลายมาเป็นกลุ่มดาวราศีเมถุนและได้รับการยกย่องให้เป็นผู้อุปถัมภ์ของกะลาสีเรือ และเผื่อใครยังไม่รู้ พอลลักซ์ถือเป็นชื่อดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวคนคู่อีกด้วยนะ!
 

         แม้ว่าตามตำนานเทพนิยายของโรมัน ‘ซัมมานัส’ จะเป็นเทพแห่งท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่แท้จริงแล้วชื่อนี้มีความหมายว่า ‘ก่อนจะถึงเวลาเช้า’ หรือช่วงเวลาก่อนที่พระอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมานั่นเอง ถึงความหมายจะค่อนข้างเรียบง่ายแต่รับรองว่าชื่อนี้นั้นน่าสนใจไม่แพ้ชื่อไหนเลย
 

         อีกหนึ่งชื่อสุดฮิตที่ชาวอิตาลีชื่นชอบ ‘ซีโน’ หรือ ‘ซีนอน (Zenon)’ เป็นชื่อที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อของ ‘Zeus’ เจ้าแห่งเทพเจ้าทั้งหลาย เขาเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ด้านการพยากรณ์อากาศและเป็นผู้คุมกฎแห่งสวรรค์ เรียกว่าเป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดในตำนานกรีกเลยก็ว่าได้ค่ะ
 

Photo credit: https://www.inthefieldstories.net
 

         ‘อธีนา’ หรือ ‘อาเธนา’ เป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่ชาวกรีกให้ความนับถือมากที่สุด ด้วยความที่เธอเป็นเทพีแห่งปัญญา สงคราม และความเฉลียวฉลาด พ่อแม่หลายคู่จึงมักเลือกชื่อนี้มาตั้งให้ลูกสาว โดยหวังให้พวกเขาเติบโตมาเป็นผู้ที่มีทั้งสติปัญญาและความกล้าหาญนั่นเองค่ะ
 

         ตามตำนานโรมันโบราณ ‘เบลโลนา’ เป็นเทพีแห่งสงครามและเป็นเพื่อนของ ‘Mars’ เทพผู้พิทักษ์เหล่าทหารและเกษตรกร ชื่อของเธอมีที่มาจากรากศัพท์ภาษาละติน แปลว่า ‘การต่อสู้’ ฟังแล้วดูสตรองสุดๆ ไปเลย
 

         นอกจากจะเป็นชื่อของเครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงบนม้าหมุนแล้ว ‘แคลลีโอพี’ ยังเป็นชื่อของมิวส์แห่งกวีนิพนธ์และมหากาพย์ที่มีสัญลักษณ์ประจำตัวเป็น “กระดานชนวน” อีกด้วย แคลลีโอพีมีความหมายตรงตัวว่า ‘เสียงอันไพเราะ’ และถึงชื่อนี้จะยาวและออกเสียงยากแค่ไหน คนก็ยังนิยมนำไปใช้กันในหลายประเทศเลยค่ะ
 

         ‘แคสแซนดรา’ เป็นบุตรสาวของกษัตริย์และราชินีแห่งกรุงทรอย วันหนึ่งเธอได้รับพรจากเทพอพอลโลให้สามารถทำนายอนาคตได้ เธอเริ่มทำนายถึงการล่มสลายของกรุงทรอย แต่กลับถูกสาปให้ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เธอพูด สุดท้ายคำทำนายนั้นก็เกิดขึ้นจริง กรุงทรอยพ่ายแพ้แก่พวกสปาร์ตันและล่มสลายไปในที่สุด ผู้คนต่างจดจำชื่อของเธอในฐานะ ‘เจ้าหญิงแห่งกรุงทรอย’ ที่มีทั้งความสง่างามและความสามารถ ชื่อนี้จึงเป็นชื่อที่สวยหรูและดูมีสตอรี่มากกก 
 

         ‘คอนคอร์เดีย’ แปลว่า ‘ความปรองดองหรือความสามัคคี’ ชื่อนี้มีที่มาจากเทพีแห่งพันธะสัญญา ความสงบ และความปรองดองของโรมัน ถือเป็นอีกชื่อที่เท่ คูล ดูไม่ซ้ำใครเลยค่ะ
 

Photo credit: https://www.youtube.com/watch?v=4bPfmq6bTrU
 

         ใครที่รู้สึกคุ้นหูคุ้นตากับชื่อนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะ ‘เครสซิดา’ เป็นชื่อคนรักเก่าของเจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษ และด้วยความที่ชื่อนี้มีความหมายสุดล้ำค่าว่า ‘ทองคำ’ จึงมักถูกนำไปใช้เป็นชื่อของตัวละครในยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) ดูแพงและเลอค่าน่าเก็บไปใช้ที่สุด!
 

         ‘ไดแอนา’ เป็นชื่อภาษาละตินของเทพีแห่งจันทรา การล่าสัตว์ และการถือครองพรหมจารี หลายคนมองว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีความเด็ดเดี่ยว แต่ในขณะเดียวกันเธอก็มีความอ่อนหวานซ่อนอยู่ ฟังดูมีกิมมิคและบ่งบอกถึงบุคลิกของเจ้าของชื่อได้ดีสุด
 

         ใครอยากได้ฟีลหรูหราก็ต้องชื่อ ‘ฟลอร่า’ เลยค่ะ ฟลอร่าเป็นเทพีแห่งดอกไม้และเป็นภรรยาของ ‘Zephyr’ เทพเจ้าแห่งลมตะวันตก ชื่อของเธอมีรากศัพท์มาจากภาษาละติน ใครได้ยินเป็นต้องหลงรักแน่นอน
 

         ‘ซาลาเซีย’ มีรากศัพท์มาจากคำว่า ‘sal’ ที่แปลว่าเกลือ (คุ้นๆ กันมั้ยคะ คำว่า salt ก็มาจากอันนี้เลย) เธอได้รับการขนานนามให้เป็นเทพีแห่งน้ำเค็มหรือน้ำทะเล อีกทั้งยังถูกจดจำในฐานะภรรยาของ ‘Neptune’ เทพผู้ปกครองดินแดนแห่งท้องน้ำอีกด้วย เป็นอีกชื่อที่ไพเราะ น่าค้นหา ควรค่าแก่การนำไปตั้งให้คนในครอบครัวมากๆ
 

         ‘ธาเลีย’ เป็นชื่อที่มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก แปลว่า ‘ความเบ่งบานหรือความก้าวหน้า’ ชื่อนี้เป็นชื่อของเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์และมิวส์แห่งกวีนิพนธ์ผู้ที่ถือครองทั้งความเรียบง่ายและความตลกขบขัน ถือเป็นอีกหนึ่งชื่อที่มีสีสันมากๆ เลยค่ะ
 

Photo credit: https://worldoftheatreandart.com/nine-muses/
 

          และนี่ก็คือ 20 ชื่อภาษาอังกฤษที่มีที่มาจากตำนานและเทพนิยายโบราณค่ะ แต่ละชื่อก็จะมีเรื่องราวและรายละเอียดที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ถ้าใครถูกใจชื่อไหนก็สามารถจับจองไปใช้กันได้เลยนะคะ ^^
 

https://www.momjunction.com/articles