ย้อนรอยคดีดัง ‘โชดูซุน’ ชายที่ถูกเกลียดชังจากคนทั้งชาติ ผู้เป็นตราบาปของสังคมเกาหลี

สวัสดีค่ะชาว Dek-D เมื่อไม่นานมานี้เชื่อว่าหลายๆ คนคงได้เห็นประเด็นข่าวเรื่องหนึ่งที่ชาวเน็ตกระหน่ำแชร์กันทั้งในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ซึ่งก็คือข่าวการปล่อยตัวนักโทษที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญคนเกาหลี ‘โชดูซุน’ นั่นเองค่ะ แม้ว่าประเทศเกาหลีใต้จะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการก่ออาชญากรรมค่อนข้างต่ำ (ข้อมูลจาก Overseas Security Advisory Council ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา) แต่ก็ยังมีคดีบางเคสที่รุนแรงถึงขนาดเป็นที่โจษจันกันทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีการออกมาเรียกร้องให้แก้ไขข้อกฎหมายเพิ่มบทลงโทษสถานหนักอย่างเช่นคดีของนายโจดูซุนคนนี้ค่ะ 

เค้าคือใคร? ทำไมจึงเป็นที่เกลียดชังของชาวเกาหลี? เรามาเปิดแฟ้มคดีสะเทือนขวัญนี้กันค่ะ… 

ปี 2008 เมืองอันซัน จังหวัดคยองกี

ในวันท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆฝน เด็กๆ ในเมืองต่างเลือกใช้รถสาธารณะเพื่อเดินทางไปยังโรงเรียน บ้างก็มีผู้ปกครองไปส่ง แต่ก็มีบางส่วนที่เดินเท้าไปโรงเรียนเอง เล่าก่อนว่าจริงๆ แล้วการเดินไปโรงเรียนเป็นเรื่องปกติมากในประเทศเกาหลีใต้ เพราะสภาพแวดล้อมมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง อีกทั้งผู้ปกครองยังชอบที่จะสอนให้ลูกๆ ฝึกทักษะการใช้ชีวิต แต่บางทีก็อาจไม่ได้ปลอดภัยกับทุกคนเหมือนกับที่ ‘นายอง’ เด็กหญิงวัย 8 ขวบผู้เคราะห์ร้ายคนนี้ เธอไม่อาจรู้เลยว่าการเดินไปโรงเรียนครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล...

 เด็กหญิงถูกลักพาตัวและถูกข่มขืนภายในห้องน้ำของโบสถ์แห่งหนึ่งโดยชายที่คลุ้มคลั่งจากการเมาสุรา เขาลงมือทำร้ายร่างกายของเธอและพยายามทำลายหลักฐานด้วยการทำลายอวัยวะภายในของเธอจนเสียหายถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเธอต้องทำการรักษาตัวอยู่นานถึง 8 เดือน และหลังจากนั้นหมอก็วินิจฉัยว่านายองต้องเจาะท้องเพื่อขับถ่ายและไม่อาจเดินได้อีกตลอดชีวิต คดีนี้สร้างความสะเทือนใจและความโกรธแค้นให้คนเกาหลีทั้งประเทศ ผู้คนต่างพากันสาปแช่งผู้กระทำ อีกทั้งเรียกร้องให้ตำรวจนำตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้

ซึ่งผู้ต้องหาคดีนี้ก็คือ นาย โชดูซุน ชายวัย 57 ปี (ขณะก่อเหตุ) ภายหลังเขาถูกจับกุมและถูกตัดสินให้จำคุก 12 ปีในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายร่างกายผู้อื่น แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุดเมื่อประชาชนเกาหลีใต้มีความเห็นว่าศาลตัดสินโทษสถานเบาไม่สาสมกับการกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมของเขา เพราะจริงๆ แล้วคดีลักษณะนี้มีโทษตามกฎหมายสูงสุดคือ 15 ปี ดังนั้นการที่เขาได้รับโทษเพียง 12 ปีถือว่าไม่เหมาะสม ทว่าสุดท้ายศาลก็ไม่ได้เปลี่ยนคำพิพากษาแต่อย่างใด นายโจดูซุนจึงต้องชดใช้กรรมในคุกทางตอนใต้ของเมืองโซล

รูป โชดูซุน (ผู้ต้องหา)
รูป โชดูซุน (ผู้ต้องหา)
Photo credit:  www.imnews.imbc.com

 การกลับมาของชายที่ถูกเกลียดชัง

จากปี 2008 สู่ปี 2020 ผ่านไป 12 ปี ก็มีกำหนดปล่อยตัวนักโทษคดีสะเทือนขวัญในวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา และเมื่อประชาชนชาวเกาหลีรู้ข่าวก็พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แถมเนติเซนเกาหลีมากกว่าหกแสนคนเรียกร้องให้เพิ่มโทษแก่โชดูซุนและไม่ให้ปล่อยตัวเขาออกมา ทั้งยังมีกระแสความไม่พอใจเกิดขึ้นอีกระลอก ทางช่อง Korea Now ของสำนักข่าว Yonhap ได้ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์ความคิดเห็นของคนเกาหลีโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณเดียวกับบ้านของนายดูซุน พี่มายมิ้นท์ก็เลยนำตัวอย่างมาให้ดูกันค่ะ

ความเห็นแรก

            Q: คุณคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับข่าวการปล่อยตัวนักโทษโชดูซุนคะ?

            A: “แถวบ้านผม...ทุกคนก็กลัวกันหมดเลยครับ”

ความเห็นที่ 2

            A: “ตัวผมเองก็มีลูกนะครับ เมื่อมีการปล่อยนักโทษที่อาจจะก่อคดีซ้ำแบบนี้ออกมา ผมก็เลยรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ละแวกเดียวกับเขาครับ”

ความคิดเห็นที่ 3

            A: “พวกเขา (ตำรวจ) บอกว่านักโทษสวมกำไลติดตามที่ข้อเท้า แต่ฉันได้ยินมาว่ามันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะเขาตัดมันออกได้น่ะค่ะ...แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าต่อจากนั้นเขาจะไปทำอะไรใครที่ไหนอีก”

            แม้ว่าความคิดเห็นของชาวเกาหลีจะไปในทิศทางเดียวกันคือไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้โชดูซุนออกมาเป็นภัยสังคมอีก อย่างไรก็ตามศาลได้ตัดสินเป็นที่สิ้นสุดแล้วไม่สามารถกลับคำได้

“โชดูซุน! ไปลงนรกซะ!”

ถ้อยคำด่าทอสาปแช่งดังขึ้นที่หน้าเรือนจำทางตอนใต้ของโซล ขณะที่กำลังจะมีการปล่อยตัวนักโทษโชดูซุน วัย 69 ปี ในช่วงเช้าของวันที่ 13 ธันวาคม 2020 ประชาชนเกาหลีไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเยาวชนต่างมายืนรอเพื่อจะรุมประชาทัณฑ์ชายผู้ที่ถูกคนทั้งชาติเกลียดชัง เหตุการณ์นี้มีทั้งการปาไข่ใส่รถที่นายดูซุนนั่งและก็มีบางคนถึงขั้นขึ้นไปขย่มรถกันเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านี้หลายๆ คนยังแสดงการต่อต้านคำตัดสินของศาลโดยการกอดแขนกันแล้วนอนลงบนถนนเพื่อไม่ให้รถของอดีตนักโทษผ่านไปได้ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อ เพราะมองว่าการขาดอิสรภาพแค่ 12 ปีเทียบอะไรไม่ได้กับการที่อนาคตของเด็กหญิงคนหนึ่งต้องมืดมนและทุกข์ทรมานกับความพิการตลอดชีวิต  เรียกได้ว่าคดีนี้ได้จุดประกายเรื่องการปลูกจิตสำนึกในสังคมเกาหลีมากทีเดียวค่ะ

รูป นายโชดูซุนขณะได้รับการปล่อยตัว
รูป นายโชดูซุนขณะได้รับการปล่อยตัว
Photo credit:  www.dailymail.co.uk
รูปประชาชนที่ต่อต้านการปล่อยตัวของโชดูซุน
รูปประชาชนที่ต่อต้านการปล่อยตัวของโชดูซุน
Photo credit:  www.dailymail.co.uk

ภายหลังก็มีการนำเรื่องราวของคดีนี้มาทำเป็นภาพยนตร์ชื่อว่า Hope (소원) 2013 เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ชมและเป็นการผลักดันให้มีการพิจารณากฎหมายเพื่อคุ้มครองประชาชนที่เข้มงวดมากกว่านี้ โดยเนื้อหาของภาพยนตร์ยังตีแผ่ประเด็นเรื่อง victim blaming หรือการกล่าวโทษเหยื่ออีกด้วย หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Netflix หรือ Viu ค่ะ สำหรับเรื่องราวที่จะนำมาฝากกันในครั้งหน้าจะเป็นอะไร ฝากติดตามกันที่เว็บไซต์และช่องทางอื่นๆ ของ Dek-D ด้วยนะคะ

รูปจากภาพยนตร์เรื่อง  Hope 2013
รูปจากภาพยนตร์เรื่อง  Hope 2013
Source:https://www.dailymail.co.uk/news/article-9046915/Protesters-throw-eggs-shout-insults-South-Koreas-notorious-paedophile-Cho-Doo-soon.htmlhttps://uk.newonnetflix.info/info/80116825https://www.youtube.com/watch?v=9PsBBsX6TC0&pbjreload=101https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2020/09/251_296292.htmlhttps://www.youtube.com/watch?v=V_QIqcmk8Hwhttps://imnews.imbc.com/pc_main.htmlhttps://www.youtube.com/watch?v=RQBJY1ar00Y 
พี่มายมิ้นท์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

Hopza 25 ก.พ. 66 17:35 น. 1
บอกไทยโทษอ่อน เจอเกาหลีไปเป็นไงหละ แค่อ้างเมาก็ลดโทษชิวๆไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายสักบาท 12ปีทำดีในคุก8ปีออกมาแล้ว แถมยังปกปิดหน้าตาคือออกมาชิลมาก เป็นที่ไทยป่านนี้นอกจากจะเจอรุมประชาทัณฑ์ จะไม่มีที่ยืนในสังคม เข้าคุกก็โดนอัดเละอีก ครอบครัวเองก็จะได้รับบริจาคไม่ต้องลำบากขนาดนั้น สรุป ไทยยังดีกว่าเกาหลีเยอะ ในหลายๆแง่
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด