"ไปแลกเปลี่ยนทั้งทีต้องหาทำ!" เมื่อได้ทุนไปเรียน 4 เดือนในมหา'ลัยอเมริกาค่าเทอมหลักล้าน (วิชาศึกษาทั่วไปไม่ได้มาเล่นๆ)

สวัสดีค่ะชาว Dek-D เราเชื่อว่าเด็กมหาวิทยาลัยจะต้องคุ้นเคยกับ "วิชาหมวดศึกษาทั่วไป" กันแน่ๆ เลยใช่มั้ยคะ เพราะเป็นวิชาบังคับที่นิสิต/นักศึกษาปี 1 ต้องเจอ จุดประสงค์คือพัฒนาให้เรามีความรอบรู้กว้างขวางนอกเหนือจากวิชาเฉพาะที่เราต้องเจออยู่แล้วในหลักสูตรของใครของมัน และช่วยฝึกทักษะ soft skills ทั้งการคิด วิเคราะห์ และทำงานเป็นทีม แม้จะเป็นแบบนั้นแต่หลายคนอาจยกให้เป็นคาบพักผ่อนสมองหรือนั่งทำการบ้าน เพราะประชากรในห้องเรียนทั้งเยอะ(รวมทุกคณะ)และอาจไม่ได้สอนแบบเร้าใจถูกจริตกับเรามากนัก

แต่วันนี้เราจะพาไปส่องชีวิต 'น้ำริน เรืองงาม' นิสิต มศว ที่ได้ทุนไปแลกเปลี่ยนที่ Juniata College ในอเมริกา เปิดโลกทั้งระบบเรียนและสภาพแวดล้อมสุดหรูสไตล์มหาวิทยาลัยเอกชนค่าเทอม 1.5 ล้าน แถมเจอวิชาหมวดศึกษาทั่วไปที่ไม่ใช่แค่คาบนั่งทำการบ้านแน่นอน มีทั้งออกฟิลด์รัวๆ ทั้งเข้มข้นและสมบุกสมบันสุดๆ ไปเลยค่ะ!

ได้ทุนไปแลกเปลี่ยน
ม.ในอเมริกาค่าเทอมหลักล้าน

ตอนนั้นเพิ่งเข้า มศว มาปีแรกเองค่ะ แต่พอเห็นโครงการมหาวิทยาลัยที่เป็นความร่วมมือกับ Juniata College ก็รู้สึกอยากเปิดโอกาสให้ตัวเองลองไปเห็นต่างประเทศว่าเป็นยังไง เหมาะกับเรามั้ย  ข้อดีของทุนนี้คือนิสิต มศว ปี 1 ทุกคณะสมัครได้หมด สนับสนุนค่าเรียนและค่าเครื่องบิน แล้วเดินทางหลังจบปี 1 เทอมแรก ซึ่งถือว่าไวมากๆ เงื่อนไขก็มีแค่ว่าต้องเรียน มศว ให้จบหลักสูตรโดยไม่ลาออก //ก่อนไปเราได้ภาษาอังกฤษระดับสื่อสาร ยื่น TOEFL paper-based ประมาณ 500+ ค่ะ ตอนนั้นเรามีทักษะแค่ระดับสื่อสารได้

Photo Credit: Juniata Admission / FB Fanpage
Photo Credit: Juniata Admission / FB Fanpage

โครงการนี้จะส่งเราไปแลกเปลี่ยน 4 เดือนที่ Juniata College ที่เมือง Huntingdon รัฐ Pensylvania มีภูเขาล้อมรอบ ได้ฟีลธรรมชาติๆ ถึงขนาดมีกวางเดินเล่นในเมือง ด้วยความที่เป็น Private College (ม.เอกชน) และเน้นรับเด็กอินเตอร์เป็นหลัก ค่าเทอมเลยโหดหน่อย (รู้สึกโชคดีมากที่ได้ทุน) แต่ทุกหอทุกตึกดีมากจริงๆ สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ห้องน้ำสะอาด มีแม่บ้านคอยดูแล ยิมก็ดีเหมือนฟิตเนสแพงๆ สนามกีฬาอลังๆ สระว่ายน้ำปรับอุณหภูมิก็ยังมี

Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube

เรื่องน่ารักๆ ของมหาวิทยาลัยคือทุกปีจะมี Surprise Day ไม่มีใครรู้ว่าเค้าจะมาไม้ไหน แต่ปีที่เราเจอคือเค้ายกสวนสัตว์มาไว้ในมหาวิทยาลัยเลยค่ะ เราลงจากหอมาเจอทั้งอูฐ แพะ อัลปากา ฯลฯ ตอนนั้นเรายืนถ่ายกับอูฐลงไอจีสตอรี่นานจนมีคนถ่ายติดไปลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นด้วย!"

ปรับตัวครั้งใหญ่
กับวิธีเรียนที่ไม่คุ้นเคย

แต่ละคาบใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง แต่เวลาทำการบ้านปาไป 2 ชั่วโมงได้ เพราะที่นั่นเรียนแบบ self-study ต้องค้นคว้าหนักมากกกก บางทีอ่านเอกสารไป 7-8 ฉบับเพื่อทำรีพอร์ตแค่ 1 ฉบับก็มีนะคะ และข้อดีของ Private  College คือมีกิจกรรมให้เน้นลงมือทำจริง และออกฟิลด์ทริปบ่อยค่ะ

บรรยากาศห้องเรียน
บรรยากาศห้องเรียน
Photo Credit:Juniata College / Youtube

สำหรับเราก็อาจจะต้องพยายามมากกว่าเพื่อนเพราะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่ก็รู้สึกอยากเรียนอยู่ดีเพราะทั้งเพื่อนทั้งอาจารย์เปิดกว้างมากๆ ค่ะ ไม่มีใครมาขัดว่าอันนี้ทำได้ทำไม่ได้ ถ้ามีไอเดียเราเสนอได้เลย  โดยคะแนนจะขึ้นอยู่กับความตั้งใจ การมีส่วนร่วมในห้อง แล้วเราสามารถเขียนรีพอร์ตโดยอ้างอิงข้อมูลอย่างมีน้ำหนักและสมเหตุสมผลมั้ย ตีความได้ดีแค่ไหน ไม่ใช่ให้เกรดจากเรื่องเก่งหรือไม่เก่ง 

ตัวอย่างวิชาเรียน

  • U.S. History เราได้เรียนเรื่องผู้อพยพ (immigration) ว่ามีคนกลุ่มไหนเข้ามาในอเมริกาบ้าง เค้าให้จับฉลากแล้วไปแยกไปค้นคว้ามาคนละ 1 ประเทศ ระหว่างเรียนมีพาไปออกฟิลด์ทริปชุมชนหรือพิพิธภัณฑ์เพื่อศึกษาเรื่องที่เค้าเคยสอนในคลาส เช่น History of Italian Immigration Museum ในรัฐเพนซิลเวเนีย  ดูเรื่องราวว่าเค้าอยู่และปรับตัวยังไงบ้าง แล้วปัจจุบันเป็นยังไง

    เราได้ไปหมู่บ้านของชาวอามิช Amish Village ในรัฐเพนนิซิลเวีย คนกลุ่มนี้ยังคงทอผ้าแบบไม่มีไฟฟ้า เดินทางสัญจรด้วยรถไฟ ฯลฯ  ซึ่งเค้าเลือกจะใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมด้วยเหตุผลทางศาสนาค่ะ (คล้ายๆ ชาวไทยภูเขา) ตอนนั้นเราเหมือนหลุดเข้าไปเดินในเมืองโบราณเลย ได้เดินตลาด กินอาหารท้องถิ่น ดูการประมูลม้า ให้ฟีลเหมือนเข้าไปอยู่ในเมืองโบราณเลยค่ะ
     
  • Philosophy วิชาปรัชญาไม่มีฟิลด์ทริป แต่ได้อ่านหนังสือเยอะแทน 55555  เราต้องอ่านแล้วมาดิสคัสกับเพื่อนกับอาจารย์ สนุกตรงได้ฟังหลายมุมมอง ซึ่งอาจารย์ปรัชญาสนิทกับเด็กมากกกก บางทีถ้ามีคำถามน่าสนใจเค้าจะชวนคุยระหว่างทางเดินไปกินข้าวเลยค่ะ แบบ 'เอ้อ ผมสนใจเรื่องนี้หมือนกัน คุณคิดเห็นยังไงบ้าง ช่วยแชร์ให้ฟังหน่อย'
     
  • Choral Union เรียนร้องเพลงประสานเสียงกับเพื่อนหลายคณะ คนในชุมชนก็มาลงเรียนด้วยได้เหมือนกัน พอตอนจบได้ขึ้นเวทีจัดแสดงจริง มีผู้ชมจริง ทำให้เราได้ลิงก์กับคนภายนอก
     
  • Library หนึ่งในวิชาบังคับที่เด็กปี  1 ต้องเรียน เพราะมันสำคัญมาก สอนวิธีศึกษาค้นคว้าในห้องสมุดเพื่อหาข้อมูลทำเปเปอร์ ทำให้เรารู้วิธีเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ความเจ๋งคือสอนโดยบรรณารักษ์ค่ะ การบ้านวิชานี้ก็อาจจะมีหนังสือมาให้กองนึง ให้เราไปอ่าน เขียนสรุป แล้วเขียน reference อ้างอิงให้ถูกหลัก  //ห้องสมุดมหาวิทยาลัยชื่อ Beeghly Library ถึงจะเก่าแก่แต่จัดการเป็นระบบมาก หาอะไรก็หาเจอหมด
Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube

มาเรื่องชีวิตความเป็นอยู่กันบ้าง

ถ้าเป็นเรื่องอาหารการกิน บอกเลยกินเพลินมาก 55555 โรงอาหารของมหาวิทยาลัยหรูเลิศอลังการ แล้วประทับใจตรงที่เค้าพยายามจัดให้ตามความต้องการของนักเรียน ปกติเค้าทำอาหารหลายสัญชาติหลายประเภท เช่น  พาสตา Raviolio ของอิตาลี, เกี๊ยวทอดของจีน, ซูชิของญี่ปุ่น ฯลฯ ขนาดเราเคยรีเควสต์อาหารรสจัด เค้าก็พยายามไปจัดอาหารไทยๆ มาให้ ถึงจะเป็นผัดกะเพราใส่ใบโหระพา เบอร์เกอร์น้ำซอสเผ็ดๆ หรือข้าวผัดที่ต่างจากบ้านเราก็เถอะ ยังไงเราก็ให้คะแนนความพยายาม ถึงไม่อร่อยแต่ทุกอย่างแต่มีให้เลือกเยอะไม่จำเจเลย

Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube
หอพัก
หอพัก

ส่วนในชุมชนจะไม่ได้มีร้านอาหารเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นร้านสะดวกซื้่อหรือฟาสต์ฟู้ด  บางทีเราเลยไปหาซื้อวัตถุดิบจาก Asian Market มาทำอาหารไทยกินเอง หรือไม่ก็นัดเพื่อนมาใต้ตึก เตรียมทำต้มยำ กะเพราไข่ดาว น้ำตะไคร้ ฯลฯ พอเพื่อนลองแล้วเค้าชอบมากกกโดยเฉพาะข้าว ตักแล้วตักอีก ทำไปเยอะก็ยังไม่พอเลยค่ะ ภูมิใจมาก 5555 จริงๆ ต้องบอกว่าการไปอยู่กับเพื่อนที่มาจากหลายวัฒนธรรม ทำให้ชีวิตแลกเปลี่ยนเรามีสีสันขึ้นมากเลยค่ะ

แล้วที่รู้สึกคุ้มสุดๆ คืออยู่ที่นู่นเราเป็นเด็กกิจกรรม ออกกำลังกาย เล่นกีฬา เดินป่า แล้วโฮสต์เราคือบาทหลวง เราเลยได้ไปเห็นบรรยากาศในโบสถ์เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมของเค้า อีกอย่างคือมหาวิทยาลัยนี้เค้าพยายามทำตัวเองให้กลมกลืนกับเมือง หากิจกรรมที่คนในชุมชนสามารถมาเข้าร่วมได้ ถ้ามีโอกาสเราจะไปเข้าร่วมตลอด เพราะเรามาอยู่ในเมืองที่เงียบสงบ ไม่มีแสงสีเสียงเหมือนในเมือง ถ้าเกิดอยู่กับตัวเองตลอดจะน่าเบื่อมากๆ หาโอกาสไปทำอะไรใหม่ๆ ดีกว่า

Photo Credit:Juniata College / Youtube
Photo Credit:Juniata College / Youtube

นอกจากนี้เราได้เที่ยวนอกเมืองเยอะมากเพราะมันประหยัดกว่าเดินทางไทยเป็นหลายล้านเลยค่ะ เรามีไปทั้ง Philadelphia, Chicago และ  New York  เสียดายที่ระยะเวลาแลกเปลี่ยนสั้นเกินไป ยังอยากเที่ยวอีกหลายที่เลย ^^

รู้สึกตัวเองพัฒนาขึ้น
จนไม่น่าเชื่อว่าเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ

เราไปอเมริกาพร้อมทักษะภาษาแค่ระดับสื่อสาร แต่ระบบการเรียนทำให้เรากล้าพูดและมั่นใจขึ้นมากแบบเห็นได้ชัด อ่านเร็วขึ้น กล้าพูดต่อหน้าคนเยอะๆ ก็ไม่ได้เขินหรือมัวแต่กลัวผิดเหมือนตอนแรก  เหตุผลสำคัญเพราะเราได้ใช้จริงคนที่นี่เด็กอินเตอร์เยอะ ถึงคนสำเนียงไม่เป๊ะก็กล้าพูดโดยไม่มีใครมานั่ง bully  หรือคอยจับผิดว่าเราสำเนียงไม่ดี

แล้วที่สำคัญเราไม่ได้แค่มาเรียน เที่ยว ลองร้านอาหารใหม่ๆ แต่ต่างประเทศทำให้เราได้เห็นอะไรกว้างขึ้น เราอาจเคยคิดว่าชีวิตทุกวันนี้มันดีแล้ว ฟุตบาธเมืองไทยก็ดูไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่การมาต่างประเทศทำให้เราเห็นว่าบ้านเรายังมีปัญหาอะไรอีกบ้างที่รอการแก้ไข 

อ้างอิงรูปภาพhttps://www.facebook.com/JuniataAdmission/photos/a.10150662053055911/10152051333340911 https://www.youtube.com/watch?v=m9aFedajyjk 
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด